บทที่ 11: สัญญา (3)
บทที่ 11: สัญญา (3)
เมื่อคังวูจินมาถึงอาคาร สตูดิโอซีบลูเป็นครั้งแรก เขาก็ได้รับการต้อนรับจาก...
“สวัสดีครับคุณคังวูจิน”
เป็นผู้ชายคนเดียวกับที่เขาเคยเห็นในห้องประชุม ผู้จัดการฝ่ายผลิตของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' เขามีใบหน้าที่ค่อนข้างคมคาย ส่วนที่แปลกคือบรรยากาศที่เขาแผ่มาทางคังวูจิน
“เชิญทางนี้ครับ”
เมื่อมองแวบเดียวก็ดูเหมือนปกติ แต่กลับให้ความรู้สึกไม่ลงรอยพอสมควร
'มีบางอย่างผิดปกติ เขาไม่ชอบฉันเหรอ?'
ผู้จัดการฝ่ายผลิตส่งกลิ่นอายของความรู้สึกแย่และความรู้สึกไม่สบายใจออกมา เขาเริ่มพูดคําแปลก ๆ เมื่อเขาขึ้นลิฟต์กับคังวูจิน
“ฮู- ก่อนอื่นเลย คุณคังวูจิน สถานการณ์นี้เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกเลย ผมมีประสบการณ์ในการผลิตละครมาบ้างก็จริง แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกสำหรับผมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคัดตัวคุณด้วย…หรือจะเป็นการเจรจาค่าตัวในวันนี้ก็ด้วย”
การเจรจาต่อรอง? วันนี้ฉันจะต้องเจรจาต่อรองค่าตัวของฉันเหรอ? แม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่คังวูจินก็ยังคงนิ่งเงียบอย่างเคร่งขรึม จากนั้นผู้จัดการฝ่ายผลิตก็เริ่มอธิบายต่อ
“จริงๆ แล้ว ผมค่อนข้างต่อต้านเล็กน้อย แต่เอาเถอะ ทั้ง PD และคนเขียนบทต่างก็ตั้งใจที่จะดันให้สุด เพราะทั้งคู่ดูจะชอบคุณมาก ผมควรจะหยุดพวกเขาไว้ แต่พวกเขาทั้งคู่ดันหลงใหลในการสร้างสรรค์ผลงานเอาอย่างเดียวเลย…”
ผู้จัดการฝ่ายผลิตที่เดินตามออกไปก็สบตากับคังวูจิน มีความจริงจังอยู่ในสายตาของเขา
“ไม่ว่าคุณจะคิดค่าตัวตัวเท่าไร…ถึงผมรู้หรอกว่ามันเท่าไร แต่จำนวนที่คุณจะได้ยินในวันนี้นั้นเกินกว่าค่าเฉลี่ยแล้ว ถึงคุณอาจจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ได้โปรดเข้าใจถึงสถานการณ์ของตลาดในยุคปัจจุบันและต้นทุนของการผลิตด้วย”
เมื่อมาถึงจุดนี้ คังวูจินก็สัมผัสได้ถึงความเข้าใจผิดเล็กน้อย แต่ผู้จัดการฝ่ายผลิตยังคงพูดต่อไปโดยไม่ลังเล
“ผมรู้ว่าคุณไม่ธรรมดาในหลาย ๆ ด้าน เราคิดค่าตัวของคุณโดยคำนึงถึงเรื่องนี้แล้ว อีกทั้งผมยังได้ยินมาว่าคุณเรียนรู้การแสดงด้วยตัวเอง คงเป็นหนทางที่ลำบากเลยทีเดียว ทั้ง PD และผู้เขียนบทต่างก็ยอมรับในตัวคุณ”
“เป็นอย่างนั้นเหรอครับ?”
