ตอนที่ 1 นี่เธอ.. เป็นผีงั้นเหรอ?
ตอนที่ 1 นี่เธอ.. เป็นผีงั้นเหรอ?
ภายในงานศพ
บรรยากาศในงานถูกปกคลุมไปด้วยความเศร้า ผู้คนต่างเข้ามาแสดงความเสียใจให้กับผู้ที่จากไป
ตรงมุมหนึ่งของพื้นที่จัดงานนั้น มีโรงศพสีขาวตั้งอยู่ หน้าโรงศพมีดอกไม้ประดับประดาดูงดงาม พร้อมทั้งมีรูปถ่ายของเด็กสาวอยู่คนหนึ่งตั้งอยู่
ภายในกรอบรูปนั้น เป็นรูปของเด็กสาวไว้ผมสั้น แต่งกายด้วยชุดนักเรียนสีขาว ใบหน้าของเธอนั้น กำลังยิ้มแย้มอยู่อย่างน่ารัก
ไม่ไกลจากตัวผมนัก มีผู้หญิงอายุราวๆ 40 กว่าปี กำลังนั่งร้องไห้อยู่ โดยมีสามีของเธอกำลังนั่งปลอบใจ อยู่ข้างๆ ไม่ห่าง
ไม่แปลกเลย ที่ผู้เป็นแม่จะร้องไห้เสียใจขนาดนั้น เพราะคนที่จากไปนั้นก็คือลูกสาวของเธอเอง
ลูกสาวของเธอได้ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนขณะไปโรงเรียน ร่างกายของเด็กสาวคนนั้นได้ถูกรถบรรทุกชนเข้าอย่างจัง จนร่างกายแหลกเละไม่มีชิ้นดี ทั้งดวงตาที่หลุดกระเด็นออกมา ร่างกายแขนขาที่หักงออย่างผิดรูป แถมยังมีอวัยวะภายในบางส่วนที่ไหลทะลักออกมา
ถ้าถามว่าทำไมผมถึงรู้ลึกขนาดนั้น เหตุผลก็ง่ายๆ นั่นก็เพราะตอนที่เธอถูกชนนั้น เป็นตอนที่เธอกำลังคุยอยู่กับผมนั่นเอง..
ใช่แล้ว เด็กสาวที่ผมกำลังพูดถึงอยู่ นั่นก็คือน้องสาวของผมเอง หากเป็นในอนิเมะ เรื่องราวแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คงจะเป็นการที่ผมดึงตัวของเธอออกไป และเอาตัวเองไปรับแทน ได้ตายอย่างฮีโร่ ก่อนจะได้รับพรจากเทพธิดา และไปเกิดใหม่ในต่างโลกอะไรแบบนั้น
“นี่ๆ ดูสิ เด็กคนนั้นเป็นพี่ชายของเด็กที่ตายไปแท้ๆ แต่เขากลับไม่แสดงอาการเสียใจออกมาเลย นี่เขารักน้องสาวของตัวเองบ้างหรือเปล่าเนี่ย”
ในระหว่างที่ผมกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงผู้คนรอบข้างที่กำลังนินทาตัวผมกันอยู่
ก็คงไม่แปลกที่พวกเขาเหล่านั้นจะคิดแบบนั้น ก็เพราะท่าทางของผมในตอนนี้ดูนิ่งสงบ ไม่แสดงอาการอะไรออกมา
ผมได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะลุกเดินออกมาจากงาน ไม่ใช่ว่าผมจะไม่รู้สึกเสียใจต่อการจากไปของน้องสาวตัวเองแต่อย่างใด
แต่ที่ผมไม่ได้แสดงอาการเสียใจออกมานั้น นั่นก็เพราะมันมีเหตุการณ์พิเศษกำลังเกิดขึ้นอยู่ต่างหาก
เมื่อเดินออกมาจากงานศพแล้ว ผมก็ได้หันมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ ผมก็จ้องมองไปยังร่างๆ หนึ่ง ที่ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้
ร่างกายของเด็กสาวตัวเล็กโปร่งใส ราวกับวิญญาณที่กำลังลอยอยู่ข้างผม รูปร่างท่าทางของเธอ ไม่ต่างอะไรกับเด็กสาวในรูปเลยแม้แต่น้อย
“พี่เนี่ยเย็นชาจังเลยนะ ทั้งๆ ที่เป็นงานศพของน้องสาวตัวเองแท้ๆ แต่พี่กลับไม่ร้องไห้ออกมาเลยสักนิด หรือว่าพี่จะไม่รักหนูเหมือนที่พวกเขาพูดกันจริงๆ” เด็กสาวพูดออกมาพร้อมทำหน้าครุ่นคิด
โดยปกติผมคงร้องไห้ออกไปแล้วล่ะนะ ถ้าหากไม่ได้เห็นสิ่งที่รูปร่างหน้าตาเหมือนน้องสาวของตัวเอง กำลังยืนพูดอยู่อย่างนี้
แต่จะบอกว่ากำลังยืนอยู่ก็คงไม่ใช่ เพราะดูเหมือนเธอกำลังลอยอยู่เสียมากกว่า และนอกจากผมแล้ว คนอื่นๆ ก็จะไม่สามารถมองเห็นเธออีกด้วย
ครั้งแรกที่เธอปรากฏตัวออกมาให้ผมเห็นนั้น ผมนึกว่าตัวเองประสาทหลอน หรือช็อคที่เสียน้องสาวไปซะแล้ว
แต่เหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น หลังจากใช้เวลารวบรวมสติอยู่ 2 วัน แม้จะไม่ค่อยอยากจะยอมรับสักเท่าไหร่ แต่ผมก็เริ่มแน่ใจแล้วว่า ตัวตนที่กำลังพูดอยู่นั้น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดมโนขึ้นมาเองแต่อย่างใด
แต่กลับเป็นสิ่งลี้ลับ ที่ไม่ว่าวัฒนธรรมใดก็มีอยู่เหมือนๆกัน ผมกลั้นหายใจก่อนจะพูดถามเธอออกมา
“นี่เธอ.. เป็นผีงั้นเหรอ?”
“...”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เธอก็เงียบไปสักพักก่อนจะพูดออกมา
“ในที่สุดพี่ก็พูดกับหนูสักทีนะ ก็.. อาจจะเป็นอย่างนั้น ไม่สิ! ก็คงเป็นอย่างนั้นแล้วแหละ” น้องสาวของผมในร่างวิญญาณพูดออกมาอย่างยิ้มๆ
“ทำไมล่ะ?”
“ไม่รู้หรอก แต่ปกติแล้วคนเราตายแล้วก็ต้องเป็นผีไม่ใช่เหรอ”
“พี่ก็ไม่รู้หรอก แต่ปกติแล้วคนเราจะมองไม่เห็นผีไม่ใช่เหรอ?”
“หรือพี่อาจจะเป็นคนมีสัมผัสที่ 6 ?”
“ไม่อ่ะ ผีตนแรกที่เห็นก็คงจะเป็นเธอนี่แหละ”
ผมสนทนากับเธอไม่ต่างอะไรกับตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ถึงมันจะเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด และเหนือธรรมชาติ แต่ในใจลึกๆ แล้ว ผมรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก
“ช่างเรื่องที่หาคำตอบไม่ได้แบบนั้นเถอะน่า แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ที่ตอนนี้หนูยังคุยกับพี่ได้อยู่น่ะ” พูดจบเธอก็ยิ้มออกมาอย่างร่าเริง ไม่ต่างอะไรกับตอนที่มีชีวิตอยู่
“อื้ม ก็จริงนะ ถึงแม้นี่อาจจะเป็นสิ่งที่พี่มโนขึ้นมาเองก็ตาม..” ผมพูดออกมาโดยที่ยังไม่ปักใจเชื่อสนิท
“โถ่ พี่ละก็ดื้อด้านซะจริง อื้มม อ๋อ! จริงสิ งั้นเรามาลองทำการพิสูจน์กันนะ”
“พิสูจน์งั้นเหรอ?”
“ใช่ๆ! เดี๋ยวนะเดี๋ยวนะ” เธอพูดพร้อมกับเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง
และไม่นานเหมือนเธอจะเจอเป้าหมาย เธอรีบพุ่งไปหาเด็กสาวที่เหมือนกำลังเดินกลับจากโรงเรียนอยู่ ผมที่สงสัยกับการกระทำของเธอจึงรีบตามไป
“ดูนะ ดูนะ” พูดแล้วเธอก็จับไปที่กระโปรงของเด็กสาวคนนั้น
และแล้วในวินาทีนั้นเองการกระทำของเธอก็ต้องทำให้ผมประหลาดใจ
โดยความรู้ทั่วไปที่เรารู้เกี่ยวกับผีนั้น ผีหรือวิญญาณนั้นจะทะลุวัตถุทุกอย่าง ไม่สามารถจับต้องอะไรได้
แต่สิ่งที่ผมเห็นนั้นแตกต่างจากสิ่งที่ได้รู้มาอย่างสิ้นเชิง เมื่อเห็นภาพของน้องสาวตัวเองที่กำลังใช้มือเปิดกระโปรงของหญิงสาวคนนั้นขึ้น จนเห็นขาอ่อนและกางเกงในสีขาวลายคุณหมีได้อย่างชัดเจน
“กรี๊ด!”
เสียงเด็กสาวคนนั้นร้องดังออกมาพร้อมกับแสดงท่าทีตกใจ ก่อนจะหันซ้ายขวา และเมื่อเธอมองเห็นผมที่ยืนอยู่ข้างหลัง ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างเขินอายก่อนจะรีบวิ่งหนีไป
“แหมๆ เป็นขาอ่อนที่ดีต่อใจจริงๆ ว่าไหมพี่ชาย”
“อื้ม~ ใช่.. เดี๋ยวไม่ใช่สิ!! นี่เธอเป็นผีจริงๆเหรอเนี่ย!!” ผมถามออกมาด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความตกใจอย่างปิดไม่อยู่
สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นภาพหลอนที่ตัวเองสร้างขึ้นมาเพราะความเสียใจ แต่จริงๆ แล้วกลับไม่ใช่ แต่กลับเป็นน้องสาวของผมจริงๆ
“ก็เคยบอกแล้วไง ว่าหนูไม่ใช่ภาพหลอนน่ะ ถึงหนูจะกลายเป็นคุณผีสาวไปแล้ว แต่หนูก็คือน้องสาวของพี่นั่นแหละ” เธอพูดพร้อมยิ้มออกมา
“งั้นทำไมเธอถึงยังอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ ถ้าตายแล้ว..ปกติก็จะต้องไปสุคติภูมิไม่ใช่เหรอ” ผมพูดออกมาตามความเชื่อที่เคยได้ยินมา
“สุคติภูมิงั้นหรอ อื้มม~ อ๋อ! จำได้แล้ว เหมือนตอนที่เพิ่งตายจะเห็นอุโมงค์สีทองสว่างนะ และมีความรู้สึกราวกับถูกชักชวนให้เข้าไปในนั้นน่ะ”
“งั้นทำไมถึงไม่เข้าไปล่ะ?” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ
“ถึงจะถามอย่างนั้นก็เถอะ อื้มม~ ถ้าให้ตอบตามตรงก็คงจะเป็น.. หนูกำลังห่วงพี่อยู่ล่ะมั้ง” เธอพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มเหมือนอย่างเช่นเคย
“ห่วงพี่งั้นเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ ก็พี่น่ะ ทั้งงี่เง่า ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ความ ไม่เอาไหน แถมยังขี้เกียจอีก”
เจอคำพูดแบบนั้นเข้าไปผมรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นที่กลางอก แต่เพราะมันคือความจริงเลยไม่สามารถเถียงกลับไปได้
“ขอโทษทีล่ะกัน!” ผมพูดพร้อมหันหน้าหนี
“แถมยังขี้น้อยใจอีก” พูดแล้วเธอก็หัวเราะออกมา
"..."
“เพราะแบบนั้นแหละ หนูถึงไม่สามารถทิ้งพี่ไปได้ ทั้งๆ ที่เคยสัญญาไว้ว่าจะแต่งงานกับพี่ชาย และดูแลกันไปตลอดชีวิต... แต่ทั้งที่สัญญาไว้แล้วแท้ๆ แต่หนูกลับมาตายก่อนซะได้” เธอพูดด้วยใบหน้าเสียใจพร้อมกับกำมือแน่น
การที่เป็นคนไม่เอาไหน จนทำให้น้องสาวไม่สามารถไปสู่สุคติได้ มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก
“เพราะแบบนั้น จนกว่าหนูจะหาผู้หญิงที่ดีจนดูแลพี่แทนหนูได้ หนูจะไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ!!” เธอกล่าวออกมาด้วยใบหน้าและน้ำเสียงจริงจัง
แค่มองดูสายตาของเธอก็รู้แล้วว่าเธอพูดจริงไม่ได้ล้อเล่น ถึงจะรู้สึกว่ามันเริ่มจะกลายเป็นเรื่องวุ่นวาย
แต่อย่างน้อย ตราบใดที่ยังคงได้อยู่กับเธอต่อ มันก็คงไม่แย่หรอก ผมรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ
แต่.. นี่ผมดูเป็นคนไม่ได้เรื่องในสายตาน้องสาว ถึงขนาดที่ว่าถ้าไม่หาผู้หญิงมาดูแลจะอยู่ไม่ได้เลยเหรอเนี่ย!
つづく