ตอนที่แล้วตอนที่ 127 เซี่ย ซินเหยา ป่วย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 129 คำเชิญงานแต่งงาน

ตอนที่ 128 พลังแฟนของ ซูเหวิน


“คุณหมอ เราควรทำอย่างไรดีตอนนี้?”

“เธอผล็อยหลับไปแล้ว ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น”

ในห้องพยาบาล ซูเหวิน มอง เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ แต่ศีรษะพิงไหล่ของเขาอยู่ เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะ หรือร้องไห้ดี

เมื่อกี้ตอนที่เขาแบก เซี่ย ซินเหยา มาที่ห้องพยาบาล

เซี่ย ซินเหยา เธอก็ผล็อยหลับไปก่อนแล้ว

ด้วยความจนใจ เขาจึงต้องวางอีกฝ่ายไว้บนเก้าอี้ และพยายามปลุกเธอให้ตื่นขึ้น

แต่หลังจากเขาพยายามปลุกอยู่หลายครั้ง เซี่ย ซินเหยา เธอก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

เขาที่คิดว่าอาการไข้ของ เซี่ย ซินเหยา รุนแรงขึ้น จึงทำให้เธอผล็อยหลับไป

แต่เมื่อเผชิญกับความจนใจของ ซูเหวิน หมอหญิงในห้องพยาบาลกลับปิดปากหัวเราะร่วนออกมา ก่อนพูดด้วยรอยยิ้มขำๆ ว่า : “บอกฉันหน่อยสิ เพื่อนร่วมชั้น ซู คุณมอง เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ของคุณเป็นตุ๊กตากระเบื้องหรืออย่างไร? กลัวว่าหากเผลอไปชนกระแทกเธอเข้าจะแตกหรือ?”

“แค่วิธีการปลุกคนแบบคุณเมื่อกี้นี้มันน่าทึ่งมาก เสียงดังไม่เท่ากับยุงบิน มันคงจะน่าแปลกหากสามารถปลุกคนให้ตื่นขึ้นมาได้”

หมอหญิง รู้สึกพูดไม่ออก

แต่แล้วเธอก็พูดต่อว่า : “แต่.. ไม่เป็นไร แค่วัดอุณหภูมิให้เธอเท่านั้น ถ้ามีไข้ก็ให้น้ำเกลือเธอ ไม่จําเป็นต้องปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมาหรอก”

“เอ่อ...โอเคครับ!”

ฟังหมอหญิงพูดแบบนี้

ซูเหวิน เกาหัว และรู้สึกเขินๆ บ้างเล็กน้อย

เพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมานั้นก็ถูก เสียงที่เขาพยายามปลุก เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เมื่อกี้ ..ไม่ดังจริงๆ

ท้ายที่สุดแล้ว เสี่ยวเหยา กำลังป่วย และเขาไม่กล้าตะโกนเสียงดังเกินไปเพื่อปลุกเธอจริงๆ

แต่แล้วคำแนะนำของหมอหญิงก็ทำให้ ซูเหวิน ต้องเผชิญกับความยากลำบากอีกครั้ง

“เอาสิ่งนี้ไปไว้ใต้รักแร้ วัดอุณหภูมิให้เธอ”

พูดพลางหมอหญิงก็หยิบเอาปรอทวัดไข้ออกมาเขย่า แล้วยื่นส่งให้กับ ซูเหวิน ก่อนกล่าวให้คำแนะนำ

“เอ่อ.. ให้ผมทำเหรอ?”

ซูเหวิน ตกตะลึงไปจริงๆ แบบนี้มันไม่ดีมั้ง?

“แน่นอน คุณทำนะดีแล้ว หรือคุณไม่ใช่แฟนของเธอ?”

“กับเรื่องแค่นี้ มันมีอะไรให้น่าอายล่ะ?”

หมอหญิงรู้สึกพูดไม่ออกอีกครั้ง

แม้ว่าเธอจะไม่ใช่นักศึกษาของมหาลัย แต่เธอก็เป็นแพทย์ในมหาลัย หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในมหาลัยเหตุใดเธอจะไม่รู้..

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสองคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเธอ

และต้องถามก่อนว่านักศึกษาคนใดบ้างที่ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองคน?

“โอเค!”

ซูเหวิน พยักหน้า

หมอพูดแบบนี้แล้ว เขาก็ทําอะไรไม่ได้ คงต้องวัดอุณหภูมิร่างกายให้ เซี่ย ซินเหยา ก่อน

พูดจบเขาก็หยิบปรอทวัดไข้ขึ้นมา

จากนั้นรูดซิปเสื้อโค้ทของ เซี่ย ซินเหยา ออก แล้วปลดกระดุมคอด้านในออก ยกแขนของเธอขึ้นเบาๆ แล้วยัดปรอทวัดไข้ใส่ไว้ใต้รักแร้ของเธอ แล้วกดแขนเธอให้หนีบมันไว้

ทุกขั้นตอนเขาทำมันอย่างระมัดระวังอย่างมากเป็นราวกับแฟนหนุ่มที่ดี

แม้แต่หมอหญิงก็อดไม่ได้ที่จะมองด้วยความอิจฉา

ห้านาทีต่อมา เมื่อ ซูเหวิน หยิบปรอทวัดไข้ออกมาอีกครั้ง ปรากฎว่า เซี่ย ซินเหยา มีไข้สูง

สูงกว่า 38 องศา เหมือนไข้จะสูงขึ้น

เมื่อหมอหญิงเห็นดังนั้น เธอก็ขอให้ ซูเหวิน อุ้ม เซี่ย ซินเหยา ไปที่เตียงคนไข้ในห้องด้านในทันที จากนั้นเธอก็เตรียมยาให้ เซี่ย ซินเหยา พร้อมกับให้น้ำเกลือ

ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงกว่าๆ ไข้ถึงจะทุเลาลง

ในที่สุดใบหน้านวลของเธอก็เริ่มกลับมามีเลือดฟาดขึ้นมาเล็กน้อย และเซี่ย ซินเหยา เวลานี้เธอค่อยๆ ปรือตาตื่นขึ้นมาแล้ว

“เป็นไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง?”

เมื่อเห็น เซี่ย ซินเหยา ตื่นขึ้นแล้ว ซูเหวิน ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ และคอยเฝ้าดูเธอตลอดเวลาก็อดไม่ได้ที่จะถามเบาๆ

“อือ.. ไม่ปวดหัวแล้ว แต่แค่ยังรู้สึกไม่มีแรง”

เซี่ย ซินเหยา เธอยิ้มเล็กน้อยพลางตอบกลับ

“ฉันหลับไปนานแค่ไหนแล้ว คุณอยู่ที่นี่กับฉันมาตลอดเลยเหรอ?”

จากนั้น เซี่ย ซินเหยา ก็คลุมผ้าห่มอีกครั้ง โดยเผยให้เห็นศีรษะครึ่งหนึ่งของเธอ ก่อนจะชำเลืองมอง ซูเหวิน ด้วยดวงตากลมโตน่ารักของเธอ แล้วกระซิบถามด้วยเสียงแผ่วเบาดุจกิ่งหลิวที่พลิ้วไหว

“แน่นอน คุณอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแฟนของคุณดีแค่ไหน”

“ก่อนหน้านี้เมื่อเขาแบกคุณมาถึงที่ห้องพยาบาลนี้ เขาก็ดูแลคุณด้วยความรักความห่วงใยมาโดยตลอด ทำเอาฉันนี่รู้สึกอิจฉาแทบตายแน่ะ”

ในเวลานี้หมอหญิงบังเอิญเข้ามาได้ยินคําถามของเธอเข้าพอดี เนื่องจากเธอจะต้องเข้ามาเปลี่ยนถุงน้ำเกลือให้กับ เซี่ย ซินเหยา

ดังนั้นก่อนที่ ซูเหวิน จะทันได้พูดอะไร เธอก็พูดตอบไปก่อนแล้ว

พอคําพูดนี้หลุดออกมา เซี่ย ซินเหยา ก็ตกตะลึงก่อนจะก้มหน้างุดมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มเล็กน้อยก่อนในตอนแรก

จากนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปาก และใบหน้าของเธอก็มีความสุขขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากที่หมอหญิงเปลี่ยนถุงน้ำเกลือแล้วเธอก็ออกไป

ดวงตากลมโตน่ารักของเธอก็เปล่งประกายสดใสมันเต็มไปด้วยความหลงใหล และความชื่นชม

เวลานี้เธอแทบจะเขียนคำว่า ‘ชอบ’ (喜欢) ไว้บนใบหน้าแล้ว

“คงจะดีไม่น้อยถ้าฉันป่วยทุกวัน เพื่อที่คุณจะสามารถมาดูแลฉันได้ ..ในทุกวัน”

เซี่ย ซินเหยา อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

เมื่อมองเห็นสายตาที่จ้องมองมาของอีกฝ่าย และคําสารภาพที่ไม่ถือว่าเป็นคำสารภาพ ซูเหวิน ก็อดจะยิ้มหัวเราะไม่ได้

“พูดอะไรโง่ๆ ป่วยอึดอัดไม่สบายขนาดนี้ คุณยังอยากจะให้เกิดขึ้นทุกวันอีก แล้วแบบนี้คุณจะไปทนได้ยังไง?”

“อีกอย่างหากคุณอยากให้ผมดูแลคุณในทุกวัน งั้นผมก็จะดูแลคุณทุกวัน แล้วทำไมถึงจำต้องรอให้คุณป่วยด้วย?”

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็เอื้อมมือไปแตะสัมผัสหน้าผากของ เซี่ย ซินเหยา ก่อนจะจัดปอยผมให้เธอแล้วลูบหัวของเธอเบาๆ

“จริงเหรอ?”

พอได้ยิน ซูเหวิน พูดแบบนี้ เซี่ย ซินเหยา ก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างขึ้นอีก และถามคำถามเขาอย่างคาดหวัง

“อืมม อย่าลืม.. ผมเป็นคนรักษาคำพูดนะ”

ซูเหวิน กล่าวอย่างมั่นใจ

“คุณหิวไหม อยากจะกินอะไรหรือเปล่า ผมจะได้ออกไปซื้อให้?”

ซูเหวิน ถามอีกครั้ง

เพราะเป็นเวลาเที่ยงแล้ว กอปรกับเธอมีอาการป่วยด้วย

ซูเหวิน รู้สึกว่ายังจำเป็นต้องเติมเต็มท้องของเธอ

“ฉันอยากกินสตรอเบอร์รี่ กับส้ม”

เซี่ย ซินเหยา คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูด

อาการป่วยของเธอดีขึ้นเล็กน้อยจริงๆ และเป็นธรรมดาที่นิสัยรักการกินของเธอจะเผยออกมาให้เห็น

“คุณไม่อยากกินข้าวเหรอ?” ซูเหวิน รู้สึกประหลาดใจมาก

เซี่ย ซินเหยา ส่ายศีรษะ : “ฉันไม่อยากกิน”

“โอเค งั้นผมจะออกไปซื้อให้เดี๋ยวนี้ คุณรอสักครู่”

พูดพลาง ซูเหวิน ก็ลุกขึ้นออกไปข้างนอก

ก่อนออกไปเขาไม่ลืมสอบถามหมอก่อน เมื่อพบว่าเธอสามารถกินผลไม้ได้ เขาจึงไปที่ร้านขายผลไม้ภายในมหาลัย เพื่อซื้อผลไม้มา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า เซี่ย ซินเหยา จะบอกว่าไม่อยากกินข้าว แต่ ซูเหวิน คิดว่ามันจะดีกว่าที่จะกินข้าวสักนิดก่อนที่จะกินผลไม้

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผลไม้ก็ไม่ใช่ว่าทำให้คุณอิ่มท้อง

และถ้ากินมันตอนท้องว่างก็จะทำให้ท้องอืดได้ง่ายขึ้นอีก

อาการไข้ของ เซี่ย ซินเหยา เพิ่งลดลง และคงปล่อยให้เธอป่วยไม่ได้อีกแล้ว

เขาจึงวิ่งไปที่โรงอาหารอีกครั้ง และซื้อข้าวมา 2 กล่อง

กล่องหนึ่งเขาได้สั่งอาหารที่ เซี่ย ซินเหยา ชอบกินมากที่สุด จากนั้นจึงรีบกลับไปที่ห้องพยาบาล

“มากินข้าวก่อนดีกว่า!”

“แม้จะกินแค่ไม่กี่คําก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวที่เหลือผมจะกินให้เอง”

เมื่อ ซูเหวิน กลับมาถึงห้องพยาบาล และเขาก็ช่วยพยุง เซี่ย ซินเหยา ให้ลุกขึ้นมา เขาไม่ได้ส่งผลไม้ไปให้ เซี่ย ซินเหยา ก่อน แต่เขากลับวางกล่องข้าวไว้ข้างหน้าเธอแทน

เซี่ย ซินเหยา พยักหน้า และรู้ว่า ซูเหวิน เป็นห่วงตัวเอง เธอจึงเลือกเปิดกล่องข้าว และตัดสินใจกินข้าวสักนิดก่อน

“ซี่โครงหมูตุ๋น(红烧排骨) มะเขือเทศผัดไข่(西红柿炒鸡蛋) และมะเขือม่วงผัดซอส(酱爆茄子) ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของโปรดของฉัน”

เซี่ย ซินเหยา ประหลาดใจเล็กน้อยแล้ว

“ผมรู้ว่านี่เป็นของโปรดของคุณ ผมเลยตั้งใจสั่งมันมาให้เป็นพิเศษ”

ซูเหวิน ยิ้ม พลางอธิบาย

คําอธิบายนี้ของ ซูเหวิน เซี่ย ซินเหยา กับยิ่งตกใจมากขึ้น

ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่กับ ซูเหวิน มาเป็นเวลานาน

อย่างไรก็ตาม เธอเองก็ไม่เคยบอก ซูเหวิน เลยว่าเธอชอบกินอะไร

เห็นได้ชัดว่านี่ ซูเหวิน ได้เอาใจใส่ตัวเธอเองมากๆ

ทันใดนั้น เซี่ย ซินเหยา ก็รู้สึกมีความสุขมาก (*^▽^*)

จากนั้นเธอจึงหยิบตะเกียบขึ้นมา แล้วเริ่มกินมันอย่างมีความสุขทันที

แม้ปากเธอจะบอกว่าไม่หิว แต่เธอก็ยังกินไปได้กว่าครึ่งกล่องให้แล้ว นั่นเพราะทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของโปรดของเธอ

สุดท้ายแล้วเธอกินต่อไปไม่ไหวจริงๆ นี่ถึงยื่นส่งให้กับ ซูเหวิน

ซูเหวิน ก็ไม่ได้คิดฝืนบังคับเธอ จากนั้นเขาจึงเอาสตรอเบอร์รี่ที่ล้างล่วงหน้าแล้ว และส้มที่ปอกเปลือกแล้วใส่จานเล็กๆ กับให้เธอ

ส่วน ซูเหวิน ที่เริ่มหิวนิดหน่อยพอดีก็เริ่มกินของตัวเอง

หลังจากเขากินข้าวกล่องของตัวเองเสร็จ

ก็หยิบกล่องข้าวกลางวันที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งของ เซี่ย ซินเหยา ขึ้นมากินอีกครั้ง

เพียงแต่ก่อนที่เขาจะทันได้กินเสร็จ ในเวลานี้โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น

ซูเหวิน ที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และพบว่าคนที่โทรเข้ามานี้จริงๆ แล้วเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่าของเขา หวงอิ๋ง…

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด