บทที่ 15 สองทหาร หนึ่งเซรุ่ม
ก่อนไป ดร.เออร์สกินกล่าวขณะที่มองดูทหารฝึกหัด
"นายพลแพตตันเคยกล่าวไว้ว่า 'สงครามครั้งนี้ เราสามารถชนะได้แน่นอน เพราะเรามีทหารชั้นยอด!’ เราสามารถชนะสงครามนี้ได้อย่างแน่นอนเพราะเรามีทหารที่ดีที่สุด!"
“หน่วยปฏิบัติการวิทยาศาสตร์เชิงกลยุทธ์แห่งนี้ประกอบด้วยกองกำลังจากนานาชาติ สุดยอดหัวกะทิจากแดนเสรีได้มารวมกันอยู่ที่นี่ เป้าหมายของเราคือสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา! ...และกองทัพทุกแห่งต้องการผู้นำ!”
“ภายในอาทิตย์หน้า เราจะทำการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสม!”
และหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดต่อ
"เขาคนนั้น จะกลายเป็นซูเปอร์โซลเยอร์คนแรก!”
“และเขาจะเป็นคนที่ส่งอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ลงนรกด้วยมือของเขาเอง!”
…
ในตอนท้ายของโปรแกรมการฝึกอบรมสองสัปดาห์สำหรับการเกณฑ์ทหาร ผู้พันฟิลลิปส์ได้เปิดเผยโปรแกรมคัดเลือก ‘ซุปเปอร์โซลเยอร์’ ให้กับทหารเกณฑ์
เขาถือใบบันทึกคะแนนของคาร์เตอร์ไว้ในมือแล้วมองดูลุคที่สูงและรูปร่างดี
ตามที่คาดไว้ ชายหนุ่มคนนี้จากบรู๊คลินยังคงแสดงประสิทธิภาพได้อย่างยอดเยี่ยม
เมื่อพิจารณาจากคุณภาพร่างกายและผลลัพธ์ที่ครอบคลุมจากโปรแกรมการฝึกที่หลากหลาย เขาเป็นที่หนึ่งที่สมควรได้รับจากการคัดเลือกของแคมป์ลีไฮ
'นี่คือซุปเปอร์โซลเยอร์ที่ประเทศของเราต้องการ!'
ผู้พันฟิลลิปส์พอใจกับผลลัพธ์มาก
แต่เมื่อสบตากับโรเจอร์สร่างผอมบางและอ่อนแอโดยบังเอิญ เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
แม้ว่าอีกฝ่ายจะฝึกฝนอย่างจริงจังและไม่เคยหย่อนยาน ร่างกายที่อ่อนแอบัดนั้นไม่อาจเปลี่ยนเขาให้เป็นทหารเก่งได้เลยแม้แต่น้อย
“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเออร์สกินคิดอะไรอยู่!”
ผู้พันฟิลลิปส์รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
เขาอยู่ภายใต้แรงกดดันจากคณะกรรมการและตาที่จับตามองของทำเนียบขาว
ถ้า ‘ซุปเปอร์โซลเยอร์’ ไม่สามารถทำให้กองทัพพึงพอใจได้ อาชีพของเขาก็คงจบลง
สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าประเทศต่างๆ ได้ลงทุนกำลังคนและทรัพยากรจำนวนมากเพื่อจัดตั้งหน่วยนี้ขึ้น
ตอนนี้พวกเขาต่างรอลุ้นผลงานอยู่ทั้งนั้น!
…
จบการชี้แจง พลทหารถูกสั่งแยกย้าย
อย่างไรก็ตาม ทหารเกณฑ์ทั้งหลายรู้ในใจดีว่าใครควรค่ากับการถูกเลือกไปต่อ และก็รีบประจบเอาใจหวังผลในภายหน้า
“บอสลุค! ผลงานของพี่ต้องดีที่สุดในพลทหารใหม่แน่ๆ เลย พี่ต้องเป็นซูเปอร์โซลเยอร์แน่ๆ!”
