Chapter 175 : มาถึงเมืองเกียวโตและเข้าสู่แดนต้นกก! (2/2)
เทียนอวี้ไฉเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “หนูขโมยพิมพ์เขียวเครื่องกลของพ่อมาด้วย!”
หลังจากกล่าวเช่นนี้ออกไปเธอก็หยิบพิมพ์เขียวเครื่องกลจำนวนมากออกมาจากอุปกรณ์เก็บของ
เพียงแค่ปรายตามองก็พอจะรู้แล้วว่าพวกมันนั้นมีอยู่นับร้อย!
หว่ายโหยวซีจ้องเขม็งไปที่พิมพ์เขียวเหล่านั้น พิมพ์เขียวหลายแผ่นนั้นมีหัวข้อการออกแบบที่ค่อนข้างดีเยี่ยมแต่เห็นได้ชัดเลยว่ามีร่องรอยการเลียนแบบทักษะของตัวเขาติดอยู่
อย่างไรก็ตามพิมพ์เขียวจำนวนมากเหล่านี้ก็ยังคงทำให้แววตาของเขาเปล่งประกายขึ้นมาอยู่ดี
เห็นได้ชัดเลยว่าพวกมันคือผลงานชั้นยอดที่ทาคุมิลงแรงไปมากโข
เขาเห็นว่ามีพิมพ์เขียวหลายแผ่นที่เปล่งประกายแสงสีทองดำออกมาจากด้านในกองพิมพ์เขียว ลมหายใจของเขาก็พลันถี่กระชั้นขึ้นมาทันที
“เธอขโมยพิทพ์เขียวระดับทองดำมาด้วย?” ยิ่งหว่านโหยวซีมองดูพิมพ์เขียวเหล่านี้มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งประหลาดใจมากเท่านั้น
“ลูกอกตัญญูชัดๆ”
เทียนอวี้ไฉไม่เคยเรียนภาษาจีนมาก่อนดังนั้นจึงไม่เข้าใจคำศัพท์ยากๆมากนัก เธอจึงถามออกมาด้วยน้ำเสียงสงสัย
“ประธานหว่านเมื่อกี้พูดว่าอะไรหรอคะ?”
หว่านโหยวซีโบกมือ “ไม่มีอะไรๆแค่ชมเธอเท่านั้น”
เทียนอวี้ไฉเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น “หนูสร้างผลงานครั้งใหญ่ให้กับกองพลก่อสร้างเลยใช่ไหม?”
“ใช่! ผลงานครั้งใหญ่เลยล่ะ!” หว่านโหยวซีไม่เหมือนกับเทียนอวี้ ทาคุมิที่ไม่สนใจในด้านความแข็งแกร่งและสนใจเพียงแค่เรื่องการออกแบบเครื่องกล
ในทางกลับกันตัวเขานั้นค่อนข้างยืดหยุ่นยิ่งและเป็นคนยืดได้หดได้
ด้วยลักษณะนิสัยหัวดื้อของเทียนอวี้ ทาคุมิแล้วต่อให้เขาส่งพิมพ์เขียวไปให้อีกฝ่ายอีกฝ่ายก็คงแค่นเสียงเยาะหยันและยังคงยืนกรานที่จะใช้ผลงานของตัวเองในการเอาชนะผลงานของหว่านโหยวซีอยู่ดี
อย่างไรก็ตามหว่านโหยวซีจะไม่ทำเช่นนั้น เขาจะไม่สนใจพิมพ์เขียวที่ถูกส่งมาถึงหน้าประตูได้ยังไง!
เขาสามารถใช้วัตถุดิบจากกองพลก่อสร้างในการสร้างพวกมันจำนวนมากขึ้นมาได้ นี่จะทำให้เขาประหยัดเซลล์สมองไปได้อีกเยอะเลยทีเดียว!
เทียนอวี้ไฉเองก็มีความสุขยิ่งนัก
“ถ้างั้นหนูขออะไรอย่างหนึ่งได้รึเปล่า?”
“อย่าว่าแต่หนึ่งอย่างเลย ต่อให้หลายเองก็พูดมาเถอะฉันจะจัดการคำขอพวกนั้นให้!”
เทียนอวี้ไฉที่ได้ยินก็ตื่นเต้นดีใจจนแทบจะกระโดดโลดเต้น
“หนูอยากจะเข้าร่วมกับกองพลก่อสร้าง!”
หว่านโหยวซีเอ่ยอย่างไม่รู้ตัว “ได้ๆๆๆ...เดี๋ยวก่อน เธออยากจะเข้าร่วมกับกองพลก่อสร้าง?!”
เขาชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเบนสายตาออกจากพิมพ์เขียวระดับทองดำและจ้องไปที่สาวน้อยท่าทางร่าเริงที่ยืนอยู่เบื้องหน้า
หญิงสาวถามออกมาด้วยความสงสัย “ไม่ได้หรอคะ?”
“นี่มัน...ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเธอถึงได้อยากจะเข้าร่วมกับกองพลก่อสร้าง เธอเป็นลูกสาวของเทียนอวี้ ทาคุมินะ”
หญิงสาวเอ่ยอย่างหนักแน่น “ประธานหว่านอาจจะไม่เคยอยู่ในทุ่งราบมหาสวรรค์มาก่อนเลยไม่รู้แต่หนูได้เห็นมันด้วยตาของตัวเองมาแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหนูถึงรู้ว่าที่นั่นไม่ใช่สถานที่ที่ควรทุ่มเทให้”
“ดังนั้นเธอเลยอยากจะเข้าร่วมกับกองพลก่อสร้าง? ทำไมถึงไม่ใช่องค์กรอื่นล่ะ”
เทียนอวี้ไฉส่ายหัว
“แม่ว่าหนูจะไม่เคยไปองค์กรอื่นมาก่อนแต่ก็พอจะรู้ความลับมากมายผ่านทางคอนเน็คชั่นของตระกูลเทียนอวี้มาบ้าง”
“องค์กรผู้กู้โลก ภาคีอัศวินแห่งความจริง อินเดีย...พวกเขาเองก็ล้วนเหมือนกับทุ่งราบมหาสวรรค์ กองทัพขั้วโลกนั้นอาจจะดีกว่าบ้างแต่หนูก็ไม่อยากไปที่นั่นอยู่ดีเพราะที่นั่นมันหนาวเกินไป”
หว่านโหยวซีไม่รู้แล้วว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“หนูอยากจะเข้าร่วมกับกองพลก่อสร้างต่อให้เป็นในฐานะของคนต่างชาติก็ตาม!” ดวงเนตรงามของเทียนอวี้ไฉเปล่งประกายระยิบระยับด้วยความหนักแน่น
“เอาล่ะฉันสัญญาแต่ช่วงนี้เธอก็อย่าพึ่งเผยตัวก็แล้วกัน”
หว่านโหยวซีขบคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “ฉันจะให้ห้องทดลองห้องหนึ่งกับเธอ ในห้องนั้นจะมีแค่เธอคนเดียวและเธอจะได้อาหารสามมื้อต่อวัน ไม่ว่าอยากได้วัตถุดิบแบบไหนก็จะมีคนส่งไปให้ ฉันอยากจะเห็นเหมือนกันว่าเธอได้เรียนรู้มาจากเทียนอวี้ ทาคุมิมากแค่ไหน”
เทียนอวี้ไฉตบหน้าอกตัวเองและเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “สบายใจได้เลยค่ะประธานหว่าน! หนูจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!”
...
ทุ่งราบมหาสวรรค์ เมืองเกียวโต
ดาบพิษกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงขณะอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ของทุ่งราบมหาสวรรค์
เขาสามารถแยกประสาทได้ทุกขณะเพื่อมองดูมุมมองของร่างแยกอื่น
“เอ๋? ร่างอวตารในเมืองสุริยันได้หัวใจจ้าวพยัคฆ์มางั้นหรอ! เยี่ยมไปเลย”
“ในอนาคตคงต้องให้ความสนใจกับหัวใจจ้าวพยัคฆ์กับหัวใจจ้าวมังกรให้มากซักหน่อยแล้ว ถ้าหาซื้อได้ในทุ่งราบมหาสวรรค์ก็ยิ่งดี”
คิดได้ดังนี้หลินเซวียนก็ทำการควบคุมดาบพิษให้ลุกขึ้นจากเตียง ตอนนี้ตลาดกลางคืนน่าจะเปิดแล้ว
เขาสามารถไปยังตลาดภายในเมืองหลวงและซื้อหาของดีๆบางอย่างได้
ไม่นานนักเขาก็มาถึงพื้นที่โซนตลาด
อย่างไรก็ตามเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่ามีใครบางคนตามเขามาแต่คนผู้นั้นเพียงตามมาห่างๆเท่านั้น
กระทั่งว่าเขาเดินเข้าไปในตรอกยาวๆเพียงลำพังอีกฝ่ายก็ไม่คิดจะเข้ามาหา ดูเหมือนจะแค่มาสอดแนมเท่านั้น
ถ้างั้นก็ปล่อยเขาทำไปเถอะ เขาจะแสร้งทำทีเป็นว่าไม่รู้ตัวก็แล้วกัน
หลินเซวียนหัวเราะร่าอยู่ในใจ
ดาบพิษเดินเข้าไปในพื้นที่ตลาดผ่านร้านแผงลอยมากมาย นักสู้มากหน้าหลายตาพากันเอาวัตถุดิบหลากชนิดมาวางขายกันในที่แห่งนี้
ประตูแสงที่นำไปสู่แดนลับรอบเมืองหลวงนั้นเหนือกว่าเมืองอื่นๆในทุ่งราบมหาสวรรค์อย่างเทียบกันไม่ติด
นักสู้ที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่จึงมีมากที่สุดในทุกเมือง ดังนั้นพวกเขาจึงได้ไอเทมหลากหลายชนิดมาจากแดนลับในทุกวัน
ดาบพิษเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็สังเกตเห็นไอเทมหลากชนิดที่ส่องแสงสีแดงแต่ราคาของพวกมันทุกชิ้นนั้นล้วนสูงยิ่ง
พวกมันแทบทุกชิ้นล้วนมีราคาเกือบสิบล้านแก่นแท้ทั้งนั้น
ราคานี้ค่อนข้างรังแกผู้ซื้อที่ไม่รู้ราคาตลาดอยู่ไม่น้อย
การตั้งราคาเช่นนี้แม้จะไม่อาจกล่าวได้ว่าปกติแต่นั่นก็เพราะความต้องการของพวกมันค่อนข้างสูงเกินไป
ดาบพิษเดินรอบตลาดคราหนึ่งและทุกครั้งที่เขาเห็นอะไรน่าสนใจเขาก็จะใช้สกิลตรวจสอบขั้นสูงในการตรวจสอบพวกมัน
อย่างไรก็ตามเขากลับไม่อาจหาไอเทมที่มีค่าจริงๆได้เลย
หากแต่ในตอนที่เขากำลังจะออกจากตลาดเขากลับพบกับบางสิ่งที่ทำให้เขาต้องประหลาดใจโดยไม่คาดคิด
มันคือหัวใจแห้งเหี่ยวดวงนึง!
คำอธิบายอย่างคร่าวๆของมันก็คือ : หัวใจของมังกรเขาดำราชันย์แดนลับขอบเขตที่7ซึ่งเน่าเปื่อยเล็กน้อย
ราคาของมันค่อนข้างสูงมาก สูงถึงห้าล้านแก่นแท้เลยทีเดียว
“อะไรรึเจ้าหนุ่ม...สนใจสิ่งนี้รึไง?” เจ้าของแผงลอยเป็นชายชราอายุราวๆ50ปี
เขาสังเกตเห็นสายตาของดาบพิษจึงยิ้มออกมา