บทที่ 4: ขำอะไร ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้
บทที่ 4: ขำอะไร ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้
ไอ้คนบ้า ไอ้คนเสียสติ!
แววตาแห่งความกลัวปรากฏขึ้นในดวงตาของซูเฉียนโม่
หลินหยู่คนนี้บังอาจเกินไปแล้ว
เธอแค่ต้องการให้เขาออกไปจากที่นี่เท่านั้น แต่เขากลับมาระบายความโกรธใส่กู่เฉินหนานเพียงเพราะไม่พอใจเธอที่ไม่ยอมไปกับเขา
แล้วเขายังคิดจะลากพาตัวเธอไปอีกเนี่ยนะ?
ถึงแม้ว่ากู่เฉินหนานจะตามตอแยเธออยู่ตลอด แต่เขาก็ไม่เคยสัมผัสหรือล่วงเกินเธอเลย ทั้งหมดที่เขาทำมีเพียงแค่มัดเธอไว้เพื่อนำตัวมาที่นี่เท่านั้น
แต่หลินหยู่ที่ไร้หัวคิดคนนี้ได้บังอาจแตะต้องเธอไปแล้วถึงสองครั้ง!
แล้วถ้าเขาพาตัวเธอ หลังจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นกัน!
"นี่ กู่เฉินหนาน นายจะมัวยืนบื้ออยู่ทำไม? มาช่วยฉันด้วยสิ!" ซูเฉียนโม่ตะโกนและหันหน้ามาขอความช่วยเหลือจากกู่เฉินหนาน
กู่เฉินหนานถึงกับรู้สึกสับสน
[นี่ฉันกําลังฝันอยู่หรือเปล่าเนี่ย? นางเอกกำลังขอความช่วยเหลือจากตัวร้ายอย่างฉันเหรอ?]
[เธออย่ามายุ่งกับฉันสิ ฉันเป็นตัวร้าย ฉันจะ OOC ไม่ได้หรอกนะ!]
*หมายเหตุ OOC คือการนอกบท เช่นตัวร้ายทำตัวเป็นคนดี*
เดิมทีแล้วกู่เฉินหนานไม่อยากมีส่วนร่วมในตอนระหว่างพระเอกกับนางเอกเลย เพราะเขาเองก็ต้องรักษาบทบาทของตัวร้ายนี้เอาไว้
แต่แล้วเขาก็ฉุดคิดขึ้นได้ว่า เขาที่เป็นตัวร้ายนี้มีความชื่นชอบและซื่อสัตย์ต่อนางเอกอยู่มากเหมือนกัน ต่อให้นางเอกไม่มาของความช่วยเหลือจากเขา เขาเองก็จะไม่ยอมให้พระเอกพาตัวนางเอกออกไปอย่างแน่นอน
หากอิงจากเนื้อเรื่องเดิมของนิยายนั้น กู่เฉินหนานจะเข้าไปขัดขวางหลินหยู่ไว้ เพื่อไม่ต้องการให้เขาพาซูเฉียนโม่ออกไป
เมื่อคิดได้เช่นนั้น กู่เฉินหนานจึงตัดสินใจก้าวเข้ามาช่วยนางเอกเพื่อหยุดเหตุการณ์ในครั้งนี้
"ปล่อยมือจากเธอซะ!"
กู่เฉินหนานคว้าข้อมือของหลินหยู่ไว้ แล้วพูดขึ้นมาว่า "ใครอนุญาตให้แกพาซูเฉียนโม่ ออกไป!"
[พวก มันไม่ใช่เรื่องของฉันเลยนะที่จะต้องมาแหย่รังเสือ แต่เพราะไอ้ระบบเฮงซวยนี้แท้ๆ ที่ต้องการให้ฉันมาเล่นเป็นตัวร้ายบัดซบ]
"ฉัน หลินหยู่ ไม่จําเป็นต้องอธิบายการกระทําของฉันให้ใครฟัง!” เสียงทุ้มต่ำได้พูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ด้วยท่าทางที่หยิ่งผยองและโอหัง
"ปล่อยฉันนะ!” ทันใดนั้นซูเฉียนโม่ก็ตะโกนออกมาอีกครั้ง
หลินหยู่ตกใจและมองไปที่ซูเฉียนโม่ด้วยสีหน้าเจ็บปวด
" ซูเฉียนโม่ คุณเป็นอะไรไป? มากับผมเถอะครับ!"
[ใช่ ใช่ ใช่ ไป ไปเลยไป โทรเรียกแท็กซี่แล้วรีบไปเถอะ เดี๋ยวฉันเรียกอูเบอร์ให้เอง]
“เป็นบ้าอะไรของนาย ปล่อยฉันนะ!” ซูเฉียนโม่ดิ้นรนอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่สามารถหลุดออกจากพันธนาการของหลินหยู่ได้ เขาจับข้อมือเธอไว้แน่นเกินไป ยิ่งเธอดิ้นแรงมากเท่าไร มันก็ยิ่งทำให้เธอเจ็บปวดที่ข้อมือมากขึ้นเท่านั้น
ปัง~!
ในระหว่างที่ทั้งสามคนกำลังยืดยื้อกันอยู่นั้น ก็มีชายหนุ่มชุดดำร่างท้วมสวมแว่นตากันแดดเปิดประตูเดินเข้ามา
เขาคือ หม่าปิง บอดี้การ์ดของกู่เฉินหนานที่มีความเก่งกาจทางด้านการต่อสู้
ในช่วงต้นของนวนิยาย หม่าปิงเป็นตัวกำหนดมาตรฐานของความเก่งกาจของเรื่อง มีอยู่เพื่อใช้เป็นตัวโชว์ความสามารถของพระเอก เหมือนมีไว้ให้เป็นแรงกดดันที่จะทำให้พระเอกอยากเอาชนะคนผู้นี้
ยิ่งผู้เขียนพรรณนาถึงหม่าปิงในช่วงแรกไว้ดีมากเท่าไร มันก็ยิ่งทำให้หลินหยู่แข็งแกร่งมากขึ้น เพราะในช่วงกลางเรื่อง นักเขียนจะเขียนให้หลินหยู่สามารถเอาชนะหม่าปิงได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งในเนื้อเรื่องต้นฉบับ หลินหยู่จะสามารถบุกเข้าไปในวิลล่าของกู่เฉินหนาน ได้อย่างง่ายดายนั้น มันก็เป็นเพราะหม่าปิงออกไปข้างนอก ตามเนื้อเรื่องแล้วหลินหยู่ในตอนนี้ควรจะสามารถออกจากวิลล่าอย่างปลอดภัยพร้อมกับซูเฉียนโม่แล้ว ไม่มีทางเลยที่เขาจะได้เผชิญหน้ากับหม่าปิงในตอนนี้
แต่ว่าเนื้อเรื่องมันวุ่นวายไปหมดแล้ว หลินหยู่อยู่ที่นี่นานเกินไป ทำให้หม่าปิงมาเจอเขาเข้าให้
"นายน้อยกู่ ขออภัยที่ผมมาช้า!"
[เวรแท้ เนื้อเรื่องตอนนี้ผิดเพี้ยนไปอีกแล้ว]
[พอหม่าปิงปรากฎตัวแล้ว ไม่ใช่ว่างี้หลินหยู่จะถูกทุบตีจนตายเลยเหรอ?]
[แต่จะว่าไป เหมือนว่าพระเอกจะไปรับสาวสวยที่มาจากตระกูลเก่าแก่ ผู้ซึ่งมีวิชาศิลปะการต่อสู้โบราณมาเป็นเจ้านายเขาด้วย แต่ในอนาคตเธอก็คงเป็นหนึ่งในฮาเร็มของเขาอยู่ดี]
หนึ่งในฮาเร็มเหรอ?
ซูเฉียนโม่ขมวดคิ้วของเธอเล็กน้อย
ว่าแล้วเชียว หลินหยู่คนนี้ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้น...เขาคงไม่เอาเจ้านายตัวเอง เข้าไปอยู่ในฮาเร็มของเขาหรอก เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน!
กู่เฉินหนานถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกโล่งอกและสั่งออกมาทันทีว่า "ไล่หลินหยู่ผู้นี้ออกไปให้ไว!"
[ขอร้องละ หม่าปิง นายอย่ารุนแรงกับหลินหยู่มากเลยนะ ฉันต้องไปให้ถึงตอนสุดท้าย อย่าสร้างปัญหาให้กับฉันมากกว่านี้เลย]
"ได้ครับ นายน้อย!"
เมื่อสิ้นเสียงคำสั่งของนายน้อย หม่าปิงก็ยืดคอของเขาพร้อมกับนวดมือ แล้วกำกำปั้นทำให้เกิดเสียงหักนิ้วที่ดังขึ้นมาอย่างน่ากลัว
เขาเดินไปหาหลินหยู่ทีละก้าว
หลินหยู่เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว เขาก็ค่อยๆ ปล่อยมือของเขาออกจากข้อมือของซูเฉียนโม่
ยังไม่ทันที่หลินหยู่จะได้ตั้งหลัก ร่างสูงใหญ่ยักษ์ของหม่าปิงก็มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว พร้อมปล่อยหมัดใส่เขาอย่างรวดเร็ว!
ปัง!
หลินหยู่ที่อยู่ริมหน้าต่างได้โดนหมัดนั้นเข้าอย่างจัง
[บ้าเอ๊ย!]
[หม่าปิง นายรู้สึกโกรธอะไรขนาดนี้กัน ทำไมนายต้องจัดหนัก จัดเต็มคาราเบลขนาดนี้? พระเอกจะไม่อาฆาตแค้นฉันจนเอาฉันตายเลยเหรอ?]
[ถ้าพระเอกตามแก้แค้นฉันเร็วขึ้น ต่อให้ฉันตายไปแล้ว ฉันก็จะลากนายไปด้วย คอยดูเถอะหม่าปิง!]
[ฉันแค่บอกให้นายไล่หลินหยู่ออกไปเฉยๆ ไม่ได้บอกให้นายไปต่อยเขาไม่ใช่หรือไง? นายแข็งแรงแข็งแกร่งมากก็จริง แต่นายไม่ต้องโชว์พลังขนาดนั้นก็ได้ รู้ไหมว่ามันทำให้ฉันตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากขนาดไหน!]
หลังจากที่โดนหมัดของหม่าปิงเข้าไป คงต้องใช้เวลาพอสมควรในการฟื้นตัว แต่หลินหยู่ด้วยความที่เป็นตัวเอกของเรื่อง เขาจึงสามารถยืนขึ้นได้ในทันที
นัยน์ตาที่คล้ายอยากกระชากวิญญาณใครสักคนได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ขณะเดียวกันเขาก็กำลังเช็ดเลือดออกจากมุมปาก
"ฉัน หลินหยู่ จะจดจําความอัปยศของวันนี้ไว้ ในอนาคตฉันจะตอบแทนมันคืนไปร้อยเท่า!"
หลังจากพูดจบ หลินหยู่ก็ตะโกนเสียงดังอีกครั้ง “ซูเฉียนโม่ โปรดรอผมก่อน...ผมจะกลับมาช่วยคุณอย่างแน่นอน!”
เมื่อพูดจบแล้ว เขาก็เดินกำหมัดแน่นออกไปจากวิลล่าของกู่เฉินหนานด้วยความไม่พอใจในทันที
ซูเฉียนโม่เมื่อได้ยินประโยคเหล่านั้น เธอก็รู้สึกขนลุกและขยะแขยงอย่างบอกไม่ถูก
ใครขอให้นายมาช่วยฉันกัน นายน้อยกู่เฉินหนานไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาเปรียบฉันเลยสักหน่อย
กลับกันเลย เป็นนายมากกว่าที่ดูยังไงก็คิดไม่ซื่อกับฉัน ดูจากสิ่งที่นายทำสิ นายกล้าแตะต้องฉันโดยที่ฉันยังไม่ยินยอมเลยสักนิด น่ารังเกียจ!
"นายน้อยครับ ผมควรไปจัดการเขาต่อไหมครับ?" หม่าปิงเอ่ยถาม
[ไม่ต้องแล้ว...นี่นายยังไม่พอใจอีกเหรอ? ถ้านายออกไปจัดการเขาตอนนี้ ในคืนนี้ฉันคงได้กลายเป็นศพแน่!]
[อย่าลืมสิว่าเขาคือตัวเอก! ยังไงตัวเอกก็จะไม่มีวันตายอยู่แล้ว ถ้าขืนหม่าปิงคิดจะไล่ตามเขาไป ฉันเกรงว่าเราทั้งคู่คงได้ดับอนาถกันเร็วไวแน่นอน!]
[นี่นายไม่รู้สึกกลัวพระเอกเลยที่เป็นลูกของเทพแห่งโชคเลยเหรอ? นั่นตัวเอกเชียวนะ]
"ไม่จําเป็น" กู่เฉินหนานกล่าวพร้อมกับส่ายหัวไปมา "ฉันไม่คิดว่า หลินหยู่มันจะกล้าสร้างปัญหาแล้วล่ะ!”
[ในที่สุดเทพเจ้าแห่งโรคระบาดก็หายไป ในที่สุดมันก็ไปเสียที]
[แค่ปล่อยให้มันหนีไปอย่างเงียบๆ อย่าไปสร้างเรื่องให้มันโกรธมากกว่านี้เลย…]
หลังจากที่หลินหยู่จากไป กู่เฉินหนานก็มองไปที่ซูเฉียนโม่อย่างไม่พอใจนัก
เขาอยากเขย่าไหล่ของซูเฉียนโม่แล้วถามว่า ทำไมเธอถึงไม่ไปกับหลินหยู่กัน?
นี่มันคงจะทำให้โกรธมากเป็นแน่
ถ้าเธอทิ้งหลินหยู่ไปก่อน บางทีหลินหยู่อาจจะไม่เกลียดฉันมากขนาดนั้น แต่ตอนนี้นอกจากเธอจะทิ้งหลินหยู่ไปในสถานากรณ์ที่หน้าสิ่วหน้าขวาน แต่เธอยังดันทำให้พระเอกเข้าใจผิดอีกว่าเพราะฉันเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดซะอย่างนั้น
ในใจของเขาหวังเป็นอย่างยิ่งให้ซูเฉียนโม่จากไปพร้อมกับหลินหยู่!
เพราะว่าไอ้ตัวเอกบัดซบนี้มันเจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นอย่างมาก!
"นายน้อยกู่ นายมีอะไรอยากพูดกับฉันไหม?"
ซูเฉียนโม่ที่สบสายตาของกู่เฉินหนานอยู่ เธอจึงถามออกไปด้วยรอยยิ้ม
[มีอะไรที่ฉันอยากจะพูดกับเธอเหรอ? ขอบคุณที่เธอแล้วกันที่ทำให้เรื่องมันเฮงซวยได้ขนาดนี้!]
[การเปลี่ยนไปของเธอไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนเนื้อเรื่องไป แต่ยังเป็นการสร้างปัญหาขนาดใหญ่ให้ฉันอีกด้วย ถ้าเธอไม่ใช่นางเอก ฉันจะตรงเข้าไปตบหน้าเข้าให้แล้ว]
[ทำไมกัน ทำไมเธอไม่ออกไปกับพระเอกที่เข้ามาช่วยเธอกัน แต่ดันกลับมาขอความช่วยเหลือจากตัวร้ายอย่างฉันเนี่ยนะ! จิตใจของเธอทำด้วยอะไร ช่างโหดร้ายเหลือเกิน หรือเธอกำลังวางแผนจะฆ่าฉันอยู่?!]
"ไม่มีอะไร ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอสักนิดเดียว" กู่เฉินหนานหันหน้าหนีฟูมฟายด้วยความกลุ้มใจ
"ติ๊ง! คําเตือน OOC คําเตือน OOC บทบาทตัวร้ายที่ท่านผู้ใช้ระบบได้แสดงอยู่นั้นไม่สามารถพูดเช่นนั้นได้ โปรดไตร่ตรองคำพูดของท่านด้วย”
เวรเอ๊ย!
กู่เฉินหนานฝืนแสยะยิ้มเพื่อให้ดูน่าเกลียดสมกับบทวายร้าย "เฉียนโม่ เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม? บาดเจ็บหรือเปล่า? ฉันเป็นห่วงเธอมากเลยนะตอนที่หลินหยู่จะพาเธอออกไป ฉันน่ะแทบจะขาดใจเลย"
"อุ๊บ~"
เมื่อเห็นท่าทางที่เสแสร้งแกล้งทำของกู่เฉินหนานแล้ว ซูเฉียนโม่ก็อดไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมา เธอหัวเราะคิกคักพร้อมมือที่ปิดปากของเธอ
[เธอหัวเราะออกมาอย่างหน้าตาเฉยได้ยังไง! เธอหัวเราะอะไรของเธอกัน? ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้นะ ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้เลย!]