Chapter 1438 เทพธิดาเหมันต์เสร็จสู่ผืนปฐพี
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมม!”
ปราณมารที่หนาขึ้นเรื่อย ๆ ไม่หยุดหย่อน ร่างหมอกมารที่ขยายขนาดมีความสูงกว่า 20 จั้งแล้ว(66.6 เมตร) ราชามารได้ปรากฏตัวขึ้น กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงเทียบได้กับยอดฝีมือหมุนแกนขั้นที่สาม.
ราวกับขุนเขาที่ใหญ่ยักษ์ปรากฏขึ้นขวางทางพวกหลี่ชิงหยาง.
“เป็นปัญหาใหญ่แล้ว.”
ใบหน้าของเหออู๋ตี้ที่กลายเป็นจริงจังทันที.
ปรกติแล้วพวกเขาไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวสัตว์อสูรตนใด หากไม่ชนะก็วิ่งหนีได้ ทว่าตอนนี้ไม่สามารถบินได้เพราะถูกจำกัดด้วยหมอกมารในเขตแดนต้องห้าม นอกจากนี้ปราณมารยังหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จำกัดการเดินของพวกเขาเอาไว้.
“อ้อมไป!”
หลี่ชิงหยางที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ทุกคนที่เร่งรีบหนีไปด้านข้าง แม้แต่คนที่อหังการเช่นเย่ซิงเฉินเวลานี้ยังยากที่จะสงบใจได้เช่นกัน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับราชามารที่ใหญ่ยักษ์เช่นนี้.
“ฟู่ ฟู่!”
ในเวลานั้น ราชามารหมอกทมิฬที่ร่างกายประกอบไปด้วยหมอกมาร พริบตานั้นก็ปล่อยลำแสงออกมา พุ่งตรงไปยังคนทั้งห้า เสียงดังหวีดหวิว.
“ระวัง!”
เหออู๋ตี้เอ่ย “นั่นพลังโจมตีทางวิญญาณ!”
ระหว่างที่กล่าว แขนทั้งสองข้างของเขาประสานกันปะทุพลังจิตวิญญาณออกมาเพื่อป้องกันตัวเองเอาไว้.
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ต่างก็ป้องกันลำแสงที่โจมตีมาเช่นกัน.
พลังโจมตีทางจิตวิญญาณยากจะมองเห็นด้วยตัวเปล่า ดังนั้นทำให้พวกเขาได้ยินเพียงเสียงปะทะ ร่างกายของพวกเขาได้ลอยกระเด็นออกไป.
“น่ารังเกียจ!”
เย่ซิงเฉินที่ใบหน้าเปลี่ยนสีเอ่ยออกมาอย่างดุร้าย “พลังจิตวิญญาณเจ้านี่แข็งแกร่งมาก!”
พลังโจมตีทางจิตวิญญาณของราชามารหมอกทมิฬนั้นรุนแรงเป็นอย่างมากจนทำให้พวกเขายากที่จะหลบหนีออกจากพื้นที่ดังกล่าวได้!
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
ลำแสงที่สาดกระจายไปรอบ ๆ.
ในเวลาต่อมาสัตว์อสูรหมอกมารมากมายที่ถูกเรียกออกมา เวลานี้มีจำนวนมากกว่าพันตนแล้ว!
“จบกัน!”
หลี่ชิงหยางแทบทรุด “พวกเราหนีออกไปไม่ได้แล้ว!”
ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรหมอกมารไม่ได้แข็งแกร่งนัก ทว่ากับมีจำนวนมาก จะต้องใช้เวลาไม่น้อยในการสังหารแหวกออกไป นอกจากนี้ยังมีราชามารอีก ปราณมารที่หนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ หากมัวแต่ต่อสู้ พวกเขาจะสามารถทนได้อย่างไร!
“โฮกกกกกก!”
ราชามารหมอกทมิฬที่คำรามลั่น เหล่ามารที่อยู่รอบ ๆ ดวงตาเปล่งแสง พร้อมกับเข้าโจมตีจากทุกทิศทาง.
มารหมอกมากมายหากมองจากด้านบนสูงขึ้นมา จะเห็นเหมือนกับมดฝูงใหญ่ที่กำลังรุมล้อมกลุ่มหลี่ชิงหยางที่เหมือนกับมดตัวน้อย อยู่ในสภาพไม่สู้ดีนัก!
“ข้าจะรั้งเอาไว้ พวกเจ้าทะลวงออกไป.”ลู่เชียนเชียนที่ก้าวออกไป ผมของนางที่โบกสะบัด ไอเย็นที่พวยพุ่งออกไปในทันที.
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมม!”
กลิ่นอายความเย็นที่กระจายออกไปทั่วร่างของนาง ใต้เท้าที่ปรากฏพื้นที่เยือกแข็งขึ้นลามออกไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว.
“แก๊ก! แก๊ก! แก๊ก!”
เหล่าสัตว์อสูรมารหมอกที่พุ่งเข้ามา พริบตานั้นถูกแช่แข็งกลายเป็นรูปปั้นอย่างรวดเร็ว.
“ศิษย์พี่หญิงใหญ่......”
“ไป!”
หลี่ชิงหยางที่ลังเล ก่อนที่จะปะทุพลังสายฟ้ามากล้นออกมา “ฆ่า!”
“ฟู่!”
เย่ซิงเฉินที่เรียกเทวะเปลี่ยนรูปหอกทะลวงนภา โคจรวิชาคันฉ่องสวรรค์ห้าธาตุ เปลวเพลิงที่ลูกโชนขึ้นทันที กระโดดออกไป พร้อมกับเข้าทะลวงศัตรูมากมายที่อยู่ด้านหน้า.
“ตูมมม! ตูมมม! ตูมมมม!”
เปลวเพลิงที่ลุกโชนขึ้นมา สัตว์อสูรหมอกมารไม่สามารถที่จะขวางทางพวกเขาได้ถูกเผาสลายหายไป.
อาหนิวเอาจริงขึ้นมาแล้ว!
ทว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการจะกำจัดสัตว์อสูรทั้งหมด เพียงแค่ต้องการเปิดทางเพื่อที่จะหนีออกจากสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยปราณมารนี้เท่านั้น.
“ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!”
เข็มพิษมากมายที่ถูกโจมตีมาจากทั่วทิศ เซียวจุ้ยจื่อที่ยกโล่ขึ้นป้องกัน ใบหน้าเปลี่ยนสีเอ่ยออกมาว่า“รีบหนีเร็วเข้า!”
ปราณมารที่หนาแน่นมากขึ้นและก็มากขึ้น พลังต่อสู้ของพวกเขาที่ลดน้อยลงเรื่อย ๆ เช่นกัน.
หลี่ชิงหยางและเหออู๋ตี้เอ่ย แม้นว่าจะยังสามารถทนได้ ทว่าพวกเขาก็กำลังจะเกินขีดจำกัดแล้ว หากไม่ออกจากที่นี่ในเร็ว ๆนี้ เกรงว่าอาจจะกลายเป็นผีดิบอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ฟู่ ฟู่!”
ราชามารหมอกทมิฬร่างกายของมันที่ดูดซับพลังหมอกมารเข้ามาเรื่อย ๆ แขนของมันที่ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังคงโจมตีด้วยพลังวิญญาณออกมาไม่หยุด.
“ตูมมมมม!”
เซียวจุ้ยจื่อที่ยกโล่ขึ้นป้องกัน ถูกแขนใหญ่ยักษ์กระแทกจมลงบนพื้น โดยเฉพาะพลังจิตวิญญาณที่โจมตีมายังจิตสำนึกของเขาอย่างบ้าคลั่ง แทบทำให้สมองของเขาระเบิดออกมา.
พิษไม่สามารถผ่านเข้ามาในกายเนื้อได้ ทว่าเขาไม่สามารถป้องกันพลังจิตวิญญาณได้!
“ฟู่ ๆ!”
พริบตานั้นเย่ซิงเฉินได้โอกาสกระชับหอกทะลวงนภากระโดดออกไป เมื่อเข้าใกล้ เปลวเพลิงที่รุนแรงที่ปะทุขึ้นมาพร้อมกับโจมตีออกไปในทันที.
เพราะไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ธาตุเพลิงจริง ๆ แม้นว่าจะสังหารอสูรมารหมอกได้ ทว่ามันยังไม่พอที่จะจัดการกับราชามาร!
“ตูมมมมมมมมมม!”
ราชามารหมอกทมิฬที่ขยับแขนอีกข้าง โจมตีไปยังเย่ซิงเฉินกระเด็นลอยออกไปทันที.
“ตูมมม ตูมมม ตูมมมม!”
อาหนิวที่ถูกกระแทกลอยกระเด็น จมไปในก้อนหินที่ไกลออกมาทันที.
ราชามารหมอกทมิฬพลังโจมตีทางกายภาพไม่สูงนัก แตกต่างจากพลังโจมตีทางวิญญาณ การโจมตีดังกล่าวไม่ได้ทำให้เย่ซิงเฉินบาดเจ็บแต่อย่างใด.
เดี๋ยวนะ!
ไม่ใช่ว่า เขาถูกโจมตีกระเด็นออกมาจากวงล้อมแล้วรึ?
ราชามารหมอกทมิฬที่ฟาดฝ่ามืออัดเย่ซิงเฉินกระเด็นลอยออกไปหลายร้อยจั้ง เพราะอยู่ในมุมที่เหมาะสม ทำให้เขาหลุดออกมาจากวงล้อมแล้ว.
“ฟิ้ว!”
อาหนิวที่พยุงร่างแงะตัวเองออกจากก้อนหิน เขาที่ยกน้ำเต้าตัวเองขึ้นดื่ม เรียกหอกทะลวงนภาพกลับมาหา แววตาที่เปี่ยมด้วยความเย็นชา.
ตอนนี้หนีออกมาได้แล้ว.
อย่างไรก็ตาม พรรคพวกล่ะทำอย่างไร!
“อ๊ากกกกก!”
เย่ซิงเฉินที่เป็นเทพสงครามเปี่ยมล้นด้วยจิตใจแห่งการต่อสู้จะทิ้งคนอื่นหนีไปคนเดียวได้อย่างไร เขาที่ถือหอกทะลวงนภา พุ่งเข้าโจมตีราชามารหมอกทมิฬอีกครั้ง.
เหล่ามารหมอกรอบ ๆ ไม่สามารถที่จะขวางได้!
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
หลี่ชิงหยางและเหออู๋ตี้ แม้นว่าจะใช้พลังธาตุที่สามารถจัดการกับสัตว์อสูรมารหมอกรอบ ๆได้ แต่เพราะต้องต้านปราณมารที่คอยบุกร่างและหลบราชามารหมอกทมิฬไปด้วย ทำให้สถานการณ์เป็นไปอย่างยากลำบาก.
สถานการณ์เวลานี้เปี่ยมล้นด้วยอันตราย.
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น ลู่เชียนเชียน ที่แผ่ไอเย็นไม่หยุด มือขวาของนางที่ส่องสว่างมีอักขระ“เหมันต์” ในเวลานั้นทั่วร่างของนางที่แผ่รัศมีสีขาวสว่างจ้า.
“ฟู่ ฟู่!”
ในเวลาต่อมา สภาพแวดล้อมที่หนาวสั่น ความเย็นที่ราวกับจะกัดกินทะลวงลงไปถึงชั้นผิวปะทุขึ้นมา.
พวกหลี่ชิงหยางที่หนาวสั่นขึ้นมา จนต้องหันไปมอง.
“ซูมมมมม!”
ในเวลานั้น หิมะที่กำลังล่วงหล่นลงมา เกล็ดหิมะที่ลอยละล่องบนอากาศไปทั่วทุกสารทิศ.
เย่ซิงเฉินและคนอื่น ๆ ที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
“กึก!”
ลู่เชียนเชียนที่ร่อนลงพื้น ผมสีดำกลายเป็นสีขาวหิมะ กลิ่นอายความเย็นไม่สิ้นสุดที่แผ่ออกมา รอบ ๆ เต็มไปด้วยเกล็ดหิมะที่กำลังล่วงหล่น ...ดูระยิบระยับประกอบฉาก ทำให้นางราวกับกลายเป็นเทพธิดากำลังเสด็จลงจากสวรรค์!
“เฮ้ย!”
เซียวจุ้ยจื่อที่ตื่นตะลึง.
ศิษย์พี่หญิงใหญ่ที่แผ่รัศมีที่น่าเกรงขาม พลังของนางที่รุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก.
“หลบออกมา!”
ลู่เชียนเชียนเอ่ย.
ในเวลาต่อมา ทุกคนที่สัมผัสได้ว่าเหมือนกับมีบ้านน้ำแข็งที่ล่วงหล่นลงมา!
“ฟิ้ว!”
อาหนิวที่กระโดดหลบออกมาอย่างรวดเร็ว.
พริบตานั้น ไอเย็นที่แช่แข็งไปทั่วสารทิศ ราชามารหมอกทมิฬถูกแช่เย็นแข็งค้างไปในทันที.
“ไป!”ลู่เชียนเชียนที่ตะโกนเสียงดัง.
ภายใต้การกระตุ้นทักษะพิเศษ พลังไอเย็นของนางที่เพิ่มพูนมหาศาล แม้แต่สามารถแช่แข็งราชามารหมอกทมิฬที่มีระดับสามแกนได้ ดังนั้นทำให้พวกเขาสามารถหยุดหายใจหายคอสองสามวินาทีได้.
พอแล้ว.
ด้วยความแข็งแกร่งเช่นพวกเขา เพียงพอที่จะหนีได้.
อย่างไรก็ตาม เพราะว่าต้องคงสภาพการแช่แข็ง ทำให้ลู่เชียนเชียนต้องยืนอยู่ที่เดิม เพื่อปล่อยพลังแช่เย็นออกไป จึงสั่งให้คนอื่น ๆ หนีออกไปเท่านั้น.
“ไป!”
หลี่ชิงหยางที่ตะโกนดังลั่น.
ในเวลานี้ เขาทำได้แค่ต้องถอย ไม่เช่นนั้นทุกคนจะต้องตาย.
“ไปเร็วเข้า!”
ในเวลาเดียวกัน เหออู๋ตี้พุ่งเข้าไป ที่หลังมือมีอักขระประตูปรากฏขึ้น ประตูความเป็นความตายที่มีขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น เขาที่เปิดประตูความตายอย่างไม่ลังเล พร้อมกับตะโกนเสียงดัง“เตะมันเข้ามา!”
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
หลี่ชิงหยางและเย่ซิงเฉินที่เข้าใจได้ทันที พวกเขาที่พุ่งเข้าไปกระโดดกระทืบไปยังก้นราชามารหมอกทมิฬด้านหลัง ถ่ายพลังอัดมันให้พุ่งไปด้านหน้า.
“ตูมมมม -----”
รูปปั้นน้ำแข็งขนาดใหญ่ พริบตาเดียวที่สัมผัสประตูแห่งความตาย ที่ด้านในเหมือนกับปรากฏมือขนาดใหญ่ขึ้นมาในทันที พร้อมกับเสียงที่ดังโหยหวนน่าขนลุกจากด้านใน กำลังดูดสิ่งที่สัมผัสมันแล้วลากเข้าไป.
พริบตานั้นรูปปั้นที่ใหญ่ยักษ์ ราชามารหมอกทมิฬก็ถูกย่อขนาดเล็กลงถูกดึงเข้าไปด้านในหายไปอย่างรวดเร็ว.
......
นิกายนิรันดร.
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ในห้องโถง เอ่ยออกมาว่า“เหล่าเจิ้น ค่ายกลเคลื่อนย้าย ไปถึงใหนแล้ว?”
“ยากมาก.”
เจิ้นเต๋อจวินกล่าวพลางทอดถอนใจ “ไม่พัฒนาเลย.”
“ไม่ต้องรีบ ยังมีเวลา.”
“เจ้านิกาย!”
ในเวลานั้น ลี่ซ่างเทียนที่วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น “สัตว์พันธสัญญาของศิษย์พี่หญิงใหญ่และศิษย์พี่รองตอนนี้กำลังแย่แล้ว!”
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่ลุกขึ้นยืน จิตสัมผัสที่ส่งไปยังที่พักศิษย์ พบสัตว์อสูรวิญญาณสายฟ้าและสัตว์ฟินิกซ์เหมันต์ ที่เวลานี้นอนราบบนพื้นในสภาพอ่อนแอ ดังนั้นเขาจึงขมวดคิ้วไปมา “พวกเขาออกไปทำภารกิจ พบกับเจอกับปัญหาแล้ว!”
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ในเวลาต่อมา ท้องฟ้านิกายนิรันดรที่มีริ้วแสงเจ็ดสีมากมาย บินไปทั่วนิกาย เตรียมมุ่งตรงไปยังเขตแดนต้องห้ามป่าหมอกมารที่พวกหลี่ชิงหยางออกไปทำภารกิจทันที.