Chapter 1455 พี่ชายของข้าช่างใจดีนัก
ทำไมเหล่าชายร่างใหญ่ถึงได้มาขวางทาง?
เพราะว่า พวกเขากำลังต่อสู้กับอีกกลุ่ม เพื่อไม่ให้คนอื่นรบกวน จึงได้ปิดถนนเอาไว้นั่นเอง.
จุนซ่างเซียวนั้นไม่ต้องการเป็นจุดเด่น จึงไม่ต้องการสร้างปัญหา เขาที่เลือกจะหลีกทางเช่นกัน ทว่ากู่เจ้าซีกับไม่ยอม.
ต่อหน้าพี่ชายข้า กล้าพูดหยาบคาย มันต้องทุบ!
ด้วยเหตุนี้ เหล่าชายร่างใหญ่ที่ขวางทางเอาไว้ จึงกระเด็นลอยออกไป จากนั้นก็มีพวกที่สู้กันอยู่หลายสิบคนวิ่งกรูกันเข้ามา จากนั้นถูกทุบหมดสภาพไปเหมือนกัน นอกจากนี้เขายังไปนั่งบนกองคนเหล่านั้น พร้อมนำบุหรี่ออกมาสูบพ่นควันโขมง เอ่ยออกมาว่า“พี่ชาย ผ่านไปได้แล้ว.”
“......”
มุมปากจุนซ่างเซียวที่กระตุก.
น้องชายข้าสมกับเป็นกบฏ ที่ต้องปะทะกับโถงพิภพ เพราะอารมณ์ร้อนเช่นนี้นะเอง!
กลุ่มคนที่ปิดถนนเพื่อสู้กันเอง ตอนนี้ถูกกู่เจ้าซีทุบหมดสภาพทั้งสองกลุ่ม เหล่าชาวยุทธ์รอบ ๆ ที่จ้องมองด้วยแววตาหวาดกลัวขึ้นมาทันที.
“เจ้านั่นเป็นใครกัน?”
“เพียงไม่กี่หมัด ก็จัดการคนจำนวนมากหมดสภาพแล้ว!”
“คนของนิกายฮุ่นซือเสวียนและนิกายจี่หยวนเสวียนถูกทำร้ายแบบนี้ พวกเขาไม่ยอมอย่างแน่นอน.”
“ดูเหมือนว่ากำลังจะมีเรื่องสนุกแล้ว!”
เขตแดนโม่หยวนยังต้องใช้เวลาสักพักถึงจะเปิด ดังนั้นในเมืองโม่หยวนจึงมีผู้ฝึกยุทธ์มากมาย แน่นอนว่าช่วงรอย่อมมีคนต้องการชมเรื่องสนุก ๆ แก้เบื่อ.
จากนั้นไม่นาน การแสดงดี ๆ กำลังจะปรากฏขึ้นแล้ว!
กองกำลังของนิกายฮุ่นซือเสวียนและนิกายจี่หยวนเสวียนปรากฏขึ้นที่ถนนหลัก ด้วยใบหน้าเคร่งขรึมหยุดที่ด้านหน้าโรงแรมที่พัก.
สองนิกายมาร ที่เป็นศัตรูคู่แค้นกันมาก่อน กับมาร่วมมือกัน.
เหมือนกับนิกายอี้เจี้ยนเสวียนและหลิงเต้าเสวียนที่เป็นดั่งน้ำกับไฟ.
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาได้วางความแค้นไว้ก่อน เพราะมีเป้าหมายร่วมกัน.
ดังนั้น.
นิกายที่ไม่เป็นมิตร จึงจับมือชั่วคราวเพื่อจัดการกับนิกายนิรันดร.
“ใครมันกล้าทำร้ายคนนิกายข้าเมื่อครู่ ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี่!”ชายวัยกลางคนของนิกายฮุ่นซือเสวียนที่ตะโกนเสียงดังสนั่นออกไป.
“ระดับหมุนแกน!”
“ปัญหาเริ่มใหญ่แล้ว พวกเรารีบถอยออกมาให้ห่างเร็วเข้า!”
เหล่าคนที่ผ่านไปมาต้องการมาชมความสนุก ต้องเร่งรีบถอยออกมาให้ไกล ใกล้ ๆ ถนนเส้นทางดังไม่มีใครเหลืออยู่ บรรยากาศที่กลายเป็นอึมครึมทันที.
“กึก ซี่!”
ในเวลานั้น ประตูด้านหน้าของโรงแรมที่ปิดสนิท ก็ถูกเปิดออกมา.
“กึก!”
“กึก!”
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อพวกห้าคนที่สวมชุดสีดำก้าวออกมา.
“ซูมมมมมมม!”
กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงแผ่ออกมาปกคลุมทั่วถนน ใบหน้าและฝุ่นที่โบกพัดเหมือนกับพายุหมุนปรากฏขึ้น.
ถนนที่เปิดออก ห้าคนต่อฝ่ายตรงข้ามนับร้อย น่าเสียดาย ลี่ซ่างเทียนไม่อยู่ ไม่เช่นนั้นคงมีคนเก็บภาพเอาไว้ใส่กรอบไปวางที่โถงรูปภาพแน่.
“ชิ.”
ผู้ฝึกยุทธ์ทั้งสองนิกายแค่นเสียงดูแคลนออกมาทันที.
“อาวุโส!”
ผู้ฝีกยุทธ์คนหนึ่งเอ่ย “คนที่ทำร้ายพวกเราไม่ใช่เขา แต่เป็นเด็กหนุ่ม 12-13 ปี!”
ชายวัยกลางคนเอ่ยออกมาเล็กน้อย “รีบส่งผู้ทำความผิดมาซะ ไม่เช่นนั้น....”แวววตาของพวกเขาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร “พวกเจ้าจะต้องตายที่นี่ทั้งหมด!”
“.”
บนชั้นสองเสียงของจุนซ่างเซียวที่ดังขึ้น“วาจาใหญ่โตจริง ๆ.”
กู่เจ้าซี่เป็นตัวสร้างปัญหาแน่นอน ทว่าอย่าลืมว่าโกวเซิ่งเองก็เป็นอีกหนึ่งตัวสร้างปัญหาเช่นกัน ในเมื่อมีปัญหากับสองนิกายแล้ว เขาย่อมไม่คิดที่จะเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงเอ่ยกล่าวอย่างเกียจคร้าน “รีบจัดการแมงหวี่แมงวันไปให้หมดซะ.”
“รับทราบ!”
พวกหลี่ชิงหยางที่กล่าวตอบรับ จากนั้นก็สลัดผ้าคลุมออกมา เผยให้เห็นชัดฟอร์มนิกายที่มีอักขระ“นิรันดร”ปักอยู่.
นิรันดร?
ใครบางคนที่อุทานออกมา “นิกายนิรันดร!”
“เจ้านิกายนิรันดรที่เป็นลูกศิษย์สายตรงของเจิ้นเหรินตงกู่นะรึ?”
“ไม่ผิด!”
“เย็ดเข้ คนใหญ่คนโตนี่หนา!”
เมื่อหนึ่งคนบรรลุเซียน หมูหมากาไก่รอบตัวต่างขึ้นสวรรค์ไปด้วย โกวเซิ่งมีอาจารย์ที่ร้ายกาจมาก ทำให้สถานะของเขานั้นสูงขึ้นไปด้วย.
เมื่อคนของนิกายฮุ่นซือเสวียนและนิกายจี่หยวนเสวียน รู้สถานะของคนทั้งห้า แววตาที่เผยความหวาดหวั่นขึ้นมาทันที พร้อมกับร้องโอดครวญ “จบกัน เตะเข้ากับแผ่นเหล็กแล้ว!”
แม้แต่นิกายหลิงเหว่ยเจิ้นยังไม่กล้ายั่วยุเจิ้นเหรินตงกู่ พวกเขาเพียงแค่นิกายมารขั้นเสวียน เมื่อเห็นชุดของอีกฝ่าย พวกเขาถึงกับชะงักงัน กลายเป็นขาดเขลาขึ้นมาทันที.
ทำอย่างไร?
“ฟู่ ฟู่!”
ในขณะกำลังครุ่นคิด เย่ซิงเฉินก็พุ่งออกไปแล้ว พลังหนึ่งแกนหมุนที่ระเบิดออกมา เข้าโจมตีสองอาวุโสที่นำมาทันที.
“ตูมมม!”
“ตูมมม!”
“ตูมมม!”
การต่อสู้ในเมืองที่เริ่มขึ้นแล้ว.
......
หลังจากผ่านไปสิบนาที.
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ปิศาจนับร้อยที่นอนกุมท้องร้องโอดโอย กลิ้งไปมาบนพื้นแม้แต่มีบางคนแกล้งตายไปด้วย.
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อ คนทั้งห้าที่ราวกับอสุรกายจากขุมนรก.
“ดุร้าย!”
“อมหิตนัก!”
เหล่าผู้ชมที่ซ่อนอยู่ไกล ๆ หัวใจสั่นไหวหวาดกลัว.
เหล่าประจักพยาน ที่สามารถบรรยาย การต่อสู้ครั้งนี้ได้ คือ การไล่ทุบฝ่ายตรงข้ามเพียงฝ่ายเดียว!
“กึก.”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมาจากโรงแรม ไปนั่งบนเก้าอี้ ซึ่งเซียวจุ้ยจื่อได้เตรียมเอาไว้ก่อนแล้ว เอ่ยออกมาว่า“จับเอาไว้ให้หมด แล้วให้นิกายทั้งสองหาเงินมาไถ่ตัว.”
“รับทราบ!”
พวกหลี่ชิงหยางที่จับคน 110 คนมัดเอาไว้ และเอาไปขังไว้ในคอกม้า เก็บแหวนมิติทุกคนไว้ก่อนแล้ว การกระทำของพวกเขาดูเป็นมืออาชีพเป็นอย่างมาก!
“พี่ชาย.”
กู่เจ้าซีเอ่ย “หากเปลี่ยนเป็นข้า จะต้องสังหารพวกมันให้หมดแน่.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา “ทุก ๆ คนต่างก็มีญาติพี่น้อง เพื่อที่จะไม่สร้างความอาฆาตโดยไม่จำเป็น บางครั้งก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องสังหาร.”
“ทราบแล้ว.”
กู่เจ้าซีที่เอ่ยในใจ “พี่ชายของข้าช่างใจดีนัก.”
......
เพราะว่าต่อสู้กันบนถนนสร้างความเดือนร้อน ก่อนที่คนของนิกายฮุ่นซือเสวียนและนิกายจี่หยวนเสวียนจะถูกเด็กทุบตี จากนั้นก็ถูกศิษย์ห้าคนนิกายนิรันดรทำร้ายอีก กลายเป็นที่พูดคุยกันไปทั้งเมืองทันที.
“ฮ่าฮ่าฮ่า สองนิกายมารนั่นเตะเข้าไปยังแผ่นเหล็กแล้ว!”
“ข้าได้ยินว่าชายหนุ่มที่นั่งบนเก้าอี้คือเจ้านิกายนิรันดรจุนซ่างเซียว!”
“นี่ยังหนุ่มขนาดนี้เลย!”
“ศิษย์สายตรงอาวุโสตงกู่ แม้แต่โถงพิภพยังไม่กล้าหาเรื่อง!”
“บอกคนของพวกเราด้วย ให้ระวังตัว อย่าได้ไปเรื่องคนที่สวมชุดสีดำที่ไม่รู้สถานะ เดี๋ยวเตะเข้ากับแผ่นเหล็กอีก!”
ขณะผู้คนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น คนของนิกายฮุ่นซือเสวียนและนิกายจี่หยวนเสวียนก็มาถึงโรงแรม เตรียมทรัพยากรมาไถ่ตัวคนของพวกเขา.
“ทุกท่าน.”
“จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่หน้าโรงแรม เอ่ยออกมาว่า”คนล่ะหนึ่งแสนศิลาเสวียน.”
“หะ?”
คนระดับสูงทั้งสองนิกายถึงกับผวาไปเลย.
กู่เจ้าซีที่ยืนขึ้นตื่นตะลึงขึ้นมาเช่นกัน.
คนล่ะหนึ่งแสน ร้อยคนไม่ใช่สิบล้านหรอกรึ?
โอ้วสวรรค์ พี่ชายของข้าอมหิตจริง ๆ!
“แน่นอน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เงินเหล่านี้อาจจะดูเหมือนมาก แต่ก็ดูเหมือนน้อยเช่นกัน เขตแดนโม่หยวนกำลังจะเปิดแล้ว คนของพวกเจ้าแต่ละคนย่อมมีโอกาสที่จะได้รับสมบัติกลับมามากมาย.”
“.....”
คนระดับสูงของสองนิกายที่ใบหน้าบิดเบี้ยว.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “หากพลาดเวลานี้แล้ว จะต้องรออีกหนึ่งร้อยปี.”
“เจ้านิกายจุน.”
คนระดับสูงของนิกายฮุ่นซือเสวียนกล่าว“ลดหน่อยได้ใหม? นิกายของพวกเราไม่ได้มีเงินขนาดนั้น.”
“ตกลง.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เห็นแก่หน้านิกายของพวกเจ้า เปิ่นจั้วจะลดให้ 10% หากไม่มีจ่ายสามารถเขียนสัญญากู้ยืมได้.”
“ลด10% อย่างงั้นรึ?”
เหล่าผู้ชมที่เหลือกตามองบน ลอบคิดในใจ“ก็ยังแพงอยู่ดี!”
ดินแดนโม่หยวนใกล้จะเปิดแล้ว กองกำลังส่วนมากของพวกเขาถูกนิกายนิรันดรจับเอาไว้หมด นิกายฮุ่นซือเสวียนและนิกายจี่หยวนเสวียนไม่มีทางเลือก ต้องจ่ายออกไปสามล้านศิลาเสวียน ส่วนที่เหลือยอมจ่ายด้วยสัญญากู้เงิน.
หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จุนซ่างเซียวก็ยกมือประสานไปด้านหน้า “ยินดีที่ได้ร่วมมือ.”
“......”
คนระดับสูงของทั้งสองนิกายแทบกระอักโลหิตออกมา.
กู่เจ้าซีที่เห็นพี่ชายได้เงินมากถึงหกล้าน ดวงตาของเขาเป็นประกาย ลอบคิดในใจ“เรียนรู้! ต้องเรียนรู้เอาไว้แล้ว!”