Chapter 1460 ประตูดินแดนโม่หวังปรากฏ
หมัดของเขาที่ต่อยไปยังอากาศ ก่อเกิดม่านพลังปกคลุมเหมือนกับกระจกกักสมาชิกของวังจางเยว่ที่หนีไปเอาไว้ กระบวนการดังกล่าว ทำให้จุนซ่างเซียวตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก.
ใครเห็นก็ต้องตื่นตกใจ พลังที่สามารถสร้างม่านพลังขึ้นที่ใหนก็ได้.
ระบบเอ่ยชม “คนผู้นี้มีพลังมิติ อยู่ในระดับสูงเป็นอย่างมาก!”
“ร้ายกาจ!”
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางเคารพ.
ผู้บริสุทธิ์ไม่ได้รับผล เหมือนแหขนาดใหญ่ที่จับสมาชิกวังจางเยว่ได้เกือบหมด มีเพียงยอดฝีมือระดับเก้าแกนสี่คนที่หนีไปได้!
“เฮ้อ.”
หลิวซือหนานที่ส่ายหน้าไปมา “หนีไปได้สี่คน.”
“......”
จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก เอ่ยกล่าวในใจ“หากไม่เพราะท่านมัวแต่พูดมากมาย กล่าวนั่นกล่าวนี่ ร่ายยาวตอนแรก พวกเขาจะหนีไปได้อย่างงั้นรึ?”
“ผู้เยาว์.”
หลิวซือหนานเอ่ย “ตอนนี้พวกเจ้าปลอดภัยแล้ว.”
“ขอบคุณที่ช่วยเหลือ!”จุนซ่างเซียวที่ยกมือประสาน คิดในใจ หากรับคนที่ทรงพลังเช่นนี้เป็นคนของนิกายนิรันดร จะทำให้นิกายทรงพลังขนาดใหนกัน.”
หลิวซือหนานที่เงยหน้าขึ้นจ้องมองประตูบนท้องฟ้า “ดินแดนโม่หยวนกำลังจะเปิดแล้ว สมาชิกวิถีมารกำลังมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อความปลอดภัย พวกเจ้าควรรีบจากไปซะ.”
!
นี่คิดว่า ข้าอ่อนแอมากขนาดนั้นเลยรึ?
ระบบเอ่ย “เทียบกับคนอื่น โฮสน์ก็อ่อนแอจริง ๆ.”
“......”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความลึกล้ำ“นับตั้งแต่ข้าเข้าร่วมโถงพิภพ ข้าก็ให้คำมั่นไว้ว่า ชั่วชีวิตจะปกป้องความยุติธรรมด้วยชีวิต แม้นว่าจะยืนอยู่ต่อหน้าอันตราย ก็จะทำหน้าที่โดยไม่ถอยกลับ!”
คำพูดดังกล่าว ไม่มีจุดอ่อนเลยแม้แต่น้อย ทักษะการแสดงที่สมจริงเป็นอย่างมาก ทำให้ซูเซียวโม่อยู่ด้านหลังเต็มไปด้วยความเคารพ“เทียบกับเจ้านิกาย ทักษะของข้าย่ำแย่กว่ามาก!”
“ไม่ใช่ว่าพี่ชายเป็นคนของโถงพิภพจริง ๆ หรอกนะ?”กู่เจ้าซีที่เอ่ยในใจ.
“ผู้เยาว์.”
หลิวซือหนานพยักหน้าชมเชย “ข้าชื่นชมพวกเจ้าจริง ๆ.”
“พี่ชายหลิว!”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “กล่าวตามจริง ข้าหวังที่จะเป็นเหมือนท่าน เป็นวีรบุรุษนักล่ามารพิทักษ์ความสงบของโลก!”
“ไม่แม้แต่สามารถปกป้องสตรีตัวเองได้ ข้าจะคู่ควรเป็นวีรบุรุษได้อย่างไรกัน.”หลิวซือหนานที่ก้าวออกไปยกโลงศพขึ้น เผยท่าทางโศกเศร้าปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าอีกครั้ง.
“เอิ่ม......”
จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ“บุรุษผู้นี้ดูเหมือนว่าจะมีความหลัง.”
“ฟู่!”
หลิวซือหนานที่ชี้ไปยังเจ้าสาขาในการคุมตัวของกู่เจ้าซี เอ่ยออกมาว่า“คนผู้นี้ข้าจะนำไปเอง.”
“เรื่องนี้......”
จุนซ่างเซียวที่สั่นไหว.
กว่าจะจับคนของวังจางเยว่ได้ไม่ง่าย หากถูกนำไปเช่นนี้ ไม่เสียเปล่าหรอกรึ? ที่เขาต้องเดินทางมาที่นี่.
“พี่หลิว.”
จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิด “คนผู้นี้ข้าจะนำไปให้จักรพรรดินิหลิงเหยา....”
ทว่ายังกล่าวไม่จบต้องหยุดลง เพราะว่าบนท้องฟ้า ประตูที่เป็นเหมือนภาพเงาตอนนี้กลายเป็นจริงที่เป็นเงาสีดำ มีลวดลายอักขณะที่แปลกประหลาด ลายลักษณ์ที่เหมือนกับหัวของสัตว์อสูรที่น่าเกรงข้ามกำลังอ้าปากอยู่.
หลิวซือหนานที่จ้องมองขึ้นไป พลางขมวดคิ้วไปมา “ประตูปรากฏแล้ว.”
“ฟิ้ว!”
ในเวลาต่อมา คลื่นละลอกสีดำที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า พัดออกมาจากประตูโลหิตขนาดใหญ่ ไม่เพียงกวาดไปทั่วเมือง ทว่ายังกระจายออกไปหลายพันลี้.
พริบตาที่สัมผัสกับพลังดังกล่าว จุนซ่างเซียวที่จิตใจสั่นไหวคล้ายถูกกัดกร่อน ทว่าพริบตาเดียวก็หายไป ดังนั้นเขาเอ่ยด้วยความประหลาดใจออกมา“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกัน?”
“นั่นคือคลื่นมาร.”
กู่เจ้าซีเอ่ยอย่างจริงจัง “ได้ยินจากนักเล่าเรื่อง มันเป็นการแจ้งเตือนไปยังผู้ฝึกยุทธ์มาร.”
“เจ้านิกาย!”
ในเวลานั้น หลี่ชิงหยางที่ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า กล่าวด้วยความตกใจ“ศิษย์น้องหญิงเล็กบินขึ้นไปแล้ว!”
จุนซ่างเซียวที่เงยหน้าขึ้น มองออกไปทันที เห็นเหยาเมิ่งหยิงที่ดวงตาเป็นประกายสีแดง หน้าผากมีรูปจันทร์เสี้ยวปรากฏ ราวกับว่าได้สูญเสียจิตใจกำลังมุ่งตรงไปยังประตูโลหะขนาดใหญ่แล้ว.
“ไป!”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ตามไป!”
“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่บินไปคนแรก หลังจากเข้าใกล้เหยาเมิ่งหญิง ก็ตะโกนเสียงดัง “สาวน้อย เจ้าเป็นอะไร?”
เหยาเมิ่งหยิงที่ไม่เอ่ยใด ๆ จนกระทั่งไปหยุดอยู่ห่างจากประตูโลหิตสิบจั้ง พร้อมกับยกมือขึ้นคล้ายพนมมือข้างเดียว.
ในเวลานั้น เหล่าผู้ฝึกยุทธ์มารต่างก็ไปหยุดที่เดียวกัน พวกเขาต่างก็เข้าล้อมกรอบประตูโลหะเอาไว้ พร้อมกับโค้งคำนับดั่งสาวกผู้ศรัทธา.
“น้องชาย เกิดอะไรขึ้น?”
“ข้าไม่รู้.”
“นักเล่าเรื่องไม่ได้บอกเจ้ารึ?”
“เขาไม่ใช่พหูสูตร บางเรื่องก็ไม่รู้.”
“......”
จุนซ่างเซียวพยายามตะโกนเรียกเหยาเมิ่งหยิง ทว่าอีกฝ่ายกับดูเหมือนว่าไม่ได้ยินอะไรเลย ดวงตาสีแดงที่ดูเหมือนจะเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย.
หลิวซือหนานเอ่ย “เหล่าผู้ฝึกตนมารจะส่งพลังความเชื่อออกมา หลังจากตรงตามเงื่อนไข ประตูโลหะก็จะเปิด.”
“เป็นแบบนี้นะเอง.”
จุนซ่างเซียวที่ตระหนักได้ทันที ทว่าจ้องมองออกไปด้วยความตกใจ ลอบคิดในใจ“เจ้านี่ก็มารึ? เมื่อกี้เพิ่งจับคนของวังจางเยว่ไปไม่ใช่รึ?”
......
หลังจากประตูโลหะคงสภาพแล้ว พื้นที่รอบ ๆ 2-3 พันลี้ ผู้ฝึกตนมารต่างก็บินเข้ามา.
พวกเขาที่มาล้อมกรอบประตู พร้อมกับโค้งคำนับส่งพลังความเชื่อ ทำให้ลวดลายของอักขระแปลก ๆ บนประตูเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ.
บรรพชนมารที่เปิดมิติแยกขึ้น นำสมบัติทั้งหมดใส่เอาไว้ และเปิดโอกาสให้เหล่าลูกหลานได้รับสมบัติ ซึ่งจะเปิดประตูด้วยพลังความเชื่อเท่านั้น.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ลวดลายกำลังจะเผยเต็มทั้งหมดแล้ว.”
หลิวซือหนานยังคงยืนอยู่ข้าง ๆ มือทั้งสองข้างที่กอดอก ผ้าคลุมด้านหลังที่มีอักขระ“ผู้กล้า” กำลังโบกสะบัดเสียงดัง.
โลงศพล่ะ?
เขาที่วางไว้ที่ถนน โดยใช้พลังม่านมิติปิดกั้นเอาไว้พร้อมกับสมาชิกวังจางเยว่นั่นเอง.
......
ถ้ำสวรรค์จื่อเต๋า.
เจิ้นเหรินตงกู่ที่จ้องมองไปยังทิศของประตูมาร เอ่ยออกมาว่า“ประตูกำลังจะเปิด.”
“หวังว่าจะไม่มีเรื่องราวอะไรเหมือนเช่นครั้งก่อน ๆ.”เจิ้นเหรินฉีเยว่เอ่ย.
ดินแดนโม่หยวนเปิดทุกหนึ่งร้อยปี ในแต่ละครั้งที่เปิด แม้นว่าจะมีคนมากมายเข้าไป ทว่าก็ยังไม่เคยมีใครได้รับการสืบทอดเลย ดังนั้นทั่วพิภพเบื้องบนจึงยังคงสงบ.
เหล่านิกายใหญ่ที่จับจ้องมองประตูมารเช่นกัน แม้นว่าจะเป็นเรื่องที่ใหญ่โต หากไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้อง ก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นัก.
“จู่ซ่าง.”
บนยอดเขาที่มีหมอกปกคลุม ชายชราหลังค่อมเอ่ย “นั่นจุนซ่างเซียว.”
จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ย “มีเขา ดินแดนโม่หยวนที่เปิดครานี้ บางทีคงมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นเป็นแน่.”
......
ผ่านไปราว ๆ ครึ่งชั่วยาม นับตั้งแต่ประตูคงรูป ผู้ฝึกตนมารจากทั่วสารทิศเวลานี้มีจำนวนหลายแสนคนแล้ว พวกเขาต่างก็มาอยู่รอบ ๆ ประตูโลหะ.
บางทีเพราะว่ามีหลิวซือหนาน จึงไม่มีผู้ฝึกยุทธ์มารเข้าใกล้ ดังนั้นกลุ่มของจุนซ่างเซียวจึงดูเด่นเป็นอย่างมาก.
“แก๊ก ๆ ---”
ในเวลาต่อมา เสียงที่ดังกึกก้อง ประตูโลหะที่ปิดอยู่ ค่อย ๆ ขยับ จากนั้นก็ปรากฏช่องขึ้นช้า ๆ.
“เปิดแล้ว.”
หลิวซือหนานที่กลายเป็นจริงจัง.
เขาที่ส่งจิตสัมผัสกวาดตามอง เหล่าผู้ฝึกตนมาร ด้วยเกรงว่าจะมีใครคลุ้มคลั่ง จะได้ลงมือจัดการ.
“ครืนนนน!”
“ครืนนนน!”
ประตูโลหะที่สั่นไปมา อ้าออกช้า ๆ ใหญ่ขึ้นและก็ใหญ่ขึ้น อากาศหนาวเย็นน่าพรั่นพรึงที่พัดออกมาจากด้านใน.
“ปัง!”
ในเวลาต่อมา ประตูโลหะที่เปิดออกอย่างสมบูรณ์.
เพราะว่าถูกปกคลุมด้วยหลุมดำ จึงไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในได้.
“เจ้านิกาย.”
เหยาเมิ่งหยิงเอ่ย “พวกเราสามารถเข้าไปด้านในได้.”
“หืม?”
จุนซ่างเซียวที่ตกใจเล็กน้อย.
สาวน้อยที่ดวงตาแดงชาด คล้ายกับถูกควบคุม ตอนนี้สามารถพูดได้อย่างงั้นรึ?
“ฟู่ ฟู่!”
ในเวลานั้น เหยาเมิ่งหยิงที่ยกมือขึ้น ปราณมารที่ปรากฏขึ้นรอบ ๆ ตัวนาง พร้อมกับปกคลุมเจ้านิกาย และพวกหลี่ชิงหยางอย่างรวดเร็ว“ไป!”
“ฟิ้ว ----”
ทุกคนราวกับถูกนางชักจูง ต่างก็เข้าไปในประตูอย่างรวดเร็ว.
หลิวซือหนานไม่ได้ตามเข้าไป เพราะว่าเขาไม่ใช่ผู้ฝึกตนมาร ไม่สนใจไปหาสมบัติเหล่านั้น ทว่าเขานั้นสีคางไปมา เอ่ยออกมาว่า“เด็กสาวคนนั้น ข้ารู้สึกแตกต่างจากผู้ฝึกตนมารคนอื่น ๆ เล็กน้อย.”