ตอนที่แล้วบทที่ 8: หลินหยู่โดนเมิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปแจ้งตอนฟรี

บทที่ 9-10


บทที่ 9 ฉันกำลังจะแต่งงาน

ซูเฉียนโม่คล้องแขนของเธอไว้กับกู่เฉินหนานขณะในที่ทั้งคู่ขึ้นรถ

กู่เฉินหนานมองหลินหยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างสับสน จากนั้นจึงหันไปมองซูเฉียนโม่

[โอ้ว..เธอกำลังทำอะไรอยู่? ทำไมกอดแขนฉันแน่นขนาดนี้? นี่เธอกำลังรนหาที่ตายให้ฉันอยู่เหรอ!]

[เธอไม่รู้หรอกว่าหลินหยู่ราชามังกรเขาโหดร้ายและร้ายกาจขนาดไหน สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ตอนนี้มันทำให้หลินหยู่เคียดแค้นฉันอยู่นะ!]

[ขอร้องเถอะนะ ใจเย็นหน่อย นอกจากเรื่องที่เขามีปัญหาทางจิตและเป็นไอ้เหลือขอ อะไรที่ทำให้ราชามังกรไม่คู่ควรกับเธอกัน?]

ซูเฉียนโม่ขมวดคิ้วและมองกลับไปที่กู่เฉินหนาน

"ฉันไล่หลินหยู่ออกแล้ว เขาไม่ใช่คนขับรถของฉันอีกต่อไป...คือฉันหมายถึง ไม่มีอะไรระหว่างเราอีกต่อไปแล้ว"

"เยี่ยมมาก" กู่เฉินหนานสวมบทบาทตัวร้ายในนิยายทันที “ไอ้คนขับรถชั้นต่ำ กล้าดียังไงคิดจะมาแย่งเธอไปจากฉัน”

[ฉันซวยแล้วแน่ๆ! นางเอกไล่หลินหยู่อย่างเด็ดขาดขนาดนี้ ตอนนี้ไอ้บ้านั่นคงเกลียดฉันฝังหุ่นเป็นแน่!]

[ซูเฉียนโม่ เธอทำตามเนื้อเรื่องไม่ได้เหรอ? หลังจากที่เธอเข้าร่วมฮาเร็มของหลินหยู่และกลายเป็นหนึ่งในสาวงามของเขาแล้ว ฉันเองก็ได้ไปหาผู้หญิงคนอื่นได้เช่นกัน เราจะมาขัดขวางกันทำไม?]

[พอฉันไปถึงฉากอวสานที่พวกเธอทุกคนในฮาเร็มแต่งงานกับหลินหยู่ ฉันจะได้ให้เงิน ทอง กระเป๋าแก่พวกเธอไง ดีไหม?]

งานแต่งหมู่พร้อมบรรดาหญิงสาวในฮาเร็มกับหลินหยู่เหรอ?

แววตาขยะแขยงปรากฎขึ้นบนใบหน้าของซูเฉียนโม่

แค่คิดถึงการแต่งงานแบบหมู่....!

มันก็ทำให้เธอขนลุกแทบจะอ้วก!

ซูเฉียนโม่กลอกตามองบน

เขาหมายความว่ายังไงกัน…หลังจากที่ฉันกลายเป็นส่วนหนึ่งของฮาเร็มของหลินหยู่แล้ว เขาก็จะไปหาผู้หญิงคนอื่นงั้นเหรอ?

ไม่นะ! นายอุตส่าห์ตามจีบฉันมาตั้งนาน แล้วมาบอกว่าไม่รักฉันแล้วเหรอ?

หรือนายแสดงมาตลอด แต่ไม่เคยรักฉันจริงเลย?

ความรู้สึกเศร้าใจอันมากมายอันเกิดขึ้นในใจเฉียนโม่ มันรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่หน้าอกของเธอ เพราะเธอรับไม่ได้ที่คนที่เคยชอบเธอจะเปลี่ยนใจง่ายๆ แบบนี้!

ทันใดนั้น ซูเฉียนโม่ก็สังเกตเห็นรถบรรทุกที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบและป้ายอยู่ข้างๆ

"นี่มันอะไรกัน?" เธอถาม

“ดอกไม้สำหรับเธอ ชอบไหม?” กู่เฉินหนานยิ้มอย่างไร้เดียงสา

[เวรแล้ว! นางเอกไม่ได้ทำตามเนื้อเรื่องเลย ตอนนี้มันน่าอึดอัดเหลือเกิน ทั้งที่ตอนนี้ควรจะเป็นการยกเลิกถอนหมั้นไม่ใช่หรือไง!]

[แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนเธอต้องการยกเลิกการหมั้นหมายแฮะ รู้สึกตื่นเต้นชะมัด! ในที่สุดเนื้อเรื่องก็กลับมาสู่เส้นทางเดิมแล้วสินะ!]

[ถ้านางเอกยกเลิกการหมั้นจริงๆ บางทีราชามังกรหลินหยู่อาจจะเกลียดฉันน้อยลง...ก็ได้]

ยกเลิกงานหมั้นเหรอ?

ซูเฉียนโม่สะดุ้งด้วยท่าทางตกใจ

เธอเคยคิดที่จะถอนการหมั้นหมายกับกู่เฉินหนานมาก่อน ถ้าเธอไม่ได้ยินความคิดภายในใจของเขา เธออาจจะพูดถึงเรื่องนี้กับตระกูลกู่แล้วก็ได้

ถ้างั้น...ฉันเป็นตัวละครในนวนิยายเรื่องนี้จริงๆ เหรอ?

เมื่อกลับมาที่บ้านพักของกู่เฉินหนาน เธอก็ได้ยินเขาพึมพำเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง ผู้เขียน พระเอก นางเอก แต่จิตใจวุ่นวายในตอนนั้นสับสนวุ่นวายจากการได้ยินความคิดของเขา ดังนั้นเธอจึงไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อ

เพราะตอนนี้เธอมั่นใจแล้ว

ไม่สิ ฉันยังคงเป็นฉัน! ฉันมีตัวตนอยู่จริง!

ซูเฉียนโม่ปฏิเสธที่จะเชื่อความจริงข้อนี้

ไม่มีโครงเรื่องหรืออะไรที่สามารถควบคุมฉันได้! ฉันไม่ใช่หุ่นเชิด ฉันตัดสินใจอนาคตของตัวฉันเองได้!

จากคำพูดของกู่เฉินหนาน ในเนื้อเรื่องเดิมฉันคงถูกกำหนดให้เป็นสาวในฮาเร็มของหลินหยู่ แต่ตอนนี้ฉันได้ตัดความสัมพันธ์กับหลินหยู่เรียบร้อยแล้ว นั่นเป็นข้อพิสูจน์ว่าฉันสามารถเขียนชะตากรรมของตัวเองขึ้นมาใหม่ได้!

ด้วยความมุ่งมั่นแน่วแน่นี้ ซูเฉียนโม่จึงจ้องเขม็งไปทางกู่เฉินหนาน

“งานวิวาห์ได้ถูกกำหนดวันแล้วนะ!”

เธอจะต่อสู้ ต่อสู้กับโชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้

แม้ว่าเธอจะไม่ได้รู้สึกรักกู่เฉินหนาน แต่การกระทำที่เปลี่ยนไปของเขาทำให้เธอเกิดความคิดอยากท้าทายต่อโชคชะตาและเธอจะไม่ยอมแพ้ให้กับมันเด็ดขาด

ยิ่งไปกว่านั้น...รูปร่าง หน้าตา และอารมณ์ของกู่เฉินหนาน มันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ ยิ่งมองดูแล้วมันช่างสมบูรณ์แบบเหลือเกิน เธอไม่ได้รู้สึกหลงใหลแต่อย่างใด แต่ถ้าเกิดปล่อยแฟนรูปหล่อคนนี้ไปเฉยๆ มันคงจะบาปแน่!

[แย่แล้วไง!]

[เธอเสียสติไปแล้วเหรอ? เธอเป็นนางเอกนะ ส่วนฉันนิเป็นตัวร้ายของเรื่อง!]

[หลินหยู่ไม่ใช่คู่ที่เหมาะสมกับเธอหรือไง? ทำไมต้องแต่งงานกับฉันด้วย?]

[วันแต่งงานของเราจะเป็นวันตายของฉันนะ! และฉันก็คงจะตายอย่างน่าอนาถอีกด้วย!]

แม้ว่ากู่เฉินหนานจะด่าเธออยู่ในใจ แต่เขาก็ต้องเล่นบทบาทตัวร้ายที่หลงใหลออกมา

“จริงเหรอเฉียนโม่? ฉันดีใจมากเลยนะ!”

เมื่อเห็นการเสแสร้งของกู่เฉินหนาน ซูเฉียนโม่ก็รู้สึกมีความสุขอย่างประหลาด

บ่นไปต่อสิว่าให้ฉันเข้าฮาเร็มของหลินหยู่ต่อไป ไม่ว่ายัไงฉันก็จะได้แต่งงานกับนาย สำลักความแค้นนั้นไปเถอะ!

“เฉินหนาน” จู่ๆ ซูเฉียนโม่เปลี่ยนท่าทีอ่อนโยนอย่างกะทันหันพร้อมคล้องแขนกู่เฉินหนานไว้ “รีบกลับบ้านกันเถอะ พ่อแม่ของฉันกำลังรอคุณอยู่”

[เฉินหนาน? เธอกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย? ทำไมต้องเรียกฉันเหมือนคนรักขนาดนั้น? เธอหมายความว่ายังไง? หรือเธอวางแผนอะไร?]

[ตื่นได้แล้วคุณนางเอก! ถ้าเธอยังทำแบบนี้อยู่อีก ฉันคงอยู่ไม่ถึงอีกสามบทแน่!]

แม้ว่ากู่เฉินหนานจะกรีดร้องอยู่ภายในใจ แต่ภายนอกเขากลับดูมีความสุข

"ได้เลยเฉียนโม่ เราไปกันเถอะ!"

เขาสตาร์ทรถลัมโบร์กินีสีเทาของเขาแล้วขับไปที่บ้านตระกูลซู

ข้างถนน หลินยู่มองภาพนี้พร้อมกัดฟันอย่างโกรธแค้น เขาทุบขวดน้ำแร่ของเขาลงบนพื้นและตะโกนใส่รถรถลัมโบร์กินีของกู่เฉินหนานว่า "เฉียนโม่ รอก่อนนะ! สักวันหนึ่งผมจะช่วยคุณให้พ้นจากนรกนั่นเอง!"

...

จากนั้นหลินหยู่ก็โบกแท็กซี่ไปที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง เพื่อซื้อสร้อยคอมุกเป็นของขวัญวันเกิดให้กับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ ตั๋งหยู่จิน

นี่เป็นเนื้อเรื่องจากบทที่ 28 ของนิยายต้นฉบับ

เขาจะได้พบกับไป๋หยู่เทียนที่นั่น ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรกของพวกเขาในนวนิยายเรื่องนี้  ซึ่งนอกจากนั้นผู้เขียนก็จะอธิบายเพียงว่าในอดีต หลินหยู่และไป๋หยูเทียนเคยเจอกันมาก่อน

ซึ่งก็เหมือนกับนวนิยายไม่มีผิด หลินหยู่ใช้เงินฟุ่มเฟือยถึง 2,000 ดอลลาร์เพื่อซื้อสร้อยคอมุกปลอม

ขณะที่เขาออกจากห้างสรรพสินค้า เขาก็เห็นไป๋หยูเทียนกำลังจะเข้าไปซื้อของ

ในเนื้อเรื่องดั้งเดิม ไป๋หยูเทียนจะไม่มีเป้าหมายอะไรให้ซื้อ เพราะมันเป็นการสร้างเหตุการณ์บางอย่างของผู้เขียน ที่่จะแนะนำไป๋หยูเทียนให้เธอได้พบและรู้จักหลินหยู่ เพื่อเป็นการใช้เนื้อเรื่องจากฉากนี้ไปตบหน้ากู่เฉินหนานในภายหลังได้

แต่ครานี้ ไป๋หยูเทียนกลับมีเป้าหมายของที่เธอจะซื้อเองในการมาที่ห้างสรรพสินค้า

จากเสียงภายในใจของกู่เฉินหนาน เธอพบว่าเขาชอบขาเรียวขาวของเธอ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจซื้อถุงน่องสีขาวเพิ่มอีกหลายคู่

นายน้อยกู่ชอบฉันที่ใส่ถุงน่องสีขาวเหรอ?

ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะใส่ทุกวันพร้อมลายอื่นๆ ที่มีด้วย!

ดูซิว่าคุณจะคลั่งไปเลยหรือเปล่า!

ไป๋หยูเทียนคิดเช่นนี้พร้อมกับเผยยิ้มเล็กน้อยที่มุมริมฝีปากของเธอ

บทที่ 10 คุณอย่าพูดแบบนั้นเกี่ยวกับกู่เฉินหนาน

“หยูเทียน นั่นคุณจริงๆ เหรอ?!”

ทันใดนั้นหลินหยู่ก็เข้ามาปรากฏต่อหน้าไป๋หยูเทียนด้วยความประหลาดใจแล้วพูดออกมา

ทางด้านไป๋หยูเทียนก็กลับมาได้สติ เห็นหลินหยู่ยืนอย่างมั่นใจอยู่ตรงหน้าเธอ

ทันใดนั้นเสียงของกู่เฉินหนาน ก็ผุดขึ้นในใจของเธอทันที

ฮาเร็มของหลินหยู่...

คำนี้ทำให้เธอเกิดความรู้สึกขยะแขยงต่อหลินหยู่ ผู้ชายที่ยืนอยู่ต่อหน้าเธอในตอนนี้

ที่นายน้อยกู่เฉินหนานไม่กล้าเข้าหาเธอนั้นก็เป็นเพราะเขาคิดว่าฉันจะเป็นหนึ่งในฮาเร็มของนายเลย!

ถึงแม้ว่าเราจะเคยพบกันมาก่อน แต่นั่นก็ใช่ว่าฉันคิดเลยเถิดกับนายจนถึงขั้นที่จะเป็นหนึ่งในฮาเร็มของนายอย่างแน่นอน!

และฉันจะก็ไม่อาจปล่อยให้นายน้อยกู่เฉินหนานเข้าใจในความสัมพันธ์ของฉันกับนายไปในทางที่ผิด!

"คุณเป็นใครคะ?" เสียงใสของไป๋หยูเทียนพูดขึ้นด้วยท่าที่เสแสร้ง พร้อมกับใช้นิ้วมือกุมขมับคล้ายคนจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้

“ผมไง หลินหยู่ เราเคยเจอกันมาก่อน จำตอนที่ผมไม่มีเงินซื้ออาหารแล้วคุณซื้อขนมปังให้ผมได้ไหม? ผมเก็บเรื่องนั้นไว้ในใจเสมอเลย” หลินหยู่พูดอย่างมีความสุข

มันเป็นช่วงที่หลินหยู่ตกต่ำที่สุด เขาไม่เพียงแต่ถูกเหยียดหยาม ดูถูกและดูหมิ่นจากผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาเท่านั้น เขายังยากจนถึงขั้นเกือบอดตาย

แต่ขณะที่เขาหมดสติอยู่ข้างถนนเพราะความหิว ก็มีสาวสวยที่ใจดีคนหนึ่งเธอชื่อว่าไป๋หยูเทียน เธอนั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าเขาและยื่นขนมปังก้อนหนึ่งให้

