Chapter 1493 ความยากลำบากจากนิกายระดับเต๋า
เหล่ายอดฝีมือจากลุ่มใหญ่มากมายที่มารวมตัวกันหลายวันแล้ว รอคอยให้ปรากฏธรรมชาติหยุดลง เมื่อเหมืองแร่ปรากฏ หลังจากเข้าไปขุดก็พบกับความว่างเปล่า ใครเล่าจะทนได้.
มีร่องรอยขุด!
จะต้องมีใครมาชิงตัดหน้าพวกเขาอย่างแน่นอน.
เหล่ายอดฝีมือที่ใบหน้าบิดเบี้ยว เต็มไปด้วยความเจ็บปวด.
ดูจากโพรงขนาดใหญ่ด้านล่าง พวกเขาคาดการณ์ไว้ว่าจำนวนศิลาเจิ้นที่อีกฝ่ายได้ไปนั้นจะต้องมากมายมหาศาล.
“ใครกัน!”
บางคนที่ไม่สามารถสงบใจได้ แม้แต่ร้องตะโกน “มันเป็นใครกัน!”
เหมืองแร่เผยตัวเองออกมา เกิดปรากฏการณ์ที่ใหญ่มาก.
หลายกลุ่มอิทธิพลที่ผลาญเงินจำนวนมากเพื่อเร่งรีบเดินทางมา ท้ายที่สุดก็เข้ามาในเหมืองขนาดใหญ่ แต่กับไม่มีศิลาเจิ้นเลย ไม่ต้องบอกว่าทำร้ายจิตใจมากมายขนาดใหน.
หากไม่เพราะว่าจุนซ่างเซียวนำค่ายกลกับดักออกไปก่อนหน้านี้ ไม่เพียงไม่ได้ศิลาเจิ้น บางทีอาจจะสังเวยชีวิตไปด้วยก็ได้.
“ฝีมือใคร!”
ยอดฝีมือคนหนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“แน่นอนว่าจะต้องเป็นจักรพรรดินิหลิงเหยา!”
เหมืองแร่ที่เผยตัวเองที่ปากทางเข้าดินแดนนาง อีกฝ่ายย่อมมาถึงก่อนคนอื่น.
แน่นอนไม่ว่าใคร ก็ต้องคิดเช่นนั้น.
กล่าวได้ว่าแทบทุกคนแทบจะปักใจเชื่อว่าจักรพรรดินิหลิงเหยาได้ช่วงชิงศิลาเจิ้นไปก่อนแล้ว.
“ไม่แปลกใจเลยว่าเกิดปรากฏการณ์รุนแรงปานนั้น ไม่เห็นนางเลย แท้จริงก็ขุดศิลาเจิ้นไปหมดแล้ว เวลานี้คงลอบมองดู ตัวตลกเช่นพวกเราอยู่สินะ!”
หากเหมืองแร่ยังอยู่ที่เทือกเขาหยูติง เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ย่อมไม่อาจสงสัยจักรพรรดินิหลิงเหยา ทว่าที่นี่คือด้านหน้าทางเข้าถิ่นของนาง นางย่อมสามารถขุดศิลาเจิ้นไปก่อนพวกเขาได้อย่างง่ายดาย.
แม้แต่ สามารถนั่งดูการแสดงโง่ ๆ ของพวกเขาได้ด้วย!
“ไป!”
“ไปขอคำอธิบายจากนาง.
สมบัติฟ้าดินย่อมเหมาะสำหรับคนมีชะตาก็ไม่ผิด ทว่าเหมืองแร่ศิลาเจิ้นขนาดใหญ่ที่ถูกขุดไปแล้วถูกตัดหน้าไปอย่างไร้ยางอาย เหล่ากลุ่มอิทธิพลใหญ่ย่อมยากที่จะยอมรับ ดังนั้นจึงได้ต้องการให้จักรพรรดิหลิงเหยาชดใช้ค่าเดินทาง ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็ขาดทุนแหลกลาน.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ริ้วแสงที่พุ่งออกจากเหมืองแร่พร้อมกับมาปรากฏขึ้นที่ทางเข้าดินแดนเซียนหลิงเหยา.
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“พวกเขาขุดเหมืองเสร็จแล้วรึ?”
เหล่าผู้ชม กลายเป็นโง่งมขึ้นมาเล็กน้อย.
เหมืองศิลาเจิ้นเผยตัวเองออกมา เหล่ากลุ่มอิทธิพลใหญ่ต่างก็ต่อสู้เพื่อที่จะให้ได้รับสิทธิ์ คนที่ได้สิทธิ์เวลานี้กลับเข้าไปแป๊บเดียว แล้วออกมา นี่พวกเขาไม่ได้ขุดแร่ต่อแล้วรึ?
“เดี๋ยวนะ? เหมืองศิลาเจิ้นไปใหน?”
“มีคนขุดไปก่อนแล้วรึ?”
เหล่ายอดฝีมือที่ส่งจิตสัมผัสกวาดไปทั่วเหมือง ที่เวลานี้กลายเป็นว่างเปล่า พวกเขาที่เผยใบหน้างงงวยขึ้นมาในทันที.
เป็นไปได้ว่า.....
จักรพรรดินิหลิงเหยาขุดไปก่อนแล้ว!
ทำไมพวกเขาถึงคิดเช่นนั้น? เพราะว่าเหล่ายอดฝีมือได้ไปรวมตัวกันที่ทางเข้าดินแดนลับของอีกฝ่ายแล้ว.
“วูซซซซซ!”
ในเวลานั้น จักรพรรดินิหลิงเหยาที่ปรากฏตัวออกมาจากหลุมน้ำวนเอ่ยออกมาด้วยท่าทางไม่พอใจ “ทุกท่านไม่แย่งชิงเหมืองแร่กันแล้ว มีธุรกิจอะไรกับเปิ่นตี้?”
เหล่ายอดฝีมือที่กลายเป็นโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที.
พวกเขารู้สึกว่าสตรีนางนี้กำลังจงใจกล่าวหยันพวกเขาอยู่!
“ชิ.”
ยอดฝีมือคนหนึ่งที่โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมากเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เหมืองศิลาเจิ้นถูกเจ้าขุดไปแล้ว ทำไมพวกเราต้องแย่งชิงกัน?”
“ข้านะรึ? ขุดไปแล้ว.”
เพราะว่ารอบ ๆ ตัวนางมีหมอกปกคลุมอยู่ ทำให้ไม่สามารถเห็นใบหน้าท่าทางของนาง ทว่าฟังจากน้ำเสียงของนางแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีน้ำเสียงงงงวยปนอยู่เล็กน้อย.
ที่จริงตั้งแต่ที่เหมืองแร่เผยตัวออกมา นางก็เฝ้ามองอยู่ตลอด ก่อนที่จะตัดสินใจเลิกล้มที่จะเข้ามาแย่งชิง ด้วยมีนิกายระดับเต๋าจำนวนมาก ไม่คุ้มเลยที่จะล่วงเกินพวกเขา.
สุดท้ายแล้ว.
ทั้งที่นางไม่ได้เข้าร่วมเลย อีกฝ่ายกับคิดว่านางเป็นคนขุดไปก่อนแล้วอย่างงั้นรึ?
กล่าวหากันรึ? หรือว่ามีคนใส่ร้ายข้าอยู่กัน?
“มีปัญหาอะไร?”
คนระดับสูงนิกายระดับเต๋าคนหนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“จักรพรรดินิหลิงเหยากล้าทำ ไม่กล้ารับอย่างงั้นรึ?”
“ขอโทษด้วย.”
จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ย “เปิ่นตี้ไม่ได้ขุดเหมืองแร่ ทำไมต้องยอมรับด้วย?”นางหยุด “ถึงข้าจะขุด แล้วต้องรบกวนพวกเจ้าด้วยรึ?”
นำเสียงของเจ้าโจรผู้นี้ช่างอหังการนัก.
ที่จริงความหมายของนางนั้น เหมืองแร่นั้นไม่มีเจ้าของ ถึงว่านางจะได้มา แล้วพวกเจ้ากับคิดจะปล้นชิงไปอย่างงั้นรึ?
อย่างไรก็ตาม เหล่ากลุ่มยอดฝีมือต่างกับปักใจเชื่อว่า สตรีนางนี้ได้กล่าวยอมรับไปแล้ว!
“แม่หนูน้อย.”
คนระดับสูงนิกายเต๋าคนหนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา“แม้นว่าเจ้าจะเป็นคนของโถงพิภพ ทว่าก็ควรจะรู้สถานะตัวเองด้วย.”
“เป็นเพียงแค่คนจากพิภพเบื้องล่างที่ขึ้นมาไม่กี่พันปี เข้าร่วมโถงพิภพเวลาสั้น ๆ ใครก็รู้ว่าเจ้านั้นใช้วิธีต่ำช้าเพื่อให้เข้าร่วม.”อีกคนที่กล่าวเหยียดหยาม.
โถงพิภพนับว่าเป็นกองกำลังใหญ่มีอำนาจไม่น้อยในพิภพเบื้องบน ทว่าคงมีเพียงนิกายระดับต่ำและเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัดที่กลัวเกรง สำหรับนิกายระดับเต๋าแล้วพวกเขาหาได้สนใจ เว้นแต่จะเป็นสิบนิกายเซียนที่อยู่เบื้องหลังของอีกฝ่าย.
“นังหนู.”
“อย่าตีค่าตัวเองสูงไป.”
บางคนที่กล่าวดูแคลนออกมาตรง ๆ.
จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“พวกเจ้ามันจะมากเกินไปแล้ว.”
ยอดฝีมืออีกคนที่กล่าวคำรามด้วยความโกรธ “ลอบขุดศิลาเจิ้นไปก่อนแล้ว แล้วยังปล่อยให้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติล่อลวงพวกเรามา เพื่อดูพวกเราแสดงความโง่งม เจ้าไม่ทำมากเกินไปรึ?”
ที่จริงพวกเขาก็ไม่ใช่ว่าจะไร้เหตุผล หากเหมืองแร่มีคนได้ไปครองก่อนแล้วจริง ๆ ทว่าทั้งที่เจ้าได้ไปครองแล้ว แต่ก็ยังปล่อยให้เกิดปรากฏการณ์ใหญ่ล่อลวงพวกเรามา นี่จงใจที่จะนั่งดูละครลิงอย่างงั้นรึ?
“เลิกพูดมากได้แล้ว!”
ยอดฝีมือคนหนึ่งเอ่ยออกมาอย่างทนไม่ได้ “รีบแบ่งศิลาเจิ้นมาซะ!”
ความต้องการของเหล่านิกายใหญ่นั้นง่ายมาก ในเมื่อเจ้ากล้าหลอกลวงพวกเรามา พวกเราย่อมไม่กลับมือเปล่า เจ้าจะต้องแบ่งมา 3-5....8-9 ล้านศิลาเจิ้น!
พวกเราคาดการณ์ว่าเหมืองศิลาเจิ้นแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก หากรู้ว่าจุนซ่างเซียวขุดมันได้ถึงหมื่นล้าน อย่างน้อยก็ต้องเอ่ยออกมาหลายร้อยล้านแล้ว ยิ่งหากรู้ว่ามีมารดาศิลาเจิ้น ตอนนี้คงประกาศสงครามไปแล้ว.
“เปิ่นตี้ ไม่ศิลาเจิ้น แล้วจะแบ่งพวกเจ้าได้อย่างไรกัน?”
จักรพรรดินิหลิงเหยาที่รู้สึกเศร้าเป็นอย่างมาก หากนางได้ครอบครองเหมืองแร่ ย่อมยินดีที่จะแบ่งให้พวกเขาเพื่อเลี่ยงปัญหา แต่นางไม่ได้มา ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เอาอะไรมาแบ่งกัน?
“ฟู่!”
“ฟู่!”
เหล่ายอดฝีมือนิกายต่าง ๆ ที่ปลดปล่อยพลังออกมา เห็นชัดเจนว่าหากว่านางไม่ยอมแบ่ง พวกเขาจะใช้กำลังช่วงชิงมา!
“เจ้านิกาย!”
นิกายนิรันดร ข่าวที่ถูกส่งมา“เหล่ายอดฝีมือนิกายระดับเต๋าต่างปลดปล่อยพลังออกมา พร้อมที่จะโจมตีจักรพรรดินิหลิงเหยาแล้ว.”
จุนซ่างเซียวที่ยกแก้วชาขึ้นจิบ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม.“สบายจริง.”
แผนการของเขาดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ.
“สตรีนางนั้นจะอย่างไรก็เป็นคนของโถงพิภพ ถึงจะมีความขัดแย้งกัน แต่ก็ใช่ว่านางจะเสียเปรียบ เฝ้าดูต่อไป.”จุนซ่างเซียวเอ่ยด้วยความสบายยิ่งขึ้น.
“เจ้านิกาย!”
ในเวลานั้น จิงจื่อเซียว ผู้รับหน้าที่ส่งข่าวเอ่ย “ที่แนวหน้าส่งข่าวมาว่า มีสตรีผมขาวปรากฏขึ้นที่ทางเข้า!”
“ใครรึ?”
“เจิ้นเหรินชิงเหว่ย!”
“นางเองก็ต้องการชิงเหมืองรึ?”
คนที่ได้นามเจิ้นเหริน แน่นอนว่าจะต้องมีระดับค้นหาความจริงชั้นปลาย ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะใหญ่โตไม่เบา.
เดี๋ยวนะ!
หากวันหนึ่งข้าก้าวไปถึงระดับค้นหาความจริงขั้นปลาย ข้าควรมีฉายาว่าอะไร? เจิ้นเหรนสุดหล่อ? เจิ้นเหรินโคตรหล่อ?
“เจิ้นเหรินโกวเซิ่ง(Dog Remains)”ระบบกล่าวล้อ.
“ไสหัวไป!”
“เจ้านิกาย!”
จิงจื่อเซียวเอ่ย “ยืนยันแล้ว เจิ้นเหรินชิงเหว่ยคืออาจารย์ของจักรพรรดินิหลิงเหยา!”
จุนซ่างเซียวถึงกับตะลึงงันไปเหมือนกัน “ไม่คาดคิดเลยว่าสตรีนางนั้นจะมีอาจารย์เป็นยอดฝีมือค้นหาความจริงขั้นปลาย ข้าประเมินนางต่ำไปจริง ๆ.”
“เจ้านิกาย!”
จิงจื่อเซียวเอ่ย “หลังจากเจิ้นเหรินชิงเหว่ยปรากฏ สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป เหล่ายอดฝีมือนิกายใหญ่ต่างก็จากไปหมดแล้ว.”
“ไม่สู้กันแล้วรึ?
“ไม่แล้ว!”
“นางมอบเงินให้พวกเขาอย่างงั้นรึ?”
“ไม่!”
“......”
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ แทบทรุดด้วยความเศร้า “แผนการของเปิ่นจั้วที่วางเอาไว้อย่างระมัดระวัง เพราะเจิ้นเหรินชิงเหว่ยปรากฏทุกอย่างก็ถูกแก้ได้ง่าย ๆ เลยรึ?”
“น่ารังเกียจ!”
โกวเซิ่งที่กำถ้วยชาแน่น.
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ละความพยายาม ก่อนที่เผยยิ้มอย่างมืดครึม“จักรพรรดินิหลิงเหยา นี่แค่ยกแรกเท่านั้น ข้ายังมีอีกหลายแผนการ.”
“เฮ้อ.”
ระบบที่กล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วใครกันแน่ที่เป็นตัวร้ายกัน.”