ตอนที่แล้วบทที่ 6 แนวคิด (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 8: แนวคิด (4)

บทที่ 7: คอนเซ็ปต์ (3)


บทที่ 7: คอนเซ็ปต์ (3)

คังวูจิน ผู้ที่เคยแสดงฝีมือการแสดงอันยอดเยี่ยมราวกับเทพเจ้าประทับร่าง กลับกลายเป็นคนที่ไร้ความสามารถโดยสิ้นเชิงในการซ้อมบทพูดเดี่ยว ราวกับเขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนภายในวันเดียว

PDซงมันวู รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกไปจากแววตาของคังวูจิน

'เขาแสดงความไม่พอใจออกมา... ผ่านการแสดงของเขา'

เขาตัดบทการแสดงของคังวูจิน และถามทันทีว่า

"คุณคังวูจิน ผมขออนุญาตถามได้ไหมว่า ทำไมคุณถึงแสดงว่าไม่สามารถแสดงออกมาได้?"

ตอนนั้นเองที่เครื่องหมายอัศเจรีย์คล้ายปรากฏขึ้นในสายตาของผู้คนรอบๆ PDซงมันวู ฮงฮเยยอน และคนอื่นๆ พวกเขาต่างเริ่มรู้ตัวกันแล้ว

“!!”

“อ๋อ”

อ๋อ เขากำลังแสดงเป็นว่าไม่สามารถแสดงได้สินะ! พอได้ยินว่ามันเป็นการแสดง พวกเขาก็ดูเหมือนโล่งใจเล็กน้อย ในทางกลับกัน คังวูจินยังคงแสดงออกทางสีหน้าอย่างเฉยเมยตามที่เขาวางท่าเอาไว้

แต่ภายในใจเขา มันกลับรู้สึกแตกต่างยิ่ง

'แสดงว่าไม่สามารถแสดงได้? บ้าอะไรวะนั่น?'

เมื่อเขาขอร้องอยากกลับบ้าน PDซงมันวูก็เริ่มพูดเรื่องไร้สาระ ไม่เห็นหรือไงว่าฉันมันแสดงละครห่วยแตกแจ่มชัดขนาดนี้ แต่เขากลับบอกว่าฉันตั้งใจแสดงให้มันแย่ต่างหาก บ้าบออะไรกัน แถมหน้าตาของPDซงมันวูที่มองมาที่คังวูจินตอนนี้ก็ดูค่อนข้างจริงจังมากด้วย

คังวูจินตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเขาพอเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้แล้ว คำตอบก็ค่อนข้างง่าย

'เอ่อ - ท่านสุภาพบุรุษที่ไว้หนวดเคราคนนั้นดูเหมือนจะเข้าใจอะไรผิดไปบางอย่างสินะ'

ความเข้าใจผิดของพวกเขาคงเริ่มต้นมาจากรอบคัดเลือกรายการ 'สุดยอดนักแสดง' เมื่อวานนี้ มันเริ่มต้นจากตรงนั้นและทำให้เรื่องเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ คังวูจินเองก็สังเกตเห็นความเข้าใจผิดเหล่านี้เหมือนกันเมื่อเขาได้ดูวิดีโอการแสดงของเขาเอง

'เพราะพวกเขาเห็นฉันเป็นนักแสดงที่มีฝีมือฉกาจ พวกเขาจึงคิดเองเออเองไปเช่นนั้น'

ไม่รู้ทำไมหรอก แต่เหมือนก้อนหิมะแห่งความเข้าใจผิดดูเหมือนจะโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการแก้ไขมันคงค่อนข้างน่ารำคาญและไร้ประโยชน์พอควร ดังนั้นมีเพียงคำตอบเดียว

ไหลไปตามสถานการณ์เอาแล้วกัน

พวกเขากำลังเข้าใจผิดกัน ซึ่งมีเพียงคังวูจินเท่านั้นที่รู้ เอาเถอะ ลองดูกันว่ามันจะไปได้ไกลแค่ไหน ถ้ามันไปต่อไม่ได้ก็ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง คังวูจินคยามนี้พยายามทำให้ตัวเขาเองใจเย็นลงที่สุด ทำเป็นอวดดีเล็กน้อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

จากนั้นเขาก็เลือกประโยคที่เหมาะสม เสียงที่ค่อนข้างเย็นชาและหนักแน่นพลันเปล่งออกมาจากปากของคังวูจินทันที

"เพราะคุณบอกให้ผมแสดงโดยไม่บอกอะไรเลย"

PDซงมันวูแปลกใจเล็กน้อย เขาตอบกลับทันที

"อ๋อ คือว่านั่น..."

เมื่อเขากำลังเริ่มแก้ตัว คังวูจินก็รู้สึกว่าเขาสามารถสวมบทบาทได้อีกนิดหน่อย ไหลไปตามสถานการณ์

ด้วยเหตุนี้เขาจึงใส่สุด

-โครม

คังวูจินลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที

"ผมไม่ค่อยพอใจนะครับ กับการปฏิบัติแบบนี้"

ทุกคนรวมถึง PDซงมันวู และนักแสดงชั้นนําฮงฮเยยอนเงยหน้าขึ้นมองเขา ลืมตากว้างเหมือนกระต่ายตกใจ พวกเขาต่างรู้สึกกระวนกระวายใจ โดยเฉพาะกับPDซงมันวู ปฏิกิริยาของเขาหนักกว่าครับ

"เดี๋ยวก่อนครับ ใจเย็นๆ ก่อนครับ"

หลังจากคังวูจินทำท่าจะระเบิดออกมา PDซงมันวูก็ยืนขึ้นและเอื้อมมือออกไป

"ขอโทษครับ ผ-ผมคงใจร้อนเกินไป เรามานั่งคุยกันก่อนเถอะครับ"

“……”

"ผมจะอธิบายทุกอย่างเอง ดังนั้นโปรดนั่งลงและฟังก่อนนะครับ"

คังวูจินมองไปที่PDซงมันวู ด้วยใบหน้าที่ไม่แยแสอย่างเงียบๆ นับวินาทีภายในใจ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หลังจากนั้นคังวูจินก็ค่อยๆ นั่งลงบนเก้าอี้

ในไม่ช้า PDซงมันวูก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

-ฟุ่บ

เขาเกาหัวขณะมองไปผู้คนที่อยู่โดยรอบ จากนั้นเขาก็หันกลับมามองคังวูจินที่อยู่ตรงข้ามเขา

"ก่อนอื่นต้องขอโทษอีกครั้ง ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกคุณ คุณคังวูจิน...ผมทําอย่างนั้นเพราะผมต้องการแสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงฝีมือการแสดงของคุณโดยเร็วที่สุด"

"ผมเข้าใจ"

"อืม-ถ้างั้นผมจะเริ่มด้วยคําถามที่เตรียมไว้แล้วกันนะครับ"

PDซงมันวูคําถามอย่างจริงจังใส่คังวูจินที่ดูไม่แยแสทันที

"ในการสัมภาษณ์รายการ 'สุดยอดนักแสดง' คุณบอกว่าคุณเรียนรู้การแสดงด้วยตัวเอง คุณเรียนรู้ด้วยตัวคนเดียวมานานแค่ไหนแล้วครับ?"

ทุกคนในห้องประชุม รวมทั้งฮงฮเยยอน ต่างจ้องมองไปที่คังวูจิน ในตอนนั้นเอง คังวูจินก็เริ่มครุ่นคิดเล็กน้อย เขาควรตอบอะไรดี 5 ปี? หรืออาจจะ 10 ปี? คงต้องเอาระหว่างนี้กระมัง

'ไม่ ไม่สิ แค่ทําให้มันคลุมเครือก็พอแล้ว'

คังวูจินที่กำลังเลือกระหว่าง 5-10 ปีก็ได้บ่นพึมพําเบาๆ

"มันก็สักพักหนึ่งแล้ว"

“……”

คําตอบที่ไม่ชัดเจนได้ถูกตอบกลับมา แต่PDซงมันวูกลับเริ่มจ้องคังวูจินเขม็งและตัดสินใจด้วยตัวเอง

'ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่บอกมาตรงๆ แต่...'

