ตอนที่แล้วChapter 1495 เชื่อในเจ้านิกาย เชื่อในตัวเอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1497 เหออู๋ตี้ที่ยากลำบาก

Chapter 1496 เหออู๋ตี้ผู้ไม่ธรรมดา


นับตั้งแต่ได้รับข่าวนัดหมายเย่ซิงเฉินในอีกสิบปี ซึ่งเหลือเวลา 6-7 ปีเท่านั้น.

ไม่ว่าจะเป็นใครยากที่จะทำสำเร็จ ทำได้เพียงแค่ต้องใช้การโกงเท่านั้น.

“ที่จริง....”

ระบบเอ่ย “โฮสน์สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ สามารถจัดการแทนเขาได้.”

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา “ตั้งแต่พิภพเบื้องบน อาหนิวได้รับการบาดเจ็บทางจิตใจมา มีเพียงแค่ให้เขาทำลายจิตมารได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ข้าทำได้แค่ช่วยเขาให้อยู่ห่าง ๆ เท่านั้น.”

ไม่ใช่เรื่องตลก ไม่สามารถกล่าวล้อได้.

โกวเซิ่งไม่ใช่คนดีนัก ไม่ใช่สามีที่ดีอีกด้วย ทว่าในมุมมองของนิกาย เขาคือเจ้านิกายที่ดี ที่ใส่ใจและสนับสนุนศิษย์ได้เป็นอย่างดี.

“ดังนั้นโฮสน์จึงได้เตรียมมอบทรัพยากรใหญ่ช่วยศิษย์สินะ.”ระบบเอ่ย.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “หากเขาสามารถทำลายมารในจิตใจเขาได้ จ่ายเท่าไหร่ก็คุ้ม.”

กล่าวตามจริง ทรัพยากรฝึกยุทธ์ของนิกายนิรันดรจะทำการแบ่งเท่า ๆ กัน ถึงแม้นว่าศิษย์หลักจะได้ค่อนข้างมาก ทว่ายังคงคำนวณความสมดุลการพัฒนาของทุกคนไปด้วย.

เพื่อที่จะให้เย่ซิงเฉินตัดผ่านได้อย่างรวดเร็ว หากไม่มีพลังโกง ก็ต้องมอบทรัพยากรจำนวนมากให้กับอีกฝ่ายแทน.

เรื่องเช่นนี้แทบจะเป็นเรื่องปรกติของนิกายต่าง ๆ การลงทุนกับเหล่าพรสวรรค์เพื่อที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับคนรุ่นต่อไปของนิกาย.

ด้วยพรสวรรค์ของเย่ซิงเฉิน ก็ควรค่าที่จะบ่มเพาะลงทุนไปเช่นกัน.

ทว่าปัญหาก็คือ ลู่เชียนเชียน หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อ ซูเซียวโม่และศิษย์หลักอีกหลายคนก็เหมาะที่จะบ่มเพาะอย่างดีด้วยเช่นกัน.

ดังนั้น ในเมื่อต้องการจะพัฒนานิกายไปด้านหน้า เขาคงต้องบ่มเพาะศิษย์หลักกันทุกคน ไม่สามารถปฏิบัติอย่างดีกับคน ๆ เดียวได้ เพราะว่าพรสวรรค์ของแต่ละคนก็มีมากมายหลากหลายต่างกัน.

กล่าวได้ว่าเขาไม่ควรที่จะไปตั้งความหวังเอาไว้แค่คนเพียงคนเดียวได้.

ซึ่งต่างจากนิกายอื่น ๆ หากพบกับศิษย์ที่มากพรสวรรค์ ทรัพยากรแทบทั้งหมดจะถูกมอบให้กับศิษย์คนดังกล่าว เรียกได้ว่าเป็นการเดิมพันอนาคตของนิกายนั้นก็ได้เลย.

เช้าวันถัดมา.

จุนซ่างเซียวที่ส่งแหวนมิติออกไป “ด้านในมีสิบล้านศิลาเจิ้น เจ้านำไปบ่มเพาะก่อน หากไม่พอค่อยมาหาเปิ่นจั้วอีกครั้ง.”

เย่ซิงเฉินกลายเป็นงงงวยเล็กน้อย.

สิบล้านไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ สำหรับหลาย ๆ นิกาย ทว่าการมอบให้กับคน ๆ หนึ่ง นี่คือทรัพยากรมหาศาลแน่นอน.

“เจ้านิกาย....มันมากเกินไปไหม?”

แม้นว่าอาหนิวจะอหังการแต่ก็อ่อนโยนเช่นกัน เขาเข้าใจถึงการแข่งขันดี ทรัพยากรนั้นจะต้องแบ่งกันกับศิษย์คนอื่น ๆ อย่างเท่าเทียม ตอนนี้เจ้านิกายมอบให้เขาถึง 10 ล้านศิลาเจิ้น มันทำให้เขารู้สึกซับซ้อนขึ้นมาในทันที.

“ไม่เอา เปิ่นจั้วก็จะเก็บ.”

“ฟิ้ว!”

เย่ซิงเฉินที่เร่งรีบเก็บแหวนมิติไปในทันที.

ถึงเมื่อครู่จะกล่าวปฏิเสธเล็กน้อย แต่ในใจกับรู้สึกสุดยอด ต้องไม่ลืมว่าทรัพยากรมากมายเพียงนี้ จะต้องทำให้เขายกระดับได้อีกหลายระดับแน่.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ตั้งใจ นับจากนี้ไม่ต้องทำภารกิจนิกาย คิดถึงเพียงการบ่มเพาะก็พอ.”

“รับทราบ!”

เย่ซิงเฉินที่ก้าวออกจากห้องโถง มุ่งสู่เขตแดนลับกาลอากาศทันที.

6-7ปีจะบอกว่านานก็นาน จะบอกว่าสั้นก็สั้น เขาจะต้องตั้งใจ ยกระดับตัวเองให้เร็วที่สุด ไม่ทำให้เจ้านิกายผิดหวัง ไม่ทำให้ทุกคนนิกายเสียหน้า.

แน่นอน.

การบ่มเพาะไม่ใช่แค่การดูดซับพลังฟ้าดินอย่างเดียว จะต้องมีการต่อสู้จริงเพื่อยกระดับด้วย โดยจะมีหลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและอีกหลายคนที่มาเป็นคู่มือให้กับอาหนิวเพื่อช่วยเขายกระดับ.

กล่าวได้ว่าการประลองการต่อสู้จริง จะส่งผลทำให้พลังบ่มเพาะพัฒนาเร็วขึ้นอีกขั้น.

กล่าวถึงความแข็งแกร่งโดยรวมเย่ซิงเฉินแม้นว่าจะเหนือกว่าศิษย์หลักคนอื่น ๆ ทว่าก็ไม่ได้มากมายนัก ดังนั้นการต่อสู้จึงเป็นประโยชน์กับเขาเป็นอย่างมาก.

“ตูมมมม!”

“ตูมมมม!”

ลานยุทธ์ที่ถูกเสริมพลังด้วยค่ายกล ฝ่ามือข้ามสวรรค์ที่ส่องสว่างปะทะกันส่องประกายแสงหลากสีวับวาวสาดส่องไปทั่วพื้นที่รอบ ๆ.

“กึก ครืนนนนนนนนน!”

ในเวลานั้น เย่ซิงเฉินถูกกระแทกจนต้องถอยล่นไปหลายสิบก้าว พร้อมกับก้มหน้าลงหายใจหอบ ๆ.

“ศิษย์พี่.”

เหออู๋ตี้ยกมือประสานไปด้านหน้า.“เจ้าปล่อยให้ข้าชนะแล้ว.”

“......”

เย่ซิงเฉินที่ปาดเหงื่อ กล่าวในใจ”เจ้านี่แข็งแกร่งจริง ๆ.

เขาที่ประลองกับหลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและอีกหลาคน พลังของเขาเหนือกว่าเล็กน้อย ทว่าเขากับพ่ายแพ้ให้กับเหออู๋ตี้คนเดียว แม้แต่ไม่เข้าใจอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก.

ไม่ใช่แค่เย่ซิงเฉินที่คิด.

จุนซ่างเซียวเองก็รับรู้.

ศิษย์ปิดประตูของเขานั้นใช้ชีวิตแบบถ่อมตนในในนิกาย ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่เป็นที่สนใจ แต่กับเปี่ยมล้นด้วยพรสวรรค์ที่น่าเกรงขามทุกครั้งที่ออกไปสู้.

“ศิษย์พี่.”

เหออู๋ตี้เอ่ย “ฝ่ามือของท่าน กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่แม้นว่าจะไม่เลว ทว่าเห็นชัดเจนว่ามันไม่ค่อยได้ผลดีนัก หากเปลี่ยนปัญหาตรงนี้ จะยกระดับขึ้นไปได้อีกขั้น.”

“ฮึ.”

เย่ซิงเฉินแค่นเสียงเย็นชา.

คาดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้เขาจะต้องให้ศิษย์ปิดประตูมาชี้แนะเขาแล้วรึ?

“เป็นแบบนี้นะเอง.”

ในห้องบ่มเพาะ เขาที่ได้รับคำอธิบายเกี่ยวกับฝ่ามือข้ามสวรรค์ เย่ซิงเฉินที่เข้าใจได้ทันทีก่อนเดินออกมา แววตาที่กลายเป็นประกาย.

“ชี้แนะเล็กน้อยก็เข้าใจแล้ว พรสวรรค์ศิษย์พี่เย่ไม่เลวเลย.”เหออู๋ตี้ที่ก้าวออกมา พร้อมกับครุ่นคิดในใจ.

เดิมที เขาต้องการใช้ชีวิตแบบจืดจางในนิกาย ทว่าเห็นเย่ซิงเฉินตั้งใจฝึกฝนอย่างหนัก ทำให้คิดอยากช่วยอีกฝ่ายให้เข้าใจวิถียุทธ์มากขึ้น.

“อู๋ตี้.”

ขณะก้าวออกมาจากห้องบ่มเพาะ จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่หน้าห้องโถงโบกมือเรียก กล่าวด้วยรอยยิ้ม.“เจ้าเข้ามา.”

“......”

เหออู๋ตี้ที่รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาทันที.

เป็นความจริง.

เมื่อเข้ามาในห้องโถง จุนซ่างเซียวที่ให้เขานั่ง จากนั้นก็เอ่ยออกมาว่า“เจ้าไม่ธรรมดาเลย.”

เมื่อเห็นเหออู๋ตี้ชี้แนะทักษะยุทธ์กับเย่ซิงเฉิน โกวเซิ่งนั้นเข้าใจแจ่มแจ้ง แม้แต่ประหลาดใจที่อีกฝ่ายเข้าใจวิชาฝ่ามือข้ามสวรรค์ได้เป็นอย่างมาก บางทีคงไม่ด้อยไปกว่ากู่เจ้าซีเลย.

ก่อนหน้านี้เขาที่พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเหออู๋ตี้ ทว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรสำคัญที่จะเรียกอีกฝ่ายมา ตอนนี้ได้เวลาเหมาะจึงเรียกเขาเข้ามาพูดคุย.

“เจ้านิกาย ข้า....”

“ทุกคนย่อมมีความลับเป็นของตน ไม่จำเป็นต้องบอกเปิ่นจั้วก็ได้หากไม่ต้องการ.”

“......”

เหออู๋ตี้ที่กลายเป็นเงียบ.

จุนซ่างเซียวที่ก้าวเดินไปตบบ่าอีกฝ่าย เอ่ยออกมาว่า“ที่จริงตั้งแต่พบเจ้าครั้งแรก เปิ่นจั้วก็รู้แล้วเจ้าไม่ธรรมดา ดังนั้นจึงต้องการรับเจ้าเป็นศิษย์ปิดประตู.”

“......”

กล่าวถึงศิษย์ปิดประตูเหออู๋ตี้อยากร้องออกมาจริง ๆ เพราะเวลานั้นเขาไม่รู้จริง ๆ อะไรคือศิษย์ปิดประตู.

“หากคาดเดาไม่ผิดเปิ่นจั้วพอจะคาดเดาได้.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าควรจะมาจากพิภพเบื้องบนเหมือนกับยักษ์ดำและยักษ์ขาวอย่างงั้นรึ?”

ในพิภพเบื้องล่าง เขาที่คาดการไว้แล้วด้วยการใช้แว่นกันแดดดูข้อมูลพบอีกฝ่ายมีรากวิญญาณเหนือเทวะ ตอนนี้มาถึงพิภพเบื้องบน ความแข็งแกร่งอีกฝ่ายที่ดูเหมือนยกระดับขึ้นอย่างผิดหูผิดตา.

“ไม่ผิด.”

เหออู๋ตี้ไม่ได้ปฏิเสธ.

“ทำไม ไปปรากฏที่พิภพเบื้องล่างล่ะ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“เพราะว่า....”เหออู๋ตี้ครุ่นคิดเล็กน้อย กล่าวออกมา“ส่วนคัมภีร์แสงเจ็ดสีทำลายล้าง.”

“โอ้ว”

จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

เหออู๋ตี้ที่ได้รับส่วนคัมภีร์มา จากนั้นก็ถูกยอดฝีมือมากมายไล่ล่า ต้องหนีลงไปยังพิภพเบื้องล่าง ทำให้ระดับพลังทั้งหมดถูกลบจนต้องไปเริ่มใหม่.

อย่างไรก็ตาม มันก็ทำให้เขาหนีพ้นไม่มีใครรับรู้ว่าเขาหนีไปใหน.

“คัมภีร์ส่วนใหน?”

“หนึ่ง.”

“.....”

แม้นว่าใบหน้าของจุนซ่างเซียวจะยังคงสงบ ทว่าภายในใจแทบทรุด.

เขาที่สงสัยมาตลอด!

ท้ายที่สุดก็รับรู้ได้สักที!

ส่วนคัมภีร์แสงเจ็ดสีทำลายล้างส่วนที่หนึ่งที่ซื้อจากระบบ ไปขโมยมาจากผู้โชคร้ายคนใหนกันแน่!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด