ตอนที่แล้วChapter 1431 ตั้งแต่โบราณเพียงใช้ความรู้สึกที่แท้จริงไม่อาจรั้งใจผู้คน มีเพียงแค่อุบายเท่านั้นที่จะชนะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1433 100 ร้านเปิดทำธุรกิจ

Chapter 1432 นายน้อยหยวน ปะทะ จ้าวโถงไป่


ในแต่ละนิกาย มีถางจู่แล้วก็จะมีรองถางจู่.

อย่างไรก็ตาม นิกายนิรันดรนั้นไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะที่นี่มีแปดถางจู่ ดังนั้นจึงไม่มีรองถางจู่นั่นเอง!

ที่จริงจุนซ่างเซียวคิดจะให้หนึ่งคนเป็นถางจู่ คนอื่น ๆ เป็นรอง ทว่าเพราะทั้งแปดมีสถานะเท่ากัน ดังนั้นทำได้แค่ให้พวกเขาเป็นถางจู่ทั้งแปดคนเลย.

อีกอย่าง เกี่ยวกับการหลอมยา พวกเขาก็แยกลงมือกันทำอยู่แล้ว.

หลังจากได้ผู้นำเป็นแปดหัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยา เหล่าปรมาจารย์และนักปรุงชาชั้น 1 2 3 ก็ถูกจัดแจงให้อยู่ใต้บังคับคนทั้งแปด เวลานี้พวกเขาเริ่มวางแผน ในการเปิดสาขาต่าง ๆ ในเมืองใหญ่แต่ละแห่งแล้ว!

“เจ้านิกาย.”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “ได้สถานที่ตั้งร้านค้าทั้งหมดแล้ว ตอนนี้อยู่ในระหว่างปรับปรุงซ่อมแซม สามารถดำเนินธุรกิจได้เร็ว ๆ นี้.”

“อืม.”

จุนซ่างเซียวที่พยักหน้ารับ.

เพราะคนของโถงยาที่ส่งมานั้นมีความสามารถเป็นอย่างมาก ดังนั้นเป้าหมายแรกของพวกเขาคือเปิดเพิ่ม 100 สาขา.

เหล่าเหว่ยถึงกับพูดไม่ออก “เปิดสาขามากขนาดนี้ เกรงว่าสมุนไพรจะไม่เพียงพอ!”

ในเวลานี้สมุนไพรระดับสมบัติฟ้าดินมีสต๊อกจำนวนมาก สามารถสนับสนุนร้านค้าหลายสาขาได้อย่างไม่มีปัญหา ทว่าหากมากถึงหนึ่งร้อยสาขาย่อมเป็นเรื่องยากมาก.

“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เม็ดยาที่ขายในร้านสาขานั้น ส่วนมากเป็นเม็ดยาทั่วไป.”

ส่วนเม็ดยาระดับสูงก็ขายเช่นกัน ทว่ามีการจำกัดจำนวนและมีราคาที่สูงอีกด้วย.

แต่ละเมืองเริ่มซ่อมแซมปรับปรุงร้าน เพราะว่ามีระยะทางที่ค่อนข้างไกล ดังนั้นจึงมีการแบ่งคนที่มีความสามารถไปประจำ.

หากเป็นไปตามที่วางแผนไว้ ร้านค้าเม็ดยานิรันดร เกรงว่าจะต้องสั่นสะเทือน เขย่าขวัญเจ้าตลาดเดิมอย่างแน่นอน.

“นี่คือก้าวแรก.”

จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่บนห้องโถง ยืนมือขัดหลัง “หากเปิดทำธุรกิจอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ นิกายของข้าก็มีแต่ร่ำรวย!”

แน่นอนว่าเป้าหมายของการพัฒนานิกายอย่างแรกก็ต้องหาเงิน รอให้มีทรัพยากรมากมายเพียงพอ หลังจากนั้นก็ยกระดับความแข็งแกร่ง เป็นไปตามขั้นตอน.

อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการเติบโตนี้ หวังว่าพิภพเบื้องบนจะต้องอยู่ในสภาวะสงบด้วย.

ไม่ ไม่ ไม่.

ไม่ได้มีแค่โกวเซิ่งเท่านั้น ที่ก่อความวุ่นวายขึ้นในพิภพเบื้องบน.

ยกตัวอย่างวังจางเยว่ หรือแม้แต่กู่เจ้าซีที่ปรากฏขึ้น โถงพิภพที่จับตา พิภพเบื้องบนเวลานี้มีแววความวุ่นวายตั้งเค้ามาแล้ว.

“เจ้านิกาย.”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “มีข่าวเกี่ยวกับกู่เจ้าซี ได้ยินมาว่าเขาได้ทำลายสาขาของโถงพิภพไปหลายแห่งแล้ว.”

โถงพิภพที่กระจายออกไปทั่วตลอดสองปี ส่งข่าวต่าง ๆ กลับมาทุกวัน ซึ่งลี่ลั่วฉีทำงานไม่ต่างจากในพิภพเบื้องล่าง คอยกลั่นกรองข้อมูลส่งมอบให้กับเจ้านิกาย.

“สามารถหาเขาพบหรือไม่?”จุนซ่างเซียวสอบถาม.

ลี่ลั่วฉิวส่ายหน้าไปมา “คนผู้นี้ซ่อนตัวอย่างดีเพื่อหลบโถงพิภพ ด้วยความสามารถของหอฝนพรำเวลานี้ ยากที่จะหาพบ.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เช่นนั้นมีข่าวอะไรก็แจ้งมาแล้วกัน.”

เขาบอกได้ว่าชายรอยสักที่ป้อมปราการซิงกงนั้นคือกู่เจ้าซี ดังนั้นเขาจึงหวังว่าจะได้พบกันอีกครั้ง.

“น้องชาย เจ้าอยู่ใหนกัน?”

ขณะโกวเซิ่งกำลังพูดกับตัวเอง สาขาโถงพิภพอีกหนึ่งสาขาก็ถูกกู่เจ้าซีทำลาย เวลานี้เขากำลังยืนอยู่บนยอดเขา เงยหน้าขึ้นบนท้องฟ้า “พี่ชาย เจ้ายังอยู่ที่พิภพเบื้องล่างรึ?”

“ฟิ้ว!”

ในเวลาต่อมาหมอกที่พวยพุ่งปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง ก่อนที่เสียงของจักรพรรดินิหลิงเหยาก็ดังขึ้นเอ่ยด้วยท่าทางไม่พอใจ“ทำไมเจ้ายังไม่ไปยังนิกายนิรันดรอีก?”

กู่เจ้าซีเอ่ยออกมาเล็กน้อย “เจ้าสั่งข้าอย่างงั้นรึ?”

“ไม่.”

จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ย “ข้ากำลังช่วยเจ้า.”

กู่เจ้าซีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน “นิกายนิรันดรข้าได้สืบมาแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งขึ้นมาพิภพเบื้องบนไม่ใช่รึ? พวกเขาที่มีเจิ้นเหรินตงกู่หนุนหลังอยู่แล้ว ทำไมพวกเขาจะต้องมาช่วยข้าล้มลางโถงพิภพกัน?”

“หรือว่า.”

เขาหยุดนิ่ง ก่อนเอ่ยออกมาว่า“เป้าหมายของเจ้าไม่ใช่เพื่อชักชวนนิกายนิรันดร์ช่วย แต่เป็นการดึงเจิ้นเหรินตงกู่มาสนับสนุนอย่างงั้นรึ?”

“เบื้องหลังโถงพิภพนั้นมีสิบนิกายระดับเซียนอยู่ ยากที่จะทำลายได้ด้วยพลังคน ๆ เดียว ทำไมเจ้าไม่หาคนช่วยล่ะ?”จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ย.

“เพราะว่า.....”

ใบหน้าของกู่เจ้าซีเผยยิ้มเล็กน้อย เอ่ยออกมาว่า“มันไม่มีความหมาย หากไม่ลงมือด้วยตัวข้าเอง.”

จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ย “เสียสติ.”

“วางใจได้.”

กู่เจ้าซีเอ่ย “ในเมื่อข้ารับปากเจ้าแล้ว แน่นอนว่าข้าต้องไปนิกายนิรันดร ทว่าข้าขอทำลายสาขาโถงพิภพอีกสักสองสามแห่ง ให้พวกมันรู้สึกถึงความเจ็บปวดก่อน.”

“โถงพิภพส่งยอดฝีมืออกมามากมาย หวังว่าเจ้าจะไม่ถูกจับก่อนซะล่ะ.”จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ย พร้อมกับกลายเป็นหมอกควันสลายหายไป.

“ชิ.”

กู่เจ้าซีที่แค่นเสียงเย็นชา “ทำเป็นลึกลับ น่ารังเกียจจริง ๆ.”

“จูเหริน.”

ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งเอ่ย “ฝ่ายตรงข้ามต้องไม่มีเจตนาดีแน่นอน พวกเราควรจะระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นพวกเราอาจถูกนางขายแล้วยังช่วยนางนับเงินให้นางอีกด้วย!”

“ผลั๊วะ!”

กู่เจ้าซีที่ทุบไปที่หน้าผากอีกฝ่าย ตะโกนเสียงดัง “เจ้าคิดว่าข้าโง่เงาไร้เดียงสาปานนั้นรึ?”

......

เมฆครึ้มที่ตั้งเค้า โถงพิภพที่ถูกยั่วยุ ดูเหมือนว่าพายุใหญ่ใกล้จะมาแล้ว.

อย่างไรก็ตามปัญหานี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับจุนซ่างเซียว เขาที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำธุรกิจอย่างจริงจัง.

“ฮึ ฮึ.”

ระบบที่กล่าวถอนหายใจ“การไม่ค่อยสร้างปัญหากับใครบนพิภพเบื้องบน ผิดวิสัยของโฮสน์จริง ๆ.”

“ไปให้พ้น.”

จุนซ่างเซียวที่เอ่ยในใจ“บิดาไม่ใช่พวกชอบสร้างหายนะ บนพิภพเบื้องบน ข้าจะพัฒนานิกายอย่างถ่อมเนื้อถ่อมตน!”

ไม่ได้โม้หรอกนะ.

หากไม่เพราะว่าเขายกระดับฟังก์ชันสัตว์วิญญาณ จนไปกระตุ้นเหล่ากลุ่มชาติพันธ์มาล้อมกรอบเทือกเขาเซียนนิรันดรล่ะก็ เขาต้องอยู่อย่างถ่อมตน ไม่เคยคิดสร้างปัญหาเลยแม้แต่น้อย.

หลัก ๆ ที่เขาอยู่อย่างสงบตอนนี้ก็เพราะว่าเขามีเจิ้นเหรินตงกู่อยู่เบื้องหลัง ทำให้ผู้คนหลบเลี่ยงเขา ไม่เช่นนั้น ถึงเขาไม่ออกไปหาเรื่อง อย่างน้อยก็ต้องมีคนมาสร้างปัญหาให้กับเขาไปนานแล้ว.

......

“เจ้านิกาย.”

นายน้อยหยวนที่เอยด้วยความสงสัย “มีเรื่องอันใดต้องเรียกข้ามาอย่างงั้นรึ?”

“สองวันหลังจากนี้จะมีแขกมาเยือน ข้าต้องการให้เจ้าไปรับรองเขาหน่อย.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“โอ้ว?”

นายน้อยยหวนที่เอ่ยอย่างจริงจังทันที “ไม่ใช่แขกทั่วไปอย่างงั้นรึ?”

“ไม่ธรรมดา.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “จ้าวโถงปรุงยา.”

นายน้อยหยวนที่ยกมือประสาน เอ่ยออกมาว่า”ข้าจะต้อนรับเขาอย่างดีแน่นอน!

ไม่กี่วันหลังจากนั้น.

ไป่เฉาหยางก็มาถึง.

เขารู้ว่าเฉินซีเหยาและคนอื่น ๆ เข้าร่วมนิกายนิรันดรเป็นถางจู่แล้ว ดังนั้นจึงเผยความดีใจเป็นอย่างมาก.

เกี่ยวกับสัญญาก่อนหน้านี้ เมื่อพวกเขาเป็นคนของนิกายนิรันดร จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับเปอเซ็นส่วนแบ่งกันอีกครั้ง.

สรุปแล้ว.

ไป่เฉาหยางที่ไม่ลังเลเดินทางมายังนิกายนิรันดรจากเมืองอู๋ซวง เพื่อผลประโยชน์ของโถงยานั่นเอง.

แขกที่มาเยือน จุนซ่างเซียวได้สั่งหลิวหว่านซีเตรียมอาหารพิเศษเอาไว้ ก่อนเชิญพวกเขาเข้าไปยังห้องโถงรับรอง.

“เชิญ!”

“เชิญ!”

ไป่เฉาหยางที่นั่งลง ขณะจ้องมองไปยังนายน้อยหยวน เอ่ยออกมาว่า“นี่คือ?”

“นี่คือรองเจ้านิกายนิรันดร หยวนเฟิง.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

นายน้อยหยวนที่เพ่งพิศในทันที.

ไม่คิดมาก่อนว่าจะแนะนำเขาพร้อมกับเรียกว่ารองเจ้านิกาย นี่รับรองเขาแล้วรึ?

ซาบซึ้ง แทบร้องไห้!

“เป็นเช่นนี้นะเอง.”

ไป่เฉาหยางที่ลุกขึ้น ยกมือประสานไปด้านหน้า “รองเจ้านิกายหยวน เสียมารยาท เสียมารยาทแล้ว!”

“เจ้าโถงไป่เดินทางมาไกล หากมีอะไรที่ขาดเหลือโปรดขออภัยด้วย”นายน้อยหยวนที่ลุกขึ้น พร้อมกับกล่าวแสดงตนเป็นรองเจ้านิกายทันที.

ทั้งสองที่ทักทายกันเสร็จก็นั่งลง.

“จ้าวโถงไป่.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เกี่ยวกับธุรกิจของนิกายนิรันดรของข้านั้น ท่านสามารถหารือกับรองเจ้านิกายได้เลย หากมีเรื่องอื่น ๆ ค่อยกล่าวกับข้าก็แล้วกัน.”

นายน้อยหยวนที่กลายเป็นเซ่อไปเหมือนกัน.

โกวเซิ่งเรียกเขามาจากเมืองหลินหยวน ไม่ได้เอ่ยอะไรเกี่ยวกับคุยธุรกิจเลย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เตรียมการอะไรไว้.

ไป่เฉาหยางเอ่ย “ในเมื่อเจ้านิกายจุนมีมอบหน้าที่ให้รองเจ้านิกายแล้ว เหล่าฟู่ก็จะไม่รบกวนท่านอีก.”

จากนั้น เขาก็มองไปยังนายน้อยหยวน.

“ตาเฒ่าคนนี้ดูเหมือนว่าจะเชี่ยวชาญการต่อรอง ดูเป็นปัญหาไม่น้อย.”หยวนเฟิงที่ครุ่นคิดใจ พร้อมกับคิดคำนวนอย่างรวดเร็ว เผยยิ้มกล่าวกับตัวเอง “ทว่า ไม่น่าจะมีปัญหา!”

......

“พรูด โครม!”

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม จุนซ่างเซียวที่เมาฟุบไปกับโต๊ะ.

ไม่ได้เมาเหล้า แต่เมาคำพูดของนายน้อยหยวนและไป่เฉาหยาง พวกเขานับว่าร้ายกาจพอ ๆ กันจริง ๆ เขารู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก จนทำให้เขายกสุราขึ้นซดอย่างเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงจนเมาหมดสภาพไปในที่สุด.

“รองเจ้านิกายหยวน....”

“จ้าวโถงไป่ แม้นว่าท่านจะเตรียมคนที่มากพรสวรรค์มา ทว่าสมุนไพรระดับสมบัติฟ้าดินก็เป็นนิกายนิรันดรเป็นคนจัดเตรียม ไม่เช่นนั้นเม็ดยาก็ยากที่จะได้คุณภาพ ดังนั้นราคาที่ให้ไปย่อมยุติธรรมแล้ว ไม่มีปัญหา.”

“ไม่ใช่ ไม่ใช่....”

“โถงยาที่คอยควบคุมธุรกิจยาไปทั่วพิภพคอยดูแลความเรียบร้อย ร้านขายยานิรันดรเมื่อกระจายไปทั่วพิภพเบื้องบน สามารถทำกำไรได้ทุกวัน ในอนาคตจะต้องมีกำไรมากมายมหาศาล ดังนั้นตัวเลขหนึ่งในสิบจึงเป็นตัวเลขที่เหมาะสม!”

“พวกเรา...”

“ไม่สามารถกล่าวเช่นนั้นได้ นิกายนิรันดรนั้นไม่สามารถที่จะค้าขายเกินงาม หากตั้งราคาที่สูงเกินไป จะกลายเป็นธุรกิจที่เที่ยงธรรมได้อย่างไร.”

“หัวหน้าปรมาจารย์ทั้งแปดของโถงยา.....”

“เฟิงกุ้ยเฉินและคนอื่น ๆ ต่างก็เข้าร่วมนิกายนิรันดรโดยสมบูรณ์ เจ้าโถงไป่ จะนำมาต่อรองได้อย่างไร เรื่องนี้ไม่ใจร้ายไปหน่อยรึ?!”

......

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม.

“กึก ซี่!”

ประตูที่เปิดออก นายน้อยหยวนที่ก้าวออกมา มือขัดหลังยืดอกอย่างภาคภูมิ “ไร้เทียมทานช่างเหงาจริง ๆ.”

ตัดกลับมาในห้องโถงเวลานี้ จุนซ่างเซียวที่เมาหมดสติอยู่บนโต๊ะ ส่วนไป่เฉาหยางที่ตาเหลือก น้ำลายฟูมปากหลังพิงเก้าอี้ขาเหยียดหมดสภาพไปแล้ว.

ดูเหมือนว่าการต่อรองครั้งนี้ เห็นชัดเจนว่าเขาถูกน็อคเอาท์อย่างชัดเจน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด