Chapter 1480 ยกระดับดาบหนานโชว
สัตว์อสูรวิญญาณตาแดงหลายพันตัวตกตายไปทันที แม้แต่ราชาอสูรยังไม่สามารถหนีพ้น ภาพที่เห็นน่าตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก.
กู่เจ้าซีที่ตื่นตะลึงตกใจสุด ๆ!
ถึงจะเป็นยอดฝีมือหมุนแกนขั้นปลาย ก็ไม่มีทางทำได้!
เป็นไปได้ว่า....เกราะรบที่พี่ชายสวมใส่เมื่อครู่นี้ทำให้มีพลังระดับค้นหาความจริงอย่างงั้นรึ?
เหลือเชื่อ!
เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
“ฟู่ ฟู่!”
เปลวเพลิงที่ลุกโชนค่อย ๆ มอดและหายไป ทุกอย่างคืนกลับเป็นรูปลักษณ์เดิมช้า ๆ.
เห็นแกนผลึกที่กระจัดกระจายไปทั่ว จุนซ่างเซียวที่เผยแววตาเหลือเชื่อออกมาเช่นกัน.
นี่ทักษะพิเศษของอุปกรณ์มหาปราชญ์ ทรงพลังขนาดนี้เลยรึ? พลังของมันน่ากลัวเกินไปแล้ว.
นอกจากนี้แตกต่างจากก่อนหน้านี้ เมื่อเปิดใช้งาน พี่ลิงไม่ได้ปรากฏออกมา แต่กลับสามารถสังหารสัตว์อสูรทั้งหมดภายในครั้งเดียวได้เลย.
“นั่นก็เพราะว่า.”
ระบบเอ่ย “เจ้าได้รับการยอมรับจากมหาปราชญ์ มหาปราชญ์ก็คือเจ้า เจ้าก็คือมหาปราชญ์.”
“งั้นรึ?”
“พี่ชาย!”
กู่เจ้าซีที่ก้าวเข้ามาหา เผยปากเป็นตัวโอ “เมื่อครู่ท่านร้ายกาจมาก น้องชายซูฮกเลย ท่านช่างเจิดจรัสยิ่งนัก!”
“เลิกประจบได้แล้ว รีบเก็บแกนผลึก!”
“ตกลง!”
กู่เจ้าซีที่กลายเป็นคนงานเก็บแกนผลึกที่กระจัดกระจาย ขณะเก็บก็คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ภายในใจก็รู้สึกตื่นตกใจเป็นอย่างมาก.
มีพี่ชายที่น่าพรั่นพรึงขนาดนี้นี้ หลังจากนี้ข้ายังต้องกลัวใครในพิภพเบื้องบนอีก?
ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.
“ไป.”
“กลับ.”
หลังจากเก็บแกนผลึกทั้งหมด จุนซ่างเซียวก็ตรงไปยังทางออก.
กู่เจ้าซีที่เผยความสงสัย “พี่ชาย พวกเราไม่เข้าไปในพื้นที่ลึกเพื่อหาสมบัติฟ้าดินหรอกรึ?”
อสูรวิญญาณตาแดงถูกสังหารไปหมดแม้แต่ราชาอสูร พื้นที่ต้องห้ามชั้นสองไม่ควรมีอันตรายแล้ว ตอนนี้เหมาะที่จะเก็บเกี่ยวเป็นอย่างยิ่ง!
“ข้าเหนื่อย.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
กู่เจ้าซีที่เข้าใจได้ในทันที.
พลังโจมตีที่หนักหน่วงรุนแรงเมื่อครู่ ควรจะผลาญพลังไปมากมายมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัย.
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ย่อมต้องถอยก่อน.
ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองก็เดินออกมาจากหุบเขาชางฮุ่น.
หลี่ชิงหยางและพวกเซียวจุ้ยจื่อเห็นเจ้านิกายและซิซู กลับออกมาอย่างปลอดภัย ก็ผ่อนคลาย จากนั้นขณะจะสอบถามเรื่องราวที่รุนแรงดังสนั่นหวั่นไหวก่อนหน้านี้.
จุนซ่างเซียวที่ไม่อธิบายอะไร นำพวกเขากลับนิกายทันที.
“ออกมาแล้ว!”
“ดูเหมือนว่าจะปลอดภัยดี.”
“ผืนปฐพีที่สั่นไหวและแสงที่เจิดจ้าท่วมท้องฟ้าเมื่อครู่คืออะไรกัน?”
เหล่าชาวยุทธ์ที่มาชมเรื่องสนุกต่างก็พูดคุยกันไปมาในที่ลับ เพราะว่าพวกเขามีระดับต่ำ จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ด้านในหุบเขาซ่างฮุ่นเช่นกัน.
......
ขณะกลับนิกาย.
กู่เจ้าซีที่เล่าเรื่องจุนซ่างเซียวสังหารสัตว์อสูรหลายพันตัวในทันที การเล่าเรื่องที่เชี่ยวชาญยิ่งกว่านักเล่าเรื่องอีก แม้แต่ใส่สีตีไข่ไปเป็นอย่างมาก.
“โอ้ว.”
“อืม.”
หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อที่ตอบรับเล็กน้อย.
“......”
กู่เจ้าซีแทบทรุด.
พี่ชายทำเรื่องน่าเหลือเชื่อปานนั้น พร้อมกับบรรยายใหญ่โต ทว่าพวกเจ้ากับตอบรับแบบนี้เหรอ ช่วยตื่นเต้น ตื่นตะลึงหน่อยไม่ได้รึไง?
ความเป็นจริง สำหรับศิษย์ของจุนซ่างเซียว เป็นเรื่องที่คุ้นชินเป็นอย่างมาก ต้องไม่ลืมว่าเหตุการณ์ที่พิภพสงครามนั้น เขาเคยถือมีดปลอกผลไม้ไล่สังหารชาวยุทธ์หลายหมื่นคนมาแล้ว.
“พี่ชาย!”
“ข้านับถือท่านเป็นอย่างมาก!”
ระหว่างทาง กู่เจ้าซีที่ประจบประแจงอีกฝ่ายไม่หยุด.
ทว่าจุนซ่างเซียวเวลานี้กำลังจมอยู่ในความคิด.
ครั้งนี้เขาที่เข้าไปในหุบเขาซางฮุ่นทำให้ตระหนักได้ถึงปัญหา ดาบหนานโชวรูปแบบที่สาม ไม่สามารถสะกดศัตรูให้หยุดนิ่งได้ ดังนั้นคงมีเพียงแค่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นเท่านั้น.
“น่าเสียดายยันต์เปิดผนึกตั้งหลายแผ่น.”
“ส่งเข้าฟังก์ชัน รีไซเคิลได้.”
“ก็ใช่.”
จุนซ่างเซียวที่เปิดฟังก์ชันรีไซเคิล.
ในเวลานี้มียันต์เปิดผนึกดาบหนานโชวรูปแบบที่สามสองใบ ในเมื่อไม่สามารถใช้งานได้ คงทำได้แค่เปลี่ยนเป็นแต้มสนับสนุนเท่านั้น.
“!”
“แลกได้หมื่นแต้มเองรึ?”
จุนซ่างเซียวแทบทรุด.
เขาจำได้ว่า ยันต์เปิดผนึกรูปแบบที่สองก็ราคาเท่านี้!
“ดีกว่าไม่ได้อะไรไม่ใช่รึ?”
“......”
ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว จุนซ่างเซียวที่ได้แต่แลกยันต์เปิดผนึกรูปแบบที่สามสองแผ่นไปในที่สุด.
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนนิกาย: 220,000.”
ภารกิจสังหารสัตว์วิญญาณตาแดงก่อนหน้านี้ได้รับรางวัล 200,000 นั่นเอง.
ระบบเอ่ย “ดี ค่อย ๆ เก็บเล็กผสมน้อย!”
“ดีตรงใหน!”
จุนซ่างเซียวที่คำรามดัง “สองแสนกับหลายล้าน เทียบกันได้รึ?”
หลังจากโต้เถียงกับระบบไปนิดหน่อย จากนั้นเขาก็ส่งจิตเข้าไปในแหวนมิติ พร้อมกับนำศิลาวิวัฒนาการที่ได้มาก่อนหน้านี้ออกมา.
ในเมื่อรูปแบบที่สามไม่สามารถใช้ได้แล้ว ก็ยกระดับเป็นรูปแบบที่สี่ก็แล้วกัน.
“ฟู่!”
ศิลาวิวัฒนาการที่ค่อย ๆ หลอมรวมเข้าไปกับดาบหนานโชว.
“ฟู่!”
ดาบหนานโชวที่ถูกยกระดับเป็นรูปแบบที่สี่อย่างรวดเร็ว.
กระบวนการง่ายดายและรวดเร็วเป็นอย่างมาก.
แต่เพราะว่าไม่มียันต์เปิดผนึกรูปแบบที่สี่ ดังนั้นจุนซ่างเซียวจึงไม่สามารถที่จะทดสอบพลังของมันได้ชั่วคราว.
......
การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างนานเล็กน้อย จุนซ่างเซียวที่คิดถึงศิษย์นิกาย และคนระดับสูง ดังนั้นจึงยอมแพ้ที่จะสำรวจเขตแดนต้องห้ามต่อ พร้อมกับเดินทางกลับในทันที.
อย่างไรก็ตาม.
สองสามวันหลังจากนั้น พิภพเบื้องบนก็เกิดเรื่องวุ่นวายกันใหญ่.
เพราะว่ายอดฝีมือระดับสูงที่เดินทางไปยังหุบเขาซ่างฮุ่น พบว่าพื้นที่มืดครึ้มของป่าต้องห้ามเต็มไปด้วยแสงสว่าง สัตว์อสูรวิญญาณตาแดงไม่มีเหลือสักตน!
หลังจากที่ได้สอบสวน ตรวจสอบอย่างระเอียด พวกเขาก็ประกาศออกมาเป็นทางการ สถานที่ดังกล่าวถูกลดระดับลงจากเขตแดนต้องห้ามชั้นสองกลายเป็นชั้นสาม.
“ลดระดับ?”
“เกิดอะไรขึ้นกัน!”
“ได้ยินมาว่าอสูรวิญญาณตาแดงไม่มีแล้ว ความอันตรายจึงลดลงในทันที!”
“เฮ้ย แบบนี้ก็ดีสิ!”
ทันใดนั้น หุบเขาซ่างฮุ่นจึงเต็มไปด้วยผู้ฝึกตนไร้สังกัดระดับสะบั้นมิติและหมุนแกนระดับต้นมากมาย ที่ทางเข้าแทบไม่มีพื้นที่จะยืน.
เขตแดนตั้งห้ามชั้นสองที่ลดระดับลงนั้น หาได้ยากมาก เพราะว่าด้านในนั้นมีทรัพยากรมากมาย เป็นธรรมดาที่ได้ล่อลวงผู้ฝึกยุทธ์มากมายเข้าไป เพราะมั่นใจว่าทรัพยากรในพื้นที่ลดระดับนั้น ต้องสูงกว่าทรัพยากรชั้นสามอื่น ๆ นั่นเอง.
“เจ้านิกายจุนเป็นคนดีจริง ๆ!”
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัดมากมายที่พอจะคาดเดาได้ว่า การที่หุบเขาซ่างฮุ่นลดระดับลงนั้น จะต้องเกี่ยวข้องกับจุนซ่างเซียวอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก.
ป่าเถี่ยมู่ ผาเพลิงเมฆาและทะเลสาบสุ่ยเซียน แม้นว่าจะเสียหายลดระดับเป็นพื้นที่ทั่วไป ทว่าการที่เขตแดนต้องห้ามชั้นสองกลายเป็นชั้นสาม มอบผลประโยชน์ให้กับผู้ฝึกยุทธ์ระดับต่ำมากกว่า กลายเป็นว่าถึงจะมีสิ่งที่เสียไป แต่ก็ได้สิ่งใหม่ที่ดีกว่ากลับมา.
อย่างไรก็ตาม.
ทรัพยากรของหุบเขาซางฮุ่นที่ลดระดับเป็นชั้นสามนั้น ลดลงอย่างรวดเร็วในระดับที่น่าพรั่นพรึง.
เพราะว่าอันตรายที่ลดลง จำนวนผู้ฝึกยุทธ์ที่เดินทางมาหาสมบัตินั้นมากมายกว่าปรกติมาก แม้แต่เริ่มมีผู้คนต่อสู้สังหารแย่งชิงทรัพยากรอย่างหนักหน่วงอีกต่างหาก.
กลายเป็นว่าจุนซ่างเซียวเหมือนกับเปิดประตูนรกให้พวกเขาเข้าไป.
อย่างไรก็ตาม การแย่งชิงทรัพยากรกันและกัน ก็หาได้เกี่ยวข้องกับเขา ต้องไม่ลืมว่าในโลกที่โหดร้ายแห่งนี้ มีการแย่งชิงทรัพยากรเป็นปรกติอยู่แล้ว.
......
นิกายนิรันดร.
จุนซ่างเซียวก็นำทุกคนกลับมาถึงนิกาย.
อย่างไรก็ตาม ขณะนั่งลงที่ห้องหนังสือ ขณะคิดจะไปอาบน้ำก่อน หัวเหม่ยกุ้ยก็เดินเข้ามา เอ่ยออกไปว่า“ครึ่งเดือนที่แล้ว มีใครบางคนส่งกล่องผ้ามา.”
“กล่องผ้าอย่างงั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวที่กลายเป็นงงงวย.
หัวเหม่ยกุ้ยที่วางกล่องผ้าที่หรูหราประณีตลงบนโต๊ะ.
เขาที่ค่อย ๆ เปิดอย่างระมัดระวัง พบว่าที่ด้านในนั้นกับมีหัวมนุษย์ ทำให้เขาสะดุ้งตกใจแทบตกเก้าอี้ “เจ้าผมทองอย่างงั้นรึ?!”