ตอนที่แล้วบทที่ 64 : สังหาร​อาณาจักรถ้ำสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 66 : หนึ่งร้อยแปด​บัลลังก์​

บทที่ 65 : ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สําหรับการฝึกดาบถูกสร้างขึ้น


บทที่ 65 : ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สําหรับการฝึกดาบถูกสร้างขึ้น



ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเขายังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่เขาฆ่านั้นเป็นเพียงมดในอาณาจักรสำแดง​กฎเกณฑ์​ที่เขาดูเเคลน





เเละเมื่อแสงของปราณดาบสลายไป…..ฉากอันน่าตกตะลึง​ก็ปรากฏ​ต่อหน้าต่อตาทุกคนทันที​





ศพเหี่ยวเฉาของชายชรานอนอยู่บนพื้น, เเละก่อนที่เขาจะเสียชีวิตดวงตาของเขายังคงเปิดกว้างราวกับว่าเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากอาณาจักร​สำแดง​กฎเกณฑ์​ได้



และคนที่ทําให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้คือ รุ่นเยาว์​อย่างเย่หวู่ชาง





เมื่อมองไปที่เย่หวู่ชางที่ถือดาบผ่าจันทราอยู่​ในมือ​

สายตาที่ไม่แยแสของเขาก็กวาดไปทั่ว และทุกคนต่างก็หลบสายตา เพราะกลัวที่จะสบตาเขา





ณ​ ขณะนี้​เขาน่ากลัวเเละดูดุร้ายมากเกินไป





นี่เป็นความรู้สึก​แรกของทุกคนที่มีต่อ เย่หวู่ชางในขณะนี้





อย่างไร​ก็ตาม, เกี่ยวกับเรื่องนี้เย่หวู่ชางไม่ได้ให้ความสนใจอีกต่อไป





เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและแหงนขึ้นมองท้องฟ้า





เพื่อที่จะชิงต้นสนห้าธาตุ, กองกําลังหลักต่างๆล้วนลงทุน​สุดตัว….พวกเขา​ต่างระดมบรรพบุรุษอาณาจักรถ้ำสวรรค์มาที่นี่จำนวน​มาก





เเต่ผลลัพธ์สุดท้ายของบรรพบุรุษอาณาจักรถ้ำสวรรค์เหล่านี้คือการมาเก็บศพ





มีเพียงบรรพบุรุษถงหยุนเท่านั้น​ที่ลงมือเร็วเกินไปเล็กน้อย, ดังนั้นเขาจึงได้เผชิญหน้า​กับเย่ห​วู่​ชาง​โดยตรง





ส่วนคนที่มาทีหลังและเห็นทั้งสองต่อสู้กัน….พวกเขาก็ไม่มีความตั้งใจที่จะแสดงตัวอีกต่อไป





ตอนแรกพวกเขาคิดว่าเมื่อมีบรรพบุรุษถงหยุนลงมือ, เย่หวู่ชางก็จะต้องถึงวาระอย่างไม่ต้องสงสัย





อย่างไรก็ตาม, เมื่อพวกเขาเห็นพลังอัน​ยิ่งใหญ่​ของเย่หวู่ชางและเห็นการตายของบรรพบุรุษถงหยุน

พวกเขาต่างก็หยุดชะงัก​ทันที



แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าบรรพบุรุษถงหยุนได้ทะลวงเข้าสู่อาณาจักร​ถ้าสวรรค์ด้วยการยืมพลังจากสิ่งภายนอก, ​ และพวกเขาก็มักจะดูถูกเขา

แต่อย่าง​ไรก็ตาม, พวกเขาก็ยังรู้สึกกลัวเมื่อได้เห็นการตายของบรรพบุรุษถงหยุน​คนนี้





ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งกลัวตาย….นี่ไม่ใช่คำพูด​เลื่อนรอยเลย





พวกเขามีชีวิตอยู่มานานกว่า 1,500 ปีเเล้วและทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความหลงใหลในโลกนี้​ (มีอำนาจเยอะ)​

ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วพวกเขาจึงไม่เต็มใจที่จะตายง่ายๆ





ท่าสังหาร​ของเย่หวู่ชางได้สร้างความหวาดกลัวอันร้ายแรงให้กับพวกเขา





ใครจะรู้ว่า…..ชายคนนี้ยังมีท่าสังหาร​อื่นๆอีกหรือไม่?





ดังนั้น, เมื่อพวกเขาเห็นสายตายั่วยุของเย่หวู่ชางที่กวาดไปทั่ว…..พวกเขาก็เลือกที่จะไม่เคลื่อนไหวใดๆ​ (เด็กมันห้าวเหมือนมีของ​ อิอิ)​





ในขณะนี้​ พวกเขาไม่เต็มใจที่จะต่อสู้กับเย่หวู่ชางอีกต่อไป





ท้ายที่สุดเเล้ว, ตอนนี้ผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนของพวกเขาในช่วงปลายของอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์ได้เสียชีวิตไปเเล้ว….ดังนั้นการแทรกแซงของพวกเขาจึงไม่สมเหตุสมผลนักและพวกเขาอาจจบลงด้วยการต้องตกตายไปด้วย



……….



เมื่อเห็นว่าไม่มีใครกล้าสบตาเขา

เย่หวู่ชางก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ​ด้วยความเสียดาย





ในการต่อสู้ครั้งนี้เขาไม่ได้สนุกอย่างเต็มที่เลย, เขายังมีท่าไม้ตาย​อีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ปลดปล่อย





เเละเขาก็ไม่คาดคิดว่าสิ่งที่เรียกว่า บรรพบุรุษอาณาจักรถ้ำสวรรค์เหล่านั้น….จะกลัวความตายมากขนาดนี้!





ในที่สุดเขาก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้





จากนั้น, เขาก็มองไปที่ต้นสนสูงร้อยเมตรเเละเปล่งแสงห้าสีพร้อมส่งกลิ่นหอม



เย่หวู่ชางไม่มีความตั้งใจที่จะรออีกต่อไป….ด้วยการโบกมือของเขา, ต้นสนห้าธาตุนี้ก็ถูกถอนรากถอนโคนโดยเขาและถูกนําเข้าสู่พื้นที่ของระบบ





หลังจากเสร็จสิ้นทั้งหมดนี้ เย่หวู่ชาง ก็กวาดตามองไปยังผู้ชมทุกคนอีกครั้ง….เเละเมื่อยืนยันว่าไม่มีใครคิดจะหยุดเขา

เย่ห​วู่​ชาง​ก็ได้เเต่จากไปด้วยความเสียใจ





……..

ทางด้านบรรพบุรุษ​อาณาจักร​ถ้ำ​สวรรค์​

เมื่อพวกเขาเห็นการเปลี่ยนแปลงในดวงตาของเย่หวู่ชาง….จากความคาดหวังไปสู่ความเสียใจในตอนที่เขาจากไป

สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรถ้ำสวรรค์ที่ซ่อนอยู่เหนือท้องฟ้าก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง​





เย่ห​วู่​ชางมีไพ่ตายลับอีกจริงๆ!





ในขณะนี้​ พวกเขาดีใจมากที่พวกเขาไม่ได้ลงมือโดยประมาท





เเละหลังจากยืนยันการจากไปของ เย่หวู่ชางเเล้ว

กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังจากอาณาจักรถ้ำสวรรค์ก็เลือกที่จะเปิดเผยตัวเอง….ออกมานำร่างผู้ฝึกตนจากกองกําลังของพวกเขากับไป

ถ้าดูดีๆ….ดูเหมือนพวกเขาจะเเสดงความเขินอายเล็กน้อยออกมา





เเละเมื่อเห็นฉากนี้, ผู้ชมรอบๆต่างก็ประหลาดใจมากจนพูดไม่ออก





"เมื่อกี้​ข้าเพิ่งเห็นอะไร!"





"ผู้​ฝึกตนขั้นเเรกของอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์กลับสามารถ​บังคับให้บรรพบุรุษอาณาจักรถ้ำสวรรค์ไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา….นี่ไม่น่าเชื่อเลย!"





"นี่คือเย่หวู่ชาง….เขาคือผู้ฝึกดาบที่ไม่มีใครเทียบได้,​ เเละยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำของสี่อัจฉริยะระดับมังกรโดยศาลากลไกสวรรค์, เขาน่ากลัวมากจริงๆ!"





"เเต่ชายคนนี้สามารถ​บุกทะลวงไปสู่อาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์ในช่วงเวลาสั้นๆเช่นนี้ได้อย่างไร, เขาฝึกฝน​อย่างไร​กันเเน่?"





"โอกาส, พรสวรรค์, ความโชคดี และความอุตสาหะอันยิ่งใหญ่เป็นสิ่งจําเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย…..ข้าไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ามังกรตัวจริงจากสวรรค์จะปรากฏตัวที่อาณาจักร​ชางหลานนี้!"





เมื่อดูร่างที่จากไปของเย่หวู่ชาง, ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยอารมณ์​



พลังการต่อสู้ของเย่หวู่ชาง….เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนตลอดชีวิตของพวกเขา





เเละหลังจากนั้น,​ พวกเขาก็มองไปที่สนามรบและรู้สึกถึงออร่าที่ทำให้พวกเขารู้สึกใจสั่น





"เจตนาดาบที่เหลืออยู่ในสนามรบยังคงน่าสะพรึงกลัวอยู่เลย….มันเต็มไปด้วยความโหดร้าย การสังหาร และความรู้สึกครอบงํา"





"เเถมข้ายังรู้สึกว่าช่องว่างที่เกิดจากเจตนาดาบนี้จะไม่หายไปในระยะเวลาอันสั้น!"





ผู้ชมรอบๆบางคนรู้สึกถึงเจตนาดาบที่อยู่ในนั้น…..เเละมันทำให้พวกเขารู้สึกสั่นไหว​ในใจ, ราวกับว่าการก้าวไปข้างหน้าจะส่งผลให้วิญญาณ​ของพวกเขาถูกแยกชิ้นส่วนด้วยเจตนาดาบ





ทันใดนั้น, ดวงตาของผู้ฝึกดาบอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์ทั้งหลายต่างสว่างขึ้น

พวกเขา​มองดูหุบเหว​แห่งเจตนาดาบนี้อย่างตื่นเต้น





นี่คือเจตนาดาบขั้นที่เจ็ด หากพวกเขาสามารถเข้าใจมัยได้แม้เพียง​หนึ่งในล้านส่วน….มันก็มีความเป็นไปได้ที่พวกเขา​จะปลุกเจตนาดาบของตนเองขึ้นมาได้





เเละถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถปลุกเจตนาดาบของตนเองได้, เเต่มันก็จะเป็นการปรับปรุงอย่างมากสําหรับวิชา​ดาบ​ของพวกเขาอยู่​ดี





เมื่อคิดได้​ดังนี้, ผู้ฝึก​ดาบคนหนึ่งก็ไม่ลังเลอีกต่อไป….เเละก้าวไปสู่ส่วนลึกของหุบเหวเจตนา​ดาบทันที





อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาก้าวไปข้างหน้า….เขาก็รู้สึกถึงการระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหว​ในใจของเขา

เเละทันใดนั้น, เจตนาดาบที่ไร้ขอบเขตก็พุ่งเข้ามาในร่างกายของเขาจนเกือบจะฆ่าชายคนนี้ในทันที​





สัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดทําให้เขาต้องการล่าถอยอย่างรวดเร็ว​





ในที่สุด, หลังจากหายใจไม่กี่ครั้งเขาก็ลืมตาขึ้นพร้อมพ่นเลือดออกมาเต็มปาก





ฟ่อ~!





เมื่อเห็นสิ่งนี้ทุกคนก็ตกตะลึง​อีกครั้ง





ผู้ฝึกดาบอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์ คนนี้​ มีชื่อเสียงมากในพื้นที่ทางตอนเหนือของอาณาจักรชางหลาน



เเต่เขากลับไม่สามารถ​ต้านทานเจตนาดาบที่เย่หวู่ชางทิ้งไว้ลวกๆได้…..นี่เป็นเรื่องที่น่าตกตะลึง​อย่างแท้จริง





อย่างไรก็ตามผู้ฝึกดาบคนนี้กลับไม่ได้สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเองเลย….นอกจาก​นี้ดวงตาของเขายังเต็มไปด้วยความสุข





ทุกคนเห็นพวกเขาตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น,​ เเละพูดว่า

"ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการฝึกฝนดาบ…..มันคือดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการฝึกฝนดาบอย่างแท้จริง!"





หลังจากพูดอย่างนั้น, เขาก็ไม่สนใจสายตาที่ประหลาดใจของฝูงชนอีกต่อไป

เดินเข้าไปใกล้หุบเหว​อีกครั้งหลังจากกินยารักษาอาการ​บาดเจ็บ​





คราวนี้เขาไม่ได้พุ่งไปข้างหน้าอย่างฉับพลันเช่นเดิม….แต่เริ่มทำความเข้าใจเจตนาดาบที่บริเวณ​ขอบๆแทน





เมื่อเห็นสิ่งนี้, ผู้ฝึกดาบหลายคนก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างและเริ่มเข้าใกล้บริเวณ​ขอบของหุบเหวเเห่งเจตนาดาบ





ไม่มีใครคาดคิดว่าหุบเหว​เจตนาดาบที่ถูกสร้างขึ้นระหว่าง​การต่อสู้ครั้งนี้….จะคงอยู่ต่อไปเป็นเวลาถึงสองร้อยปีเต็ม





และหลังจาก​นี้ต่อไป, เจตนาดาบของเย่ห​วู่​ชาง​ก็ได้กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการฝึกดาบในพื้นที่​นี้





ผู้ฝึกดาบจํานวนนับไม่ถ้วนล้วนมาตั้งรกราก​อยู่ที่นี่, โดยหวังว่าพวกเขา​จะสามารถ​เข้าใจเจตนาดาบที่เย่หวู่ชางทิ้งไว้ได้





และด้วยเหตุนี้, ผู้ฝึกดาบที่โด่งดังเเละทรงพลัง​หลายคนในยุทธ​ภพ​ต่างก็เริ่มปรากฏตัวในอาณาจักรชางหลาน





ในหมู่พวกเขาผู้ที่เข้าใจเจตนาดาบของเย่ห​วู่​ชาง​เป็นคนแรกก็คือผู้ฝึกดาบอาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์คนนั้น





เดิมทีชีวิตของเขาอาจจะหยุดอยู่ที่อาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์





แต่เนื่องจากการแทรกแซงของเย่หวู่ชาง…..เขาจึงได้ใช้เวลาร้อยปีหลังจาก​นี้ในการเข้าใจเจตนาดาบอย่างแท้จริง





เเละด้วยความช่วยเหลือของเจตนาดาบนี้….ในอนาคต​เขาได้ต่อสู้และฝ่าธรณีประตูของอาณาจักรถ้ำสวรรค์, ตลอดจนกระทั่งกลายเป็นครึ่งขั้นอาณาจักรดวงดาว และทิ้งร่องรอยอันลึกซึ้งไว้ในภูมิภาคนี้



………

อีกด้าน​หนึ่ง

เเน่นอ​นว่าโดยธรรมชาติแล้วเย่หวู่ชางย่อมไม่ทราบเกี่ยวกับ​เรื่องทั้งหมดนี้

และแม้ว่าจะทราบ….เขาก็ไม่สนใจมันอยู่ดี​



เมื่อกลับมาถึง

เซี่ยจือซวนที่เห็นเย่หวู่ชางนำต้นสนห้าธาตุกลับได้สําเร็จ….เธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก





ต้นสนห้าธาตุนี้มีความสําคัญต่อเธอมากๆ





เเละเพื่อตอบแทนเย่หวู่ชาง….เซี่ยจือซวนก็คลั่งไคล้อีกครั้ง





เย่หวู่ชางได้สัมผัสกับการรับใช้ของจักรพรรดินีอย่างถี่ถ้วนและรู้สึกถึงความสะดวกสบายที่ไม่เคยมีมาก่อน….การต่อสู้ครั้งนี้ของเขาไม่ได้ถือว่าเปล่าประโยชน์เลย





จนเมื่อเซี่ยจือซวนพยายามหลบหนีพร้อมกับพยุงเอวที่อ่อนยวบของเธอ….เย่หวู่ชางจึงยอมปล่อยเธอไป





หลังจากนั้นเขาก็กลับไปที่ตระกูลเย่และต่อสู้อย่างดุเดือดกับเหล่า​ภรรยา​เเบบหมุนเวียนกัน





เเละเมื่อเห็นว่าการประลองมังกรเร้นลับกําลังใกล้เข้ามา…..เขาก็จำใจจากเหล่าภรรยา​ไปอย่างไม่ยินยอม





เเละในขณะที่กำลังจะออกเดินทาง….เขาก็ได้รับข่าวว่าจ้าวชิงเกอ และสีคงหมิงเยว่กำลังตั้งครรภ์





อย่างไรก็ตาม, โม่ซีจุนและเย่ว์รู่ชวง นั้นยังไม่ได้ตั้งครรภ์





แม้ว่ามันจะน่าเสียดายเล็กน้อย แต่ เย่หวู่ชางก็ไม่ได้รู้สึก​เเย่อะไรมากนัก​

เขายังมีเวลาอีกมากในอนาคต





โดยเฉพาะอย่างยิ่งเย่ว์รู่ชวง….เธอนั้นได้ให้กําเนิดบุตรที่เพียงพอเเล้วสำหรับเขา



เเถมก่อนออกเดินทาง….เขายังเเวะไปที่พระราชวังต้าเซี่ยอีกครั้งเพื่อพบกับเซี่ยจื่อซวน​ ก่อนที่จะจากไปอย่างสดชื่น



ทิ้งเซี่ยจือซวนซึ่งเกือบเป็นอัมพาตไว้ข้างหลัง, พร้อมเฝ้าดูร่างที่จากไปของเขาอย่างช่วยไม่ได้





และเขาไม่คาดคิดว่าการเเวะครั้งนี้จะส่งผลดีอย่างมากมาย





ครึ่งเดือนต่อมา เซี่ยจือซวนแตะท้องของเธอและเผยให้เห็นรอยยิ้มของมารดา





เธอกําลังจะมีลูกอีกคนเเล้ว





เเละเเน่นอ​นว่าเย่หวู่ชางย่อมไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้โดยธรรมชาติ





……..

ไม่กี่วันต่อมา

เย่ห​วู่​ชาง​ได้มาถึงสถานที่จัดการแข่งขันการประลองมังกรเร้นลับ อย่างรวดเร็ว





นอกจากนี้, สถานที่แห่งนี้ยังเป็นทางเข้าของอาณาจักรลับมังกรทยานอีกด้วย

เเละเมื่อการประลองมังกรเร้นลับสิ้นสุดลง, อัจฉริยะ​ 108 อันดับแรกในรายการมังกรเร้นลับก็จะถูกส่งไปยังอาณาจักรลับโดยตรง





ตอนนี้, เหลือเวลาอีกเพียงวันเดียวก็จะถึงวันเริ่มต้นของการประลองมังกรเร้นลับ





เเละการแข่งขันมังกรเร้นลับในครั้งนี้…..ใช้เวลาเพียงสามวันเท่านั้น,​ เพราะอาณาจักรลับกำลังจะเปิดในอีกสามวันต่อจากนี้​





ดังนั้นข้อจํากัดในการเข้าร่วม​การประลอง​ครั้งนี้จึงสูงเป็นพิเศษ





เเละรุ่นเยาว์หลายคนที่กําลังเตรียมตัวเพื่อเข้าประลองจัดอันดับ….ต่างก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นข้อจํากัดการเข้าร่วมในครั้งนี้





"เกิดอะไรขึ้น? เกณฑ์การเข้าร่วมในครั้งนี้​จะต้องมีฐานการฝึกตนอาณาจักรพระราชวังสีม่วงขั้นที่หกขึ้นไป?"





"บ้าไปแล้ว, ในการประลองครั้งที่แล้ว….ตราบใดที่เราบุกเข้าไปในอาณาจักรพระราชวังสีม่วง เราก็จะสามารถเข้าร่วมได้ทันที​ไม่ใช่หรือ"





"ข้อจํากัดในครั้งนี้สูงเกินไป, เเบบนี้​มันจะมีคนเข้าร่วมได้ซักกี่​คน"





"มันไม่ยุติธรรมเลย การประลองมังกรเร้นลับครั้งนี้ไม่ยุติธรรมมากๆ….เราปฏิเสธที่จะยอมรับมัน!"





เหล่ารุ่นเยาว์​เริ่มตะโกนด้วยความโกรธทีละคน





"ฮึ่ม!"





เเต่ทันใดนั้นเสียงกรนเย็นชาก็ดังขึ้นและออร่าที่น่าสะพรึงกลัวก็ปราบปรามพวกเขาโดยตรงทันที​





พวกเขาพยายามเงยหน้าขึ้นมองและในที่สุด​ก็ได้เห็นชายหนุ่มที่แข็งแรงเป็นพิเศษกำลังลงมาจากท้องฟ้า​ พร้อมมองพวกเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม





"เจ้าพวกกบที่อยู่​ก้นบ่อ, งมงายและหยิ่งผยอง…..เจ้าคิดว่าการได้รับความเคารพในสถานที่เล็กๆอย่างบ้านเกิด​ของพวกเจ้า​ เเล้วพวกเจ้าจะสามารถทําตัวเย่อหยิ่งที่นี่ได้งั้นหรือ?"





หลังจากพูดจบ, เขาก็ไม่สนใจทุกคนและมุ่งตรงไปยังหินตรวจจับที่อยู่ข้างหน้าเขา





[ถัวป๋าอู๋เหลียง, จุดสูงสุดของอาณาจักรพระราชวังสีม่วงในขั้นที่เก้า….ยืนยันฐานการฝึกตนเรียบร้อย, โปรดไปที่ศิลาวัดพลังเพื่อวัดคุณสมบัติ​โดยทําให้มันเปล่งแสงสีแดงออกมา]





เมื่อได้ยินดังนั้นชายหนุ่มถัวป๋าอู๋เหลียงก็ตรงไปที่ศิลาวัดพลังเเละโจมตี​ใส่ศิลาทันที​





ตูมมมม~~!





เกิดแสงสีม่วงหนาแน่นที่เปล่งประกายระยิบระยับอย่างยิ่ง





[ผ่าน]





………………………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด