บทที่ 392 : เมล็ดพันธุ์สีดำ (14)
บทที่ 392 : เมล็ดพันธุ์สีดำ (14)
“ทางที่สองคืออะไร”
ฉันพูดเบา ๆ แน่นอนว่าเฟรียซิสไม่ได้ยินที่ฉันพูด
<แก้ไขมันด้วยตัวเอง>
"……อะไรนะ?"
<เจ้าไม่เคยแก้ไขภารกิจที่ซับซ้อนก่อนหน้านั้นเหรอ? แม้ว่าจะใช้วิธีการแปลก ๆ ทุกประเภท แต่เจ้าก็สามารถทำให้ตัวเองผ่านมาได้ได้ และคราวนี้เจ้าก็คงทำได้เช่นกัน>
แค่พูดมันง่ายกว่าทำมา
ทำแบบเดียวกับที่เคยทำ...ฉันต้องแก้ไขมันด้วยตัวเอง
ก็ถูกต้องแล้ว
ฉันได้เคลียร์ภารกิจที่ยากกว่าปกติมามากมาย
ไม่จำเป็นต้องลังเลเพียงเพราะเรื่องยาก ๆ ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ฉันแค่ต้องเชื่อในสัญชาตญาณของฉันและผ่านมันไปให้ได้
แม้ว่าจะมีเพียงฉัน แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมาย และแม้ว่าจะมีอะไรต่าง ๆ เกิดขึ้น มันก็ยังมีกลยุทธ์ซ่อนอยู่ในภารกิจอยู่เสมอ
นั่นคือกฎของพิกมีอัพ
'และฉันก็เห็นแล้วบนชั้นที่ 35'
ฉันหัวเราะเบา ๆ
“แล้วทางที่สามล่ะ?”
<หากเด็กคนนั้นใช้พลังรบกวน เจ้าก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน...>
ฉันขมวดคิ้ว
“อย่าบอกนะว่าให้ฉันใช้พลังงานรบกวน...ฉันไม่รู้ว่าต้องทำยังไง?”
<ข้าก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากเจ้าเหมือนกัน>
“แล้วมันคืออะไร?”
<มีคนที่มีสายเลือดสีทองบริสุทธิ์อยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ? >
ซีราออสชี้ปีกออกมา
ขณะที่ฉันมองตามปีกไป ฉันเห็นเฟรียซิสที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา
<ใช้ผู้หญิงคนนั้นสิ>
"ยังไงนะ?"
<ลองคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นดูดี ๆ >
เขาบอกมีทางเลือกสามทาง ฉันก็เลยสงสัยว่าทางที่สามมันเป็นแบบไหน
ฝ่ายนั้นบังคับสัตว์ประหลาดได้ด้วยเลือดของเจ้าชาย ดังนั้นคราวนี้ถ้าฉันปลุกพลังของเจ้าหญิงให้ตื่นขึ้นมาล่ะ?
แล้วเราจะสามารถก้าวข้ามการ NPC ธรรมดาได้ไหม?
'ฮีโร่ สัตว์ประหลาด และ NPC ระดับ 7 ดาวจะออกมาโลดแล่นในทาวน์เนียหรือเปล่า?'
มันจะเป็นส่วนประกอบที่อลหม่านพิลึก
ฉันหัวเราะ ฉันรู้แล้วว่าเขากำลังพูดเรื่องไร้สาระ
ฉันไม่รู้ว่าวิธีการนั้นจะทำได้หรือเปล่า แต่ฉันจะลองทำมันดูก่อน
วิธีที่สามที่เขาบอกกล่าวถึงคือการเดิมพัน
อัตราความสำเร็จแทบจะเป็นศูนย์
ฉันจะพิจารณามันอีกทีถ้าฉันไม่มีทางเลือกอื่น
'จริง ๆ แล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่ง'
มีวิธีที่สี่ที่ซีราออสไม่รู้...
เรื่องราวที่แท้จริงของฉัน
กล่าวอีกนัยหนึ่งเนลม์ไฮมฟ์มีส่วนช่วยฉันอย่างเต็มที่
ฉันสัมผัสแหวนที่มือซ้ายของฉัน
การอัญเชิญอาวุธทั้งสามครั้งฉันใช้มันไปหมดแล้ว แต่การสื่อสารระหว่างมิติยังคงมีประสิทธิภาพ
ยูเน็ตบอกให้ฉันแจ้งให้เธอทราบทุกครั้งที่ฉันต้องการความช่วยเหลือ ถ้าฉันขอความช่วยเหลือเธอยินดีที่จะช่วยเหมือนเคย
'ถ้างั้น…'
ฉันไม่สามารถเป็น 'ฮาน อิสรัต' ได้อีกต่อไป
มีความยุ่งยากตลอดภารกิจ
เนื่องจากเรื่องนี้มันยังเป็นเรื่องร้ายแรง ฉันจึงไม่สามารถจัดการกับมันได้เพียงคนเดียว
ฉันเดาว่าความสัมพันธ์ของฉันกับเนลม์ไฮมฟ์จะถูกเปิดเผยอย่างแน่นอน
'ฉันต้องรีบออกไปจากที่นีให้ได้'
มีความเป็นไปได้ที่วิธีแรกจะยุ่งยากสักหน่อย
แต่วิธีนี้ได้ผลเกือบ 100%
และจากนี้ไปฉันจะต้องใช้ชีวิตในฐานะโลกิแห่งเนลม์ไฮมฟ์ ไม่ใช่ฮานแห่งทาวน์เนีย
หากเป็นเช่นนั้น ชีวิตจะง่ายขึ้นและอัตราการรอดชีวิตก็จะเพิ่มขึ้น
จะมีโอกาสมากมายที่จะแข็งแกร่งขึ้น
เพราะฉันเป็นเหมือนราชาที่นั่น
ฉันหลับตาลงสักพัก
ถ้าฉันออกไปได้หลังจากใช้พลังของเนลม์ไฮมฟ์โจมตีเจ้าชาย ทาวน์เนียก็จะกลับมาเป็นปกติ
กราฟความยากที่ขึ้นสูงชันเพียงอย่างเดียวก็จะมีเส้นโค้งลดลงด้วย ฮีโร่ที่เคยต่อสู้อย่างหนักในทุก ๆ ภารกิจ ตอนนี้สามารถต่อสู้ได้สบายขึ้นแล้ว
แต่มันก็อยู่ได้ไม่นาน
สำหรับบัญชีใดก็ตาม...ความยากจะเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง
ไม่สำคัญว่าจะเป็นทาวน์เนียหรือเนลม์ไฮมฟ์ ระดับความยากมันไม่เคยลดลงอยู่แล้ว
ชั้นที่ 50 ชั้นที่ 60 และอีกครั้งบนชั้นที่ 70
ในกระบวนการนี้ มีนายท่านเพียงไม่กี่ร้อยคนจากหลายสิบล้านคนเท่านั้นที่รอดชีวิต
ฉันสงสัยว่าทาวน์เนียในปัจจุบันจะรุ่งเรืองและไปได้ไกลแค่ไหนหากไม่มีฉัน
อัตราการรอดชีวิตจะอยู่ที่เท่าไหร่?
ไม่นานก็ได้ข้อสรุป
'น้อยกว่า 10%'
นี่คือความจริง
มันไม่ใช่แค่เรื่องราวเกี่ยวกับทักษะ
โชคก็เป็นปัจจัยสำคัญในการปีนหอคอยเช่นกัน ในระหว่างภารกิจ อาจถูกแทงข้างหลังโดยผู้เล่นคนอื่น ๆ หรือบอสที่มีความสามารถที่น่ากลัวอาจปรากฏตัวขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ถ้าเป็นแบบนั้น
เจนน่าอาจจะตาย
เวคิส คิชาช่า อีดิส และ คาทีโอ ก็ด้วย
ฮีโร่หลายร้อยคนในห้องรอคงจะตายไป และไอเซลก็คงจะหายตัวไปเช่นกัน
ไรก็ได้คงจะเลิกเล่นเกมไปด้วย
สำหรับไรก็ได้...พิกมีอัพคงจะเป็นเกมที่มีแต่ความทรงจำที่ขมขื่น
ในที่สุด…
แม้จะมีหลายวิธีแต่สุดท้ายแล้วก็มีทางเลือกเดียวเท่านั้นที่ฉันสามารถทำได้
ถ้าเป็นฉันในอดีต ฉันคงจะเลือกตัวเลือกที่สี่โดยไม่ลังเล แต่ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ
"นี่"
<อะไร? >
“บอกฉันมาว่าเลือดมังกรบริสุทธิ์นั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง?”