'เขาเป็นคนประเภทที่สามารถแสดงฝีมือระดับสูงออกมาได้ด้วยการอ่านบทเพียงไม่กี่วินาที เขาคงเคยอ่านบทมากมายผ่านสมองและแสดงผ่านร่างกายของเขา เขาอาจฝึกมา 10 ปีแล้ว บางทีอาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ'

แน่นอนว่าฮงฮเยยอนผู้มีผมยาวสลวยที่นั่งอยู่ทางขวาของPDซงมันวู ก็รู้สึกแบบเดียวกัน เธอยามนี้กําลังสนใจคังวูจินที่ปล่อยบรรยากาศไม่เหมือนใครออกมา

'เขาเยือกเย็นและเชื่อมั่นตัวเองสูงขนาดนี้ได้ยังไงกัน? การที่กล้าแสดงแย่ๆ แบบนั้นออกมาเมื่อครู่คงเรียกได้ว่าเป็นความกล้าระดับนักแสดงชั้นนําเลย'

โดยปกติแล้ว ความเชื่อมั่นในตัวเองของนักแสดงจะเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาเริ่มเข้าวงการไปนานแล้ว การแสดงแรกๆ ส่วนใหญ่จะพากันแข็งทื่อกัน จนกระทั่งการแสดงของพวกเขาได้ลงบนทีวีอย่างต่อเนื่อง เมื่อได้รับคำติชมจากผู้กํากับและผู้ชม มันก็จะพัฒนาขึ้นไป

นั่นแหละคือที่มาของความมั่นใจของนักแสดง

แต่คังวูจินอกลับมีความกล้าระดับนักแสดงชั้นนําอยู่แล้ว ทั้งที่ในสายตาของฮงฮเยยอน เขายังไม่ได้เข้าวงการเลย

"เขาฝึกตัวคนเดียวมาตลอด...มันเป็นธรรมชาติของเขาหรือเปล่า?'

ในขณะนั้นเอง PDซงมันวูก็พยักหน้าช้าๆ พร้อมโยนคําถามอื่นใส่คังวูจินอีก

"แล้วคุณทําการศึกษาด้วยตนเองที่ไหนครับ? กลุ่มละครเล็กเหรอ? ถึงคุณจะเรียนรู้การแสดงด้วยตัวเอง แต่คุณก็ยังต้องปรับปรุงการแสดงของตนเองหลายอย่าง มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่สามารถฝึกได้ด้วยตัวคนเดียวนะครับ"

นั่นเป็นคำพูดที่ถูกต้องแล้ว การแสดงโดยพื้นฐานจําเป็นต้องแสดงให้ผู้อื่นเห็น เพื่อใช้ปรับปรุง หากฝึกด้วยตัวเองเป็นร้อยครั้งมันก็ไม่มีความหมายหรอก แต่คังวูจินไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย

ดังนั้นทางเลือกของคังวูจินคือ

“……”

เงียบเป็นเป่าสาก ทำให้PDซงมันวูเลือกที่จะสนทนาต่ออย่างเป็นธรรมชาติ

"คงไม่ใช่กลุ่มละครเล็กๆ แน่ หรือต่อให้เป็นกลุ่มละครเล็กๆ แต่ถ้ามีนักแสดงอย่างคังวูจินอยู่ มันก็คงจะมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว"

“……”

"ผู้กํากับและนักแสดงหลายคนคงไม่กล้าปล่อยคุณไปแน่ แสดงว่าต้องเป็นต่างประเทศ คุณเรียนการแสดงที่ต่างประเทศหรือเปล่าครับ?"

จู่ๆ ก็ไปเรียนในต่างประเทศซะงั้น? คังวูจินรู้สึกสับสนภายในใจ ก็จริงที่เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาเคยคิดจะทํางานที่ออสเตรเลีย แต่คําพูดของPDซงมันวูดูยังไงก็กำลังเข้าใจผิดอยู่ชัดๆ

'ไหง-มันดูเหมือนว่าเรื่องมันจะไปกันใหญ่แล้วเนี่ย'

แบบนี้จะดีไหมนะ? ในขณะที่ชีวิตของคังวูจินกําลังหมุนวนไปมาจนควบคุมไม่ได้ ฮงฮเยยอนที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็เข้ามาแทรกแซง

"มีอะไรที่คุณไม่สามารถพูดถึงได้หรือเปล่าคะ? ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณไม่จําเป็นต้องตอบก็ได้นะคะ"

ครับ คนอื่นดันเข้าใจกันผิดไปไกล แต่เขาก็คงไม่อาจพูดออกมาได้ตรงๆ หรอก

"ถ้างั้นผมก็จะตามนี้ครับ"

สถานการณ์เริ่มแปลกไป คังวูจินรู้สึกเหมือนกําลังพายเรือข้ามแม่น้ำที่ไม่มีทางข้ามได้ ซึ่งกลับกันกับอีกคนหนึ่ง PDซงมันวูดันมั่นใจว่าสิ่งที่เขาคิดมันถูกต้อง

'ไม่สามารถพูดถึงได้-การที่เขากล้าจะปรากฏตัวในรายการ 'สุดยอดนักแสดง' แสดงว่าไม่ใช่ปัญหาเรื่องอาชญากรรม แต่ใครจะสนเรื่องนั้นกัน สิ่งที่สําคัญในตอนนี้คือดาวรุ่งตอนนี้อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว'

เขาไม่สามารถปล่อยให้สัตว์ประหลาดตัวใหญ่เช่นนี้หลุดลอยไปได้หรอก PDซงมันวูก็โน้มตัวเข้าหาคังวูจิน มุมปากโค้งเป็นรอยยิ้ม

"ผมขอพูดตามตรงนะครับ"

เขาชี้ไปที่ชายสองคนที่นั่งห่างจากเขาเล็กน้อย

"คนนั้นคือหัวหน้าฝ่ายผลิตและหัวหน้าฝ่ายจัดหานักแสดง"

ถัดไปทางด้านซ้ายของเขาเป็นหญิงวัยกลางคนที่มีผมยาวดัด ซึ่งเฝ้าดูสถานการณ์อย่างเงียบๆ มานานแล้ว

"นี่คือนักเขียนพัคอึนมี คุณคงรู้จักเธอใช่ไหมครับ?"

คังวูจินรู้จักนักเขียนพัคอึนมี เขารู้จักเธอไม่ใช่เพราะเธอมีชื่อเสียง แต่เพราะเขารู้เรื่องของเธอเมื่อเขาค้นหาเกี่ยวกับชื่อ PDซงมันวู เมื่อวันก่อนนี้ ตัวเขาน่ะแทบไม่ได้ดูทีวีเลย แต่ถึงกระนั้น คังวูจินก็พยักหน้าเมื่อมองไปทางนักเขียนพัคอึนมี

"ครับ"

จากนั้นมือของ PDซงมันวู ก็ชี้ไปยังที่นั่งด้านขวาฮงฮเยยอน นักแสดงหญิงชั้นนําที่ทุกคนต่างรู้จัก

"ส่วนดาราฮง คงไม่มีจำเป็นต้องพูดถึงหรอกครับ"

ในไม่ช้า PDซงมันวู ผู้ซึ่งกําลังแนะนําตัวผู้คนที่มารวมกันที่นี่ก็ได้พูดคุยกับคังวูจินอย่างมั่นใจ

"เรากําลังเตรียมสร้างละครเรื่องใหม่กันครับ"

คังวูจินก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน เขาได้ยินเรื่องนี้สั้นๆ มาจากเพื่อนของเขาคิมแดยอง ว่าแต่มันคืออะไรงั้นเหรอ? เหมือนเขาเห็นข่าวว่ามันเป็นการรวมตัวที่ยิ่งใหญ่อะไรสักอย่าง แต่มันไม่ใช่ธุระของคังวูจิน แล้วไงล่ะ

จากนั้นเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นก็ออกมาจากปากของ PDซงมันวู

"เราต้องการให้คุณคังวูจินมาเข้าร่วมในงานใหม่นี้ครับ"

"... เข้าร่วม?"

"ใช่ครับ เข้าร่วม กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเราต้องการคัดเลือกคุณเป็นนักแสดง"

"อา"

คังวูจินตอบสั้นๆ ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรมากนัก ภายนอกเขาดูสงบ แต่ไม่ใช่ว่าภายในใจของเขาจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

'······อะไร???!'

เขาตกใจมากจนไม่อาจตอบสนองอะไรได้เลย

'ตาแก่เคราแพะคนนี้กําลังพูดเรื่องอะไรอยู่? จริงจังไหมเนี่ย??'

เป็นเรื่องน่าตกใจมากที่คังวูจินสามารถรักษาความนิ่งมาได้จนถึงตอนนี้ ทว่าเขาแทบจะทรุดตัวลงกับพื้นทันที เขาเกือบจะไม่สามารถรักษาการวางท่าได้แล้วเมื่อ…

-พึบ

นักเขียนพัคอึนมีที่อยู่อีกฟากหนึ่งได้เริ่มเคลื่อนไหวเป็นครั้งแรก เธอยื่นกองกระดาษที่เธอนํามาให้กับคังวูจิน จากนั้นเธอก็พูดกับคังวูจินว่า

"นี่เป็นองก์แรกของบทละครใหม่ เป็นครั้งแรกที่ได้นำเผยแพร่สู่ภายนอก"

จากนั้นเธอก็ถามอย่างใจเย็นว่า

"คุณช่วยแสดงบทบาทสมมติตามบทนี้ให้เราดูได้ไหมคะ?"

ในขณะเดียวกัน ณ บริษัทอาหารขนาดกลาง

ในห้องพักผ่อนที่กว้างขวางของบริษัทอาหารขนาดกลาง กลุ่มพนักงานชายหญิงทั้งหมดประมาณห้าคนกําลังหยุดพักสั้นๆ แก้วน้ำถูกวางอยู่ตรงหน้าแต่ละคน

ในหมู่ของพนักงาน...

"ว้าว ฮงฮเยยอนน่ะสวยจนไม่อยากจะเชื่อเลยยล่ะ"

หนึ่งในนั้นคือ คิมแดยองยังคงรู้สึกตื่นเต้นกับการพบเจอนักแสดงชั้นนําฮงฮเยยอนที่เขาได้เจอในรอบคัดเลือกรายการ ‘สุดยอดนักแสดง’

"ความงดงามของเธอช่างน่าหลงไหล แหม ฉันจะพูดยังไงดีล่ะ มันรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปเมื่อมองเธอเลย ดวงตาของเธอใหญ่มาก ใหญ่พอที่จะเห็นตัวฉันเองสะท้อนอยู่ในนั้น"

"เอ้ย-นั่นพูดเกินจริงไปหน่อยไหม"

"เกินจริงบ้าบออะไร อา-พอได้เห็นใบหน้าของเธอ ฉันแทบหยุดหายใจเลยด้วยซ้ำ"

"แต่จะว่าไป จากที่ฉันได้ยินมา นายหลุดจากรอบคัดเลือกเพราะนายดันขี้แตกใช่ไหม?"

"เฮ้ย! ไม่ใช่สักหน่อย! ฉันแค่รู้สึกประหม่าเล็กน้อยและลืมบทไปเท่านั้นเอง"

"เพื่อนของนายคงช่วยนายไว้มากเลยสินะ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา นายคงจะอึและต้องกลับบ้านโดยไม่ได้เข้าไปรอบคัดเลือกแหงเลยใช่เปล่า?"

คิมแดยองผู้ซึ่งถูกเพื่อนพนักงานแกล้ง จู่ๆ ก็มีสีหน้าเจื่อนไป

"ช่างเหอะ ว่าไปแล้ว ฉันก็สงสัยเหลือเกินว่าใครจะเดทหรือได้แต่งงานกับฮงฮเยยอนกัน? ไม่ว่าเป็นใครฉันคงอิจฉามาก"

"ฉันว่าคงเป็นนักแสดงระดับแนวหน้าเหมือนกันแหละมั้ง? "

"ว่าเหมือนกันใชไหมล่ะ? ฉันล่ะอิจฉาจริงๆ แต่ว่านะ ฉันจะเก็บลายเซ็นที่ฉันได้รับมาไปตลอดชีวิต ฉันจะส่งต่อให้ลูกๆ ของฉันด้วย"

"งั้นนายต้องแต่งงานก่อนไหม?"

"อ่า- ไอ้บ้านี้"

ในขณะนั้นเอง

-ริง ริง♬♪

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นจากกระเป๋าเสื้อของคิมแดยอง หน้าจอแสดงชื่อผู้โทร เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู สายตาของเขาจับจ้องไปที่ชื่อบนหน้าจอ ก่อนที่จะตัดสินใจลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกจากห้องไปรับสายที่โถงทางเดิน

"ว่าไงพวก?"

คนที่อยู่ปลายสายเป็นเพื่อนสนิทจากชมรมละครที่คิมแดยองสังกัดอยู่ ไม่นานนักเขาก็ได้ยินเสียงของชายคนหนึ่งทางโทรศัพท์

"คิมแดยอง นายยุ่งอยู่ไหม? คุยกันได้หรือเปล่า?"

"ได้ ฉันคุยได้"

"นายอ่านบทภาพยนตร์เรื่อง 'การไล่ผี' ที่ฉันให้ไปจบหรือยัง?"

คิมแดยองนึกถึงบทหนังสั้นที่เขาเคยส่งต่อให้กับคังวูจินขึ้นมา เมื่อได้ยินคำถามนั้น เขาจึงตอบกลับไปทันทีว่า

"อ่า ใช่ ฉันอ่านหมดแล้ว"

"จริงดิ๊?  งั้นเอามาคืนหน่อยเว้ย  ฉันต้องอ่านบทอีกที"

"ฮ่าฮ่าฮ่า  ได้ๆ  เดี๋ยวเอามาให้วันหยุดสุดสัปดาห์นี้แหละ แต่ว่าจะอ่านบทอีกทำไมวะ?"

เสียงที่ดูสุขใจได้ตอบกลับมาจากปลายสาย

"อ่า ก็ฉันได้ยินมาว่า 'การไล่ผี' กำลังจะได้สร้างเป็นหนัง เลยกะว่าจะไปลองคัดตัวดูสักหน่อย"

ในไม่ช้า คิมแดยองก็ตอบกลับไปด้วยความตกใจ

"ว้าว ไม่อยากจะเชื่อเลยแฮะ เขาจะสร้าง 'การไล่ผี' ขึ้นจริงๆ เหรอวะเนี่ย?"

กลับมาที่ห้องประชุมของสตูดิโอซีบูล

บรรยากาศเงียบลงไปนิดหน่อย  สายตาของทุกคน เริ่มตั้งแต่ PDซงมันวูยังคงจับจ้องอยู่ที่คังวูจิน ขณะที่คังวูจินเองนั้นเงียบกริ๊บ เขามองไปยังกองกระดาษที่เพิ่งถูกยื่นมาให้เขา มันคือบทภาพยนตร์สำหรับผลงานใหม่ของพัคอึนมี  โชคดีที่ความตื่นตระหนกภายในใจได้เลือนหายไปบ้างแล้ว

แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจในเรื่องของการคัดเลือกตัวนักแสดง