“แต่ถ้าคุณตั้งใจจะเข้าสู่วงการนี้ คุณก็ต้องใส่ใจกับสายตาที่มองคุณด้วย มันคงไม่ดีถ้ามีข่าวลือแย่ ๆ เกี่ยวกับคุณตั้งแต่เริ่มต้นเข้าวงการมา”
คน ๆ นี้ดูใจดีกว่าที่ฉันคิดแฮะ เขาเป็นห่วงฉันอยู่เหรอ? แต่ไม่ว่าจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม ทางผู้จัดการฝ่ายผลิตถอนหายใจเบา ๆ และพูดสรุป
“ผมกำลังบอกคุณเรื่องนี้ เผื่อว่าจะช่วยให้คุณได้คิดก่อนที่จะไปพบกับคุณ PD”
"ผมเข้าใจแล้วครับ"
คังวูจินยังคงทำหน้านิ่งเฉยอยู่ ความจริงแล้วเขาหมดหวังเพราะคำพูดของคิมแดยองที่ร้านเนื้อย่างตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว
'จริงๆ แล้วฉันควรจะขอบคุณด้วยซ้ำ ถึงพวกเขาจะเสนอให้แค่ 3,000 ต่อ แต่การได้เป็นนักแสดงก็ถือเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิตไปแล้ว”
แต่ เขาคิดว่าพวกเขาคงจะจ่ายเงินมากกว่า 3,000 วอนแน่ เพราะดูจากปฏิกิริยาของผู้จัดการฝ่ายผลิตคนนี้สิ
'ฉันควรจะตั้งความหวังสักหน่อยไหม?'
มันเป็นเรื่องผิดปกติ และความแปลกประหลาดนั้นคือสิ่งที่คังวูจินรู้สึกได้เมื่อได้พบกับ PDซงมันวู
“ค่าตัวของคุณคือ 2,500,000 ต่อตอน ว่าไงครับ?”
2.5 ล้านวอนเหรอ? นั่นมากกว่า 3,000 วอนประมาณ 900 เท่า ใบหน้านิ่งเฉยของคังวูจินถึงกับกระตุก
'รอเดี๋ยวนะ ฉันไม่แน่ใจหรอกว่าเงินนี้เป็นเงินก่อนหรือหลังหักภาษี แต่ถ้าเป็น 2.5 ล้านวอนจริง ไม่ใช่ว่านั่นมากกว่าเงินเดือนของฉันอีกเหรอ?'
เขาเคยทำเงินได้ประมาณ 2.3 ล้านวอนที่บริษัทออกแบบ
แม้ว่าคนธรรมดาจะไม่สังเกตเห็น แต่ PDซงมันวูที่เป็นผู้กำกับมายาวนานก็ไม่พลาด เขาเห็นอาการตากระตุกของคังวูจิน
'เขายังรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอเหรอ? อืม…ก็จริง บทบาทของรองหัวหน้าพัคค่อนข้างท้าทายมาก'
ในทางกลับกัน คังวูจินนึกถึงคำพูดที่ผู้จัดการฝ่ายผลิตเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างถึงคนแรก…สรุปคือ สถานการณ์ยามนี้มันค่อนข้างไม่ปกติเลย เขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น
นั่นมันค่าตัว 2.5 ล้านวอนนะ ค่อนข้างผิดปกติไปแล้วไม่ใช่หรือไง
ขณะนั้นเอง
“คุณคังวูจินครับ ค่าตัวตามปกติสำหรับนักแสดงหน้าใหม่มักจะอยู่ระหว่าง 200,000 ถึง 400,000 วอนกัน”
ตรงข้ามกับคังวูจินที่ไร้อารมณ์ PDซงมันวูเริ่มอธิบายพร้อมกับพับมือ แสดงว่าค่าตัว 2.5 ล้านวอนค่อนข้างสูงกว่าปกติ
“เงินที่ได้อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยขึ้นอยู่กับบทบาทที่แสดง แต่นั่นคือแบบทั่วไป เพราะคุณคังวูจิน คุณเป็นกรณีพิเศษ และเราคิดว่ามันอาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำที่จะปฏิบัติต่อคุณแบบนี้ในฐานะนักแสดงหน้าใหม่”
เป็นการตัดสินที่ดีแน่นอน แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด
“เพื่ออธิบายในกรณีที่คุณยังไม่รู้ 2.5 ล้านตอนต่อตอนที่เราเสนอไปไม่ได้รวมถึงการออกอากาศซ้ำทาง YouTube และลิขสิทธิ์ย่อยแบบอื่น ๆ”
"อืม-"
เมื่อฟังคำอธิบาย คังวูจินก็ถอนหายใจเบา ๆ ภายในใจเขารู้สึกดีใจ เพราะดูเหมือน PDซงมันวูจะเริ่มคำนวณให้เขาทุกอย่างแล้ว
“เรายังไม่แน่ใจว่าตัวละคร 'รองหัวหน้าพัค' จะออกแสดงกี่ครั้ง แต่ที่คำนวณดูจะมีความยาวถึง 4 ตอนแล้ว แม้จะมีเพียง 4 ตอน แต่ค่าตัวก็ยังอยู่ในช่วง 10 ล้าน และหากคุณได้ปรากฏตัวในตอนต่อ ๆ ไปอย่างฉากย้อนอดีตหรือฉากความฝัน เราก็ยังต้องจ่ายค่าตัว สรุปคือมันอาจจะมากกว่า 10 ล้านครับ”
คังวูจินตอบกลับไปอย่างใจเย็นมากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
“ผมพอเข้าใจคร่าว ๆ แล้ว”
ทันใดนั้นอยู่ดี ๆ มันก็กลายเป็นตัวเลขหลักสิบล้าน นอกจากนี้ ค่าตัวสำหรับการออกอากาศซ้ำและ YouTube ยังแยกกันอีก
'ว้าว- ให้ตายเถอะ ต่อให้ฉันเป็นกรณีพิเศษ แต่มันก็ยังเยอะขนาดนี้ ฉันสงสัยเหลือเกินว่านักแสดงระดับแนวหน้าอย่างฮงฮเยยอนจะมีรายได้เท่าไร? นักแสดงระดับสามารถได้เงินขนาดนี้ได้ด้วยเหรอ?'
จากนั้น PDซงมันวูก็พูดขึ้นมาอีกทันที
“ถ้าเป็นคุณคังวูจิน คุณคงจะมีรายได้หลายสิบล้านต่อตอนในไม่ช้า คุณเองก็น่าจะรู้ดี”
คังวูจินชะงักไปครู่หนึ่ง ตอนละสิบล้าน? สิ่งที่เขาเคยเห็นเฉพาะในบทความและข่าวสารเรื่องรายได้ของนักแสดงชั้นยอดก็จะเกิดขึ้นกับฉันด้วยงั้นเหรอ ไม่นานนัก PDซงมันวูก็ถามอีกครั้ง
“ดังนั้นแล้ว 2.5 ล้านวอนต่อตอน คุณคิดว่ายังไงครับ?”
“…….”
อย่างไรก็ตาม คังวูจินไม่ได้ตอบทันที สถานการณ์เริ่มคลี่คลายอย่างแปลกประหลาด 2.5 ล้านวอนต่อตอนนั้นไม่ใช่ว่าไม่เพียงพอ ในความเป็นจริงมันเรียกว่าเกินพอ ทันใดนั้นคังวูจินก็เริ่มอยากรู้อยากเห็น
ไม่สิ เขาต้องแน่ใจให้ได้มากที่สุดถึงเรื่องค่าตัวของเขา
คังวูจินซึ่งขาดข้อมูลเกี่ยวกับวงการบันเทิง อยากที่จะรู้ให้อย่างชัดเจนมากที่จะได้รู้ค่าตัวของเขา เพื่อที่เขาจะได้รับงานแสดงในอนาคตของเขาอย่างมั่นใจ
ดังนั้นคังวูจินจึงถาม ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น
“ค่าตัวของผมประมาณ 2.5 ล้านวอนต่อตอนเหรอครับ?”
PDซงมันวูที่นั่งตรงข้ามเขาคล้ายจับสังเกตบางอย่างได้
'...ตาที่กระตุกเล็กน้อย อีกทั้งสีหน้าของเขาก่อนหน้านี้และปฏิกิริยาตอนนี้อีก เขาคงรู้สึกผิดหวังสินะ?'
บรรยากาศที่หนักหน่วงและค่อนข้างเป็นลบเริ่มปรากฏ นี่คงเป็นเพราะคังวูจินเอาแต่แสดงเป็นคนเย็นชาอวดดี
ความเงียบสั้น ๆ ลอยตามมา
ในขณะนี้เอง เสียงเย็นชาของนักเขียนพัคอึนมีดังก้องอยู่ในใจของPDซงมันวู
'ฉันจะพูดสิ่งเดียวเท่านั้น ไม่ต้องสนเรื่องเงิน'
ในไม่ช้า PDซงมันวูก็พยักหน้าช้าๆ
ใช่ เงินนิดหน่อยมันไม่สำคัญหรอก สิ่งสำคัญคือการนำคังวูจินมาสวมบทบาทของ 'รองหัวหน้าพัค' ที่เป็นตัวละครสำคัญเปิดภาคแรกต่างหาก และสัตว์ประหลาดที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาคงมีค่าตัวมากกว่าเงินที่มอบให้หลายสิบเท่าอย่างแน่นอน อีกฝ่ายไม่ใช่แค่นักแสดงธรรมดา แต่เป็นนักแสดงตัวจริงที่หาได้ยาก เขายืนยันด้วยตาของเขาเองแล้ว
ด้วยเหตุนี้ PDซงมันวูจึงเหลือบมองผู้จัดการฝ่ายผลิตที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา
“ได้เลยครับ คุณคังวูจิน”
ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนเรียกคังวูจิน
“3.5 ล้านวอนต่อตอนครับ นี่เป็นวิจารณญาณส่วนตัวของผม ซึ่งกระทั่งในตลอดการกำกับของผมมา เรื่องแบบนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยครับ”
ค่าตัวเพิ่มขึ้นตามอำเภอใจ
ใบหน้าของผู้จัดการฝ่ายผลิตดูเหมือนอยากลาออกเต็มทน ซึ่งในไม่ช้า PDซงมันวูก็พูดออกมาอย่างชัดเจน
“อย่างไรก็ตาม เราจะเพิ่มข้อกำหนดการรักษาความลับเกี่ยวกับค่าตัวและขั้นตอนการคัดเลือกนักแสดงของคุณคังวูจินไว้ในสัญญา คุณคิดว่าดีไหมครับ?”
คังวูจินที่ยังคงนิ่งอยู่ได้สบตากับ PDซงมันวู และตอบกลับไปอย่างเฉยเมย
“ผมคิดว่านั่นดูสมเหตุสมผลแล้วครับ”
หลังจากนั้น
คังวูจินได้รับคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขสัญญาจาก PDซงมันวูและผู้จัดการฝ่ายผลิต นอกจากนี้ เขายังได้รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับตารางงานการถ่ายทำละครเรื่อง 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล'
คำอธิบายส่วนใหญ่มาจากผู้จัดการฝ่ายผลิต
“อย่างที่คุณอาจเคยได้ยินมา คุณคังวูจิน งานของเรากำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ แต่ตอนนี้มันเร็วพอควร ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะนี้เป็นผลงานของ PDซงมันวูและนักเขียนพัคอึนมี มีทีมงานมากมายที่มารวมตัวกันเพื่อถ่ายทำเรื่องนี้……”
อธิบายยาวเหยียด แต่สรุปคือ ทีมงานมีครบแล้วและกำลังดำเนินการสร้าง ซึ่งเริ่มกระบวนการคัดเลือกนักแสดงอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป แถมเขายังเน้นย้ำคำว่า 'เร็ว' เยอะมาก
การที่เป็นแบบนี้ได้ คงเพราะผู้กำกับและคนเขียนบทมีชื่อเสียงโด่งดังมาก
ในระหว่างนั้นก็มีบอกว่าการลงทุนไม่มีปัญหา เรื่องการผลิต การโฆษณา ฯลฯ คังวูจินถูกโจมตีด้วยข้อมูลที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิต จนเขาแทบจะไม่สามารถเข้าใจได้ ถึงกระนั้นเขาก็จำคำศัพท์สำคัญได้
ความทรงจำของเขาไม่ได้แย่ เพราะความจำที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างงานออกแบบที่พิถีพิถัน
อย่างไรก็ตาม คังวูจินยังคงรักษาหน้าเรียบเฉยของเขาไว้
"ผมทราบแล้วครับ"
สุดท้ายสิ่งที่เขาตอบก็มีประมาณแค่ว่า 'ทราบแล้ว' เขาไหลตามไปเรื่อย จนในที่สุดการประชุมก็สิ้นสุดลง PDซงมันวูจึงเป็นคนกล่าวปิดท้าย
“คุณคังวูจิน เราจะให้บทแก่คุณเมื่อบทที่เป็นเล่มอย่างทางการออกมาแล้ว และผมจะติดต่อคุณเป็นส่วนตัวเองเมื่อเราถ่ายไปถึงตอนที่ 3 แล้ว แต่โดยปกติแล้วจะต้องประสานผ่านสังกัด คือว่าคุณยังไม่มีสังกัดใช่ไหมครับ?”
“ใช่ครับ ยังไม่มี”
"ไม่เป็นไรครับ ยังไงก็ไม่จำเป็นต้องมีสังกัดตอนนี้ก็ได้ พวกเรื่องเสื้อผ้าเตรียมตามสตอรี่บอร์ดก่อนถ่ายทำได้อยู่แล้ว ซึ่งคุณคังวูจินอาจต้องจัดการเรื่องพวกนี้อีก แต่คงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหาสังกัดหรอกครับ"
“······”
“ทว่าหลังจากที่ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ออกอากาศแล้ว บริษัทบันเทิงคงจะแห่กันไปหาคุณ บางทีอาจเกิดขึ้นก่อนออกฉายด้วยซ้ำไป”
“แล้วผมต้องเตรียมอะไรบ้างครับ?”
“เอาล่ะ สำหรับตอนนี้ แค่ฝึกการแสดงต่อไปครับ วันนี้ผมจะให้ร่างบทแรกกับคุณไป”
หลังจากกล่าวจบ ผู้อํานวยการฝ่ายผลิตก็เดินตามมา
“ดูจากการถ่ายทำตอนนี้ เรามีแนวโน้มที่จะเริ่มอ่านบทในช่วงปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนมีนาคมครับ”
และพอกล่าวจบ…
“ซึ่งคุณคังวูจิน เรากำลังตั้งหน้าตั้งตารอคอยการแสดงของคุณในฐานะ 'รองหัวหน้าพัค' อยู่นะครับ”
"ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ"
คังวูจินให้คำมั่นสัญญา
“ฮ่าฮ่า ผมรู้สึกยินดีมากเลยล่ะที่คุณพูดแบบนี้ ทางนักเขียนพัคฮึนมีก็คงจะตื่นเต้นมากถ้าเธอได้ยินข่าวนี้”
ในตอนนี้ นี่คือช่วงเวลาที่เขาจะได้เข้าร่วมการเป็นนักแสดงอย่างเป็นทางการแล้ว
ไม่กี่สิบนาทีต่อมา
คังวูจินเดินออกจากอาคารสตูดิโอซีบลูอย่างใจเย็น ทันทีที่เขารู้สึกถึงลมหนาว เขาก็รูดซิปเสื้อแจ็คเก็ตบุนวมขึ้น
-ฟึบ
จากนั้นเขาก็หยุด คังวูจินมองดูสัญญาในมือของเขา หลังจากมองไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว เขาจึงได้พึมพำกับตัวเองโดยไม่รู้ตัว
"สุดยอด ฉันได้เซ็นสัญญาจริง ๆ แล้วสินะ”
คังวูจินในวันนี้มีคำนำหน้าติดอยู่กับชื่อของเขาไม่เหมือนเมื่อวันก่อน กลายเป็นนักแสดงชาย นักแสดงคังวูจิน ชีวิตจะกลับหัวกลับหางเลยหรือเปล่ากันนะ?
ซึ่งยามนี้เอง
-ตึก ตึก ตึก
ผู้คนต่างพากันเดินผ่านคังวูจินที่กำลังมองดูคนเดินถนนบนทางเท้า และเขาก็พึมพำออกมา
“จากนี้ไป… คนพวกนี้จะเห็นฉันในทีวีงั้นเหรอ?”
แม้ว่าเขาจะรู้สึกถึงอารมณ์แปลก ๆ ในใจ แต่เขาก็ไม่อาจเข้าใจได้ว่ามันคืออารมณ์อะไร มันรู้สึกเหมือนเขากำลังกระวนกระวายใจ หรือว่ามันคือความตื่นเต้นกันนะ?
ยังไงก็แล้วแต่ ชีวิตของคังวูจินยามนี้ได้เปลี่ยนไป 180 องศาแล้ว
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เขากลายเป็นนักแสดง ด้วยเหตุนี้ ไหล่ของเขาจึงรู้สึกเบาลงในขณะที่เขาเดิน ทันใดนั้น....
‘ต้นสังกัดสินะ ฉันคงจะมีสังกัดเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? นั่นหมายความว่าฉันจะมีผู้จัดการด้วยเหรอ? ว้าว ผู้จัดการของฉันเองเหรอ? ฟังดูดีชะมัด'
ความคิดของเขาเริ่มวกวนไปมาเรื่องสังกัดที่ได้ยินจาก PDซงมันวูก่อนหน้านี้ แต่ขณะเดียวกัน เขาก็คิดเรื่องที่คุยกับคิมแดยองก่อนหน้านี้
'จะมีสังกัดที่ดี ๆ บ้างไหมนะ? สังกัดใหญ่หรือเล็กต่างก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป บริษัทบันเทิงสังกัดขนาดใหญ่อาจมีเงินทุนมาก แต่ก็มีแนวโน้มที่จะถูกแทรกแซงได้ตลอดเวลา ส่วนบริษัทขนาดเล็กอาจขาดเงินทุน แต่ก็ให้ความสำคัญและมีอิสระมากกว่า การเลือกสังกัดดี ๆ มันทำไมยากขนาดนี้กันนะ?'
คังวูจินรู้สึกกังวลเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม มันคือความกังวลที่ปนไปด้วยความสุข วันเลือกสังกัดจะมาเมื่อไหร่กันนะ? คังวูจินยิ้มจาง ๆ กับความคิดนี้
-ตืด ตืด
โทรศัพท์มือถือของเขาในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตบุนวมส่งแรงสั่นสะเทือนเป็นเวลานาน มีคนโทรมา และผู้โทรคือ
-แม่
คือแม่ของคังวูจิน ในตอนนี้เอง คังวูจินก็รู้สึกถึงความจริงข้อหนึ่งที่เขาลืมไป
“อา-จริงสิ ฉันต้องบอกพ่อแม่ของฉันด้วย”
พ่อแม่ของคังวูจินอาศัยอยู่ที่ชินจูคย็องซัง แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้สนใจหรือพูดคุยกับน้องสาวในสายเลือดของเขา แต่ยังไง เขาก็ต้องบอกพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้อย่างแน่นอน
เพราะเหตุนี้
–ฟึบ
คังวูจินหายใจออกเบา ๆ และยกโทรศัพท์แนบหู
“ครับ..คุณแม่”
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่หยาบคายเล็กน้อยของแม่
"แกอยู่ที่ไหนแล้วตอนนี้?"
“ตอนนี้ผมออกไปทำธุระข้างนอกนิดหน่อย ทำไมครับ?”
“ออกไปข้างนอก? แกได้งานใหม่แล้วเหรอ?”
“อา-เอ่อ…ว่าแล้วเชียวว่าแม่ต้องถามเรื่องนี้”
"อะไรของแก?"
แม่ของเขาถามกลับด้วยความประหลาดใจ ด้วยเหตุนี้ คังวูจินจึงตอบตามตรงโดยไม่คิดอ้อมค้อม
“แม่ครับ ผมคิดว่าผมกำลังจะได้เป็นนักแสดง”
“······”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง แม่ของเขาก็พ่นคำถามอันแสนรุนแรงออกมา
“แกอยากไปโรงพยาบาลกันหน่อยไหม?”
***
สองวันต่อมา วันอาทิตย์ที่ 16
วันหยุดสุดสัปดาห์มาถึงแล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ข่าวลือเกี่ยวกับคังวูจินก็เริ่มแพร่สะพัดไป แต่ไม่ใช่ชื่อของเขาที่ถูกพูดหนาหู
“นายรู้จักละครเรื่องนั้นของนักเขียนพัคอึนมีใช่ไหม? มีคนได้รับเลือกให้รับบทเป็น 'รองหัวหน้าพัค' แล้วเหรอ??”
เขากำลังกลายเป็นประเด็นร้อนในฐานะนักแสดงลับ เรียกได้ว่าเป็นที่ลือกันอย่างมาก
เพราะตอนนี้ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' กลายเป็นจุดสนใจของบริษัทผู้ผลิตในประเทศและบริษัทบันเทิงต่าง ๆ นอกจากนี้ข้อมูลเกี่ยวกับการคัดเลือกนักแสดงตัวละคร 'รองหัวหน้าพัค' ก็เข้าถึงทุกที่แล้ว
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ข่าวลือจะแพร่กระจายไปทั่ว ว่ามีนักแสดงที่ไม่ทราบชื่อได้รับบทบาทนี้อย่างกะทันหัน
“คุณรู้จักเรื่อง 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ ไหม? พวกเขาบอกว่านักแสดงนำคนที่สองหลังจากฮงฮเยยอนได้รับการยืนยันแล้วนะ เป็นเรื่องจริงไหม?”
"จริงเหรอ? นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันได้ยินเรื่องนี้”
จุดเริ่มต้นของข่าวลือคือ สตูดิโอซีบลู บริษัทผู้ผลิต ในตอนแรกมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่ข่าวลือจะค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเชื่องช้า
“นักแสดงที่ได้รับบทรองหัวหน้าพัคชื่ออะไรเหรอ?”
"ฉันไม่รู้เลย พวกเขาเก็บมันไว้เป็นความลับ อาจเป็นนักแสดงชั้นนำบางคนที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อนก็ได้ มั้ง?”
และในบ่ายวันอาทิตย์ ข่าวดังกล่าวก็ถูกส่งไปยังทีมงานของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' กว่าร้อยคนที่อยู่ในสถานะเตรียมพร้อม ทีมงานถ่ายทำ ทีมงานแสง ทีมงานเครื่องแต่งกาย ทีมงานจัดฉาก และอื่น ๆ นักแสดงที่รับบทรองหัวหน้าพัค บทที่ต่อจากฮงฮเยยอนได้รับการยืนยันแล้ว
ข่าวการที่นักแสดงได้รับการยืนยันว่ามีการรับบทแล้วถูกส่งไปถึงทีมงานทุกคน ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“ผู้อำนวยการออกแบบแสง! ได้ยินข่าวไหมคะ?? พวกเขาบอกว่านักแสดงในบทบาทของรองหัวหน้าพัคได้รับการยืนยันแล้วเหรอคะ?”
“ผมรู้ ผมรู้แล้ว ชู่ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนพวกเขากำลังพูดถึงการเปลี่ยนตัวละครอยู่เลยนะ…ว่าแต่ใครคือนักแสดงกัน? พัคอึนมี นักเขียนจู้จี้จุกจิกคนนั้นเลือกใครเหรอ?”
"ฉันก็ไม่รู้ ผอ. ก็ไม่รู้เหมือนกันเหรอคะ? ฉันคิดว่าคุณรู้เลยมาถามค่ะ”
ความจริงที่ว่าชื่อของนักแสดงไม่ถูกเปิดเผย มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเหมือนกัน
จากที่นี่ข่าวลือเกี่ยวกับนักแสดงที่แอบรับบทบาท 'รองหัวหน้าพัค' ก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น ข้อมูลเท็จบางอย่างก็ปะปนเข้ามาด้วย
“ผมได้ยินมาว่าเป็นคิมฮูยอนนะ”
“คิมฮูยอน? ตอนนี้เขามีงานแสดงภาพยนตร์อยู่ไม่ใช่เหรอ? แล้วคิมฮูยอนจะมีทักษะการแสดงที่จะดึงบทบาทรองหัวหน้าพัคออกมาได้งั้นเหรอ? ฉันว่าเขาน่าจะแสดงตัวละครนี้ไม่ได้หรอกมั้ง”
“ไม่รู้สิครับ ผมได้ยินมาจากทีมจัดแสง”
ซึ่งก็มีเค้าลางเรื่องจริงบางอย่างที่ถูกลือออกมาด้วย
“ฉันได้ยินมาว่านักแสดงคนนี้เคยไปแสดงต่างประเทศด้วยนะ”
“เอ๊ะ?? ต่างประเทศเลยเหรอ?”
“ใช่ ดูเหมือนว่าข่าวลือจะมาจากบริษัทผู้ผลิตเองนะ”
เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น ความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับนักแสดงลึกลับคนนี้ก็ขยายวงกว้างขึ้นไป แน่นอนว่ามันไม่ได้สลักสำคัญอะไรหรอก มีเพียงข่าวลือที่แพร่สะพัดออกไป อย่างไรก็ตาม พนักงานทุกคนต่างก็พากันสันนิษฐานคาดเดาไปทั่วอยู่ดี
“เอาเถอะ ถ้า PDซงมันวูหรือกระทั่งนักเขียนพัคอึนมีรู้สึกประทับใจได้ขนาดนี้ ทักษะการแสดงของนักแสดงคนนั้นจะต้องดีมากแน่ เพราะเขาได้คัดเลือกต่อหลังจากฮงฮเยยอนเลย แสดงว่าเขาต้องเป็นนักแสดงชั้นนำไม่ใช่เหรอ? หากไม่ใช่ระดับท็อป อย่างน้อยก็ต้องเป็นนักแสดงระดับแถวหน้า”
พวกเขาคิดว่านักแสดงที่ได้รับบทคนนี้คงมีชื่อเสียงพอสมควร
ภายหลัง ข่าวลือนี้ได้แพร่สะพัดไปทั่วบรรดาทีมงาน และแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วในหลายทิศทาง ไม่ว่าจะเป็น สื่อ บริษัทบันเทิง บริษัทผลิตต่าง ๆ และสถานีโทรทัศน์ วงการบันเทิงคือผู้ที่หยิบยกเอาข่าวลือไร้สาระนี้มาเล่ากันต่อรวดเร็ว จนทำให้การถ่ายทำละครเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนยิ่งขึ้น แถมยังกลายเป็นตัวเร่งกระแสอีกด้วย
ในบรรดาบริษัทบันเทิงหลายแห่ง ข่าวลือนี้เรียกได้ว่ากระตุ้นต่อมเผือกเป็นที่สุด
"อา! ให้ตายเถอะ มีคนคว้าบท 'รองหัวหน้าพัค' ไปแล้วเหอร?? อา ฉันอุตส่าห์รอมานานแล้วนะตั้งแต่พวกเขาบอกว่าจะปรับบทใหม่!”
พวกเขารอคอยโอกาสที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของละคร 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' อย่างใจจดใจจ่อ มันเป็นหนึ่งในละครที่ยิ่งใหญ่มากของปีนี้ แต่น่าหงุดหงิดไม่น้อเลยที่มีคนได้รับบทนี้ โดยไม่ได้คัดเลือกตัวนักแสดงด้วยซ้ำ
“ฉันคิดว่ามีเพียงแค่ฮงฮเยยอนเสียอีกที่ได้รับบทล่วงหน้า?! แล้วอีกคนมันใครกันเนี่ย?”
“ยังไม่ได้มีประกาศอย่างชัดเจนออกมาเลย”
แต่ไม่ว่าด้วยเหตุใด คังวูจินยามนี้ก็เริ่มมีชื่อเสียงในวงการอย่างช้า ๆ แน่นอนว่าชื่อของเขายังไม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งคังวูจินตอนนี้กำลังเตรียมที่จะเข้าสู่มิติว่างเปล่าที่บ้าน เขาไม่รู้เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้เลย
“ฉันควรลองเล่นบทบาทอื่น ๆ ในตอนแรกของ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ดีไหมนะ? อืม ก่อนหน้านั้น กินไก่ฉลองดีกว่า”
เขาดูจะรู้สึกผ่อนคลายมาก
***