บทที่ 1676 : เข้าสู่ดินแดนลับ! (2) (ตอนฟรี)
บทที่ 1676 : เข้าสู่ดินแดนลับ! (2) (ตอนฟรี)
หลังจากที่ชายชุดขาวประกาศเสร็จ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป เขายืนอยู่ตรงจุดนั้นและหลับตาลงเพื่อพักผ่อน
ฝูงชนมองไปที่ชายชุดขาวแล้วเริ่มกระซิบกันเอง
ห่างออกไปไม่ไกล จูหลงซานเหลือบมองหวังเต็งและเดินไปหาเขาโดยทันที
“หวังเต็ง ตารางอันดับผู้นำนักเรียนใหม่ได้เปิดขึ้นแล้ว มาดูกันว่านายจะมีศักยภาพมากเพียงใด”
จูหลงซานยืนอยู่ตรงหน้าหวังเต็ง ด้วยรูปร่างที่สูงตระหง่านของเขา เขามองลงมาที่อีกฝ่ายด้วยความดูถูก
การทที่หวังเต็งใช้สภาอนุญาโตตุลาการของสถาบันเพื่อเล่นงานเขานั้นทำให้เขาเต็มไปด้วยความโกรธและการดูถูกเหยียดหยาม เขาถือว่าการกระทำของหวังเต็งนั้นน่ารังเกียจและไร้ยางอายอย่างยิ่ง สำหรับเขาแล้ว นี่ก็เป็นวิธีนอกรีต
“ความสามารถของฉันเกี่ยวอะไรกับนาย” หวังเต็งตอบอย่างใจเย็น
ถ้าจูหลงซานพูดดีๆ กับเขา เขาก็คงจะคืนศพเผ่ามังกรสุริยะให้กับอีกฝ่ายไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่แรกเริ่ม อีกฝ่ายก็มีท่าทีวางตัวและเย่อหยิ่ง เขาแม้กระทั่งใช้กำลังเพื่อข่มขู่ เขาเกือบจะทำร้ายเยว่ฉีเฉียวด้วย
หากเขายอมคืนศพให้อีก่ฝ่ายอย่างเชื่อฟัง มันจะไม่ทำให้เขาดูอ่อนแอและถูกรังแกได้ง่ายหรอ?
หวังเต็งไม่เคยเอาอกเอาใจใคร โดยเฉพาะคนไม่มีมารยาท
“นายกลัวหรอ?” จูหลงซานขมวดคิ้วและพูดด้วยความดูถูก
“นายจะพูดอะไรก็ได้ที่นายต้องการ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีสิทธิ์พูดพล่ามต่อหน้าฉัน หากนายต้องการจะเทียบตัวเองกับฉัน ให้ชั่งน้ำหนักตัวเองก่อน” หวังเต็งหัวเราะเบาๆ
“แก!”
จูหลงซานรู้สึกโกรธมากเมื่อเห็นหวังเต็งไม่สนใจเขา เปลวเพลิงแห่งความโกรธพุ่งออกมาจากดวงตาของเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า จูหลงซานนายทำอะไรของนายน่ะ” เสียงหัวเราะดังมาจากด้านหลังจูหลงซาน
“อู๋หยาน!” การแสดงออกของจูหลงซานดูน่าเกลียดมากขึ้นเมื่อเขาเห็นคนที่มา เขาจ้องมองอีกฝ่ายแล้วพูดอย่างเย็นชา “นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย”
“ฉันมาดูก็ไม่ได้หรอ?” บุคคลนั้นหัวเราะ
ชายหนุ่มมีผมสีดำยาว และใบหน้าของเขามีลวดลายสีดำที่ซับซ้อนซึ่งคล้ายกับโทเท็ม เขาแผ่ออร่าที่น่าขนลุกออกมา
หวังเต็งเหลือบมองอีกฝ่าย เขาขี้เกียจเกินกว่าจะใส่ใจ
“คุณคงจะต้องเป็นพี่หวังเต็งแน่ๆ ฉันได้ยินเกี่ยวกับคุณมามากเลย” อู๋หยานไม่ได้วางแผนที่จะปล่อยหหวังเต็งไป เขาโน้มตัวและพูดกับอีกฝ่ายอย่างสุภาพ
“นายเป็นใคร?” หวังเต็งถาม
อู๋หยาน: …
เขาไม่ได้คาดหวังว่าหวังเต็งจะพูดตรงขนาดนี้และไม่หันหน้ามามองเขาเลยด้วยซ้ำ
“อะแฮ่ม มันเป็นเรื่องปกติที่พี่หวังเต็งจะไม่รู้จักฉัน ฉันเป็นเพียงหนึ่งในผู้มีพรสวรรค์มากมายในดินแดนหอคอยมนตรา ซึ่งค่อนข้างธรรมดาเมื่อเทียบกับพี่หวังเต็งซึ่งได้ขึ้นสู่อันดับดารา ทุกคนล้วนรู้จักคุณ” อู๋หยานไออย่างเชื่องช้าและหัวเราะเบาๆ
“นายมีอะไร?” หวังเต็งเพิกเฉยต่อคำชมของเขาและถามอย่างใจเย็น
การแสดงออกของอู๋หยานแข็งทื่อ
อะไรวะ?
หลังจากชมไปขนาดนี้เขายังเฉยได้อยู่อีกหรอ?
หวังเต็งดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ
“ฮึ่ม ก็แค่คนที่เข้าสู่การจัดอันดับดาราได้ มันไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหนเลย” จูหลงซานเยาะเย้ย
“ฮ่าฮ่า พี่หวังเต็งเป็นคนตรงไปตรงมา ฉันชอบที่จะผูกมิตรกับคนตรงไปตรงมา” ดวงตาของอู๋หยานกะพริบเล็กน้อย เขาหัวเราะและพูดต่อ “พี่หวังเต็ง ฉันเองก็ไม่ชอบจูหลงซานเหมือนกัน ทำไมเราไม่ฆ่าเขาด้วยกันล่ะ?”
ใบหน้าของอู๋หยานเปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ “อู๋หยาน อย่าให้มันมากเกินไปนะ”
“พี่หวังเต็ง คุณคิดว่าไงล่ะ?” อู๋หยานเพิกเฉยต่อจูหลงซานและพูดกับหวังเต็งต่อไป
“ขอบคุณ แต่นายไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น หากเขายั่วยุฉัน ฉันสามารถจัดการเขาเพียงลำพังได้” หวังเต็งเหลือบมองเขาด้วยความประหลาดใจและส่ายหัว
อู๋หยานสำลักคำพูดของหวังเต็ง
จัดการเขาเพียงลำพัง!
ชายคนนี้หยิ่งเล็กน้อย!
เขาไม่รู้หรือมั่นใจ?
“แก!” จูหลงซานโกรธเคืองกับคำพูดของหหวังเต็ง
ไอ้เวรนี่กำลังดูถูกเขา
“เอาล่ะ เนื่องจากพี่หวังเต็งมีความมั่นใจมาก แล้วฉันจะตั้งตารอนะ” ดวงตาของอู๋หยานกะพริบขณะที่เขายิ้มด้วยความสนใจอย่างแท้จริง
“หวังเต็ง เป็นเวลานานแล้วที่มีใครกล้าดูถูกฉันแบบนี้ เราจะจัดการเรื่องของเราให้เสร็จหลังจากเรื่องทั้งหมดผ่านไป นายควรอธิษฐานขอให้อันดับของนายสูงกว่าของฉันได้เลย ไม่เช่นนั้น คำพูดของนายในตอนนี้ก็จะเป็นแค่เรื่องตลก” จูหลงซานพูดอย่างเย็นชาก่อนจะหันหลังกลับและเดินจากไป
หวังเต็งเพิกเฉยต่อภัยคุกคามของเขา เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนพื้นและรอ
เยว่ฉีเฉียวเหลือบมองเขาแต่ไม่ได้พูดอะไร เธอนั่งขัดสมาธิข้างเขาและรอโดยหลับตาลง
หยูหยุนเซียนรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่รู้ว่าหวังเต็งขัดแย้งกับอีกฝ่ายได้อย่างไร
อัจฉริยะที่อยู่รอบๆ เฝ้าดูเหตุการณ์นี้ด้วยความสนใจและร่วมอภิปรายกันอยู่พักหนึ่ง หวังเต็งได้รับความนิยมอย่างมากจากการที่เขาติดอันดับดารา และไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน เขาก็จะกลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจ
ความจริงที่ว่าจูหลงซานพยายามจะหาเรื่องหวังเต็งนั้นสอดคล้องกับความต้องการของคนจำนวนมาก พวกเขาสามารถนั่งดูการต่อสู้นี้ก่อนเพื่อประเมินความแข็งแกร่งของหวังเต็งก่อนได้
ชายชุดขาวไม่ได้ลืมตาขึ้น ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเกี่ยวกับความขัดแย้งและการแข่งขันระหว่างนักเรียน
ประมาณสิบนาทีต่อมา ยานอวกาศก็สั่นสะเทือน
ทุกคนหยุดการสนทนา สายตาของพวกเขาเป็นประกายขณะที่พวกเขามองดูชายชุดขาว
ชายชุดขาวเปิดตาสีแดงเข้มของเขาแล้วพูดว่า “เรามาถึงดินแดนลับแล้ว ลงจากยานอวกาศได้”
“ครับ/ค่ะ!” ทุกคนตอบอย่างเร่งรีบและบินออกจากประตูห้องโดยสารไปโดยทันที