Chapter 1473 ร่วมมือ
ป่าเถี่ยมู่.(ป่าโลหะ)
นี่คือเขตแดนลับชั้นสามของพิภพเบื้องบน.
ป่าแห่งนี้เพราะต้นไม้ใบหญ้าที่เป็นโลหะ สถานที่แห่งนี้จึงถูกเรียกว่าป่าเถี่ยมู่.
ป่าเถี่ยมู่นั้นสามารถนำมาหลอมอาวุธยุทโธปกรณ์ได้ ดังนั้นที่นี่ ถึงจะไม่มีสมบัติฟ้าดิน ทว่าก็ดึงดูดเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทำเหมืองมาไม่หยุดหย่อน.
ในเวลานั้น.
จุนซ่างเซียวที่นำศิษย์เข้ามาในป่าเถี่ยมู่.
บนอากาศพบสายลมดังหวีดเหวิว เหล่าผู้คนที่เข้ามาก่อนเงยหน้าขึ้นมอง.
“หืม?”
ผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัดที่เงยหน้าขึ้น ขณะมองเห็นอักขระ“นิรันดร” พวกเขาบอกถึงสถานะอีกฝ่ายขึ้นมาได้ในทันที.
“คนของนิกายนิรันดรมาได้อย่างไรกัน?”
“มาหาประสบการณ์ละมั้ง?”
“ข้าได้ยินมาว่า เมื่อไม่นานมานี้ เป็นนิกายนี่ล่ะที่เผาทำลายป่าหมอกปิศาจไป!”
ผู้คนที่ต่างพูดคุยกันเสียงเบา พยายามรักษาระยะห่าง เกรงว่าจะไปยั่วยุอีกฝ่าย.
แน่นอน.
พวกเขาคงไม่รู้หรอกว่าโกวเซิ่งไม่ใช่คนชอบหาเรื่องกับผู้อื่นโดยไร้เหตุผลเช่นกัน.
เขามายังป่าเถี่ยมู่แห่งนี้ เพราะต้องการนำศิษย์มาเก็บประสบการณ์ และเก็บเกี่ยวทรัพยากร เพื่อชดเชยแต้มล้ำค่าทั้งสามที่หายไปต่างหาก.
“ซิวซู.”
เซียวจุ้ยจื่อที่ยืนอยู่ที่ด้านหน้าต้นไม้โลหะเอ่ยออกมาว่า“นี่คือป่าโลหะอย่างงั้นรึ?”
“ไม่ผิด.”
กู่เจ้าซีที่พยักหน้ารับ.
“ปัง!”
หมัดของเซียวจุ้ยจื่อที่ต่อยไปยังต้นไม้โลหะ ทว่ากับไม่หักโค่นแต่อย่างใด ทำให้เขาเผยท่าทางประหลาดใจ “ต้นไม้นี้ค่อนข้างแข็ง!”
กู่เจ้าซีเอ่ย “ต้นไม้โลหะ มีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา ดังนั้นเหล่าปรมาจารย์ตีเหล็กมักเดินทางมาที่นี่เพื่อเก็บเกี่ยววัตถุดิบเหล่านี้ไป.”
“หากสามารถนำกลับไปให้ถางจู่ฟ่านหลอมก็คงเป็นเรื่องดี.”จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา.
แม้นว่าฟังก์ชันหอตีเหล็กจะหลอมอาวุธและอุปกรณ์ขึ้นมาได้ ทว่าจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบหลายอย่าง ไม่สามารถผลิตเป็นจำนวนมากได้ กระนั้นหากมีวัตถุดิบชั้นดีอื่นในพิภพเบื้องบน ที่ทำให้ฟ่านเย่จื่อหลอมอาวุธขึ้นมาได้ แน่นอนว่าจะต้องเสริมความแข็งแกร่งให้กับนิกายขึ้นเป็นอย่างมาก.
เพื่อนิกายแล้ว เขาย่อมต้องนำปัญหานี้มาคิดอย่างแน่นอน.
“อย่ายืนเฉย.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ตัดเลย.”
“รับทราบ!”
หลี่ชิงหยางและพวกเซี่ยวจุ้ยจื่อที่รับคำสั่ง พร้อมนำกระบี่คมออกมา เอ่ยออกไปว่า.“เจ้านิกาย พวกเราจะนำกลับไปเท่าไหร่?”
“แน่นอน เอาไปหมดนั่นล่ะ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
“รับทราบ!”
ในเวลานั้นพวกเขาก็เริ่มทำการตัดเก็บต้นไม้โลหะอย่างรวดเร็ว ตัดและเก็บในแหวนมิติ ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว.
ภายในป่าต้องห้าม มีต้นไม้ที่มีระดับต่าง ๆ พวกหลี่ชิงหยางที่เก็บกวดต้นไม้ทุกอย่างลึกเข้าไปจนถึงกลางป่าลึกแล้ว.
อย่างไรก็ตามในป่าโลหะนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ต้นไม้โลหะ ยังมีสัตว์อสูรที่มีผิวหนังโลหะที่แข็งแกร่งอยู่ด้วยเช่นกัน.
“ติ๊ง!”
หลี่ชิงหยางที่เหวี่ยงกระบี่ออกไป เกิดเป็นสะเก็ดไฟสว่างจ้าขึ้นมาทันที.
กู่เจ้าซีเอ่ย “ในป่าเถี่ยมู่แห่งนี้ไม่ใช่แค่ต้นไม้ แต่ผิวของสัตว์อสูรก็แข็งแกร่งมาก หนังของสัตว์เหล่านี้ก็สามารถนำไปเป็นชุดเกราะที่ยอดเยี่ยมได้เช่นกัน!”
“เช่นนั้นก็แบ่งกลุ่มหนึ่งออกไปจัดการพวกมัน.”
ในเมื่อมาแล้ว ก็ต้องเก็บเกี่ยวไปด้วย.
ดังนั้น พวกเขาจึงแบ่งกลุ่มให้กลุ่มหนึ่งตัดไม้ อีกกลุ่มหนึ่งออกล่าสัตว์อสูร.
“ตาย!”
“ฟู่ ฟู่---”
หอกทะลวงนภาที่ปะทุพลัง โจมตีออกไป อสูรโลหะที่ถูกทะลวงอย่างโหดร้าย.
“ฟิ้ว!”
ซูเซียวโม่ที่ทำหน้าที่เลาะหนังเก็บกระดูกเหล่านี้อย่างรวดเร็วใส่เข้าไปในแหวนมิติ.
หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อ ยังคงรับผิดชอบในการตัดไม้โลหะ.
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์รอบ ๆ ที่จ้องมองด้วยท่าทางตื่นตะลึง.
ตัดไม้และล่าสัตว์ได้เร็วเกินไปแล้ว หากยังเป็นแบบนี้ ป่าเถี่ยมู่จะต้องโล้นเรียบแหงแซะ!
“น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!”
“เก็บเกี่ยวเร็วไปแล้ว!”
“ป่าหมอกปิศาจต่อมาก็เป็นป่าเถี่ยมู่อย่างงั้นรึ?”
แย่แล้ว แย่แล้ว!
พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้อีกฝ่ายทิ้งห่างได้ จะต้องเร่งรีบเก็บเกี่ยวเช่นกัน ไม่เช่นนั้นจะไม่มีโอกาสแน่!
เพราะว่านิกายนิรันดรนั้นบ้าคลั่งเป็นอย่างมาก ตอนนี้แทบจะจัดการสัตว์อสูรจำนวนมากไปแล้ว ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์หลายคนกล้าที่จะก้าวลึกเข้าไปด้วย.
“ทุกท่าน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาเล็กน้อย “ป่าเถี่ยมู่เป็นของนิกายนิรันดรแล้ว หากใครกล้าเก็บเกี่ยว ข้าจะไปเยี่ยมเยือนถึงบ้านในวันพรุ่งนี้.”
ให้ศิษย์ของข้าเบิกทาง แล้วพวกเจ้าเก็บเกี่ยวงั้นรึ? โลกนี้ไม่มีอาหารกลางวันให้กินฟรีหรอก!
“ฟู่!”
พลังกดดันที่แผ่ออกมาทันที ทำให้เหล่าชาวยุทธ์ขวัญผวาไปตาม ๆ กัน.
ใช่แล้ว.
อยากเก็บเกี่ยวก็ต้องเปิดทางด้วยตัวเองสิ!
เหล่าชาวยุทธ์ที่หวาดหวั่นตอนนี้ไม่กล้าเข้ามาแล้ว ได้แต่มองห่าง ๆ จ้องมองนิกายนิรันดรเก็บไม้โลหะเข้าไปในแหวนมิติ ด้วยความอิจฉาและเกลียดชัง.
“โฮกกกกก!”
“โฮกกกกก!”
ในเวลานั้น เสียงของสัตว์ร้ายที่ดังโหยหวน ดูเหมือนว่าสัตว์อสูรตนนี้จะทรงพลังมาก.
“ราชาอสูร!”
“เจ้านั่นไม่ได้ถูกโถงพิภพผนึกเอาไว้หรอกรึ?!”