แม้ว่าจะเป็นเพียงขนมปังก้อนเดียว แต่หลินหยู่ก็ยังเก็บมันไว้ในใจเสมอ

นับแต่นั้นมา เขาก็ได้สาบานกับตัวเองว่า ถ้าสวรรค์ประทานโอกาสให้เขาได้พบเจอกับไป๋หยูเทียน หญิงสาวสวยใจดีคนนั้นอีกครั้ง

เขาจะตอบแทนเธออย่างดีแน่นอน ซึ่งการตอบแทนของหลินหยู่ที่ว่านี้ก็คือการรับไป๋หยูเทียนมาเป็นหนึ่งในสมาชิกของฮาเร็มของเขา

น่าเสียดายถ้าหากว่าไป๋หยูเทียนไม่ได้ยินเสียงภายในใจของกู่เฉินหนาน เธออาจจะค่อย ๆ ตกหลุมรักหลินหยู่อย่างช้า ๆ หลังจากการพบกันครั้งนี้

แต่มันเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดในตอนนี้!

ไม่เพียงแต่เธอสร้างกำแพงต่อหลินหยู่ไว้ในใจของเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเธอสามารถได้ยินเสียงความรู้สึกที่แท้จริงของกู่เฉินหนานอีกด้วย

ตามเนื้อเรื่องเดิม หลินหยู่จะคอยปกป้องไป๋หยูเทียนต่อหน้ากู่เฉินหนานอยู่บ่อยครั้ง จนเธอหลงรักในตัวเขา แต่เธอคนนั้นไม่มีอีกต่อไปแล้ว

“ฉันขอโทษด้วยค่ะ ฉันจำไม่ได้” ไป๋หยูเทียนไม่มีความตั้งใจที่จะยอมรับว่าเธอรู้จักกับหลินหยู่เลย เธอกลัวว่าการพัวพันกับหลินหยู่จะทำให้กู่เฉินหนานเข้าใจเธอผิด

“คุณจำไม่ได้เลยเหรอ?” หลินหยู่รู้สึกเจ็บปวดในใจ เขาชี้มือไปที่ไป๋หยูเทียน “ตอนนั้นผมหมดสติเพราะหิวโหยจนต้องนอนอยู่พื้น คุณย่อตัวลงตรงหน้าผมแล้วยื่นขนมปังให้ผม คุณจำไม่ได้เหรอ ได้ยังไงกัน?”

“ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันจำไม่ได้ค่ะ” ไป๋หยูเทียนขอโทษ แล้วพูดว่า“ขอโทษนะคะ ฉันต้องรีบไปแล้วค่ะ”

หลินหยู่ตกใจจนแทบจะพูดไม่ออก

ในใจของเขาปวดร้าวราวกับถูกฟ้าผ่าลงกลางใจ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดและก็ได้แต่กำหมัดแน่น

ในใจของเขาคิดไปแล้วว่าไป๋หยูเทียนเป็นผู้หญิงของเขา แต่ตอนนี้ไป๋หยูเทียนกลับกำลังบอกว่าเธอจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ!

มันทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดอย่างมาก

“ไม่ เป็นไปไม่ได้ คุณจะลืมเหตุการณ์นั้นได้ยังไง? เป็นไปไม่ได้!” ดวงตาของหลินหยู่เบิกกว้างด้วยความเจ็บปวดและผิดหวัง ทำให้เขาดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก

“คุณ...คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?” ไป๋หยูเทียนรู้สึกกลัวเล็กน้อย เธอกลัวว่าหลินหยู่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อทำร้ายเธอ

หลินหยู่สงบสติอารมณ์ลงและถามอย่างเจ็บปวดทีละคำ “คุณลืมผมจริง ๆ เหรอ?”

“ฉะ...ฉันจำได้แล้ว” ในที่สุดไป๋หยูเทียนก็ยอมรับ เพราะเธอกลัวว่าหลินหยู่จะข่มขู่เธอ

"ดีมาก!" สีหน้าของหลินหยู่ เปลี่ยนจากความโกรธเป็นความสุขอย่างรวดเร็ว เขาเดินไปจับไหล่ทั้งสองข้างไป๋หยูเทียน "ผมรู้ว่าคุณจะไม่ลืมผม!"

“มีคำกล่าวที่ว่าหยดน้ำที่ได้รับความช่วยเหลือจะกลับมาพร้อมกับน้ำที่ท่วมจนเอ่อล้น ผมจะตอบแทนคุณสำหรับความเมตตานั้นอย่างแน่นอน!”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มันไม่สำคัญหรอก หากไม่ใช่ฉัน คนอื่นก็คงช่วยคุณอยู่แล้ว” ไป๋หยูเทียนพยายามตัดความสัมพันธ์จากหลินหยู่ให้เร็วที่สุด “พอดีฉันยุ่งอยู่นะคะ คุณช่วยหลีกทางให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

“งั้นเรามาแลกเบอร์ติดต่อกันหน่อยไหม ผมอยากจะขอเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ?” เห็นได้ชัดว่าหลินหยู่ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยให้ไป๋หยูเทียนผ่านไป

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันต้องทำงานไม่มีเวลา” ไป๋หยูเทียนปฏิเสธ

"ทำงาน?" หลินหยู่ถามอีกครั้ง “คุณทำงานที่ไหน?”

“ที่...” ไป๋หยูเทียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เดิมทีเธอไม่ต้องการบอกหลินหยู่ว่าเธอทำงานที่ไหน แต่เธอก็คิดกับตัวเองว่าครอบครัวของกู่เฉินหนานร่ำรวยและมีอำนาจ ถ้าเธอบอกว่าเธอทำงานที่ตระกูลกู่ บางทีหลินหยู่อาจไม่กล้ารังควานเธอเพราะเขากลัวอำนาจของตระกูลกู่

“ที่ตระกูลกู่” ไป๋หยูเทียนกล่าว

“ตระกูลกู่?!”

ท่าทางสีหน้าของหลินหยู่เปลี่ยนไปด้วยความตกใจ เขารีบถามอย่างรวดเร็วว่า "ตระกูลของกู่เฉินหนาน? คุณทำงานที่บ้านไอ้สารเลวนั่นเหรอ?!"

เมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น แววตาเกลียดชังด้วยความขยะแขยงก็แล่นผ่านใบหน้าที่แสนหวานของไป๋หยูเทียนทันที

ถึงแม้ว่ากู่เฉินหนานเคยรังแกฉันมาก่อน แต่ในใจเขาก็ชอบฉันนะ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยล่วงเกินฉันเลย

นายมาด่าว่ากู่เฉินหนาน โดยที่ไม่มีข้อมูลเท็จจริงว่าเขาเป็นไอ้สารเลวได้ยังไง หรือแค่เพียงได้ยินชื่อของเขา ไม่ทราบเรื่องจริงและเรียกเขาว่าไอ้สารเลวทันทีที่ได้ยินชื่อของเขาเท่านั้น นี่มันไม่ยุติธรรมเลย!

นายคิดว่าการนินทากู่เฉินหนานลับหลังทำให้นายดูเป็นคนดีเหรอ?

เปล่าเลย นั่นทำให้เห็นว่านายเป็นคนที่ชอบนินทาคนอื่นลับหลังต่างหากล่ะ!

ตอนนี้ ความรู้สึกของไป๋หยูเทียนที่มีต่อหลินหยู่กลายเป็นความเกลียดชัง

“อย่าพูดถึงนายน้อยกู่แบบนั้น!” ไป๋หยูเทียนรวบรวมความกล้าของเธอเพื่อตอบโต้

"อะไรนะ?!"

หลินหยู่ตกใจ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะตามความเข้าใจของเขา กู่เฉินหนานเป็นคนขี้ขลาดตัวฉกาจ

“กู่เฉินหนานเอาเปรียบคุณหรือเปล่า? เขารังแกคุณหรือเปล่า? บอกผมแล้วผมจะล้างแค้นให้คุณเอง!” หลินหยู่กำหมัดแน่นขณะที่ขบกราม

“ทำไมคุณถึงคิดว่านายน้อยกู่เป็นคนแบบนั้น” ไป๋หยูเทียนขมวดคิ้ว

“มันไม่ใช่เพราะผมคิด แต่เขาเป็นคนแบบนั้นต่างหาก!” หลินหยู่พูดอย่างหน้าไม่อายด้วยความแน่วแน่

ช่างกล้า หน้าไม่อายจริงๆ!

นายคิดว่าทุกสิ่งที่นายเชื่อคือความจริงเหรอ? ไม่น่าเชื่อเลยว่านายจะเป็นคนหน้าไม่อายขนาดนี้ ฉันไม่ควรช่วยนายตั้งแต่แรกเลย

ก็เพราะนายเนี่ยแหละ กู่เฉินหนานถึงไม่กล้าแสดงความรู้สึกที่มีต่อฉัน!

"ฮึ่ม!" ไป๋หยูเทียนแค่นเสียงออกมาด้วยความเย็นชา "คุณคิดผิดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ นายน้อยกู่ก็คงไม่ปฏิบัติกับฉันแบบนี้เช่นกัน มันเป็นความผิดของคุณทั้งหมดต่างหาก!"

“ฉันต้องไปแล้ว ขอตัวนะคะ ฉันยุ่งมาก!”

พูดจบเธอก็เดินออกไปด้านหลังหลินหยู่และเข้าไปในห้างสรรพสินค้า

ความหมายของไป๋หยูเทียนชัดเจนมาก เธอหมายความว่าถ้าหลินหยู่ไม่อยู่ตรงนั้น กู่เฉินหนานก็คงพูดใจจริงออกมากับเธอแล้ว

แต่ปัญหาคือ คำพูดของเธอคลุมเครือเกินไป ทำให้หลินหยู่เข้าใจความหมายของเธอผิด

สำหรับเขา ความหมายในคำพูดของเธอก็คือ คนขี้ขลาดอย่างกู่เฉินหนานคงจะรู้ว่าเขาเคยพบกับไป๋หยูเทียนมาก่อน ดังนั้นเขาไม่เพียงแต่ให้ไป๋หยูเทียนทำงานที่บ้านของเขาด้วยวิธีการที่น่ารังเกียจเพื่อแก้แค้น แต่ยังใช้ทุกโอกาสเพื่อใช้ประโยชน์จากเธอและรังแกเธออีก!

ไม่อย่างนั้นไป๋หยูเทียนคงไม่พูดว่า "ถ้าไม่ใช่เพื่อคุณ นายน้อยกู่ก็คงไม่ปฏิบัติกับฉันแบบนี้เช่นกัน มันเป็นความผิดของคุณทั้งหมด"

ฉันเข้าใจแล้ว ที่แท้มันเป็นแบบนี้นี่เอง!

ฉันไม่แปลกใจที่ไป๋หยูเทียนไม่ยอมรับฉัน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะแกอีกแล้ว  ไอ้กู่เฉินหนาน!

หลินยู่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโมโหและกำหมัดแน่น พร้อมขบกรามจนสั่นเป็นเสียงดัง กร๊อดๆ

กู่เฉินหนาน!

แกคอยดูนะ สักวันฉันจะเหยียบย่ำแก และตระกูลกู่ของแกทั้งหมดให้อยู่ใต้ฝ่าเท้าของฉัน!

ฉันจะล้างแค้นให้หยูเทียนและนำความยุติธรรมกลับมาให้เธอ!

วันนั้นคงไม่ไกลเกินเอื้อม ฉันจะจบชีวิตคนขี้ขลาดอย่างแกด้วยมือของฉันเอง!

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด