บทที่ 3 โครงเรื่องที่พังจนไม่เหลือชิ้นดี
บทที่ 3 โครงเรื่องที่พังจนไม่เหลือชิ้นดี
สายตาของซูเฉียนโม่เป็นเหมือนมีดกรีดเนื้อที่สามารถทำให้ผู้ชายพร้อมยอมตายได้
สายตาที่บ่งบอกถึงความเจ้าเล่ห์อันทรงเสน่ห์ของเธอ ตอนนี้กลับจับจ้องมองไปยังกู่เฉินหนานที่กำลังเดินออกไปข้างนอก
【ฉันทำอะไรพลาดกัน? รีบพูดอะไรสักอย่างทีสิ】
【รีบเข้าไปแนบชิดกับหลินหยู่ กลายเป็นคนรักของไอ้ราชามังกรบัดซบซะสิ!】
【ฮาเร็มของราชามังกรต้องการเธอนะ รีบจัดการให้เสร็จทีเถอะ!]
หลินหยู่ยื่นมือออกมาเพื่อรอให้ซูเฉียนโม่เข้ามาหาเขา
ซึ่งในตอนนี้ ความสนใจทั้งหมดของซูเฉียนโม่กลับจดจ่ออยู่ที่เสียงความคิดของกู่เฉินหนานแทน
ฮาเร็มบ้าบออะไร?
ตลกสิ้นดี!
ฉันจะไปอยู่ในฮาเร็มของเขาทำไมกัน?
หยุดพูดแสดงทีจะได้ไหม? ใครบอกให้นายมาแกล้งยอมแพ้หลินหยู่แบบนี้กัน? นี่มันไร้สาระเกินไปแล้วนะ!
หลินหยู่ขมวดคิ้ว เขาคิดว่าซูเฉียนโม่กำลังกลัวกู่เฉินหนานอยู่
และการที่เธอไม่เต็มใจที่จะเอื้อมมือมาหาหลินหยู่ มันก็คงเป็นเพราะซูเฉียนโม่กังวลเรื่องความปลอดภัยของเธออยู่เป็นแน่
อย่าลืมว่ากู่เฉินหนานเป็นถึงนายน้อยของตระกูลกู่ ด้วยพลังอำนาจและอิทธิพลมหาศาลที่มีอยู่ ตระกูลกู่คงไม่ปล่อยให้ซูเฉียนโม่ไปกับเขาอย่างแน่นอน
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หยาดน้ำตาใสกระจ่างก็ไหลออกมาจากบึ้งก้นหัวใจของหลินหยู่
กระทั่งในใจเธอก็ยังเป็นห่วงผมสินะ!
หลินหยู่มองซูเฉียนโม่ด้วยความอ่อนโยนยิ่งขึ้น เขาเอื้อมมือไปสัมผัสที่ใบหน้าอันงดงามของซูเฉียนโม่ ทันที
“เฉียนโม่ ไม่ต้องกลัว ตระกูลกู่ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวเลย!”
“ตราบใดที่คุณมีผมอยู่ในใจ วันนี้ก็ไม่มีใครจะหยุดผมจากการเอาตัวคุณไปได้หรอก!”
การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของหลินหยู่ได้ทำให้ ซูเฉียนโม่ตกใจ จนเธอผละตัวออกทันที
เธอปัดมือของหลินหยู่ออกจากใบหน้าอันงดงามของเธอ จากนั้นดวงตาของเธอก็จ้องเขม็งแล้วพูดขึ้นว่า "หยุดนะ อย่ามาแตะต้องฉัน ฉันบอกเมื่อไหร่กันว่าฉันจะไปกับนาย!"
ให้ตายเถอะ! ขนาดกู่เฉินหนานยังไม่กล้าแตะต้องฉันเลย นายกล้าดียังไงมาแตะต้องตัวฉัน แล้วมาบอกว่าฉันมีนายอยู่ในใจเนี่ยนะ?
คิดเหรอว่าฉันจะไปเป็นคนรักของนายจริงๆ นายยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าจะไปเอาชนะตระกูลกู่ได้ยังไง
“ไม่ต้องกลัวนะ เฉียนโม่ เพื่อคุณแล้ว ผมไม่กลัวตระกูลกู่หรอก มากับผมเถอะนะ!”
หลินหยู่ยังคิดว่าซูเฉียนโม่เป็นห่วงเขา รอยยิ้มที่หยาดเยิ้มปรากฏบนใบหน้าของหลินหยู่ เมื่อซูเฉียนโม่เห็นมัน เธอก็รู้สึกสั่นด้วยความรังเกียจและขยะแขยง มันเหมือนฉากในละครรักสมัยโบราณที่ตัวเอกกอดนางเอกแล้วพูดว่า "คุณจะยอมทำมากขนาดนั้นเพื่อฉันเลยเหรอคะ?"
แถมรอยยิ้มนั่นมันยังเยิ้มจนดูพิลึกเกินไปด้วยซ้ำไป
“ทำไมฉันต้องไปไหนกับนายด้วยล่ะ? นายเป็นแค่คนขับรถของฉันไม่ใช่หรือไงกัน?” ซูเฉียนโม่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่เต็มไปด้วยความขยะแขยง “ได้ งั้นตอนนี้ฉันขอไล่นายออก!”
ด้านกู่เฉินหนาน
【ห๊ะ? เกิดอะไรขึ้น ? เนื้อเรื่องออกนอกเส้นทางแบบนี้ได้ยังไง? ฉันทำตามเนื้อเรื่องอย่างดีแล้วนะ!】
【เกิดอะไรขึ้นกับนางเอกกัน? เธอเข้าสู่วัยทองหรือไง? ทำไมเธอไม่ไปกับพระเอกล่ะ?】
【อย่ายุ่งกับฉันเลยนะพี่สาว ฉันแค่อยากจะจบเรื่องนี้แล้วอยู่ให้ถึงตอนจบเอง เพื่อฉันจะได้กลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง เธอรู้ไหมว่าการกระทำของเธอตอนนี้ส่งผลกระทบต่อฉันมากขนาดไหน? 】
【การที่เธอไล่หลินหยู่ออกไปแบบนี้ ไอ้งั่งนั่นต้องคิดว่าเป็นเพราะฉันแน่ๆ!】
【ถ้าเกิดเขาแทงฉันขึ้นมา ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน ซูเฉียนโม่!】
ในขณะที่กู่เฉินหนานกำลังรอหมัดของหลินหยู่ เขาก็รุ้สึกคล้ายตระหนักอะไรบางอย่างได้
เอ๊ะ! เนื้อเรื่องตอนนี้มันผิดนิ!
เนื้อเรื่องมันออกนอกบทไปแล้ว!
ไม่เพียงแต่นางเอกจะไม่ไปกับพระเอกเท่านั้น แต่เธอยังไล่พระเอกออกด้วยเนี่ยนะ?
ไม่ต้องสนแล้วล่ะว่าพระเอกจะแทงฉันก่อนเวลาอันควรหรือเปล่า เพราะเนื้อเรื่องมันดันยุ่งเหยิงขนาดนี้แล้ว!
หากเนื้อเรื่องเป็นแบบนี้ต่อไป นั่นก็หมายความว่าฉันจะไม่สามารถกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้งั้นเหรอ?
"ระบบ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?" กู่เฉินหนานตื่นตระหนก
"ขอเวลาสักครู่......ติ้ง หลังจากตรวจสอบแล้ว การแสดงไม่มีข้อผิดพลาด โปรดเล่นบทตัวประกอบที่ชั่วร้ายต่อไป การแสดงที่เปลี่ยนไปของตัวละครอื่นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประเมินการแสดงของผู้ใช้ " ระบบอธิบายอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินคำอธิบายของระบบ กู่เฉินหนานก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ตราบใดที่มันไม่ส่งผลกระทบต่อการแสดงของฉัน ก็ให้เนื้อเรื่องดำเนินต่อไปตามนั่นแล้วกัน
ฉันแค่ต้องเล่นบทตัวร้ายให้ดีเท่านั้นเอง
“เฉียนโม่ คุณหมายความว่ายังไงกัน ?” ในที่สุดหลินหยู่ ก็รู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขารู้สึกว่าสาเหตุของเรื่องนี้ต้องมาจากกู่เฉินหนานเป็นแน่
ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ หันไปหากู่เฉินหนานด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ “แกทำอะไรกับเฉียนโม่!”
กู่เฉินหนานรู้สึกสับสนยิ่ง
【พวก แกเอ๋อหรือไงกัน?】
【ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้น จะมาถามฉันหาหอกอะไรกันวะ?】
“นี่ หลินหยู่ ฉันแนะนำให้แกออกไปจากที่นี่ซะ ไม่อย่างนั่นตระกูลกู่ ของฉันจะต้องจัดการกับแกแน่!”
กู่เฉินหนานรีบสวมบทเป็นตัวร้ายอย่างรวดเร็ว
“ตระกูลกู่เหรอ?”
หลินหยู่ยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมอีกครั้ง
“แกคิดว่าฉัน หลินหยู่ จะกลัวตระกูลกู่ ของแกจริงๆ เหรอ!”
"เหอะ!”
กู่เฉินหนานแค่นเสียงอย่างเย็นชา “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว แสดงว่าแกต้องการจะต่อต้านตระกูลกู่ของฉันงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่แค่ตระกูลกู่ของแกเท่านั้นหรอก ใครก็ตามในตงไห่ที่กล้าขัดขวางฉันและเฉียนโม่จะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของหลินหยู่ผู้นี้!”
หลินหยู่กัดฟันและกล่าวออกมาอย่างก้าวร้าว
【ว้าว ! สุดยอด ท่านราชามังกรหลินหยู่ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!】
【ฉันเองก็ไม่ต้องการที่จะพูดคำจาว่าร้ายอะไรแบบนี้หรอกนะ ทว่าไอ้ระบบเวรนี้ไม่เพียงต้องการให้ฉันอยู่ตลอดรอดฝั่งถึงตอนจบเท่านั้น แต่ยังต้องการให้ฉันสวมสมบทบาทเป็นตัวร้ายอีก นี่มันต่อต้านสวรรค์ชัดๆ!】
【ซูเฉียนโม่ รีบไปกับราชามังกรสิ ไม่งั้นเธอจะพลาดรถบัสหมายเลข 2 แล้วนะ!】
【อย่าสร้างปัญหาให้ฉันเลย ฉันแค่อยากให้เนื้อเรื่องมันจบด้วยดีและอยู่ไปถึงตอนจบเท่านั้นเอง!】
“คุณได้ยินไหม เฉียนโม่? ผมน่ะไม่กลัวตระกูลกู่หรอก เพื่อคุณแล้วผมสามารถต่อกรกับคนทั้งหมดในตงไห่ด้วยซ้ำ!”
หลินหยู่มองไปที่ซูเฉียนโม่อีกครั้ง เหมือนต้องการบอกให้เธอทราบอย่างชัดเจนว่าเขายินดีปกป้องเธอด้วยชีวิต
ซูเฉียนโม่ถึงกับพูดไม่ออก
ถ้านายต้องการต่อกรกับคนในตงไห่ทั้งหมด ก็อย่าดึงฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยสิ!
แม้ว่าตระกูลซูของฉันจะเป็นตระกูลที่โดดเด่นในตงไห่ แต่ความแข็งแกร่งของเรายังไม่ถึงระดับที่จะไปต่อกรอะไรกับคนในตงไห่ทั้งหมดซะหน่อย
อยากขึ้นศาลไปถูกประหารก็เอาเลย ฉันขอไม่ไปด้วย!
"ฉันได้พูดมันออกมาอย่างชัดเจนแล้วนะ นายถูกไล่ออกแล้ว ได้โปรดออกไปจากที่นี่เถอะ!” ซูเฉียนโม่พูดอย่างเย็นชาและเด็ดขาด
เมื่อเห็นเช่นนี้ สายตาอาฆาตของหลินหยู่ ก็จ้องมาที่กู่เฉินหนานอีกครั้ง “แกทำอะไรลงไปกันแน่!”
กู่เฉินหนานกางมือออก ราวกับอยากบอกว่ามันไม่ใช่ฝีมือของเขาสักหน่อย
แต่แน่นอนว่าหลินหยู่ไม่เชื่อ
เขาหันกลับมาและชกกู่เฉินหนานด้วยหมัดไปหนึ่งครั้ง
【มาถึงแล้วสินะ แม้เนื้อเรื่องจะเปลี่ยนไป แต่ฉันก็ยังหนีชะตากรรมจากการถูกพระเอกต่อยไม่ได้ใช่ไหม?】
【ใจเย็นๆ อย่าต่อยฉันให้ตายล่ะ】
【สงสัยแฮะว่าฉันจะร่วงแบบไหน จะบินกระเด็นออกไปหรือนอนตายคาที่?】
【โอ๊ย ครั้งที่แล้วที่ฉันกระเด็นออกไป ครั้งนี้ขอลองแบบนอนนิ่งๆ แล้วกัน!】
แต่ในขณะที่หมัดของหลินหยู่อยู่ห่างจากกู่เฉินหนานไม่กี่นิ้ว ซูเฉียนโม่บนเตียงก็คว้าหมอนและเหวี่ยงไปที่หลินหยู่
“หลินหยู่! นี่นายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ!”
บรรยากาศเงียบลง
หลินยู่ค่อยๆ หันหน้ากลับไป แววตาของเขาดูไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเองเลย
กู่เฉินหนานก็ตกตะลึงเช่นกัน
เนื้อเรื่องแบบนี้...มันประหลาดเกินไปแล้ว!
นางเอกปาหมอนใส่พระเอกเนี่ยนะ?
เนื้อเรื่องของนิยายควรจะเป็นนางเอกร้องไห้และเล่าเรื่องความทุกข์ของเธอไม่ใช่หรือ แล้วพระเอกก็โมโหและต่อยฉันด้วยหมัดเดียว จากนั้นพระเอกและนางเอกจะเดินจูงมือกันด้วยความรักออกจากวิลล่าไปไม่ใช่หรือไงกัน?
เนื้อเรื่องได้เปลี่ยนไปมาก กระทั่งแม่มันคงจำไม่ได้ด้วยซ้ำ
บนเตียง ความประทับใจของซูเฉียนโม่ที่มีต่อหลินหยู่ในยามนี้ลดลงเหลือต่ำถึงขีดสุดแล้ว
หลินหยู่ไม่เพียงแต่ปฏิบัติต่อเธอในฐานะคนรักเท่านั้น แต่เขายังอวดดีและไร้เหตุผลอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าเธอน่ะได้ไล่เขาออกไปแล้ว แต่เขากลับยืนกรานที่จะกำจัดกู่เฉินหนานให้ได้
แม้ว่าซูเฉียนโม่จะไม่ได้มีความประทับใจที่ดีต่อกู่เฉินหนานมากนัก แต่เมื่อเทียบกับหลินหยู่แล้ว กู่เฉินหนานถือว่าเป็นคนปกติมากกว่าเสียอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสียงภายในใจของเขาได้ทำให้ซูเฉียนโม่เข้าใจหลายสิ่งหลายอย่าง
ราชามังกรหลินหยู่กระพริบตาปริบๆ เขายังคงไม่อาจเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
เขาก้มศีรษะลงเพื่อมองดูหมอนแล้วกลับมามองยังซูเฉียนโม่ ความโกรธภายในใจพวยพุ่งขึ้นในทันที
“ผมมาเพื่อช่วยคุณ แต่คุณกลับทำกับผมแบบนี้งั้นเหรอ?” หลินหยู่คว้าข้อมือของซูเฉียนโม่ และตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวโกรธ "มากับผม!"