Chapter 1463 คืนชีพบรรพชนมาร
ชาวชราชุดดำที่ปรากฏ ใช้พลังปกคลุมเตรียมพาเหยาเมิ่งหยิงไป จุนซ่างเซียวไม่สามารถทนได้ในทันที ไม่ว่าจะเป็นดินแดนฝันหรือโลกจริง เขาก็ไม่อนุญาตให้นำศิษย์เขาไป.
ทว่ามีสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก ทั้งที่เขาอยู่ในโลกฝัน ทว่าทำไมถึงสามารถสัมผัสกับฝ่ายตรงข้ามได้กันล่ะ.
นี่หมายความว่าอะไรกัน?
เขาและชายชรามีตัวตนกันจริง ๆ ใช่ไหม!
“นี่เจ้า....เข้ามายังความฝันคนอื่นได้อย่างไร?”ชายชุดดำที่เอ่ยด้วยความตกใจ จุนซ่างเซียวที่มั่นใจได้ว่าเจ้านี่บุกรุกดินแดนฝันของเหยาเมิ่งหยิง ดังนั้นจึงต่อยกระหน่ำอย่างโหดร้าย.
“อัก.....”
เขาที่จ้องมองกู่เจ้าซีที่เขียวช้ำไปทั่วร่าง ใบหน้าของโกวเซิ่งที่เต็มไปด้วยท่าทางละอายใจ เร่งรีบจัดแจง ปล่อยอีกฝ่าย แสร้งทำว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น.
“เจ้านิกาย เมื่อครู่ข้าฝันร้ายมาก.”เหยาเมิ่งหยิงที่ยังคงกล่าวเสียงแหบเครือ อาการยังไม่ได้ดีขึ้นนัก ยังคงกล่าวเสียงสั่นสะอื้นปนไปด้วย.
“ก็แค่ฝัน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “อย่าได้คิดฟุ้งซ่าน.”
ระบบเอ่ย “ชายชุดดำที่โฮสน์ทุบไปก่อนหน้านี้ บางทีคงทำให้ศิษย์ของเจ้าอยู่ในแดนฝันที่เลวร้าย.”
“น่าเสียดาย.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ปล่อยให้เขาหนีไป.”
กล้าทำให้ศิษย์ข้าเข้าไปอยู่ในฝันและยังสร้างเหตุการณ์ให้นิกายถูกทำลายล้าง และนำเธอไปอย่างแน่นอน.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น ผู้ฝึกตนมารเริ่มไล่หลังตามมาทีละคน ๆ.
ทว่าเวลานั้นพวกเขาที่ถูกปราณมารกัดกร่อน ก่อนจะเสียจิตใจยืนนิ่งเป็นรูปปั้น ดวงตาที่ชะงักงันไปในทันที.
จุนซ่างเซียวหาได้สนใจคนเหล่านั้นไม่ เดินไปยังกู่เจ้าซีและศิษย์ พร้อมกับปล่อยจิตวิญญาณเพลิงและจิตวิญญาณปิศาจ ออกไปชำระล้างจิตใจให้กับพวกเขา.
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมม!”
หลังจากนั้น พวกเขาก็หลุดออกมาจากดินแดนฝัน ขณะหายใจหอบ ๆ.
ภายในดินแดนฝัน พวกเขาอยู่ในป่าทึบ และมีฝูงสัตว์อสูรจำนวนมากมายเข้าล้อมกรอบเข้ามาโจมตีพวกเขา.
โดยเฉพาะกู่เจ้าซี.
ที่เข้าปะทะกับสัตว์อสูรหลายร้อยด้วยตัวคนเดียว.
ทว่าในเวลานั้นขณะกำจัดต่อสู้ได้เสียท่าถูกสัตว์อสูรกัดจนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด.
“อ๊ากก!”
หลังจากหลุดจากดินแดนฝัน เขาที่กุมใบหน้าด้วยความเจ็บปวด “หน้าข้า!”
“ซิซู ใบหน้าของท่านทำไมบวมฉึ่ง!”ซูเซียวโม่เอ่ย.
หลี่ชิงหยาง และเซียวจุ้ยจื่อจ้องมองไปพร้อม ๆ กัน แววตาที่เผยความสงสัยออกมา.
ภายในดินแดนฝัน พวกเขาถูกสัตว์อสูรทำร้ายเหมือนกัน ทว่าเมื่อถูกดึงกลับความเป็นจริง ร่างกายก็ไม่เปลี่ยนแปลง ทำไมซิซูได้รับบาดเจ็บหนักคนเดียว? นอกจากนี้ยังถูกต่อยไปยังใบหน้าอย่างหนักด้วย?
“ไม่ใช่สิ!”
กู่เจ้าซีที่เต็มไปด้วยความสงสัย “ทำไมข้าได้รับบาดเจ็บคนเดียว!”
จุนซ่างเซียวที่แสร้งไม่ได้ยิน จ้องมองไปยังกลุ่มผู้ฝึกยุทธ์มารที่เพิ่งเข้ามา เอ่ยออกไปว่า“คนเหล่านี้ตกอยู่ในดินแดนฝัน.”
“พรึด โครม!”
ในเวลาต่อมา ผู้ฝึกยุทธ์มารที่ล้มไปบนพื้น ดวงตาไร้ประกายขึ้นมาทันที.
กู่เจ้าซีเอ่ย “ตายแล้ว!”
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น กลุ่มก้อนแสงสีดำที่ออกจากศพ ลอยเข้าไปในผนังศิลาหายไปทันที.
จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วไปมาทันที.
หากเขาไม่ต่อยชายชุดดำ ก็จะมีสภาพเหมือนกับคนเหล่านี้ใช่ใหม?
“พรึด โครม!”
“พรึด โครม!”
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์มารที่ล้มลงสิ้นใจมากขึ้นและก็มากขึ้น ริ้วแสงสีดำที่หลุดออกจากศพ ผสานเข้าไปในกำแพงเช่นเดิม.
“รู้แล้ว!”
กู่เจ้าซีที่เฝ้ามองเอ่ยออกมาว่า“นี่คือวิชาหนึ่งของวิถีมาร มีชื่อว่าแดนฝันชิงวิญญาณ!”
“ริ้วแสงสีดำที่ลอยออกจากร่างนั่น คือวิญญาณของพวกเขาอย่างงั้นรึ?”
“ไม่ผิด!”
จุนซ่างเซียวได้ยินคำพูดดังกล่าว ใบหน้ากลายเป็นมืดครึ้มเย็นชาขึ้นมาในทันที.
ในดินแดนฝันของเหยาเมิ่งหยิง ชายชราชุดดำต้องการนำนางไป บางทีคงหมายความว่ากำลังนำวิญญาณนางไปอย่างงั้นรึ?
โชคดีที่เขาพบก่อน โชคดีที่เขาป้องกันได้ทัน หากนางถูกนำไป เกรงว่าคงกลายเป็นศพแน่ ๆ.
“เป็นวิชาที่โหดเหี้ยมจริง ๆ!”
เกือบที่จะทำให้ศิษย์ของเขาตกตาย ทำให้จุนซ่างเซียวโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.
“.”
กู่เจ้าซีเอ่ย “วิชาแดนฝันชิงวิญญาณ มีผลเพียงผู้ฝึกตนมาร สำหรับชาวยุทธ์ทั่วไปถึงจะตกอยู่ในดินแดนฝันก็ไม่ถูกชิงวิญญาณแต่อย่างใด.”
“พรึด โครม!”
“พรึด โครม!”
ผู้ฝึกยุทธ์มารที่ล้มลงคนแล้วคนเล่า ดวงวิญญาณที่ถูกดึงออกไปจากร่าง.
จุนซ่างเซียวที่ลองทดสอบป้องกัน ทว่าก็ไม่สามารถสัมผัสพลังสีดำได้ ได้แต่มองคนเหล่านี้ตกตาย.
“ไป.”
“พวกเราก้าวต่อไป.”
นับตั้งแต่เข้ามาในดินแดนโม่หยวนเพื่อหาสมบัติ ก็ต้องพร้อมที่จะตกตาย เป็นสิ่งที่พวกเขาเลือกแล้ว โกวเซิ่งไม่ได้เมตตาพอที่จะช่วยพวกเขา นอกจากนี้ยังเป็นคนจำนวนมาก หากต้องการช่วย เขาจะต้องใช้พลังเป็นจำนวนมาก.
“พี่ชาย.”
กู่เจ้าซีเอ่ยขณะเดินตาม “วิชาแดนฝันชิงวิญญาณ ไม่ใช่กับดักธรรมดา ๆ เห็นชัดเจนว่าเป้าหมายของพวกเขาก็เพื่อที่จะชิงวิญญาณของคนเหล่านี้โดยเฉพาะ.”
“เจ้าต้องการจะบอกอะไรอย่างงั้นรึ?”
“ข้าได้ยินมาจากนักเล่าเรื่อง บรรพชนมารที่สร้างเขตแดนโม่หยวนขึ้นมานั้นยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง ดูเหมือนจะเป็นการเตรียมคืนชีพให้กับตัวเอง ที่นี่เป็นกับดักแดนฝันชิงวิญญาณ บางที.....”
“เจ้ากำลังบอกว่าที่นี่คือสถานที่รวมดวงวิญญาณผู้ฝึกยุทธ์มาร เพื่อที่จะคืนชีพตัวเองอย่างงั้นรึ?”
“ไม่ผิด!”
“......”
หลังจากจุนซ่างเซียวได้ยินก็กลายเป็นเงียบงัน “หากเป็นเช่นนั้นการที่ล่อผู้ฝีกยุทธ์มารด้วยคำว่าสมบัติ แท้จริงแล้วก็เพื่อคืนชีพให้ตัวเองเท่านั้น.”
ขณะพูดจบ พวกเขาก็มาถึงจุดปลายของอุโมงค์ สถานที่แห่งนี้ดูกว้างขวางเป็นอย่างมาก ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงไปเหมือนกัน.
สถานที่แห่งนี้คล้ายกับพระราชวังย่อส่วน พื้นดินปูด้วยหินอ่อนคุณภาพสูง ผนังยังมีหัวของรูปปั้นสัตว์ร้ายที่ไม่รู้จัก กำลังอ้าปากกว้างและพ่นของเหลวสีแดงออกมา.
กลิ่นแปลก ๆ แสบจมูกเป็นอย่างมาก.
“โลหิต!”
กู่เจ้าซีเอ่ย “ทั้งหมดคือโลหิตของผู้ฝึกตนมาร!”
ทำไมพวกเขาถึงมั่นใจ?
เพราะว่าโลหิตของผู้ฝึกยุทธ์มารนั้น จะมีพลังงานมารแผ่ออกมา แตกต่างจากผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไป.
หัวสัตว์ทั้งหมดมีอยู่ด้วยกันสิบหัว.
“โลหิตยังร้อนอยู่เลย.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ดูเหมือนว่าเพิ่งตายอย่างงั้นรึ?”
เหออู๋ตี้ที่จ้องมองไปยังหัวของสัตว์ร้ายทั้งสิบ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า“ประตูศิลาสิบแห่งก่อนหน้านี้มีลวดลายเหมือนกัน บางที....”
ไม่ต้องเอ่ยออกมาทั้งหมด ทุกคนก็เข้าใจทันทีว่าโลหิตเหล่านี้แท้จริงแล้วมาจากใหน.
“!”
„วูซซซซ!”
โลหิตของผู้ฝึกตนมาร ดูเหมือนว่าจะกำลังไหลเข้าไปรวมกันยังสระขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง.
หลี่ชิงหยาง และพวกเซียวจุ้ยจื่อ แม้นว่าจะเคยต่อสู้เห็นโลหิตมามากมาย ทว่าเมื่อเห็นสระโลหิตขนาดใหญ่ เวลานี้ก็แทบจะอาเจียนออกมาเหมือนกัน.
จุนซ่างเซียวก้าวเดินไป พบว่าที่ทิศเหนือของบ่อนั้นมีบัลลังก์ที่หรู สร้างจากวัตถุดิบชั้นดี บนนั้นมีกล่องที่งดงามใบหนึ่งที่มีลวดลายลึกล้ำสลักอยู่.
“พี่ชาย.”
กู่เจ้าซีเอ่ย “สิ่งที่อยู่บนบัลลังก์นั่นเกรงว่าจะไม่ใช่ของธรรมดา ก่อนพวกเราออกไป นำมันไปด้วยดีกว่า.”
“ข้าก็คิดเช่นนั้น.”
ทั้งสองที่จ้องมองกันและกัน พร้อมกับเผยยิ้มที่ชั่วร้าย.
“เจ้านิกาย!”
ในเวลานั้น หลี่ชิงหยางที่ตะโกนเสียงดัง “ศิษย์น้องหญิงไปแล้ว!”
จุนซ่างเซียวและกู่เจ้าซีเร่งรีบหันหน้ากลับไป ก่อนจะเห็นเหยาเมิ่งหยิงไปหยุดที่หน้าบัลลังก์ พร้อมกับยื่นมือไปยังกล่องด้านหน้า ใบหน้าของนางที่เวลานี้ดูเลือนลอย แต่ดวงตาเปล่งแสงสีแดงชาติส่องสว่างเป็นอย่างมาก.
......
“วูซซซ!”
“วูซซซ!”
ที่ด้านนอกโลก ประตูโลหิตที่ปิดแน่นกำลังสั่นไปมาทันที.
เจิ้นเหรินตงกู่และเจิ้นหรินฉีเยว่ที่เงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า เผยท่าทางสับสน “เกิดอะไรขึ้น?”
“อิ อิ อิ!”
“อิ อิ อิ อิ!”
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะที่แปลกประหลาดดังก้องผ่านออกมาจากประตูโลหะ เสียงที่ดังก้องไปทั่วพิภพ “สิบนิกายเซียน พวกกลุ่มชาติพันธุ์งี่เง่า ฝันร้ายพวกเจ้ากำลังจะเริ่มแล้ว!”
“ไม่ได้การแล้ว!”
เจิ้นเหรินตงกู่และเจิ้นเหรินฉีเยว่ที่อุทานออกมาพร้อมกัน “บรรพชนมารกำลังจะคืนชีพ!”
“พรึด ซี พรีด ซี!”
ในเวลานั้น กระเรียนเซียนที่บินเข้ามาหาพวกเขา พร้อมกับส่งข่าวให้.
เจินเหรินฉีเยว่ที่มุมปากกระตุก เอ่ยออกมาว่า“ข้าเพิ่งได้รับข่าว ศิษย์เจ้าจุนซ่างเซียวนำศิษย์สองสามคนเข้าไปในเขตแดนโม่หยวน!”
“อะไรนะ?”
เจิ้นเหรินตงกู่ที่ดวงตาเบิกกว้าง แววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ตะโกนเสียงดัง “เขาไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์มาร จะเข้าไปทำบ้าอะไร!”