กลับมาที่ค่ายทหาร กลิเมอร์ ฮอดจ์ ที่เคยโดนคาร์เตอร์พูดเชียร์จนเกินหน้า
เขาถูกมองว่าเป็นตัวประกอบในโครงเรื่องเดิม
เขามักรังแกโรเจอร์สร่างผอมบางเพราะรูปร่างที่ใหญ่และหมัดหนักของเขา
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เนื่องมาจากลุค เรื่องต่างๆจึงแตกต่างออกไป
เลยกลายเป็นว่าฮอดจ์ผู้ชอบข่มเหงคนอ่อนแอกว่ากลับรู้สึกพ่ายแพ้ชีวิตเป็นครั้งแรก
คืนหนึ่งก่อนเข้ามาถึงค่ายลีไฮห์ ฮอดจ์ยังพยายามจะแกล้งโรเจอร์สตามสไตล์ แต่ไปเจอลุคเอากดหัวฝังลงชักโครก
เขาคิดว่าหมัดของเขาหนักพอแล้ว แต่ลุคซึ่งเคยอัดพวกชาวแก๊งค์ เคยไล่เก็บพวกขาใหญ่ สู้แกงค์มาเฟีย จนทำเรื่องเลอะมืออย่าง 'ทำความสะอาดบ้าน' จนประสบการณ์มากมายในชีวิตจริง มันเหมือนกับแกะที่พบกับสิงโต มันเป็นการสังหารหมู่ฝ่ายเดียว
นับแต่นั้น ทหารใหม่ในกลุ่มไม่มีผู้ใดกล้าไปหาเรื่องของเด็กหนุ่มจากบรู๊คลินทั้งคู่อีก
ส่วนฮอดจ์ผู้เคยโดนกดหัวในโถนั้นเปลี่ยนมารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของลุค
เขาจะตามเขาไปทุกๆ วัน เรียกเขาว่าบอส เหมือนพวกชอบเลียรองเท้า!
ลุคเองก็เคยสงสัยนะ นี่หัวทึบเพราะสมองโดนแช่น้ำนานตอนโดนจับกดชักโครกหรือไง?
หรือไอ้นี่มันมีความคิดแบบซาดิสต์ ชอบถูกกลั่นแกล้งกันแน่?
ภายหลังเขาตระหนักได้ว่าพวกอันธพาลอย่างฮอดจ์ซึ่งกลัวการกลั่นแกล้งและรังแกคนอื่น มักเชื่อในความคิดง่ายๆ ที่ว่า 'ผู้เข้มแข็งจะพูดเป็นคนที่หัวเราะคนสุดท้าย'
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะทำแบบนี้
โดยรวมแล้ว ดูเหมือนว่าลุคจะกลายเป็นซุปเปอร์โซลเยอร์และสามารถควบคุมแคมป์ลีไฮทั้งหมดโดยที่ไม่รู้ตัว
ผู้พันฟิลลิปส์ไม่เพียงแต่ยกย่องลุคเท่านั้น แต่เขาก็ถูกยกย่องทุกที่ที่เขาไปในค่ายทหาร
“ใช้หัวแล้วคิดดู ถ้าเกณฑ์เลือกซูเปอร์โซลเยอร์ดูแค่คะแนนฝึก หรือกล้ามเนื้อ... เขาจะทำโปรเจคต์มาทำไม แค่เดินออกไปตามฐานทัพใหญ่ก็น่าจะหาเจอเป็นกองร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ลุคไม่ได้ปฏิบัติต่อฮอดจ์แตกต่างไปจากนี้เพียงเพราะว่าผู้ชายคนนี้ประจบประแจงเก่ง
“ใช่ บอสลุคพูดมีเหตุผล!”
ฮอดจ์มีรอยยิ้มขณะทำความสะอาดอย่างขยันขันแข็งเช็ดพื้นตามคำสั่งอย่างร่าเริง
“สตีฟ อย่าท้อถอยไปเลย! ฉันเห็นดร.เออร์สกินคาดหวังนายไว้สูงมาก!”
ลุคเดินไปหาโรเจอร์สโดยไม่สนใจฮอดจ์ที่กำลังประจบประแจง
อนาคตกัปตันอเมริกาค่อนข้างหดหู่ในตอนนี้
เมื่อเขาเห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมของลุคและนึกถึงผลงานที่แย่ของเขา เขาก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ฉันไม่ได้คิดจะเป็นซุปเปอร์โซลเยอร์สักหน่อย แต่อยู่ดีๆ ก็อดหดหู่ขึ้นมาไม่ได้ แต่ฉันเริ่มสงสัยว่าการเข้าร่วมกองทัพและรับใช้เป็นทางเลือกที่ถูกต้องหรือเปล่า บางทีบัคกี้อาจพูดถูก เราไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนั้น การยอมแพ้ก็เป็นความกล้าหาญเหมือนกัน!”
ดูเหมือนว่าโรเจอร์สได้มาถึงจุดต่ำสุดในชีวิตแล้ว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยในตัวเอง
ตลอดระยะเวลาของการฝึกเหล่านี้ ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาอ่อนแอเพียงใด
“ฉันไม่คิดอย่างนั้น ดร.เออร์สกินเห็นนายและเกณฑ์นายเข้ากองทัพ เพราะงั้นเขาเห็นคุณสมบัติที่ดีในตัวนายที่ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างแน่นอน! อย่าน้อยใจไปเลย! การที่สัยดีเปรียบได้ดั่งทองคำและมีค่ามากกว่าพละกำลังนะ…”
ลุคยกชามซุปไก่สำหรับจิตวิญญาณขึ้นมา เติมดวงตาของโรเจอร์สด้วยแสงสว่างและจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
ถ้าเขายังคงพยายามต่อไปและพูดคำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจอีกสองสามคำจากอนาคต บางทีกัปตันอเมริกาอาจถือว่าเขาเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางจิตวิญญาณ
‘ดีนะที่อ่านคำโฆษณาชวนเชื่อในหนังพิมพ์มาบ้าง…’
ลุคถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นอารมณ์ของโรเจอร์สค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ
ท้ายที่สุดแล้ว กัปตันอเมริกาเป็นส่วนสำคัญของแผนของเขา
ในระหว่างการฝึกอบรม 2 สัปดาห์สำหรับการเกณฑ์ทหาร ลุคได้สร้างความโดดเด่นในตัวเองและประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม
เขาทำอย่างนี้ก็เพื่อไปให้ถึงด่าน 'เซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์' ให้ใกล้ขึ้น
มันก็แค่นั้น
อย่างไรก็ตาม ลุคไม่ได้อยากสวมชุดลายธงชาติแล้วกลายเป็น 'กัปตันอเมริกา' หรอก!
'แม้ว่าฉันจะได้เป็นซุปเปอร์โซลเยอร์ก็ตาม ก็อาจต้องโดกพวกนักการเมืองเอาตัวออกไปเป็นมาสคอต! ไม่เอาด้วยหรอก! ขี้เกียจไปเล่นละครบนเวที เดบิวต์์เป็นไอดอล...'
ความคิดของลุคชัดเจนมาก
ทางกองทัพสร้างเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์
จุดประสงค์ที่แท้จริงคือการสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งและไร้เทียมทาน
ด้วยวิธีนี้ พวกเขาสามารถเดินเข้าไปในเบอร์ลินและยุติสงครามได้
พอเป็นไปตามเนื้อเรื่องดั้งเดิม ด็อกเตอร์เออร์สกินถูกฆาตกรรม เซรุ่มตัวอย่างเดียวที่สูญหาย สูตรก็หายสาบสูญไปตลอดกาล
ประโยชน์ของโรเจอร์สในสงคราม ในฐานะซุปเปอร์โซลเยอร์เพียงคนเดียว มากที่สุดคือเป็นมาสคอตเพื่อส่งเสริมการซื้อพันธบัตรสงคราม นั่นคือสิ่งที่นักการเมืองคิด
ถ้าลุคเข้ามาแทนที่โรเจอร์สและใส่ชุดลายธงชาติลงสนามแทน ตอนจบของเขาก็คงจะคล้ายๆ กัน
สมมติว่าเขาทำอย่างอื่นและช่วยดร. เออร์สกิน
ขั้นตอนต่อไปคือการผลิตจำนวนมากของซุปเปอร์โซลเยอร์
ลุคจะไม่มีอนาคต เพราะเขาจะไม่เป็นคนพิเศษอีกต่อไป
ดังนั้นหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
ลุคเลือกโชว์ฟอร์มเด่นๆ เอาชนะใจผู้พันฟิลิปส์และกดดันดร.เออร์สกินมากขึ้น
กับผู้สมัครที่เหมาะสมสองคน เนื้อเรื่องน่าจะโค้งไปได้อีกรูปแบบ
ถ้าชอบล่ะก็ไปกดติดตามที่เพจหน่อยนะฮับ Thebigcattrans แมวหยิบมาแปล
คอมเม้นกันเยอะๆหน่อยน้า~~