Chapter 1497 เหออู๋ตี้ที่ยากลำบาก
ในอดีต จุนซ่างเซียวพอจะคาดเดาได้ว่า ส่วนคัมภีร์นั้นมาจากสถานที่แตกต่างกัน ส่วนที่สองมาจากหัวเหม่ยกุ้ย ส่วนที่สามมาจากยักษ์ดำและยักษ์ขาว.
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่หนึ่งล่ะเป็นใคร?
ใครคือคนโชคร้ายคนนั้น?
วันนี้เหออู๋ตี้เอ่ยเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต เรื่องราวความสงสัยก็กระจ่างแจ้ง แท้จริงแล้วเขาคือเจ้าคนโชคร้ายคนที่หนึ่งนั่นเอง!
“ชะตา!”
ระบบเอ่ย “นี่มันคือโชคชะตาชัด ๆ!”
“เพ่ย!”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “อีกฝ่ายถึงกับถูกทำลายพลังบ่มเพาะไปทั้งหมด ต้นเหตุมาจากเจ้าไม่ใช่รึ?!”
“คนที่เก็บเกี่ยวก็คือโฮสน์ต่างหาก!”ระบบเอ่ย.
“ข้าไม่รู้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้สักหน่อย!”
ในเวลานี้จุนซ่างเซียวก็ไม่สามารถบอกปัดได้ชัดเจนนักว่าต้นเหตุมาจากเขา ต้องไม่ลืมว่าเขาซื้อมันจากร้านค้าซึ่งระบบไปขโมยมันมาอีกครา หากเขารู้ แน่นอน......เขาก็ซื้อเหมือนเดิม.
“หลังจากนั้นข้าก็เข้าใจ.”
เหออู๋ตี้เอ่ย “ส่วนคัมภีร์ที่หายไปครานั้น ที่จริงมันเป็นโชควาสนา เพราะหากไม่มีมัน ข้าก็ไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมนิกายที่ปราชญ์จ้าวเจ็ดลึกล้ำสร้าง และสามารถไล่ตามความลึกล้ำของวิถียุทธ์ได้สูงขึ้นกว่าเดิม.”
กล่าวตามจริง เขาที่หล่นลงมายังพิภพระดับต่ำ พลังบ่มเพาะหายไป หากเป็นคนอื่นคงทนไม่ได้แน่ การต้องกลับไปเริ่มฝึกใหม่ช่างเป็นอะไรที่เจ็บปวดรวดร้าว ทว่าตั้งแต่เข้าร่วมนิกายนิรันดร ความเข้าใจในวิถียุทธ์ของเขาก็ลึกล้ำยิ่งขึ้นกว่าเดิมมาก.
นี่คือโอกาส.
ทุกอย่างคือวาสนา.
แม้แต่เหออู๋ตี้ครุ่นคิดไปเอง ตัวเขาที่ได้รับส่วนคัมภีร์จนต้องหล่นไปยังทวีปชิงหยุน อาวุโสปราชญ์จ้าวเจ็ดได้เป็นคนเตรียมการเอาไว้แล้วหรือไม่?
บางทีหากคนได้ยินเรื่องนี้ คงคิดว่าสมองของเขามีปัญหาแน่.
ในความเป็นจริงต่อหน้าคนที่เทิดทูนยกย่อง คนทั่วไปย่อมให้ค่าสูง ให้สมกับเป็นคนที่เคารพ โดยเฉพาะเหออู๋ตี้ที่เห็นปราชญ์จ้าวเจ็ดเป็นดั่งมหาเทพในใจ แม้แต่เชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นเทพเจ้า!
เทพพระเจ้า.
ผู้มีพลังอำนาจสูงส่ง!
หนำซ้ำ ส่วนคัมภีร์ที่หายไปอย่างน่าประหลาดใจ บังคับให้เขาต้องหนีมายังดินแดนเบื้องล่าง ท้ายที่สุดก็เข้าร่วมนิกายนิรันดรพบกับฉบับคัดลอกรวมชุดสมบูรณ์ จะไม่ให้เขาคิดเช่นนั้นได้อย่างไร!
“ก่อนหน้านี้เจ้ามีพลังระดับใด?”จุนซ่างเซียวเอ่ยถาม.
“เอิ่ม....”
เหออู๋ตี้ครุ่นคิดเล็กน้อย เอ่ยออกมาว่า“ค้นหาความจริง.”
ก่อนหน้านี้เขาปิดบังไว้ ทว่าในเมื่อได้เอ่ยออกมาแล้ว ก็ไม่รู้ว่าต้องเก็บความลับเอาไว้อีกทำไม.
“ไม่แปลกใจเลย.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าเข้าใจทักษะยุทธ์ได้ลึกล้ำ.”
นิกายนิรันดร คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือกู่เจ้าซี แปดแกนหมุน ทว่าก็ยังห่างไกลจากระดับค้นหาความจริง.
“เฮ้อ.”
เหออู๋ตี้ที่ถอนหายใจ“แม้นว่าความเข้าใจวิถียุทธ์ของข้าจะสูง ทว่าการจะยกระดับนั้นก็ต้องระมัดระวังให้ดี.”
ความหมายของเขานั้นชัดเจน ต้องการบอกจุนซ่างเซียว ข้าที่ถูกบังคับให้ลงไปยังพิภพเบื้องล่าง ศัตรูของเขานั้นไม่ใช่อะไรที่นิกายจะช่วยเหลือได้.
เหออู๋ตี้เป็นคนถ่อมตัวเป็นอย่างมาก.
ความระมัดระวังของเหออู๋ตี้นั้นไม่ธรรมดา.
กล่าวได้ว่าในโลกใบนี้มีคนที่แข็งแกร่งมากมาย จะเป็นการดีที่สุด หากใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ควบคุมจิตใจ ใช้ชีวิตอย่าประมาท แตกต่างกับราชันย์รัตติกาลลิบลับ.
เหออู๋ตี้ที่ไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นคนจากพิภพระดับสูง ไม่ใส่ใจว่าเขาจะเคยเป็นยอดฝีมือมาก่อน เขาใช้ชีวิตอย่างสมถะ ซ่อนตัวตน มีความอดทนเป็นอย่างมาก.
เขาและเย่ซิงเฉินกลายเป็นขั้วที่แตกต่าง หนึ่งคนยึดมั่นถือมั่น ส่วนอีกคนปล่อยวางจนสิ้น.
“ดังนั้น.”
จุนซ่างเซียวที่ตบไปยังบ่าของเขา เอ่ยออกไปว่า“จากนี้โปรดชี้แนะอาหนิว เพื่อให้เขายกระดับความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็วด้วย.”
“หะ?”
เหออู๋ตี้ถึงกับหวาดผวา.
“แน่นอน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ยเสริม “หากเจ้ามีเวลา โปรดไปยังหอชี้แนะ ช่วยเหลือเหล่าเกอในการชี้แนะวิถียุทธ์ให้กับคนในนิกายจะเป็นเรื่องที่ดีมาก.”
ถึงพลังบ่มเพาะเจ้าจะหายไป แต่ก็มีความเข้าใจวิถียุทธ์ที่ลึกล้ำ.
ครั้งหนึ่งเจ้ามีระดับค้นหาความจริง ความรู้เรื่องวิถียุทธ์ย่อมไม่ธรรมดา จะเป็นประโยชน์มาก หากช่วยเหลือพรรคพวกเดียวกันยกระดับ.
“เจ้านิกาย ข้า....”
“ตกลงตามนี้.”
หลังจากเหออู๋ตี้เผยความลับของตัวเองออกมา ก็ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ชี้แนะเย่ซิงเฉินและคนอื่น ๆ ในนิกายทันที นี่คือหน้าที่ของศิษย์ปิดประตูตั้งแต่เมื่อไหร่กัน.
“งานเข้าซะแล้ว!”
......
“คะแนนสนับสนุน คะแนนสนับสนุน!”
ภายในห้องหนังสือ จุนซ่างเซียวที่นวดกระหมับไปมา.
มีทรัพยากรฝึกฝนจำนวนมากที่มอบให้เย่ซิงเฉิน และคนมีประสบการณ์เช่นเหออู๋ตี้ชี้แนะ นี่เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด หากได้พลังโกงมาอีก ทุกอย่างก็จะสมบูรณ์.
อย่างไรก็ตาม.
คะแนนสนับสนุนมีไม่พอเลยจริง ๆ.
จุนซ่างเซียวไม่เชื่อว่าจำนวนรีเฟรชฟรีนั้นจะทำให้ได้สินค้าที่ต้องการ นอกจากนี้ถึงจะรีเฟรชได้ แต่แต้มแค่ 200,000 ยังไงก็ไม่พอซื้อ.
“ทำภารกิจ.”
“ให้ศิษย์ทำภารกิจ!”
การทำภารกิจนิกาย นี่เป็นช่องทางให้จุนซ่างเซียวได้แต้มอย่างมั่นคง.
“อ่าใช่แล้ว.”
“ภารกิจมหากาพย์!”
“หลังจากคำนวณรางวัลแล้ว ขอให้ได้แต้มมาก ๆ และได้รางวัลอย่างเช่น สูตรเม็ดยาที่ใช้ยกระดับไปถึงเขตแดนค้นหาความจริง.”
“พูดอะไรหน่อย!”
“สำเร็จอย่างไม่มีปัญหา ขอให้โฮสน์ได้ดั่งใจหวัง!”
ระบบที่เอ่ยปากออกมาในที่สุด ครุ่นคิดถึงอิทธิฤทธิ์ปากนมพิษให้ผลลัพธ์กลับกลายเป็นตรงข้ามตลอด ครั้งนี้เขาจึงเอ่ยเออออตามโฮสน์ไปเลย.
ก็มาสิ!
หักหน้าข้าเลย!
......
เหตุการณ์เหมืองแร่ศิลาเจิ้นขนาดใหญ่ที่ทุ่งหญ้าสีเขียว เวลานี้ค่อย ๆ กระจายไปทั่วพิภพเบื้องบน มีคนชิงตัดหน้าเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ช่วงชิงเหมืองแร่ไป กลายเป็นหัวข้อให้พูดคุยกันแทบจะทุกหนแห่ง.
แน่นอน.
ทุก ๆ คนต่างก็พูดคุยปรึกษากัน ว่าเหมืองแร่นั้นใครช่วงชิงไปกันแน่?
“จะเป็นใครไปได้ จะต้องเป็นจักรพรรดินิหลิงเหยาแน่นอน.”
“ข้าได้ยินมาว่า ยอดฝีมือนิกายระดับเจิ้นถึงกับไปปิดทางเข้าเขตแดนลับเพื่อบังคับเค้นคำตอบจากนางด้วย หากไม่เพราะว่าเจิ้นเหรินชิงเหว่ยปรากฏ บางทีคงต่อสู้กันไปแล้ว.”
“สตรีนางนี้เป็นคนของโถงพิภพคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยรึ? ถึงได้กล้าช่วงชิงเหมืองแร่จากยอดฝีมือนิกายระดับเต๋ามากมาย ช่างใจกล้ายิ่งนัก.”
จากคำพูดของทุกคนไม่ยากที่จะมองเห็น แผนการของจุนซ่างเซียวนั้นสำเร็จอยู่ไม่น้อย เหล่าชาวยุทธ์ที่รับรู้คิดว่าจักรพรรดินิหลิงเหยาเป็นคนช่วงชิงเหมืองแร่ขนาดใหญ่นั้นไป.
คำโกหกที่พูดกันบ่อย ๆ มักจะทำให้ผู้คนเชื่อในที่สุด.
ข่าวลือที่แพร่กระจายออกไป เริ่มจะกลายเป็นจริงทำให้คนมากมายเริ่มเชื่อมากขึ้นและก็มากขึ้น.
“จูซ่าง.”
ภายในตำหนักที่โอ่อ่า ชายชราหลังค่อมขมวดคิ้วไปมา “พิภพเบื้องบนกำลังพูดคุยเกี่ยวกับท่าน.”
จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ย “อย่าสนใจ ก็แค่ข่าวลือ.”
“โถงพิภพรู้แล้วว่าท่านเป็นศิษย์ของเจิ้นเหรินชิงเหว่ย พวกเขาต้องการให้ท่านเดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ให้เร็วที่สุด.”ชายชราหลังค่อมเอ่ย.
“......”
จักรพรรดินิหลิงเหยาที่รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก.
เป็นใครที่กล้าวางแผนใส่ร้ายนาง นอกจากนี้ยังสร้างเรื่องให้คนทั้งโลกสงสัยในตัวนาง แม้แต่ต้องการเผยเรื่องราวที่นางเป็นศิษย์ของเจิ้นเหรินชิงเหว่ยอย่างโจ่งแจ้งด้วย ต้องไม่ลืมว่าในอดีตนั้น อาจารย์และโถงพิภพคือศัตรูกัน แม้แต่เคยถูกตีตราเป็นกบฏด้วย.
“ความจริงก็คือความจริง ในเมื่อรู้แล้วก็ทำอะไรไม่ได้.”
จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ยสอบถามออกไป “เจ้าตรวจสอบเรื่องนี้ไปถึงใหนแล้ว?”
“เรียนจู่ซ่าง.”
ชายชราหลังค่อมเอ่ย “ในหลายเดือนมานี้ไม่มีคนจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือเลย ไม่มีใครเลยที่มายังทุ่งหญ้า.”
เกี่ยวกับคนที่ใส่ร้าย เป็นธรรมดาที่นางต้องสืบส่วน.
อย่างไรก็ตาม นางกลับไม่คิดว่าจะเป็นจุนซ่างเซียวเลยแม้แต่น้อย คงไม่คิดว่าจะมีคนใช้เรือรบตงกู่ด้วยความเร็วสุงสุดเดินทางมา ใช้ค่ายกลปิดแยกปกปิดตัวเอง ทำให้ไม่มีคนพบเห็นร่องรอยพวกเขา.
คิดไปก็ถูก.
จะมีคนรู้ได้อย่างไรว่าจะมีเหมืองแร่ปรากฏ ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่สามารถหาข้อสงสัยที่ต้องถูกนำมาคิดได้เลย.
จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ย “คนที่คิดแผนการนี้ คงไม่ใช่ธรรมดา มีเพียงวังจางเยว่เท่านั้น หรือว่าพวกมันรู้ว่าข้าสังหารสายลับของพวกเขาไปกัน?”
“เป็นไปได้!”
ชายหลังค่อมที่กล่าวสนับสนุน.