ตอนที่ 5 ผีหลอก
ตอนที่ 5 ผีหลอก
เวลา 23:11 น.
ผมได้วิ่งออกมาด้วยท่าทางเร่งรีบ หลังจากแยกทางกับมิกะ
หลังจากที่ผมเดินไปถึงหน้าบ้านแล้ว ผมก็เพิ่งนึกออกว่า ผมได้นัดเจอกับเอมิที่สวนสาธารณะตอน 23:00 น. คืนนี้
และก็ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ที่ผมกำลังรีบวิ่งไปที่จุดนัดพบ เมื่อมาถึงจุดนัดพบสภาพของผมก็เต็มไปด้วยเหงื่อ
หันซ้ายขวาดูก็ไม่เจอใคร เพราะเป็นช่วงเวลานี้ค่อนข้างดึกแล้ว
“พี่!! ก็บอกแล้วไงว่า 23:00 น. ตรง! เกือบจะไม่ทันแล้วเนี่ย ตามมาเร็ว!” เอมิที่อยู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมา พูดออกมาด้วยท่าทางหัวร้อน
แม้จะยังสับสนกับสถานการณ์ตรงหน้า แต่ผมก็รีบวิ่งตามเธอไป เมื่อวิ่งตามเธอไปเรื่อยๆ เอมิก็มาหยุดอยู่ตรงมุมหนึ่งของเสาไฟฟ้า ก่อนจะให้ผมหันไปมองผู้หญิง 2 คน
“เห็นนั่นไหม”
ผมพยายามสังเกตมองไป ก็เห็นว่าเป็นผู้หญิง 2 คนที่สภาพไม่ค่อยดี
คนหนึ่งเมาแอ๋ไม่ได้สติ ส่วนอีกคนหนึ่งก็พยายามพยุงเพื่อนของตัวเองอยู่
คนที่เมาแอ๋ไม่ได้สตินั้นเป็นคนที่ผมรู้จัก เธอก็คือ เอมิกะ ครูประจำชั้นของผมนั่นเอง ส่วนอีกคนที่เดินมาด้วยนั้นผมไม่แน่ใจ
“ทุกๆ วันศุกร์ ดูเหมือนเธอจะมากินเลี้ยงแถวนี้เป็นประจำนะ ก่อนจะดื่มจนไม่ได้สติอย่างที่เห็น และจะถูกเพื่อนหามไปที่อพาร์ทเม้นท์”
“แล้ว?” ผมถามอย่างสงสัย
“ไอ้พี่โง่ หัดใช้สมองเท่าเม็ดถั่วในกะโหลกนั้นคิดหน่อยสิ ในสถานการณ์แบบนี้น่ะนะ หากเพิ่มสมการอะไรบางอย่างลงไป มันจะกลายเป็นโอกาสดีๆ นี่แหละ!”
ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่เอมิพยายามจะบอก แต่ก็พยักหน้าเออออตามไป เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของพี่ชายอันน้อยนิดที่มีอยู่
“ดูนะ” เธอพูดพร้อมกับลอยตัวไปหาผู้หญิงสองคนนั้น..
…
“โถ่.. ทำไมต้องเป็นฉันเนี่ย”
หญิงสาวที่กำลังพยุงเพื่อนตัวเองไปส่งอพาร์ทเม้นท์อยู่ บ่นออกมาอย่างเหนื่อยใจ
“การที่ให้ผู้หญิง 2 คนมาเดินดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ มันจะไม่อันตรายไปหน่อยเหรอ”
เดินไปเธอก็บ่นไปไม่หยุด ขณะกวาดสายตามองดูสองข้างทางที่ค่อนข้างมืดและไร้ผู้คนสัญจร
ด้วยบรรยากาศอันน่ากลัวแบบนี้จึงทำให้เธอรู้สึกกลัวไม่ใช่น้อย เธอจึงพยายามรีบเดินให้ไปถึงอพาร์ทเม้นท์ของเพื่อนสาวตัวเองไวๆ
และแล้วในขณะที่เธอภาวนาไม่ให้มีตัวอะไรออกมาเหมือนในหนังผีอยู่นั้น อยู่ๆ เธอก็รู้สึกหนาวไปทั้งตัว
พร้อมกับเสียงแมลงที่อยู่รอบๆ ก็เงียบลงไปอย่างไม่มีสาเหตุ ไม่เพียงแค่นั้นไฟข้างทาง ที่ให้แสงสว่าง อยู่ๆ มันก็ติดๆ ดับๆ ขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
“ไม่นะ! ไม่ๆๆ ไม่เอาแบบนี้สิ!” หญิงสาวที่กำลังช่วยพยุงร่างของเพื่อนอยู่ ได้พูดขึ้นมาอย่างหวาดกลัว
บรรยากาศรอบๆ เริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เธอรู้สึกตื่นตระหนกอยู่นั้น สายตาของเธอก็ได้ หันไปเห็นอะไรบางอย่างเข้า
สิ่งที่เธอเห็นก็คือ ร่างกายของเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่สวมชุดนักเรียน เด็กผู้หญิงคนนั้นได้ยืนหันหลังให้เธออยู่
ทันทีที่เห็นร่างนั้น หญิงสาวก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว และแล้ว ในที่สุดหญิงสาวตัวเล็กในชุดนักเรียนค่อยๆ หันหน้ามาหาเธอ
จากตอนแรกที่ร่างกายของเด็กคนนั้นดูไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ยิ่งหันหน้าเข้ามาหาเธอมากขึ้นเท่าไหร่ เลือดและบาดแผลก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนตัวของเด็กสาวมากขึ้นเท่านั้น
สภาพของเด็กสาวที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลลำไส้ทะลักออกมาพร้อมดวงตาที่หลุดออกไป มันเป็นภาพอันน่าสยดสยองที่ทำให้เธอแทบจะสติหลุด
เด็กสาวในชุดนักเรียนได้ส่งยิ้มให้เธอ ด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งหนังหุ้มเนื้อ เหลือให้เห็นแต่เนื้อแดงๆ ที่เต็มไปด้วยเลือด
ไร้ซึ่งเสียงกรีดร้องใดๆ วินาทีนั้นเธอได้ปล่อยร่างของเพื่อนสาวทิ้งไป ก่อนจะรีบวิ่งหนีด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด..
…
“สยองแท้..” ผมที่ได้มองดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ พูดออกมาก่อนจะเดินไปหาเธอ
เมื่อผมเดินเข้ามาใกล้ร่างกายอันน่าสยดสยองของเอมิก็ได้หายไป และกลับมาสู่สภาพปกติ
แม้สภาพอันน่าสยดสยองที่เอมิใช้หลอกผู้หญิงคนนั้นจะดูน่ากลัว แต่มันกลับไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเลย
ยิ่งเห็นเธอในสภาพนั้นแล้ว มันกลับทำให้ผมรู้สึกเศร้าเสียมากกว่า สาเหตุก็เพราะ สภาพที่เอมิใช้หลอกผู้หญิงคนนั้นไป มันเป็นสภาพเดียวกับตอนที่เธอถูกรถบรรทุกชนจนตายนั่นเอง..
“ทำเกินไปหน่อยหรือเปล่านะ?” เอมิพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดนิดหน่อย
“เกินไปเยอะเลยล่ะ ดีนะผู้หญิงคนนั้นไม่หัวใจวายไปซะก่อน”
“ช่างเถอะ โอกาสมาถึงแล้วพี่จัดการเลย!” เอมิเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพูดชักชวนให้ผมทำอะไรที่ไม่ดีบางอย่าง
“คร้าบๆ” ผมพูดขึ้นอย่างไม่มีทางเลือก ก่อนจะพยุงร่างกายของ คุณครูประจำชั้นขึ้นมา
ผมพยายามเดินพยุงร่างของ เอมิกะ ไปส่งที่อพาร์ทเม้นท์ของเธอ เพื่อดำเนินการทำบางอย่างต่อไป..
つづく