ตอนที่ 95 เขาไม่ใช่คนดี!
ตอนที่ 95 เขาไม่ใช่คนดี!
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของธยาน์ทำให้ไอร่าตกใจ
เธอถามด้วยความไม่เชื่อ “ธยาน์กลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร”
ไม่เพียงแต่ร่างกายของเขามีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า แต่พื้นหนังของงูก็ถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายสีแดงเข้มแปลก ๆ เมื่อประกอบกับเลือดเหนียวบนพื้นดิน เขาดูน่ากลัวเป็นพิเศษ
เชร์และคอนริไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับธยาน์เช่นกัน
จู่ ๆ บุหรงก็พูดขึ้นว่า “เลือดของนักล่าโลหิตไหลอยู่ในร่างกายของเขา”
คำพูดนี้ทำให้เชร์และคอนริตกใจ
พวกเขาทั้งสองดูประหลาดใจ
มีเพียงไอร่าเท่านั้นที่ยังคงสับสน “นักล่าโลหิตคืออะไร”
“สัตว์ประหลาดที่คลานออกมาจากหลุมลึกไร้ก้นบึ้ง พวกเขาดื่มเลือดของอสูร กินเนื้อของมัน และดูดซับพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่แห่งหนใด ทุกสิ่งจะกลายเป็นนรก”
ไอร่ารู้สึกหวาดกลัวกับคำอธิบายของบุหรง
...
เธอโต้ตอบโดยไม่เต็มใจ “ไม่ ธยาน์ไม่ได้น่ากลัวเช่นนั้น เขาดีกับเรา เขาไม่ใช่นักล่าโลหิตอะไรทั้งนั้น”
“เขาเคยเป็นปกติ นั่นเพราะสายเลือดนักล่าโลหิตในตัวของเขาอยู่ในสภาพนิ่งสงบ แต่ตอนนี้มีคนใช้มีดเล่มนี้ปลุกสายเลือดนักล่าโลหิตของเขา” บุหรงชี้ไปที่มีดกระดูกที่ติดอยู่ในร่างกายของงู “มันตีขึ้นจากกระดูกของนักล่าโลหิต สายเลือดนักล่าโลหิตจึงถูกดึงดูดออกมาอย่างไรเล่า”
สายตาของทุกคนจ้องมองไปที่ยังมีดกระดูกสีดำ
บุหรงสแกนสภาพแวดล้อมที่นองเลือด “มีเลือดอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่ข้าไม่เห็นซากศพเลย ดูราวกับเจ้างูตัวนี้จะกินไปหมดแล้ว ไม่มีแม้แต่กระดูกสักชิ้น คงจะหิวมากสินะ”
เขายังยิ้มในตอนท้ายอีกด้วย
แต่คนอื่น ๆ กลับรู้สึกเย็นชา
ไอร่าระงับความกลัวและถามว่า “ธยาน์จะฟื้นหรือไม่”
“อย่ากังวล เขาเพียงแค่หมดแรง ตอนนี้เขายังไม่ตาย”
ไอร่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ค่อยยังชั่ว”
อย่างไรก็ตามบุหรงเผยให้เห็นรอยยิ้มที่โหดร้าย “สาวน้อย เจ้าคงไม่รู้ว่าเผ่าพันธุ์ของนักล่าโลหิตนั้นอันตรายขนาดไหน ก่อนที่พวกเขาจะมีอารยธรรม พวกเขาเป็นกลุ่มอสูรวิกลจริตที่ทำลายล้างอย่างมาก พวกเขาโจมตีเป็นกลุ่มได้ดีที่สุด”
รอยยิ้มของเขาทำให้เธอไม่สบายใจ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“สิ่งที่ข้าพูดหมายถึง แทนที่จะรอให้เขาฟื้นขึ้นมาแล้วฆ่าคนอย่างบ้าคลั่งไปทุกที่ ฆ่าเขาในตอนนี้ที่เขายังหมดสติและป้องกันตนเองไม่ได้จะดีกว่าที่จะปล่อยให้เกิดปัญหาในอนาคต”
“ไม่นะ” เธอปฏิเสธโดยไม่ลังเล เธอจ้องมองเขาด้วยความโกรธ “หากเจ้าแตะตัวเขา ข้าจะต่อสู้กับเจ้า”
บุหรงมองไปที่เชร์และคอนริ “สาวน้อยไม่เข้าใจถึงอันตรายของนักล่าโลหิต แต่พวกเขาน่าจะเข้าใจ”
ทั้งเชร์และคอนริไม่ได้พูดอะไร
ไอร่ายืนอยู่หน้างูหลามและตะโกนด้วยดวงตาแดงก่ำ “เขาคือธยาน์ เขาไม่ใช่นักล่าโลหิตอะไรทั้งนั้น หากเจ้าต้องการฆ่าเขาก็ข้าวศพข้าไปก่อน”
การแสดงออกของเชร์และคอนริเปลี่ยนไป
คอนริรีบอุ้มเธอขึ้นมา “อย่าร้องไห้สิ เจ้ากำลังตั้งครรภ์ จะร้องไห้ได้อย่างไร”
ไอร่าพูดทั้งน้ำตา “เจ้าห้ามทำร้ายธยาน์นะ”
“ได้ ได้ เจ้าเป็นหัวหน้าครอบครัว เราจะทำทุกอย่างที่เจ้าพูด”
ไอร่ามองไปที่เชร์และสำลัก “แล้วเจ้าเล่า?”
เชร์รู้สึกโกรธเคือง “เอาตามที่เจ้าพูด”
เธอจึงหยุดร้องไห้
บุหรงมองพวกเขาด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “เจ้าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม ราคาของการปล่อยให้นักล่าโลหิตไปนั้นมากกว่าที่เจ้าคิด”
ไอร่ากลอกตามองไปยังเขา “เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องครอบครัวของเรา”
“ตอนร้องไห้ของให้ข้าพามาที่นี่ดูน่าสงสาร ตอนนี้พอถึงที่หมายแล้วก็หันหลังให้ข้าอย่างนั้นหรือ”
“ใครขอให้เจ้ามีเจตนาจะทำร้ายธยาน์เล่า”
บุหรงยิ้มอย่างไม่แยแส “ข้าแค่ให้คำแนะนำแก่เจ้า ในเมื่อเจ้าไม่เต็มใจที่จะทำตาม ข้าก็ไม่บังคับ มันขึ้นอยู่กับเจ้า”
เชร์ศึกษามีดกระดูกสีดำ “เจ้าดึงสิ่งนี้ออกมาได้หรือไม่”
บุหรงพูดอย่างมีความหมาย “ลองดูสิ”
เชร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็คว้ามีดกระดูกสีดำแล้วดึงมันออกมาทีละน้อย มีดกระดูกถูกแทงลึกมาก เมื่อดึงออกมา มีเศษเนื้อติดออกมาบางส่วน แต่น่าแปลกที่ไม่มีเลือดไหลออกมาเลย
ไอร่าจ้องไปที่งูหลามโดยไม่กะพริบตา
ครู่ต่อมา งูหลามตัวใหญ่ก็ตัวหดลงทีละน้อยและกลับสู่ขนาดปกติ
สัตว์อสูรแห่งวิญญาณก็ลดจากแปดดาวเป็นสามดาวด้วยเช่นกัน
จากนั้นร่างงูก็ค่อย ๆ กลายเป็นร่างมนุษย์
บุหรงยิ้ม “น่าเสียดายจริง ๆ ที่เขาเปลี่ยนจากนักล่าโลหิตเป็นอสูร”
เมื่ออันตรายคลี่คลายลง เชร์และคอนริก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ไอร่าพบชิ้นส่วนของสัตว์ที่ซ่อนอยู่ในวงแหวนและวางไว้บนตัวธยาน์
บุหรงกล่าวว่า “เอาล่ะ ที่นี่ไม่มีอะไรสำหรับข้าแล้ว ข้าไปล่ะ”
จากนั้นเขาก็กางปีกของเขา ปลายผมของเขาลากเป็นเส้นขึ้นไปในอากาศ และมีคริสตัลสีแดงส่องประกาย
บุหรงบินจากไปแบบนั้น
หมาป่ากลับมาโดยบอกว่าไม่พบร่องรอยของงูบริเวณใกล้เคียง พวกเขาพบเพียงหนังงูชิ้นใหญ่เท่านั้น
พวกเขาวางหนังงูไว้ข้างหน้าคอนริ
คอนริจำได้ว่านี่คือหนังงูของธยาน์ได้ทันที เขาเก็บหนังงูออกไปแล้วพูดกับหมาป่าว่า “ไม่จำเป็นต้องค้นหาอีกแล้ว กลับเถอะ”
หมาป่าแปลงร่างเป็นอสูรและวิ่งกลับไป
คอนริยัดหนังและมีดกระดูกสีดำเข้าไปในช่องว่างของเขา เขากลายร่างเป็นหมาป่าสีขาวหิมะพร้อมกับอุ้มไอร่ากลับไป
เชร์แปลงร่างเป็นเสือขาวและอุ้มธยาน์ที่หมดสติไว้บนหลังของเขา
...
หลังจากการสู้รบ เผ่าหมาป่าหินทั้งหมดเข้าสู่สภาวะพักฟื้น
โชคดีที่ไม่มีหมาป่าตายในครั้งนี้ มีเพียงไม่กี่ตนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ไอร่าต้องช่วยรักษาผู้บาดเจ็บในตอนกลางวัน และดูแลธยาน์ในเวลากลางคืน
สมุนไพรจำนวนมากที่เธอสะสมไว้ก่อนหน้านี้มีบทบาทสำคัญมาก
นอกจากการล่าสัตว์แล้ว คอนริและเชร์ยังต้องนำผู้คนมาทำความสะอาดสนามรบนองเลือดที่ธยาน์ก่อไว้ก่อนหน้านี้ พวกเขายังต้องจัดแปลงผักและสวนผลไม้บริเวณตีนเขาให้เป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย
ทุกคนยุ่งมากในช่วงเวลานี้
สามวันต่อมา ในที่สุดธยาน์ก็ได้สติ
เขาลืมสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะหมดสติไป ความทรงจำของเขาดูเหมือนจะดับลงทันทีหลังจากที่เขาไล่ตามเซฟาโล่ทัน
มีช่องว่างยาวอยู่ตรงกลาง
เขาคิดอยู่นานแต่จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เซฟาโล่ทัน
ไอร่าเอื้อมมือไปรีบรอยพับระหว่างคิ้วให้เรียบและปลอบโยนเขา “ไม่เป็นไร หากเจ้าจำไม่ได้ อย่างไรมันก็เป็นอดีตไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดของเจ้าในตอนนี้คือการพักผ่อนและฟื้นตัวให้เร็วที่สุด”
ภายใต้การทำงานหนักของเธอ ผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บในเผ่าก็ค่อย ๆ ฟื้นตัว
ทุกคนมองเธอด้วยความเคารพมากขึ้น
ราวกับว่าพวกเขากำลังมองดูหมอแม่มดที่ทรงพลัง
เผาขนนกได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับงู พวกเขามีสมุนไพรไม่พอ ดังนั้นบุหรงจึงมาขอยืมบางส่วนจากไอร่า
เมื่อเขาเห็นธยาน์เดินตามหลังไอร่า เขาก็ยิ้มอย่างมีความหมาย “ไม่คิดว่าเจ้าจะฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้”
ไอร่าจงใจยืนอยู่ระหว่างทั้งสองคน แต่เนื่องจากเธอเตี้ยเกินไป เธอจึงไม่สามารถปิดกั้นสายตาของบุหรงได้
เธอทำได้เพียงเงยหน้าขึ้นและจ้องมองไปที่คางของบุหรง “ข้าได้ให้สมุนไพรแก่เจ้าแล้ว ไปเสียสิ”
บุหรงหัวเราะเบา ๆ และบีบแก้มของเธอ “วันหลังข้าจะแวะมาเล่นกับเจ้า”
เมื่อเขาอยู่ห่างออกไป ไอร่าจับมือธยาน์ทันทีและเตือนเขาอย่างจริงจัง
“ต่อไปอยู่ให้ห่างจากบุหรง เขาไม่ใช่คนดี”
ธยาน์เห็นด้วย “ได้”