Chapter 1494 ไม่ใช่ข่าวดี.
บนทุ่งหญ้าสีเขียว.
เหล่ายอดฝีมือของนิกายระดับเต๋าได้จากไปแล้ว ผู้ชมมาดูความสนุกก็ไปแล้วเช่นกัน บรรยากาศอึมครึมได้สลายหายไปเรียบร้อยแล้ว.
สาเหตุที่ทุกอย่างถูกสลายไปนั้นเพราะการปรากฏตัวของสตรีผู้งดงามผมขาว.
เจิ้นเหรินชิงเหว่ย.
ยากที่จะจินตนาการ สตรีนางนี้ในอดีตเหมือนกับนางมารที่พร้อมที่จะกวาดล้างตระกูลคนที่หาเรื่อง แม้แต่ถูกตีตราเป็นกบฏ.
เดี๋ยวนะ?
จากข้อมูลไม่ได้เอ่ยว่านางผมขาว? ทำไมนางกลายเป็นสตรีที่งดงามผมขาวกัน?
สมาชิกของหอฝนพรำที่ส่งข้อมูลไปตอนแรกไม่สามารถยืนยันได้ชั่วครู เพราะก่อนหน้าได้ข้อมูลว่านางมีผมสีดำนั่นเอง.
“ขอบคุณอาจารย์.”
จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเคารพเป็นอย่างมาก.
หากเจิ้นเหรินชิงเหว่ยไม่ปรากฏ เกรงว่าสุดท้ายแล้วนางคงต้องควักเนื้อจ่ายศิลาเจิ้นจำนวนมากเพื่อให้คนเหล่านี้จากไปเป็นแน่.
ซึ่งเป็นไปตามที่จุนซ่างเซียวคาดการณ์ไว้ อย่างน้อยที่สุดนางจะต้องเสียทรัพย์.
แผนการดังกล่าวนั้น คงไม่สามารถที่จะทำให้นางถูกสังหารได้ แต่สุดท้ายแล้วนางกับปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน.
เจิ้นเหรินชิงเหว่ยที่ร่อนลงที่ทางเข้าเหมือง ส่งจิตสัมผัสออกไปรอบ ๆ เอ่ยสอบถาม ”เจ้าไม่ได้ขุดศิลาเจิ้นไปอย่างงั้นรึ?
จากหลักฐานที่มี.
แม้แต่อาจารย์ของนางยังสงสัยเลย.
จักรพรรดินิหลิงเหยาที่กล่าวตอบตามจริง “ไม่.”
“แต่ก็นับว่าแปลก.”
นางที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย “เหมืองแร่ขนาดใหญ่ที่กำเนิดออกมาทำไมถึงได้ว่างเปล่า?”
“จะต้องมีคนขุดมันไปตั้งนานแล้ว ก่อนที่จะวางแผนจงใจใส่ร้ายศิษย์.”จักรพรรดินิหลิงเหยากล่าวคาดเดา.
หากครุ่นคิดให้ดี จะมีเหมืองแร่มาปรากฏขึ้นที่ทุ่งหญ้าได้อย่างไร? ต้องไม่ลืมว่าสถานที่แห่งนี้เป็นเพียงแค่ทุ่งหญ้าที่มีพลังเบาบาง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดเหมืองแร่ได้.
“มีบางคนขุดเหมืองศิลาเจิ้นไป ก่อนที่จะนำเหมืองแร่มาไว้ที่นี่รึ?”เจิ้นเหรินชิงเหว่ยเอ่ย.
“คงคิดได้เท่านั้น”
จักรพรรดินิหลิงเหยาไม่สามารถที่จะสรุปได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องไม่ลืมว่าใครมันจะว่างปานนั้น และกระทำเรื่องน่าเบื่อเช่นนี้? กระทำเรื่องราวที่น่ารังเกียจถึงเพียงนี้ได้?
หากแต่ จุนซ่างเซียวก็คือคนแสนว่างน่าเบื่อและน่ารังเกียจผู้นั้นนั่นเอง.
“คงจะตัดเรื่องที่เจ้าเข้าร่วมกับโถงพิภพออกไปไม่ได้ เพราะว่ามีคนมากมายที่รังเกียจองค์กรนี้มาก.”เจิ้นเหรินชิงเหว่ยเอ่ย “การใส่ร้ายนี้คงไม่ได้เล็งมาที่เจ้าตรง ๆ แต่คงเป็นโถงพิภพนั่นล่ะ.”
“......”
จักรพรรดินิหลิงเหยาพูดไม่ออก.
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร.”
เจิ้นเหรินชิงเหว่ยเอ่ย “นี่คือเส้นทางที่เจ้าเลือก อาจารย์จะไม่บังคับให้เจ้าทิ้งมันไป หวังว่าเจ้าจะระมัดระวังมากกว่านี้.”
“ค่ะ.”
จักรพรรดินิหลิงเหยาที่รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก เห็นชัดเจนว่าอาจารย์ของนางดีกับนางมาก.
เจิ้นเหรินชิงเหว่ยเอ่ย “ได้ยินว่าเจ้าไปยังถ้าสวรรค์จื่อเต๋าอย่างงั้นรึ?”
“ไม่ผิด.”
“ได้พบตาแก่ตงกู่ใหม?”
“พบ.”
“ได้ยินว่าตาแก่นั่นรับศิษย์ชื่ออะไรนะ จนซ่างเจียวสินะ?”
“จุนซ่างเซียว.”
“เขาคือคนที่นำเทือกเขาและนิกายตัวเองขึ้นมาจากพิภพเบื้องล่างใช่ไหม? เจ้าจนซ่างเจียว นี่ใช้ได้เหมือนกัน.”
“......”
จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ยแก้ให้ถูก “อาจารย์ เขาชื่อจุนซ่างเซียว.”
“เหมือนกันนั่นล่ะ.”เจิ้นเหรินชิงเหว่ย.
ไม่ใกล้เคียงกันสักนิด.
จักรพรรดินิหลิงเหยาเข้าใจนิสัยของอาจารย์ตัวเอง ที่มักเรียกชื่อคนอื่นผิด “ศิษย์ได้ยินมาว่า เจิ้นเหรินตงกู่และเจิ้นเหรินกู่หงนั้น มีสัญญาสิบปี ต่างคนต่างส่งศิษย์ออกไปต่อสู้เพื่อชิงชัย.”
“โอ้ว?”
เจิ้นเหรินชิงเหว่ยที่เผยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อยออกมา.
“เจ้าเฒ่าทั้งสองต่างก็ประลองกันมานานแล้ว ตอนนี้เปลี่ยนวิธีแล้วรึ? ไม่เลว ข้าคงต้องไปทักทาย ขอเข้าร่วมด้วยแล้ว.”
จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ย “อาจารย์ ศิษย์ใกล้จะตัดผ่านไปยังระดับค้นหาความจริงแล้ว ไม่มีเวลาไปสู้กับพวกเขาหรอก.”
ยังกล่าวไม่จบด้วยซ้ำ เจิ้นเหรินชิงเหว่ยก็หายไปแล้ว.
“......”
จักรพรรดินิหลิงเหยาลอบคิดในใจ“ไม่ใช่ว่าไปหาเจิ้นเหรินตงกู่แล้วหรอกรึ?”
อาจารย์ของนางที่เป็นคนหัวรั้น นางรู้ดี.
ดูเหมือนว่าการประลองครั้งนี้อาจารย์นางจะสนใจมาก คงไม่พ้นให้นางเข้าร่วมด้วยแหงแซะ.
“เฮ้อ.”
จักรพรรดินิหลิงเหยาถอนหายใจ ตรวจสอบเหมืองที่ว่างเปล่า เอ่ยเสียงเบา “ใครที่วางแผนใส่ร้ายข้ากัน?”