เวลา ใช่แล้ว เขาต้องการเวลา จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นมัน มีลวดลายวนสีดำอยู่ข้างๆ บทภาพยนตร์ที่พัคอึนมียื่นมาให้  ตอนนี้เขาต้องลองล้วงไปดูเสียหน่อย คังวูจินจึงรับบทภาพยนตร์นั้นมาโดยไม่พูดอะไรอีก

แล้วจึงแสร้งทำทีเช็คปกก่อน

-พรึ่บ

บทภาพยนตร์ที่พวกเขาเรียกว่าผลงานใหม่นั้นเป็นแผ่นกระดาษ ไม่ใช่บทเป็นเล่มๆ และมีเพียงแค่ชื่อองก์กับจำนวนตอนที่เขียนไว้บนปก

-'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล'

-ตอนที่ 1

ไม่ว่ายังไงตอนนี้มันก็ไม่สำคัญแล้ว คังวูจินลดบทภาพยนตร์ที่เขาได้รับลงมาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ใช้ปลายนิ้วชี้เขี่ยขอบของสี่เหลี่ยมสีดำข้างๆ บนบทภาพยนตร์อย่างแผ่วเบา

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงความหนาวเย็นแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย

จากนั้นดังที่คาดการณ์ไว้ คังวูจินถูกดูดเข้าไปในมิติว่างเปล่า ในพริบตา พื้นที่มืดมิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุดก็แผ่ขยายออกไปในขอบเขตการมองเห็นของเขา  ขณะเดียวกัน คังวูจินผู้ที่เพิ่งได้มีเวลาผ่อนคลายก็พ่นลมหายใจออกแรงๆ

"เหวอ ฉันบ้าไปแล้วหรือไง มันเกิดอะไรขึ้นกันวะเนี่ย??"

เขาไม่เคยคิดเลยว่าพื้นที่บ้าๆ บอๆ แห่งนี้จะน่าอยู่ขนาดนี้  แต่ที่จริงมันอาจเมื่อคังวูจินอยู่ที่นี่ เขาก็สามารถคิดอะไรได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาได้แล้ว

"การคัดเลือกนักแสดงงั้นเหรอ? พวกเขาอยากจะให้ฉันกลายเป็นนักแสดงงั้นเหรอ?  ในละครเรื่องใหม่ที่ฮงฮเยยอนเป็นนักแสดงนำเนี่ยนะ???"

แถมผู้กำกับยังเป็นPDซงมันวู ผู้ทรงอิทธิพล และพัคอึนมีนักเขียนระดับซูเปอร์สตาร์  จู่ๆ คังวูจินก็ถูกแมวมองดึงตัวขึ้นไปบนเวทีอันยิ่งใหญ่อย่างกะทันหันเสียอย่างนั้น

มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเลย

เอาล่ะ มาลองจัดการสิ่งต่างๆ สักหน่อย  คังวูจินในมิติว่างเปล่าพยายามสงบสติอารมณ์และไขว้แขน

"เหตุผลที่พวกเขาอยากจะให้ฉันแสดง พวกเขาคงรู้จักฉันจากรายการ 'สุดยอดนักแสดง' ใช่ไหมนะ? งั้น... มันหมายความว่าการแสดงของฉันประทับใจพวกเขามากกว่าที่คิดงั้นเหรอ?"

"อืม-เอาล่ะ งั้นตอนนี้..."

คังวูจินคลายแขนออก จากนั้นหันกลับไปมองสี่เหลี่ยมสีขาวที่เรียงกันอยู่ แน่นอนว่ามันมีการเพิ่มสี่เหลี่ยมสีขาวขึ้นมา

เขาตรวจสอบตัวหนังสือที่เขียนอยู่บนสี่เหลี่ยมสีขาวช่องที่ห้า

-[5 /บทภาพยนตร์ (ชื่อเรื่อง: ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล ตอนที่ 1) ระดับ A]

-[* บทละครเรื่องนี้มีความสมบูรณ์ในระดับที่สูงมาก อ่านได้ 100%*]

เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ขณะที่โฟกัสไปที่ตัวหนังสือหนึ่งตัว

"ระดับ A งั้นเหรอ?"

ประมาณ 30 วินาทีต่อมา

เอาจริงๆ สำหรับคังวูจินที่อยู่ในมิติว่างเปล่าเวลามันไม่ได้ไหลไปตามจริง เพราะภายนอกเพิ่งจะผ่านไปแค่ 30 วินาทีเอง พวกเขาต่างมองคังวูจินที่นิ่งไปขณะเช็คปกบทภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นPDซงมันวู นักเขียนพัคอึนมีและคนอื่นๆ ทุกคนต่างจ้องเขาเขม็ง

ในบรรดาคนเหล่านั้น....

'ทำไมเขาถึงเพ่งมองชื่อเรื่องอยู่นานจัง?'

เป็นครั้งแรกที่นักเขียนพัคอึนมีขมวดคิ้วเล็กน้อย

-พรึ่บ

คังวูจินที่อยู่นิ่งเฉยได้ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆ ยกศีรษะขึ้น เขาสบตากับพัคอึนมีทันที ทำให้นักเขียนพัคอึนมียิ้มน้อยๆ ออกมา

"เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้วใช่ไหมคะ? ตามที่PDบอกมา คุณแสดงหลังจากเห็นบทเพียงแค่นาทีเดียวในรอบคัดเลือกของรายการ 'สุดยอดนักแสดง' ใช่ไหมคะ? ครั้งนี้คุณไม่ต้องทำแบบนั้นหรอกค่ะ พวกเราสามารถรอได้ ไม่ว่าจะเป็น 10 นาทีหรือ 30 นาทีก็ตาม"

พัคอึนมีเป็นคนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเพิ่มคุณภาพให้กับผลงานของเธอ

"คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกกดดันเลยค่ะ คุณสามารถแสดงบทพูดสองสามบรรทัดจากตัวละครไหนก็ได้ในบทละคร ฉันแค่อยากฟังน้ำเสียงของคุณค่ะ"

อันที่จริง เธอมีตัวละครในใจอยู่แล้วที่อยากให้คังวูจินแสดง แต่เธอก็เก็บไว้ก่อน เพราะตอนนี้เธอต้องการให้บรรยากาศที่ตึงเครียดผ่อนคลายลงบ้าง

สาเหตุก็มาจากคังวูจิที่มีนิสัยไม่เหมือนใครนั่นแหละ หากพูดอะไรผิดหูอาจโกรธเลยก็ได้

จากนั้นคังวูจินก็พยักหน้าอย่างเฉยเมย แล้วค่อยๆ ลดสายตาลงมาที่บทภาพยนตร์ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ที่อยู่ในมือ

เสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้น

"ผมขออ่านสักครู่ครับ"

-พรึ่บๆ

คังวูจินเริ่มอ่านบทภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม เวลาการอ่านของเขาสั้นมาก ประมาณ 5 นาทีได้มั้ง? เขาพลิกผ่านบทภาพยนตร์หลายสิบหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นคังวูจินก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง

แล้วเขาก็พูดกับทุกคนที่มองเขามาอย่างใจเย็น

"ผมจะรับบทเป็น 'รองหัวหน้าพัค'"

ในไม่ช้า...

“!!!”

"….รองหัวหน้าพัคเหรองั้นเหรอคะ??"

PDซงมันวูและนักเขียนพัคอึนมีต่างก็ประหลาดใจ ตาเบิกโพล่ง เพราะตัวละคร 'รองหัวหน้าพัค' คือสิ่งที่PDซงมันวูและนักเขียนพัคอึนมีต้องการให้เขาแสดงพอดี....

"ใช่ครับ บทรองหัวหน้าพัค"

ตัวละครนี้ได้ถูกเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อเสริมเนื้อหาเกี่ยวกับโรคโซซิโอพาธ

*****

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด