Chapter 1452 บุตรแห่งพิภพ
สูตรสี่เซ็ตอุปกรณ์หวังป้าเทียน เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก หากหลอมออกมาได้ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยม.
จุนซ่างเซียวขาดสมุนไพร ทว่าไม่เคยขาดแร่ ต้องไม่ลืมว่าเพิ่งทำลายนิกายฟู่เฉียนและป่าหมอกปิศาจไป ได้รับแร่มาเป็นอย่างมาก สามารถที่จะหลอมออกมาได้จำนวนไม่น้อย.
“ติ๊ง! ติ๊ง!”
ราว ๆ สิบนาที สี่เซ็ตอุปกรณ์หวังป้าเทียนก็ปรากฏขึ้นในแหวนมิติ.
จากรูปลักษณ์แล้วแทบจะเหมือนกับเซ็ตเจิ้นหยาง ทว่าระดับของมันได้เพิ่มขึ้นหลายเท่า โดยเฉพาะเกราะอก ที่มีลวดลายอักขระที่ดูสลับซับซ้อนสลักเอาไว้.
“กึก ซี่!”
จุนซ่างเซียวที่เปิดประตูออกมา พร้อมกับสวมเกราะรบสีแดงเฉิดฉายก้าวออกมาจากห้อง เกราะแดงสดสะท้อนส่องสว่างแสบตา.
ประจวบเหมาะ หัวเหม่ยกุ้ยที่ก้าวออกมาพอดี เตรียมที่จะออกไปจัดการงานของนิกาย เห็นอีกฝ่ายสวมเกราะรบที่น่าเกรงขาม จึงได้หยุดชะงัก ดวงตางามที่กลายเป็นตื่นตะลึง.
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวขึ้นไปยืนบนโต๊ะศิลา นิ้วที่ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า แววตาที่เปี่ยมล้นด้วยความภาคภูมิ.
หัวเหม่ยกุ้ยเอ่ย “หากไม่มีผม คงจะดีกว่านี้.”
“ฟิ้ว!”
นางที่นำกรรไกรออกมา กล่าวด้วยรอยยิ้มหวาน “หรือ ให้ข้าช่วยสามีโกนผมดี.”
“......”
จุนซ่างเซียวแทบทรุด.
สตรีนางนี้ต้องการให้เขาหัวล้านอย่างเดียวเลย.
ระบบเอ่ย “ที่จริง การที่โฮสน์หัวล้านดูไม่ธรรมดาเหมือนกัน.”
“ก็มีเหตุผล!”
“ดังนั้น โกนหัวซะ.”
“ไปให้พ้น!”
เป็นเกราะรบที่ดูไม่เลว นอกจากนี้ยังสามารถสร้างม่านพลังป้องกันทั่วร่างด้วย ดังนั้นความแข็งแกร่งของมันควรจะทดสอบสักหน่อย.
แล้วจะทดสอบอย่างไร?
ง่าย ๆ เรียกหลี่ชิงหยางให้สวมชุดและต่อสู้กับเย่ซิงเฉินนั่นเอง.
......
บนยอดเขาหลัก ลานยุทธ์.
ศิษย์ที่มารวมตัวกันหลายคน เอ่ยเสียงเบา.
“กึก!”
ในเวลานั้น เย่ซิงเฉินที่ก้าวเข้ามา.
หลี่ชิงหยางเองก็ด้วย นอกจากนี้ยังสวมเกราะรบใหม่อีกด้วย รูปลักษณ์ที่ดูทรงพลังเป็นอย่างมาก.
“เริ่มได้.”
จุนซ่างเซียวที่เอ่ยเสียงดัง.
“ศิษย์น้อง.”
หลี่ชิงหยางยกมือประสาน “เชิญ!”
“ฟิ้ว!”
กล่าวจบ เย่ซิงเฉินที่พุ่งเข้าไป ก่อนที่จะใช้ฝ่ามือข้ามสวรรค์ออกมา.
“ตูมมม!”
“ตูมมม!”
“ตูมมม!”
ในเวลานั้น อาหนิวที่กระเด็นถอยหลังออกมา ใบหน้าเผยความตกใจ.
นอกจากเหออู๋ตี้ ในกลุ่มศิษย์แกนหลัก พลังโจมตีของเขานั้นดีที่สุด การจะเอาชนะศิษย์พี่รองก็ควรจะไม่มีปัญหา ทว่าหลังจากสิบกระบวนท่าเขาก็พ่ายแพ้อีกฝ่าย เรื่องนี้ทำร้ายความมั่นใจของเขาเป็นอย่างมาก.
“เจ้านิกาย!”
หลี่ชิงหยางเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “พลังป้องกันเพิ่มขึ้นกว่าเซ็ตเกราะเจิ้นหยางอีก!”
เขาที่ยังคงโคจรพลังวิญญาณออกไป เกราะอกที่ส่องแสงและปลอกข้อมือ ลวดลายอักขระที่เปล่งรัศมีออกมา ทำให้แผ่กลิ่นอายที่ดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก.
นี่คือหนึ่งในความสามารถของเกราะหวังป้าเทียน เพียงแค่ผสานพลังเข้าไป จะทำให้เพิ่มพลังขึ้นได้อีกหลายเท่า.
กล่าวได้ว่าหลี่ชิงหยางที่สวมเกราะทั้งพลังและความเร็วเพิ่มขึ้นจนเหนือกว่าเย่ซิงเฉิน ดังนั้นเพียงแค่สิบกระบวนท่าก็เอาชนะเย่ซิงเฉินได้แล้ว.
อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดอ่อนเหมือนกัน.
เพื่อที่จะเพิ่มพลังให้สูงขึ้น ก็กินพลังงานไปมากมายเช่นกัน.
เพียงแต่สู้ไม่นาน เห็นชัดเจนว่าแกนพลังของหลี่ชิงหยางถูกผลาญไปมากมาย.
“ยังพอยอมรับได้.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
แม้นว่าจะมีขีดจำกัดในการต่อสู้ แต่หากศิษย์ของเขาสวมใส่ชุดดังกล่าวแล้วเพิ่มพลังได้ 50% การจะเอาชนะการต่อสู้หรือหลบหนีก็จะไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน.
“อาหนิว.”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวเข้ามาเอ่ยออกไปว่า“เปิ่นจั้วมีอีกชุด เจ้าต้องการใหม?”
เย่ซิงเฉินที่กำลังหมดสภาพ เศร้าซึมเงยหน้าขึ้น เอ่ยออกมาอย่างไม่ลังเล“ต้องการ!”
ไม่ต้องบอกว่าเกราะรบดังกล่าวนั้นแม้นว่าจะไม่สามารถใช้ติดต่อกันได้ แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในไม้ตายเพิ่มพลังในการต่อสู้ในทันที.
ก่อนหน้านี้เขาเศร้าใจ ไม่ใช่อะไร เพราะเขาต้องการแข็งแกร่ง จะมาพ่ายแพ้ง่าย ๆ ได้อย่างไร!
......
เซ็นเกราะรบป้าหวังเทียน ที่จะถูกนำมาแทนที่เกราะรบเจิ้นหยาง ทว่าจำเป็นต้องใช้แร่มหาศาล ดังนั้นจุนซ่างเซียวจึงแจ้งไปยังนายน้อยหยวน ให้ซื้อวัตถุดิบดังกล่าวมา.
“ทำธุรกิจสมุนไพรแล้ว ก็ทำธุรกิจแร่อย่างงั้นรึ?”
หยวนเฟิงครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนที่จะออกไปติดต่อเหล่าพ่อค้าตระกูลใหญ่ต่าง ๆ ทันที.
เหล่าพ่อค้าสมุนไพรที่ร่วมมือด้วย ต้องน้ำตาตกในกันไปแล้ว เวลานี้ก็ถึงคราวของเหล่าพ่อค้าแร่แล้ว.
......
“ครืนนนน!”
ที่หลังเขา จุนซ่างเซียวที่นำเขตแดนลับเป็นตายมาวาง เอ่ยเสียงดัง “นับจากวันนี้ไป นี่คือสถานที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ของพวกเจ้า.”
เหล่าศิษย์ที่ได้ยินโลหิตก็พลุ้งพล่านขึ้นมาทันที.
“.”
จุนซ่างเซียวเอ่ยเสริม “เขตแดนลับนี้มีระดับสูงกว่าเดิม มีหลายระดับ จงพิจารณาตัวเองก่อนที่จะเข้าไปด้วย.”
“รับทราบ!”
หลี่ชิงหยางที่แจ้งไปยังศิษย์คนอื่น ๆ ในวันเดียวกัน.
พวกเขาที่เลือกโหมดง่าย แม้นว่าจะผ่านไปได้ในที่สุด ทว่าหลังจากออกมา พวกเขาถึงกับต้องนอนราบไปบนพื้นโดยไม่สนใจใครเลยทีเดียว.
“พี่ชาย.”
กู่เจ้าซีที่ก้าวเข้ามาเผยความสนใจ“ข้าเข้าไปเก็บประสบการณ์ได้หรือไม่?”
“แน่นอน.”
“ฟิ้ว!”
เขาที่กระโดดเข้าไปด้านใน เข้าไปยังเขตแดนลับเป็นตายทันที.
ในเวลาต่อมาเสียงที่ประกาศก้องดังไปทั่วนิกายนิรันดร “กู่เจ้าซีท้าทายโหมดนรก!”
“เฮ้ย!”
“ซิซูร้ายกาจมาก!”
“ในอดีตศิษย์น้องเย่เคยเข้าท้ายทายโหมดนรกเช่นกัน!”
“ฟิ้ว -----”
เหล่าศิษย์กำลังพูดคุยกันไปมาไม่จบด้วยซ้ำ กู่เจ้าซีก็ลอยกระเด็นออกมาจากหลุมน้ำวน เกลือกกลิ้งไปบนพื้น ขาแขนทั้งสองข้างกระตุกเป็นระยะ ๆ.
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา “ยกไปหอยา.”
......
ฟู่ ฟู่!
ซูมมม ซูมมม!
บนป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าที่เหมือนกับใบมีด มีสายลมที่โบกพัดกระเซ็นออกมาอย่างบ้าคลั่งไม่เป็นระเบียบ.
“กึก!”
“กึก!”
ในเวลาต่อมา ผู้ฝึกยุทธ์ผู้หนึ่งสวมชุดสีดำก้าวออกมาจากด้านใน เพราะว่าบรรยากาศที่มืดครึ้มยากที่จะมองเห็นรูปลักษณ์ได้.
“ศิษย์น้อย.”
บนท้องฟ้า บุรุษที่เหมือนกับเงาเอ่ยออกมาว่า“พลังบ่มเพาะของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
ร่างในชุดคลุมสีดำ เอ่ยออกมาว่า“เรียนอาจารย์ ศิษย์ก้าวไปถึงระดับห้าแกนหมุนแล้ว.”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
ร่างเงาที่หัวเราะเสียงดัง “เมื่อเหล่าฟู่นำเจ้ามา เพิ่งเข้าสู่ครึ่งก้าวปราชญ์ ไม่กี่ปีก็ก้าวถึงระดับห้าแกนหมุนแล้ว ควรค่าเป็นบุตรแห่งพิภพ ความเร็วในการยกระดับเหลือเชื่อจริง ๆ หลังจากนี้ยากที่จะคาดเดาอนาคตได้!”
“หากไม่เพราะอาจารย์ปลุกสายโลหิตให้กับข้า ศิษย์คงไม่สำเร็จถึงเพียงนี้.”ชาวยุทธ์ในชุดคลุมดำเอ่ย.
“ดังนั้น!”
ชายในร่างเงาเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “สัญญาสิบปีกับเจิ้นเรินตงกู่ เจ้าจะต้องชนะศิษย์อีกฝ่ายให้ได้ อย่าทำให้อาจารย์ผิดหวัง!”
“พรึด โครม!”
ชาวยุทธ์ชุดคลุมดำที่คุกเข่าลงบนพื้น เอ่ยออกมาว่า“ศิษย์จะต้องทำสุดความสามารถแน่นอน!”
“ฟู่!”
สายลมที่โบกพัดพยุงร่างของเขาเอาไว้.
“ศิษย์ข้า.”
ร่างเงาที่เอ่ยออกมาว่า“จำเอาไว้ หลังจากนี้อย่าได้คุกเข่าง่าย ๆ จงคุกเข่าให้กับบิดามารดาเท่านั้น!”
“ทราบแล้ว!”
“ไป ไปฝึกที่เทือกเขาหมื่นยอดกับอาจารย์.”
......
ถ้ำสวรรค์จื่อเต๋า.
หลังจากที่เจิ้นเหรินฉีเยว่วางหมากลงบนกระดานก็เอ่ยออกมาว่า“ข้าได้ยินมาว่า ศิษย์ของเจิ้นเหรินกู่หงนั้นมาจากพิภพเบื้องล่าง นอกจากนี้ยังเป็นบุตรแห่งพิภพ เวลาสิบปีบางทีอาจจะทำให้เจ้าเสียเปรียบ.”
“ชิ.”
เจิ้นเหรินตงกู่กล่าวหยัน “จากดินแดนที่แห้งแล้งเช่นพิภพเบื้องล่าง สามารถกลายเป็นบุตรแห่งพิภพได้ง่าย ๆ อย่างงั้นรึ?”
“จะว่าไปก็ใช่.”
เจิ้นเหรินฉีเยว่เอ่ย “ทว่าเจ้าไม่สามารถปฏิเสธได้ ว่าเจิ้นเหรินกู่หงนั้นมีความสามารถในการฝึกฝนศิษย์ได้ บางทีบุตรแห่งพิภพทั่วไป อาจจะกลายเป็นสุดยอดฝีมือในเวลาเพียงแค่สิบปีเท่านั้น.”
“เจ้าคิดว่าข้าจะแพ้อย่างงั้นรึ?”
“ทุกวันเจ้าเอาแต่เดินหมากกับข้า ไม่ได้สนใจการฝึกฝนของเจ้านั่นเลย แล้วจะไปชนะอีกฝ่ายได้อย่างไรล่ะ?”
“อย่าได้เอ่ยถึงศิษย์บ้านั่น ข้าไม่สามารถสอนมันได้แล้ว!”
เขาที่ฝึกฝนจุนซ่างเซียวสองปี กับไม่ตัดผ่านไปถึงระดับสองแกนได้ เจิ้นเหรินตงกู่รู้สึกขุ่นข้องใจไม่น้อย เอ่ยอย่างรำคาญ “ข้ารับเจ้านั่นเป็นศิษย์ กลายเป็นเรื่องที่เสียใจที่สุดจริง ๆ.”