ตอนที่ 33
ตอนที่ 33
【สันติชั่วคราว 】 เหลืออีก 18 ชั่วโมง
ผมพิมพ์ข้อมูลสำคัญที่ได้รู้มาจากคาน่อนลงเมโม่แอพในสมาร์ทโฟน
ค่าประสบการณ์ที่จอมมารต้องใช้เพื่อการเลเวลอัพ 1 ครั้งคือ : ศัตรูที่เลเวลเท่ากัน x เลเวลปัจจุบัน x 20
(ตัวอย่าง ) ในการอัพเลเวลจาก 3 เป็น 4, ผมต้องกำจัด พวกเลเวล 3 จำนวน 60 (3 x 20)
ในขณะที่ค่าประสบการณ์ของคนอื่นๆที่ไม่ใช่จอมมารในการเลเวลอัพคือ :
ศัตรูที่เลเวลเท่ากัน x เลเวลปัจจุบัน x 5
ค่าประสบการณ์ที่ได้จากการศัตรูที่เลเวลต่ำกว่าตัวเอง คือ : 50%(ครึ่งหนึ่ง) ต่อเลเวล
(ตัวอย่าง ) สมมุติว่าคุณเลเวล 3 : ค่าประสบการณ์ที่คุณจำเป็นต้องใช้ในการเลเวลอัพคือ 60
คุณจะได้ 1 ค่าประสบการณ์ต่อการฆ่าศัตรูเลเวล3 ต่อตัวและคุณจะได้ 0.5 ค่าประสบการณ์ต่อการฆ่าศํตรู เลเวล 2 ต่อตัว (1 x 50%), และจะได้ 0.25 (0.5 x 50%) เมื่อฆ่าศัตรูเลเวล 1
ค่าประสบการณ์จากการฆ่าศัตรูที่เลเวลสูงกว่าตัวเอง จะได้โบนัส: 110% (เพิ่มเป็น 1.1เท่า) ต่อเลเวล
• ในขณะที่ค่าประสบการณ์เมื่อฆ่าจอมมารได้จะคูณ 1000% (10เท่า)
•
พวกมอนสเตอร์เองก็มีเลเวลด้วยเช่นกัน
ประมาณคร่าวๆ คือ : แร๊ง F เลเวล 1~2, แร๊ง E เลเวล 3~5, แร๊ง D เลเวล 6~9, แร๊ง C เลเวล 10~19, แร๊ง B เลเวล 20~49, และแร๊ง A เลเวล 50+
•
ในกรณีที่ศัตรูถูกฆ่าเป็นปาร์ตี้ ค่าประสบการณ์จะมีการแบ่งสัดส่วนกันในหมู่สมาชิกปาร์ตี้
•
•
ค่าประสบการณ์เมื่อศัตรูถูกฆ่าโดยลูกน้อง มีสองเงื่อนไข:หากถูกฆ่าในโดเมนจะแบ่ง 10% ให้ผู้สร้าง หากถูกฆ่านอกโดเมนจะแบ่ง 5% ให้ผู้สร้าง
•
ค่าประสบการณ์ที่ได้จากการที่ศัตรูโดนกับดักตายจะแบ่งส่วนเข้าผู้สร้างเต็มๆ
พวกเรื่องเลเวลและค่าประสบการณ์ที่กระตุ้นความสนใจผมได้มากที่สุดแล้ว
ผมมาลองคิดเรื่องนี้ดูให้ดีๆ
ค่าประสบการณ์ที่ได้จากอีกฝ่ายจะน้องลงเรื่อยๆหากอีกฝ่ายอ่อนแอกว่า
หรือจะพูดว่ามันเป็นระบบที่จะทำให้อัตราการเติบโตของเลเวลหยุดนิ่งก็ได้หาก ทั้งมนุษย์และจอมมารไม่ได้เติบโตไปด้วยกัน
…มันเป็นแบบนี้เองน่ะหรือ ? ความคิดชั่วร้ายบางอย่างแวบเข้ามาในหัวผม
แต่ไอเดียนั้นก็ยังมีจุดบอดอยู่ด้วยเช่นกัน
ผมตัดสินใจปล่อยมันไปก่อนเพราะดูเหมือนยังมีอะไรเป็นไปไม่ได้อยู่อีกมาก
สรุปได้ว่า เพื่อเร่งการอัพเลเวลของผมให้เร็ว ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสู้กับศัตรูด้วยตัวเองหรือเลือกใช้กับดักที่มีประสิทธิภาพ
… การที่ได้รู้ว่า การอัพเลเวลผ่านผู้สืบสายเลือดตัวเองมันไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพเลยทำเอาผมปวดใจพอสมควร
ต่อไปก็เป็นข้อมูลอื่นๆ
พอจอมมารถึงเลเวล 5 ก็จะได้ 《แยกออก》 (《Separation》
•
《แยกออก 》 นั้นเป็นการแยกโดเมน แล้วก็เลือกลูกน้องให้เป็น
เจ้าของโดเมน(โดเมนมาสเตอร์)ชั่วคราว
ถ้าเป็นในเกมวางแผนก็ประมาณ มอบหมายตัวแทนให้ไปดูแล
โดเมนชั่วคราวไม่สามารถสร้างลูกน้องได้ แถมดูเหมือนยังมีกฏอื่นๆอีก ก็เลยยากที่จะบอกได้ว่า มันมีประโยชน์นัก
พอจอมมารถึงเลเวล 10 ก็จะวิวัฒนาการอีกครั้ง ,จะได้รับการ 《ยึดครอง》 (《Reign》)
การ 《ยึดครอง 》 นั้นคือ การที่เปลี่ยนดินแดนของพวกมนุษย์ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโดเมน
ขั้นตอนที่ยุ่งยากมากมาย หลายหลายนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นเหมือนกัน แต่เอาเถอะถือว่า ยังอีกไกลล่ะมั้ง ?
ก็อบลินและโคโบ้ลมีวิวัฒนาการ 4 ขั้น
ดาร์คเอลฟ์มี 2 ขั้น ไลแคนโทรปมี 4 ขั้น
ถึงอย่างนั้นตัวที่มีขั้นวิวัฒนาการมากที่สุดคือ สไลม์ที่มีถึง 10ขั้น
เช่นเดียวกับพวกมนุษย์ คนแคระ และเอลฟ์ที่สามารถใช้ การแปรธาตุได้ แต่ดาร์คเอลฟ์กลับทำไม่ได้
ที่เหลือที่ได้มาจากคาน่อนที่เหลือก็เป็นข้อมูลจิปาถะเล็กๆน้อยอย่างเช่น ของโปรดของก็อบลินและอะไรอื่นๆ
หลังจากรับคาน่อนผมก็พบกับสถานการณ์ที่ยุ่งยากลำบากเข้า
◆
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ถึงอย่างไรก็เป็นเพราะฉันแท้ๆเลย …” (คาน่อน)
คาน่อน, บุคคลที่เป้นต้นเหตุของสถานการณ์ยุ่งยากในตอนนี้กำลังขอโทษขอโพย
“เธอไม่รู้ใช่ไหมว่า สถานการณ์มันจะกลายเป็นแบบนี้?” (ชิออน)
การที่ผมได้ข้อมูลมาจากคาน่อนเป็นประโยชน์กับผมเป็นอย่างมากดังนั้นแล้วผมจึงไม่อยากบีบบังคับเธอหรือสั่งการให้เธอเล่าเรื่องนั้นให้ผมฟัง อย่างไรเสียผมก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นไปในทางลบ
พอผมถามเธออย่างนั้นเธอก็ตอบกลับมา
“ไม่ค่ะ ฉันพอรู้เรื่องนั้นมาก่อนแต่…ไม่ได้ใส่ใจไม่ได้คิดว่ามันสำคัญขนาดนั้น ” (คาน่อน)
ถึงผมจะไม่ได้แสดงสีหน้าโมโหอะไรแต่คาน่อนยังคงหดหู่อยู่
ผมเปิดสมาร์ทโฟสแล้วตรวจสอบ 【โดเมน 】 ของตัวเองอีกครั้ง
『
โดเมนของจอมมารชิออน
DP: 284/294
ขนาดโดเมน : 12 km²
ประชากร : 0
ชนิด : Dungeon
ชั้น : 3
สิ่งก่อสร้างที่สร้าง :
– Small Room x 35
– Forest x 1
– Rock x 68
– Entrance x 2
– Treasure Chest x 14
– Rest Area x 4
– Stairway x 4
อาวุธที่ติดตั้ง :
– Wooden Arrow x 12
– Poisoned Arrow x 4
– Tumbling Boulder x 3
– Pitfall x 4
– Alarm x 1
– Poison Swamp x 1
ข้อจำกัดพิเศษ : จำนวนมนุษย์ : 12 * 2
เอฟเฟ็คพิเศษ : สันติชั่วคราว (เหลือเวลา 18 ชั่วโมง )
』
สถานการณ์ยุ่งยากที่เกิดจากคาน่อนก็คือ การที่ทารงเข้ามันเพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากการขยายโดเมนของผม
จำนวนทางเข้าที่เพิ่มก็ตามมาด้วยเรื่องที่ต้องมีสถานที่ให้ต้องป้องกันเพิ่มมากขึ้นด้วย
ตอนนั้นเองที่ผมยึดหลักการและจะพยายามควบคุมผลลัพธ์อย่างระวัง.
หากถามว่า ทำไมนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมด้าธรรมดาอย่างผมถึงสามารถจัดการเรื่องพวกนี้ได้ ?
อาจเป็นเพราะหลักสูตรที่ผมเรียนในมหาวิทยาลัยโดยมากเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์การจัดการ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องกลยุทธทางการทหารหรอก
ยุคสมัยที่แสนสงบสุขในญี่ปุ่น ผมไม่มีทางมีประสบการณ์การเข้าร่วมสงครามหรือความขัดแย้งระหว่างประเทศใดๆอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่คนอย่างผมคุ้นเคยและใช้การสมมุติขึ้นก็มาจาก การจำลองสถานการณ์ผ่านความรู้และประสบการณ์ในหนังสือ หนัง และอนิเมดู
เพราะผมค่อนข้างจะแปลกแยกโดดเดี่ยวก็เลยได้อ่านงานสร้างสรรค์จำนวนมาก หลากหลายชนิด, รวมถึงได้เล่นเกมหลายๆแบบด้วย
แน่นอนก็มีการฆ่าศัตรูด้วยพลังสุดโกงของพระเอก ในหนังสือบางเล่ม ,หรือการฆ่าล้างทหารพันคนด้วยตัวเองในเกมแอ็คชั่นอย่างที่ไม่มีทางเป็นจริงได้
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เหมือนกัน
อันที่จริงความจริงแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่า สิ่งที่รู้พวกนั้นมันจะเป็นประโยชน์จนกระทั่งผมสามารถรอดชีวิตได้ด้วยประสบการณ์พวกนั้น
ผมนำความรู้ที่มีมาใช้กับสถานการณ์ในตอนนี้ ตัวอย่างเกมซิมมูลเตอร์ที่จำลองสถานการณ์โดยมีธีมหลัก เป้าหมายที่จะรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งที่เป็น อย่างช่วงสงครามในจีนหรือญี่ปุ่น
เกมพวกนั้นจะมีจุดเปลี่ยนมากมายหลายจุดที่ทำให้เกมเพิ่มระดับความยากขึ้นอย่างมาก
หนึ่งในนั้นก็คือ การยึดครองพื้นที่ (ปราสาท ) ที่มีให้ยึดเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้น
โดยขึ้นกับว่า หากคุณยิ่งมีพื้นที่ที่ยึดครองมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งของประเทศชาติได้มากเท่านั้น
หากจะเทียบกับสถานการณ์ในตอนนี้ ผมเดาว่า มันน่าจะหมายถึง การเพิ่มของค่า DP
ซึ่งการที่โดเมนขยายขึ้นจาก 《การยอมแพ้ 》 ทำให้ค่า DP สูงสุดเพิ่มขึ้น 50.
แถมยังทำให้สามารถวางพื้นที่พักผ่อนได้มากขึ้น ทำให้ค่าDPสูงสุดเพิ่มขึ้นอีก
หากเป็นไปได้ผมก็อยากให้ค่า CP โตไปพร้อมกับค่า DP … ผมหวังอย่างนั้นจริงๆนะ
อ่า ดันนอกเรื่องเข้าซะแล้ว
ในทางกลับกัน ข้อเสียก็คือ กองกำลังรบของผมต้องกระจายตัวออกไป แถม สิ่งที่ผมเจออยู่นี้ไม่ใช่เกมหากแต่เป็นความจริง ศัตรูน่ะไม่รอเทิร์นระหว่างที่ผมนั่งคิดหรอก
ดังนั้นแล้วผมต้องมองมุมสูง เพื่อกระจายจุดสนใจไปรอบด้านด้วยเช่นกัน
หากผมสร้างทางเข้าสองทางอยู่ข้างๆกันล่ะ…ตอนนั้นเองก็มีไอเดียบางอย่างผุดขึ้นมา
ผมแอบสรรเสริญบูชาตัวเองในใจ “หรือผมจะเป็นอัจฉริยะกันเนี่ย ?” แต่โชคไม่ดีนะ ปากทางเข้ามันต้องอยู่ห่างไกลกันในระดับนึงเลยล่ะถึงจะตั้งได้
การสร้างดันเจี้ยนที่มีขนาด 12 กม² x 3 ชั้น นั้นเป็นอะไรที่เป็นปัญหาน่าดู …
นี่มันไม่มีอะไรอย่างเช่น แพคจอมมารระดับกลางบ้างหรือยังไง ?
“ข้าสงสัยอยู่ เจ้าพวกมนุษย์นั้นรู้หรือยังว่า ข้าเป็นผู้ปกครองโดเมนของเธอ ?” (ชิออน)
“รู้อยู่แล้วค่ะ เป็นประเด็นร้อนในเน็ตเลยค่ะ” (คาน่อน)
“อย่างนั้นเองรึ…” (ชิออน)
โดเมนของคาน่อนนั้นแพคจอมมารผู้เริ่มต้น(แบบผสม) ซึ่งเป็นโดเมนที่ประกอบด้วยป่าทึบและซากปรักหักพัง
ขณะที่แพคที่ผมเลือกคือ แบบดันเจี้ยน
อาจดูไม่เกี่ยวเท่าไหร่นัก แต่การขยายของแพคแบบผสม ทำให้การตกแต่งภายในนั้นค่อนข้างกว้าง
และผลจากการที่ผมตอบรับ 《การยอมแพ้ 》 ของคาน่อน ทำให้โดเมนของเธอมาผสานรวมกันกับผมหรือก็คือ ควบรวมเข้าด้วยกันโดยไม่สนรูปร่างเลย … สิ่งก่อสร้างทุกชนิดหายไป กลายเป็นรูปแบบดันเจี้ยน แล้วผสานกับโดเมนของผม
หากมองโดเมนชนิดดันเจี้ยนจากด้านนอกจะเห็นเป็นเสาขนาดใหญ่ ลองจินตนาการถึงหินแอร์ส หรือโขดหินอุรูรุ ที่เกาะอะบอริจิ้น ดู
หรือก็คือ หากใครได้เฝ้าดูเหตุการณ์ความวุ่นวายตอนนี้อยู่ … ก็จะได้เห็นป่าที่ในอดีตเคยเป็นโดเมนของคาน่อนนั้นหายไป แล้วก็มีหินขนาดมหึมาโผล่ขึ้นมาจากผืนดิน ส่งเสียงดังสนั่นลั่นไปหมด กลายเป็นหินขนาดใหญ่ที่เป็นรูปลักษณ์ภายนอกประจำตัวของโดเมนผม
“หากคุณเลเวลถึล 5 แล้วก็สามารถที่จะขโมย 【คอร์จริง 】 โดยตรงได้เลย โดเมนของฉันเองก็จะไม่เปลี่ยนรูปร่างไปเป็นแบบนั้นค่ะ …” (คาน่อน)
เอ๋ ? อะไรล่ะนั่น ? กลายเป็นความผิดของผมไปแทนซะงั้น ?
“อ๋า!? ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ , มันไม่ได้เป็นความผิดของชิออนซังหรืออะไรแบบนั้นหรอกนะคะ … เอ่อ ถ้าจะผิด มันก็ …เป็นความผิดของฉันเองค่ะ !” (คาน่อน)
หรือความรู้สึกของผมมันแสดงออกมาทางใบหน้าจนคาน่อนรับรู้ได้อย่างนั้นเหรอ ? เธอถึงได้พยายามอธิบายอย่างแตกตื่นอย่างนั้น
บางทีผมก็อ่านอารมณ์คาน่อนไม่ออกเหมือนกัน ?
อาจเป็นเพราะคุณสมบัติของเธอก็เป็นพวก 【โกลาหล】 เหมือนผมก็ได้
ดังนั้นแล้วลักษณะนิสัยของเธอก็คงแบบเดียวกันกับผมก็คือ เป็นคนโดดเดี่ยว = มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร
“แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าเลเวล 5 ล่ะ ?” (ชิออน)
“พอคุณเลเวล 5 ก็จะสามารถใช้ 《การแยกออก 》 ได้ค่ะ
มันจะทำให้เวลายึดโดเมนของฉันแล้วได้โดยที่ไม่ต้อวงมีการเปลี่ยนแปลงโดเมนใดๆเกิดขึ้นค่ะ และยังสามารถเลือกโดเมนมาสเตอร์ชั่วคราวได้ด้วย ” (คาน่อน)
“มันเป็นข้อมูลที่เฉพาะทางและชวนงงน่าดูเลยนะ …” (ชิออน)
“ฉันขอโทษด้วยค่ะ ” (คาน่อน)
แม้เรื่องข้อมูลแบบนั้นในสายตาของคาน่อนจะไม่ที่เฉพาะทาง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงขอโทษอยู่ดีogized.
“เดี๋ยวก่อน … แสดงว่า การเคลื่อนย้าย 【คอร์จริง 】 ทำได้ ,ถูกไหม ?” (ชิออน)
หลังจากมีการขยายโดเมนแล้ว ผมก็มี 【คอร์จริง 】 สองอัน
มันเป็นปัญหาขึ้นมาทันทีเมื่อผมต้องปกป้องคอร์จริงทั้งสองอัน
แต่มันจะดีกว่ามากๆหากผมรวมทั้งสองคอร์นั่นมาอยู่ในที่เดียวกัน
“มันก็เป็นไปได้ค่ะ แต่ …” (คาน่อน)
“ตราบใดที่เธอไม่ได้ออกจากโดเมน เธอก็ยังสามารถทำการสร้างหรือแปรธาตุได้ ไม่ใช่หรือ ?” (ชิออน)
“ไม่ค่ะ ถ้าเจาะจงลงไป คือ นอกเขตแดน(Territory)ค่ะ” (คาน่อน)
คาน่อนตอบด้วยเสียงกระซิบเหมือนอยากจะขอโทษ
“เขตแดน?” (ชิออน)
“ใช่ค่ะ ชิออน-ซัง เขตแดนของ 【คอร์จริง 】 ก็คือห้องนี้ค่ะ ” (คาน่อน)
พอเธอพูดแบบนั้น ผมก็ได้รู้เลยว่า ตัวเองไม่เคยเอา 【คอร์แท้ 】 ออกจากห้องนี้เลย หรือพูดให้ชัดๆก็คือ ไม่เคยเอาออกจากตู้เย็นเลย
“เธอกำลังจะบอกว่า ข้าไม่สามารถใช้การสร้างหรือแปรธาตุได้ หากเอามันออกจากเขตแดนใช่ไหม ?” (ชิออน)
“ไม่ค่ะ ตอนนี้คุณมีสอง 【คอร์จริง 】 แล้วคุณสามารถที่จะสร้างและแปรธาตุได้ แม้คุณจะเอา 【คอร์จริง】 อันหนึ่งออกจากเขตแดน
ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ …” (คาน่อน)
“ถึงอย่างนั้น ?” (ชิออน)
“การทำแบบนั้น ทำให้ ค่า CP สูงสุดของคุณลดลงครึ่งนึงค่ะ , ชิออนซัง ” (คาน่อน)
“เอ๋ ? ค่า CP ที่เพิ่มขึ้นเพราะจำนวน 【คอร์จริง】 มีเยอะขึ้นด้วยเหรอ ?” (ชิออน)
“ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้บอกคุณเหรอคะ ?” (คาน่อน)
“ไม่อะ เธอไม่ได้บอก” (ชิออน)
มันมีอะไรต่อมิอะไรมากมายเกิดขึ้นแถมตอนนี้ผมยังไม่ได้เช็คสเตตัสดูค่า CP ตัวเองด้วย
นับตั้งแต่ที่ผม แปรธาตุหอกมิทธิลมา ผมก็ไม่มีเวลามานั่งดูค่า CP จนกระทั่ง ค่า CP ผมฟื้นฟูจนเต็มไปแล้ว
แถม อะไรนะ ผ่านไป 10 ชั่วโมงละเรอะ ?
อ๊ากกกกกกกกกกก ! บ้าเอ้ย !
มันมีอะไรให้ผมทำเยอะเกินไปแล้ววว !
ผมทึ้งผมตัวเองด้วยความเครียด