......
ถ้ำสวรรค์จื่อเต๋า.
“ตูมมมมมม!”
เสียงระเบิดดังกึกก้อง ทำให้กระดานหมากของพวกเขาพังลงทันที.
เจิ้นเหรินตงกู่และเจิ้นเหรินฉีเยว่ที่กำลังเล่นหมากกันอยู่ เจิ้นเหรินฉีเยว่ที่เผยท่าทางโกรธเกรี้ยว จ้องมองขึ้นไปพบเจิ้นเหรินชิงเหว่ย!
“นังเฒ่า ข้าจะชนะอยู่แล้ว เจ้า....เจ้า....”
เจิ้นเหรินตงกู่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา.
“เรียกใครว่า นังเฒ่ากัน?”
เจิ้นเหรินชิงเหยว่ที่ขมวดคิ้วแน่น พร้อมกับรวมพลังที่ฝ่ามือ พร้อมกับโจมตีซัดออกไปทันที.
“......”
ก่อนนี้เจิ้นเหรินตงกู่ที่นิ่งอยู่ เวลานี้กลายเป็นโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที.
ในบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ เขารู้จักสตรีนางนี้ดี อารมณ์แปรปรวน สามารถบ้าคลั่งได้ตลอดเวลา.
“ชิ.”
เจิ้นเหรินตงกู่ที่โบกมือปัดฝ่ามือออกไป เอ่ยออกมาว่า“มีเรื่องอะไร ถึงมายังที่พักของข้า?”
“ได้ยินมาว่า เจ้าและกู่หงนัดหมายสิบปี ตัดสินใจที่จะส่งศิษย์ออกไปประลองกันอย่างงั้นรึ?”
“ไม่ผิด.”
“นับข้าด้วย.”
เจิ้นเหรินตงกู่ถึงกับตะลึงงัน.
เจิ้นเหรินชิงเหว่ยเอ่ย “เมื่อถึงเวลาข้าจะนำศิษย์ของข้าไปประลองกับศิษย์เจ้าด้วย.”
“......”
เจิ้นเหรินตงกู่มุมปากกระตุก เอ่ยออกมาว่า“ศิษย์ของเจ้าคือจักรพรรดินิหลิงเหยา ตอนนี้อยู่ในระดับเก้าแกนหมุน ไม่คิดว่าจะข่มเหงกันไปหน่อยรึ?”
“กลัวแพ้รึ?”เจิ้นเหรินชิงเหว่ยเอ่ย.
เย้ดเข้!
สตรีนางนี้โอหังไปแล้ว!
เจิ้นเหรินตงกู่ไม่สามารถสะกดความโกรธเอาไว้ได้ เอ่ยออกมาว่า“ดี สัญญาสิบปีเจ้านำศิษย์ของเจ้ามาประลองได้เลย!”
“......”
เจิ้นเหรินฉีเยว่ที่พูดไม่ออกเหมือนกัน เอ่ยในใจ“แค่คำว่ากลัวแพ้ ก็อารมณ์ขึ้นแล้ว ยอดฝีมือค้นหาความจริงขั้นปลายปั่นหัวง่ายขนาดนี้เลยรึ?”
“ตัดสินใจตามนั้น”
เจิ้นเหรินชิงเหว่ยเอ่ย “ข้าจะไปหาตาเฒ่ากู่หง.”
“ฟิ้ว!”
จากนั้น นางก็หายไปในทันที.
เจิ้นเหรินฉีเยว่ที่ส่ายหน้าไปมา “หลายปีไม่เห็น จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวออกมา.”
“ตาแก่กู่หงที่ไม่ค่อยยอมคน เกรงว่าครั้งนี้ ทั้งสองคนคงจะปะทะกันแน่ ๆ.”เจิ้นเหรินตงกู่เอ่ย.
“เป็นห่วงศิษย์ของเจ้าก่อนดีกว่า.”
เจิ้นเหรินฉีเยว่เอ่ย “เขาต้องมีคู่ต่อสู้เก้าแกนนะ.”
“......”
เจิ้นเหรินตงกู่แทบทรุด “ลืมเลยว่าทั้งสองต่างกันมากมาย!”
แม้นว่าจุนซ่างเซียวจะเพิ่งตัดผ่านไปยังหกแกน สร้างความตื่นตะลึงให้กับเขาเป็นอย่างมาก ทว่าก็ยังด้อยกว่าจักรพรรดินิหลิงเหยามาก หนำซ้ำพรสวรรค์อีกฝ่ายก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันนัก กว่าจะถึงสัญญาสิบปี เกรงว่านางคงก้าวไปถึงเขตแดนค้นหาความจริงด้วยซ้ำ!
“เจ้าไม่ควรรับปาก.”
“แล้วเจ้าจะให้นังแก่นั่นข่มเหงรึไง หากข้าปฏิเสธ บางทีคงได้ต่อสู้กับนางก่อนแน่.”
“ก็ใช่.”
“ไม่ได้การ.”
เจิ้นเหรินตงกู่เอ่ย “ข้าจะต้องรีบไปยังนิกายนิรันดร บอกข่าวร้ายกับศิษย์ของข้า เขาจะได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อนหน้า.”
“หากสู้ไม่ได้ก็ยอมแพ้ เจ้าไม่ควรบังคับ.”เจิ้นเหรินฉีเยว่หมดคำจะพูดเหมือนกัน.
......
นิกายนิรันดร.
จุนซ่างเซียวที่กุมศีรษะแทบทรุด “อาจารย์ ท่านมาคราวหน้าอย่าทะลวงค่ายกลของข้าเข้ามาได้ไหม!”
“ศิษย์น้อย.”
เจิ้นเหรินตงกู่เอ่ยอย่างจริงจัง “อาจารย์มีข่าวไม่ค่อยดีจะแจ้ง.”
“ข่าวอะไรอย่างงั้นรึ?”
เห็นท่าทางจริงจังของอาจารย์ ทำให้จุนซ่างเซียวชะงัก กลายเป็นเคร่งขรึมขึ้นมา.
“สัญญาสิบปี เจ้ามีคู่ต่อสู้เพิ่มอีกคน.”
“ใครรึ?”
“จักรพรรดินิหลิงเหยา.”
“อะไรนะ?”
จุนซ่างเซียวที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
เจิ้นเหรินตงกู่ที่มาแจ้ง และกล่าวให้กำลังใจศิษย์ “คู่ต่อสู้แม้นว่าแข็งแกร่ง ทว่าอาจารย์เชื่อว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะนางได้!”
“......”
หลังจากที่จุนซ่างเซียวเงียบไปชั่วครู่ เอ่ยออกมาว่า“อาจารย์ ศิษย์จะไม่สู้กับสตรีคนนั้น.”
“จะไม่ลองหน่อยรึ?”
เจิ้นเหรินตงกู่ที่เผยท่าทางผิดหวังเล็กน้อย.
แม้นว่าเขาจะไม่ยินดีนักที่ศิษย์ของเขายอมแพ้จักรพรรดินิหลิงเหยา ทว่าสำหรับบุรุษถึงจะแพ้ก็ต้องสู่ก่อนไม่ใช่รึ?!
“ไม่.”
จุนซ่างเซียวเงยหน้าขึ้น ชี้ออกไปยังพื้นที่ไกลออกไป”เขาคือคู่ต่อสู้ของจักรพรรดินิหลิงเหยา.
เจิ้นเหรินตงกู่ที่จ้องมองออกไป พบกับชายหนุ่มที่เคร่งขรึม กำหมัดแน่น แววตาเป็นประกายเปี่ยมล้นด้วยจิตสังหาร “สิบปี ข้าจะสู้กับนางเอง!”