เหล่าชาวยุทธ์หลายคนที่ตื่นตะลึง ไม่แม้แต่รั้งรอวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว!
ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา จะจัดการสัตว์อสูรโลหะทั่วไปก็ยากแล้ว หากต้องปะทะกับราชาอสูรล่ะก็ ซี่แหงแก๋ ดังนั้นการหนีจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด.
“พี่ชาย.”
กู่เจ้าซีเอ่ย “สถานการณ์ไม่ค่อยดีเล็กน้อย.”
ป่าเถี่ยมู่ได้ผนึกราชาอสูรเอาไว้ เขาได้ยินมาอย่างแน่นอน การที่มันหลุดจากผนึกออกมาทันที ย่อมผิดปรกติอย่างไม่ต้องสงสัย.
แววตาของจุนซ่างเซียวที่กลายเป็นมืดครึ้มเย็นชาทันที.
สถานการณ์ของราชาอสูรโลหะ เหมือนกับราชาปิศาจที่ป่าหมอกปิศาจ ดังนั้นเขาจึงลอบคิดในใจ“มีใครบางคนกำลังลอบสร้างปัญหาให้พวกเราในที่ลับอย่างงั้นรึ?”
......
ที่ส่วนหนึ่งของป่าเถี่ยมู่.
“ฟิ้ว!”
ริ้วแสงที่ค่อย ๆ หายไปช้า ๆ จินเห่าที่กำลังจากไป.
“ราชาอสูรเถี่ยมู่จากพื้นที่ต้องห้ามชั้นสาม ไม่น่าจะจัดการเจ้านั่นได้ แต่ควรจะสร้างปัญหาได้บ้างล่ะ.”มุมปากของเขากระตุก เผยยิ้มอย่างพอใจออกมา.
แน่นอนว่าการปรากฏตัวของเขาและการปลดผนึกของราชาอสูรที่หลุดออกมา ย่อมเกี่ยวข้องกันอย่างไม่ต้องสงสัย.
“จุนซ่างเซียว.”
จินเห่าที่กระโดดขึ้นราชรถสีทอง ยกขาขึ้นไขว่ห้าง เอ่ยออกมาคนเดียว“แม้นว่าเจ้าจะมีเจิ้นเหรินตงกู่สนับสนุน ทว่าข้าต้องสังหารเจ้าให้ได้แน่ ที่จริงก็มีหลายวิธีเลย.”
“จริงรึ?”
ในเวลานั้น เสียง ๆ หนึ่งที่ดังขึ้น.
เสียงหัวเราะที่สาใจของจินเห่าต้องกลายเป็นแข็งค้าง จากนั้นก็หันหน้ากับไป พบว่าที่ไกลออกไปปรากฏใครบางคนกำลังก้าวเข้ามาหาเขา.
“พบได้ยังไง?”เขาไม่ได้ใส่ใจมากมายนัก.
จุนซ่างเซียวที่มายืนอยู่ห่างจากราชรถสีทองสิบกว่าจั้ง ส่ายหน้าไปมา “ไม่คาดคิดว่าคนที่พ่ายแพ้เช่นเจ้าจะคิดลอบทำร้ายข้า.”
ได้ยินคำว่าพ่ายแพ้ จินเห่าที่ใบหน้าบิดเบี้ยวเอ่ยออกมาว่า“ไอ้หนู เพียงแค่มีของวิเศษชั้นยอดจะผยองได้นะ หากเจ้าไม่มีมัน เจ้าก็ไม่ต่างจากหมูหมากาไก่.”
“บังอาจ!”
เสียง ๆ หนึ่งที่โกรธเกรี้ยวดังขึ้น “อย่าลืมใส่คำว่าท่านด้วย!”
“หืม?”
จินเห่าที่จ้องมองออกไปพบเด็กชายผู้หนึ่งที่มีอายุ 12-13 ปี ดังนั้นจึงแค่นเสียงเอ่ยออกมาว่า“เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม กล้าให้ข้าเรียกท่านอย่างงั้นรึ?”
“พี่ชาย.”
กู่เจ้าซีที่เผยใบหน้ามืดครึ้มเย็นชา “เจ้านี่มันไม่ต้องการหายใจแล้ว!”
“แก๊ก แก๊ก แก๊ก!”
จุนซ่างเซียวที่กำหมัดแน่นเอ่ยออกไปว่า “ในเมื่อไม่อยากหายใจ พวกเราสองพี่น้องก็จะช่วยกันทุบมันในวันนี้!”
“เยี่ยมเลย!”
กู่เจ้าซีที่กำหมดเอ่ยออกมาว่า“พวกเราสองพี่น้อง จะร่วมกันทุบมัน!”