ตอนที่ 4 บางคนต้องการความสงบ ขณะอีกคนต้องการดวง
สตีฟไม่เพียงแต่ผอมและอ่อนแอเท่านั้น แต่ยังมีโรคหอบหืดเล็กน้อยอีกด้วย
จากนั้นก็มีอาการเจ็บหน้าอกและร่างกายเป็นครั้งคราว
ด้วยร่างกายเช่นนี้ การส่งเขาไปทำสงครามก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าเขา
ดังนั้น ทุกครั้งที่โรเจอร์สไปสถานีทหารเกณฑ์ เขาจึงถูกปฏิเสธ
โรเจอร์สเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนของเขาและพูดอย่างลังเลว่า
“ลุค นายไม่จำเป็นต้อง... โหดขนาดนั้นก็ได้นี่”
ลุคขมวดคิ้วเล็กน้อย พอเห็นสีหน้ากังวลของเพื่อนกลับมีแต่รอยยิ้ม
"ทำแบบนั้นดีที่สุดแล้ว พอเห็นว่านายอ่อนแอ แก๊งพวกนั้นมันรุมรังแกเราง่าย อย่าลืมสิ นี่บรู๊คลินนะ"
“ลุคพูดถูก ถ้าไม่ใช่เพราะลุงของเขาและอิทธิพลในแวดวงแก๊งไอริช เราไม่รู้ว่าจะต้องเจอปัญหามากแค่ไหนทุกวัน” บัคกี้พยักหน้าเห็นด้วย
พวกนักเลงข้างถนนมักรังแกเขาและโรเจอร์สเสมอในอดีต
ทั้งการล้อมพวกเขาตามตรอกซอกซอย หรือสู้กันตัวต่อตัวกลางถนน เกิดเหตุซ้ำซากจนถึงทุกวันนี้
จนกระทั่งวันหนึ่ง พวกเขาได้พบกับลุคและในไม่ช้าก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
หลังจากระวังหลังให้กัน มิตรภาพของพวกเขาก็แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
และในสายตาของบัคกี้ ลุคถือเป็นคนหัวใสมากคนหนึ่ง
เคยเสนอแผนสุดแยบยลในการทำเงิน โดยใช้ประโยชน์จากวินัยที่เข้มงวดของฐานทัพทหาร และข้อเท็จจริงที่ว่าทหารไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากฐานทัพ
จากนั้นทั้งสามก็แอบเข้าไปในค่ายทหารเพื่อขายของเล็กๆ น้อยๆ เช่น แอลกอฮอล์และยาสูบ
ด้วยพื้นฐานเดิมว่าพ่อแม่ทั้งสามเคยเป็นสหายร่วมรบมาก่อน หลายคนจึงเมินเฉยต่อการกระทำลับๆ ล่อๆ ของพวกเขาและก็ใช้วิธีหลับตาข้างนึงปล่อยผ่าน
พวกเขาทำเงินได้ค่อนข้างมากโดยอาศัยธุรกิจนี้
แต่ไปๆ มาๆ กลับถูกแก๊งขายเหล้าเถื่อนในบรู๊คลินจ้องเล่นงาน
ด้วยเหตุนี้ ลุคจึงจำเป็นต้องยอมพึ่งบารมีแก๊งไอริชในพื้นที่ แถมต้องแบ่งสันปันผลกันไปอึกใหญ่เพื่อตัดปัญหาเรื่องแก๊งเถื่อนอีกด้วย
ตอนเดินคุยๆ กันระหว่างบัคกี้กับลุคเรื่องที่ลุคแพ้เกมไวน์จนต้องยอมยกสิทธิ์สมัครทหาร บัคกี้ก็แซวๆ ขำๆว่า
“ดีแล้วล่ะที่นายอยู่ที่นี่ทำธุรกิจต่อไป เวลาฉันกลับมาจากแนวหน้า บางทีพวกนายอาจเป็นมหาเศรษฐีแบบเดียวกับฮาเวิร์ด สตาร์กแล้วก็ได้!”
ไม่มีใครรู้ว่าสงครามจะกินเวลานานแค่ไหน
สำหรับพลเรือน พวกเขาหวังว่าเสียงปืนจะหยุดยิงโดยเร็วที่สุดแล้วกลับไปใช้ชีวิตสงบเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แต่สำหรับคนอื่นๆ นี่เป็นโอกาสที่ดีในการกอบโกยผลประโยชน์
โดยเฉพาะพวกนายทุนอุตสาหกรรม ไม่มีทางยอมละทิ้งโอกาสทองเหล่านี้ไปอย่างแน่นอน
หลายคนรู้ดีว่าก่อนหน้าที่สหรัฐจะเข้าร่วมสงครามโลกครั้งนี้ ทางอเมริกาก็เป็นตัวแทนจำหน่ายอาวุธและยุทโธปกรณ์ให้แก่ทั้งฝ่ายอักษะและฝ่ายสัมพันธมิตรไปพร้อมๆกัน ซึ่งจะทำให้หาเงินได้จำนวนมาก
ในหมู่พวกเขาคือสตาร์คอินดัสตรี้ส์ซึ่งได้รับชื่อเสียงและเงินมากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เขายังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว ก้าวกระโดดขึ้นและยืนเคียงข้างกลุ่มอุตสาหกรรมการทหารเก่าพวกนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะฮาเวิร์ด สตาร์กฉวยโอกาสทองนี้ได้ดี
เขาใช้สมองปราดเปรื่องของตัวเอง ประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ จนเป็นที่โปรดปรานของกระทรวงกลาโหมเป็นอย่างมาก
จากนั้นเขาก็ใช้ความมั่งคั่งมหาศาลเพื่อสร้างสายสัมพันธ์กับชนชั้นสูง จึงเป็นการวางรากฐานที่กว้างขวางและมั่นคงสำหรับอนาคต
ในเวลาเพียงไม่กี่ทศวรรษ เขาขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีของยุคภายในครึ่งศตวรรษเท่านั้น
นอกเหนือจากอุตสาหกรรมสตาร์คที่เติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว บริษัทน้ำมันยังคว้าโอกาสนี้ไว้ด้วย
พวกเขาฝ่าด่านการปิดล้อมของอังกฤษผ่านประเทศที่เป็นกลาง เช่น สวิตเซอร์แลนด์ และส่งถังน้ำมันไปยังเยอรมนี และทำกำไรมหาศาลจากข้อตกลงนี้
ในฐานะที่เป็นบริษัทข้ามชาติและอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ อย่างเจ้าพ่อผู้ผลิตรถยนต์ "ฟอร์ด"
เขายังช่วยชาวเยอรมันผลิตรถบรรทุกและลงทุนทางการเมืองอย่างลับๆ
ดังนั้นเฮนรี่ ฟอร์ด ผู้ก่อตั้ง บริษัทฟอร์ดจึงได้รับรางวัล แกรนด์ครอส ซึ่งเป็นเหรียญสูงสุดที่ชาวเยอรมันมอบให้กับชาวต่างชาติ
เห็นได้ชัดเลยว่า พวกบริษัทอุตสาหกรรมระดับนี้ไม่มีการเข้าข้างฝ่ายไหนในสงครามครั้งนี้
พวกเขามีจุดประสงค์เดียวเท่านั้น นั่นคือการหาเงินให้ได้มากขึ้น
แม้แต่ตอนนี้ที่สหรัฐอเมริกาได้เข้าสู่สงครามและเข้าร่วมกับมหาอำนาจฝ่ายสัมพันธมิตรแล้ว การเมืองของแต่ละประเทศเริ่มดุเดือดเลือดพล่าน คนยิ่งบ้าคลั่งกันเข้าไปใหญ่
“ฮาเวิร์ด สตาร์ค? ฉันไม่มีหัวการค้าระดับนั้นหรอก!” ลุคยิ้มเล็กน้อย แล้วเขาก็หันศีรษะไปพูดกับโรเจอร์ส
“สตีฟ ถ้านายตั้งใจแน่วแน่จะสมัครทหารละก็ พวกสถานีเกณฑ์มีอยู่ตั้งเยอะแยะ ฉันพานายไปลองเสี่ยงดวงทีละแห่งก็ได้”
"จริงเหรอ?" โรเจอร์สเผยรอยยิ้มดีใจสุดๆออกมาทันที
เพราะทุกทีบัคกี้จะคัดค้านเขาดุเดือดหัวชนฝาทุกครั้งเรื่องอยากสมัครเป็นทหาร
อย่างไรก็ตาม ลุคแทบไม่ค่อยออกความเห็นอะไร แต่วันนี้จู่ๆ กลับยอมไปลุยสถานีคัดเลือกพร้อมกับเขา สิ่งนี้ทำให้โรเจอร์สมีความสุขมาก
บัคกี้ยืนอยู่ข้างๆ พวกเขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาเห็นลุคส่งสายตาและพูดว่า 'ฉันรู้ว่าฉันกำลังทำอะไร' เขาเลือกที่จะเงียบ
เขารู้ว่าลุคเพื่อนที่เงียบที่สุดในบรรดาสามคนจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล
“เอาล่ะ คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของฉันที่นิวยอร์ก! พวกนายจะเสียเวลาอยู่ในตรอกนี้ทำไมกัน?” บัคกี้เปลี่ยนเรื่อง
พรุ่งนี้เขาจะไปสนามรบในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม คืนนี้เขาจะสนุกและใช้เวลาของเขากับสาวที่ฮอตที่สุด และดื่มกับเพื่อนสนิทที่สุดของเขา
ถ้าชอบล่ะก็ไปกดติดตามที่เพจหน่อยนะฮับ Thebigcattrans แมวหยิบมาแปล
คอมเม้นกันเยอะๆหน่อยน้า~~