Chapter 1478 ปลดปล่อยดาบหนานโชว
หุบเขาซางฮุ่น.
ที่นี่คือเขตแดนต้องห้ามชั้นสอง.
ผู้ฝึกยุทธ์ที่จะเข้ามานั้นจะต้องมีพลังหกแกนเป็นอย่างต่ำ ไม่เช่นนั้นก็ไม่ต่างจากของหวานที่วิ่งเข้าปากสัตว์อสูร.
แต่หากจะกล่าวถึงความอันตราย มีคนเอ่ยว่าเขตแดนต้องห้ามชั้นสองนั้น ถึงจะเป็นเก้าแกน หากไม่ระวังก็มีสิทธิ์ตกตายได้เช่นกัน.
“พี่ชาย.”
กู่เจ้าซีเอ่ย “สมบัติฟ้าดินภายหุบเขาซ่างฮุ่นนั้น แม้นว่าจะมาก ทว่าก็อันตรายมากเช่นกัน การนำศิษย์หนึ่งแกนเข้าไปอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้.”
ด้วยระดับของเขาสามารถเข้าไปในเขตแดนลับดังกล่าวได้ ทว่ารอบ ๆ เขตแดนต้องห้ามนั้นมีการวางค่ายกลไม่ให้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับต่ำกว่าเข้าไปด้วย.
“พวกเขาเข้าไปไม่ได้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “พวกเราไปเองก็ได้.”
เขาได้ทรัพยากรจากเขตแดนต้องห้ามชั้นสามมามากมาย ทำให้เขารู้สึกสนใจกับทรัพยากรจากเขตแดนต้องห้ามชั้นสองเป็นอย่างมาก หวังว่าจะได้รับทรัพยากรที่มากมายหลากหลายในการมาครั้งนี้.
แม้นว่าจะทำลายสามเขตแดนต้องห้ามไปแล้ว แต่ก็ยังไม่พอ สำหรับโกวเซิ่งนั้นต้องการทรัพยากรมากที่สุดเพื่อยกระดับนิกายของตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นในเวลาอันสั้น.
ดังนั้น.
เขาจึงมุ่งตรงมายังเขตแดนต้องห้ามชั้นสองแห่งนี้นั่นเอง.
หากไม่เพราะมีการจำกัดพลังในการเข้า เขาก็คงไม่ใส่ใจที่จะเข้าไปในเขตแดนลับชั้นหนึ่งเช่นกัน.
ระบบเอ่ย “ตามระดับค่ายกลที่เขตแดนลับชั้นหนึ่ง จะต้องมีพลังค้นหาความจริงก่อนถึงจะเข้าไปได้ ดังนั้นโฮสน์ควรมุ่งเน้นความสนใจในปัจจุบันก่อน อย่างเพิ่งฝันหวาน.”
“เขตแดนค้นหาความจริง.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ผ่านสองภารกิจมหากาพย์ก็พอแล้วนิ.”
“คิดจริง ๆ รึว่าอีกสองภารกิจมหากาพย์จะตัดผ่านได้ถึงสามระดับ คิดว่าจะสามารถตัดข้ามสามขั้นเหมือนก่อนหน้านี้รึไง?”ระบบหมดคำจะพูด.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ขอเพียงความสำเร็จภารกิจสูงพอ แน่นอนว่าสามารถตัดข้ามหลายขั้นได้แน่.”
ก่อนหน้านี้สำเร็จภารกิจมหากาพย์สำเร็จถึง 500% ทำให้ตัดผ่านข้ามสามระดับ หากสามารถทำได้เหมือนเดิม ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้.
ทว่าต้องรอดูภารกิจก่อน.
การจะทำให้สำเร็จขั้นสูงนั้น ชนิดของภารกิจก็เป็นหนึ่งปัจจัยด้วย.
ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าภารกิจมหากาพย์ที่สามก่อนหน้านี้ของเขา เป็นการร่วมแรงร่วมใจของศิษย์ที่เป็นเหมือนกับช่องโหว่ข้อผิดพลาดอย่างหนึ่งของระบบทำให้เขาประสบความสำเร็จสูงมากนั่นเอง.
......
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ฟู่ ฟู่ ฟู่!”
ที่ทางเข้าหุบเขามีลมหมุนที่พัดออกมาจากด้านในอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังมีเสียงร้องครวญครางโหยหวนอีกด้วย.
ใช่แล้ว.
สถานที่แห่งนี้คือเขตแดนต้องห้ามที่เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับต่ำหวาดกลัวนั่นเอง.
เพราะที่นี่คือพื้นที่อันตรายที่ไม่ค่อยมีคนมานัก ดังนั้นที่ทางเข้าจึงมีหญ้ารกชัน.
“พี่ชาย.”
ในเวลานั้น กู่เจ้าซี่ที่นำทุกคนมาหยุดที่ทางเข้า “พวกเรามาถึงแล้ว.”
“ดูแปลกประหลาดเล็กน้อย.”
จากสายลมที่พัดออกมาเขาพบว่ามีกลิ่นอายของปราณปิศาจ ทำให้เขารู้สึกสงสัยในใจขึ้นมาในทันที.
หลี่ชิงหยางและพวกเซียวจุ้ยจื่อก็ขมวดคิ้วเช่นกัน พวกเขารับรู้เช่นกัน หากเขาไปคงยากจะรอดชีวิตจริง ๆ.
“พวกเจ้ารออยู่ด้านนอก.”
“รับทราบ!”
จุนซ่างเซียวจ้องมองกู่เจ้าซีเอ่ยออกมาว่า“ไป เดินทาง.”
สองพี่น้องร่วมสาบาน ก้าวเข้าไปในหุบเขาซ่างฮุน ด้วยท่าทางไม่หวาดกลัวสิ่งใดแม้แต่น้อย.
“เข้าไปแล้ว!”
“เจ้านิกายนิรันดรเข้าไปแล้ว!”
ที่ด้านนอกทางเข้าหุบเขา มีผู้ฝึกยุทธ์กลุ่มหนึ่งเฝ้ามองเห็นจุนซ่างเซียวเข้าไป แววตาเผยความชื่นชมขึ้นมาทันที.
พวกเขาก็คือคนกลุ่มที่ออกมาห้ามอีกฝ่ายเข้าเขตแดนลับชั้นสามก่อนหน้านี้ และแนะนำอีกฝ่ายให้เข้าไปยังหุบเขาซ่างฮุ่นแทนนั่นเอง.
“ถือเป็นผู้กล้าตั้งแต่ยังหนุ่ม!”
“ผู้เยาว์มักจะไร้ความหวาดกลัวต่อสิ่งใด ๆ!”
“ถือเป็นต้นแบบ!”
......
“หวึ่ง หวึ่ง!”
“ฟู่ ฟู่!”
สายลมที่พัดโกรกในหุบเขาซ่างฮุ่นนั้น มีเสียงที่หวีดหวิวที่ทำให้ขนลุกได้
จุนซ่างเซียวและกู่เจ้าซีที่ก้าวเข้าไปโดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย.
บรรยากาศด้านในและด้านนอกหุบเขานั้นแตกต่างกันลิบลับ ด้านในนั้นเต็มไปด้วยความมืดครึ้ม พืชพรรณรอบ ๆ เหี่ยวเฉา ไร้ซึ่งชีวิตชีวา.
“มันจะมีสมบัติฟ้าดินจริง ๆ รึ?”จุนซ่างเซียวที่สงสัย.
กู่เจ้าซีเอ่ย “พี่ชาย พื้นที่เลวร้ายมาก ๆ เช่นนี้ล่ะ ยิ่งทำให้สมบัติระดับฟ้าดินแปลก ๆ เติบโตขึ้น.”
“ยกตัวอย่าง?”
“ข้าเองก็ไม่รู้.”
“นักเล่าเรื่องไม่ได้เล่าให้เจ้าฟังอย่างงั้นรึ?”
“เขาไม่ใช่พหูสูตร.”
จุนซ่างเซียวเผยท่าทางสนใจ เอ่ยถามออกมาว่า“น้องชาย นักเล่าเรื่องนี้คนนี้เป็นใครกันแน่?”
“เป็นสหายของข้า.”
กู่เจ้าซีเอ่ย “เขาทำอาชีพเล่าเรื่องเลี้ยงดูตัวเอง.”
“เขาแข็งแกร่งมากรึ?”
“อ่อนแอ แต่กับมีความรู้ที่มากมายกว้างขวาง.”
“โอ้ว.”
จุนซ่างเซียวที่พยักหน้ารับ ทว่าคิดว่าคนทั่วไปปรกติแล้วไม่ควรจะรู้เรื่องราวต่าง ๆ มากมายขนาดนี้ ไม่คาดคิดเลยจริงว่าคนธรรมดาจะทำอาชีพนักเล่าเรื่องได้.
“เจ้ารู้ไหมว่าเขาอยู่ที่ใหน?”
“เขาเดินทางไปทั่ว ไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง ผีเท่านั้นที่รู้!”
“หลังจากนี้หากเจ้าพบเขา อย่าลืมแนะนำให้พี่ชายรู้จัก.”
“ตกลง.”
ทั้งสองที่พูดคุยกันสนุกขณะเดินเข้ามา ราวกับว่าไม่ได้เข้ามาในเขตแดนต้องห้าม ดูไม่ต่างจากมาเที่ยวเลยแม้แต่น้อย ไม่ไว้หน้าเขตแดนต้องห้ามซางฮุ่นชั้นสองเลย.
“โฮกกกก!”
เดินเข้ามากว่าสิบนาที จุนซ่างเซียวและกู่เจ้าซีที่เข้ามาลึกด้านใน มีเสียงคำรามที่โกรธเกรี้ยว สัตว์ร้ายที่ตัวดำทมิฬดวงตาสีแดงชาด ราวกับอสุรกายที่มาจากนรกภูมิ.
“อสูรวิญญาณตาแดง!”กู่เจ้าซีที่เผยท่าทางจริงจังขึ้นมา.
เขาได้ยินมาว่า สัตว์อสูรตนนี้เหมือนกับหมาป่าเบงกอล เมื่อเติบโตจะมีพลังไม่ได้ด้อยกว่าระดับหกแกนหมุนเลย พวกมันมักจะอยู่กันเป็นกลุ่ม ไม่มีทางที่จะปรากฏตัวเดียว.
เป็นความจริง.
ตัวแรกปรากฏ ร่างที่ดำทมิฬอีกมากมายก็ปรากฏขึ้นตัวแล้วตัวเล่า....จำนวนน่าจะมากกว่าหนึ่งร้อยเล็กน้อย!
“พี่ชาย!”
กู่เจ้าซีที่ขมวดคิ้วไปมา “พวกเราอ้อมไป.”
สัตว์อสูรระดับหกแกนหมุนร้อยกว่าตน หากโจมตีพร้อมกัน ก็นับว่าเป็นปัญหาเล็กน้อย.
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวนำดาบมังกรเขียวออกมา ดวงตาที่ลุกโชนด้วยเปลวเพลิง “สัตว์อสูรระดับนี้ แกนผลึกในร่างต้องล้ำค่าแน่ แล้วจะหลบไปทำไมเล่า!”
“......”
กู่เจ้าซีที่มุมปากกระตุก.
พี่ชาย ดูเหมือนว่าจะอหังการยิ่งกว่าข้าอีก!
หากเป็นเรื่องปรกติ จุนซ่างเซียวก็คงอ้อมไปเช่นกัน ทว่าหลังจากสัตว์วิญญาณตาแดงปรากฏ ระบบก็ออกภารกิจให้สังหารสัตว์ร้ายดังกล่าว ดังนั้นทำได้แค่เขาต้องทำเท่านั้น!
“ตกลง!”
กู่เจ้าซีกำหมัดเอ่ยด้วยความฮึกเหิม “พวกเราสองพี่น้อง วันนี้จะร่วมกันล่าสัตว์ในหุบเขาซ่างฮุ่น!”
ทว่าเพียงแค่ไม่นานเท่านั้น จากหลายร้อยกลายเป็นหลายพัน พลังอันบ้าคลั่ง แผ่กดทับไปทั่วบริเวณในทันที.
“พี่ชาย!”
กู่เจ้าซีแทบทรุด เอ่ยออกมาว่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะ งานเข้าแล้วล่ะ!”
หากเพียงแค่หลายร้อยตน เขายังคงมั่นใจจัดการได้ ตอนนี้หลายพันตัว แต่ละตัวมีระดับหกถึงเจ็ดแกนหมุน นี่มัน.....ฆ่าตัวตายชัด ๆ!
“ถอยออกมา.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ที่นี่ปล่อยข้าเอง.”
“ตกลง!”
กู่เจ้าซีเร่งรีบถอยออกมา.
ภายใต้อสูรวิญญาณตาแดงหลายพันที่รายล้อม จุนซ่างเซียวยังคงมั่นใจ นำดาบหนานโชวขนาดเท่าฝ่ามือออกมา มุมปากยกยิ้ม “ถึงเวลาเผยพลังเทคโนโลยีที่แท้จริงแล้ว.”
มาแล้ว!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้ดาบหนานโชวบนพิภพเบื้องบน!
กู่เจ้าซีถึงกับงงงวย “มีดปลอกผลไม้รึ?”
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวเท้าขวายาวยืดออกไปด้านหน้า ร่างกายโน้มลงเล็กน้อย ก่อนที่จะวาดดาบออกไป พร้อมกับบดยันต์เปิดผนึกขณะชักดาบ “บังไค!”
“เคร้ง ------”
“ฟู่ ฟู่!”
คลื่นพลังอันบ้าคลั่งที่ปะทุขึ้นมา หมุนรวมราวกับพายุทอนาโด.
กู่เจ้าซีถึงกับถูกผลักออกไปหลายก้าว พลังที่ปะทุขึ้นมานั้นทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก “นี่มันอะไรกัน!”
“ครืนนนนนน!”
ในเวลานั้น พายุที่รุนแรงก็หยุดลง.
จุนซ่างเซียวในชุดคลุมสีดำ ยืนอยู่อย่างอหังการท่ามกลางพายุ เต็มไปด้วยความพลังที่มากล้น มีดเท่าฝ่ามือที่กลายเป็นดาบสีทอง ที่แผ่กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงน่าพรั่นพรึงออกมา.
ดาบ นี่คือดาบอะไร? เหมือนกับวงแหวนสีทองขนาดใหญ่.