Chapter 1431 ตั้งแต่โบราณเพียงใช้ความรู้สึกที่แท้จริงไม่อาจรั้งใจผู้คน มีเพียงแค่อุบายเท่านั้นที่จะชนะ
จุนซ่างเซียวที่ทำให้ทั้งหกตื่นตะลึงกับสวนสมุนไพรแล้ว จากนั้นก็นำพวกเขามากินอาหาร.
เป็นการล่อลวงที่มีเป้าหมายเดียว คือตกคนเหล่านี้นั่นเอง.
วัตถุดิบปรุงยาที่สร้างความตื่นตะลึงมากพอแล้ว ทว่าฝีมือของหลิงหว่านซี ยิ่งตอกย้ำความตกใจให้กับพวกเขาเข้าไปอีก.
อาหารปรกติที่ทำเป็นประจำก็อร่อยระดับโลกแล้ว ตอนนี้ยังเปิดทักษะพิเศษอีก แล้วใครจะทานทนได้!
หกหัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยาไม่สามารถต้านได้ หนำซ้ำดวงตาที่เป็นประกายหลงไหลเป็นอย่างมาก.
ไม่ใช่แค่อาหารทั่วไปแล้ว!
นี่คือของวิเศษที่อร่อยล้ำราวกับอาหารสวรรค์!
“เฮ้ย!”
จุนซ่างเซียวเองก็ตื่นตะลึงไม่แพ้กัน.
อาหารที่ใช้ทักษะพิเศษทำ ช่างน่าตะลึงและประทับใจ ฝังผนึกลงไปในใจของพวกเขาอย่างถึงที่สุด.
สีสันรสชาติกลิ่น สมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก.
อาหารที่ราวกับเปล่งแสงยั่วยวนไม่สิ้นสุด.
มา มาอีก!
ชามแล้วชามเล่ากินไม่มีเบื่อ อาหารที่ยั่วน้ำลายแตกฟอง พริบตาที่กินเข้าไปแทบกลืนลิ้น อร่อยไปจนถึงดวงวิญญาณ!
แม้แต่จุนซ่างเซียว ยังสัมผัสได้ถึงความยอดเยี่ยมไปอีกขั้น ราวกับตัวเองยืนอยู่บนยอดเขาอาบแสงแดดในฤดูหนาว ความอบอุ่นที่อาบไล้โอบอุ้มเขาเอาไว้.
อาหารที่อร่อยไปถึงดวงวิญญาณ นี่คืออาหารที่แท้จริง!
ในเวลานั้น.
เฉินซีเหยาและคนอื่น ๆ ที่รู้สึกราวกับวิญญาณออกจากร่าง อาหารที่อร่อยจนตื่นตะลึง จนแทบระงับอารมณ์ไม่ไหว ภายในใจที่ต้องอุทานไม่หยุด“อร่อยเกินไปแล้ว!”
เห็นท่าทางตื่นตะลึงของทุกคน จุนซ่างเซียวอดไม่ได้จึงเผยยิ้มอย่างภาคภูมิ เอ่ยออกมาว่า“เพียงอาหารทั่วไปเท่านั้น โปรดอย่าถือสา.”
“......”
เฉินซีเหยาและคนอื่น ๆ ถึงกับมุมปากกระตุก.
นี่รึ? อาหารทั่วไป แล้วก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ไช่กินอาหารขยะไปรึไง!
เมื่อไม่รู้ ก็ไม่เจ็บปวด เมื่อไม่เปรียบเทียบ ก็ไม่ช้ำใจ หลิวหว่านซีที่เอาจริงในการทำอาหารในครั้งนี้ ทำให้อาหารดังกล่าวอร่อยเกินพรรณนา.
“ทั้งหก เชิญ!”
จุนซ่างเซียวที่เอ่ย แม้แต่ตัวเขาก็ยากจะทานทน น้ำลายสอกลืนน้ำลายเป็นระยะ ๆ เช่นกัน.
ปรกติ หกหัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยาต่างพื้นที่จะต้องวางตัวหน่อย เวลานี้กับไม่เกรงใจกันเลยทีเดียว กินอาหารอย่างบ้าคลั่ง ราวกับอดอยากไม่ได้กินอาหารมาหลายวันแล้ว.
อาหาร ที่แทบไม่ต้องต้องเคี้ยวเลย.
“ปัง!”
ภายในร่างของเฉินซีเหยาที่เหมือนกับได้ยินเสียงระเบิดเล็ก ๆ ผลจากอาหาร ไม่เพียงแค่ทำให้รูขุมขนเปิดกว้าง ขนทั่วร่างยังตั้งชี้ชัน ไปจนถึงผมศีรษะ.
“ปัง! ปัง ปัง!”
เหล่าหัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยาคนอื่น ๆ ก็เช่นกัน เผ้าผมที่กลายเป็นสีทองแผ่พลังออกมา.
ที่น่าตกใจสุด คงจะเป็นจุดซ่างเซียว หลังจากกินอาหาร ไม่เพียงแค่ผมตั้งชี้ชันระเบิดพลัง ผิวกายทั่วร่างของเขายังมันเงาราวกับผืนกระจก.
อาหารที่เข้าไปในร่างแล้ว กระตุ้นร่างกายไปจนถึงเซลล์ทุกเซลล์ ทำให้ขนทั่วร่างตั้งชี้ชันขึ้นนั่นเอง.
......
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม.
จุนซ่างเซียวและเฉินซีเหยาและพรรคพวกก็ก้าวออกจากโรงอาหาร.
ผลของอาหารยังไม่จบ ดวงวิญญาณของพวกเขาราวกับล่องลอยทะลวงเก้าสวรรค์ เดินออกมาเหมือนกับกำลังลอยอยู่.
หอมเกินต้าน!
อร่อยเกินห้ามใจ!
มารดาเถอะมันสุดยอดเกินไปแล้ว!
ในเวลานี้ กล่าวได้ว่าอารมณ์ของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความอัศจรรย์จนไม่สามารถนำมาเอ่ยเป็นคำพูดได้.
“เจ้านิกายจุน!”
เฉินซีเหยายกมือประสาน “อาหารของนิกายท่านนับเป็นอาหารที่อร่อยมากเฉินโหมวเพิ่งพบเป็นครั้งแรกในชีวิต!”
“ชื่นชมเกินไปแล้ว.”จุนซ่างเซียวที่กล่าวถ่อมตน “นี่เพียงแค่อาหารพื้น ๆ ยังมีข้อบกพร่องอีกมาก!”
“......”
ทุกคนถึงกับพูดไม่ออก.
ถ่อมตนจนพวกเขาแทบหัวคะมำเลยทีเดียว!
“แน่นอน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “หากทั้งหกเข้าร่วมนิกายนิรันดรจริง ๆ อาหารพื้น ๆ เหล่านี้ย่อมได้กินทุกวันเป็นปรกติ.”
“เรื่องนี้...”
เจตจำนงของเฉินซีเหยาและคนอื่น ๆ เริ่มสั่นไหว.
สมุนไพรระดับฟ้าดินที่เหมาะกับการปรุงยา อาหารที่อร่อยสุดยอด มันยากที่จะตัดใจได้จริง ๆ.
จุนซ่างเซียวรับรู้ว่าตอนนี้ยังไม่สุกงอมพอ ดังนั้นจึงไม่ฝืนบังคับพวกเขา ตอนนี้หลี่ชิงหยางได้เตรียมที่พักให้กับพวกเขาแล้ว แผนการของเขาได้เป็นรูปเป็นร่างแล้ว เวลานี้เขาเริ่มต้มกบแล้ว.
จากนั้น เฉินซีเหยาและคนอื่น ๆ ทุกวันจะขลุกอยู่กับสวนสมุนไพรและโรงอาหาร แต่ละวันผ่านไปรวดเร็วไม่มีเบื่อ.
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น.
จุนซ่างเซียวที่เรียกทุกคนเข้ามาในห้องโถง เอ่ยออกมาว่า“ทั้งหก วันที่ได้ถึงวันตามที่ตกลงกันไว้แล้ว พวกท่านสามารถไปเวลาใหนก็ได้.”
“เจ้านิกายจุน.”
เฉินซีเหยาที่ยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า“หากไม่รังเกียจ เฉินโหมวขอรับหน้าที่อาวุโสกิตติมศักดิ์นิกายของท่านต่อไป.”
ก่อนหน้านี้เขาเองก็เป็นอาวุโสกิตติมศักดิ์ ทว่าทำงานเพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว ตอนนี้ต้องการทำงานอย่างจริงจัง เหตุผลนั้นไม่ต้องบอก ก็เพื่อสมุนไพรระดับสูงและอาหารที่โคตรอร่อยนั่นเอง.
“พวกราเองก็ยินดีที่จะอยู่เช่นกัน!”
หัวหน้าปรมาจารย์ทั้งห้าที่ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว.
“ตัดสินใจที่จะอยู่สินะ.”
จุนซ่างเซียวที่เคาะนิ้วบนพนักพิง แววตาที่ดูจริงจัง “ทว่าเปิ่นจั้วหวังที่จะให้ทุกท่านทุ่มเทเพื่อนิกาย มากกว่าทำงานแค่ชั่วคราว!”
“เรื่องนี้......”
ทุกคนที่กลายเป็นเงียบไปในทันที.
เฉินซีเหยาเอ่ย “เจ้านิกายจุนต้องการจะบอกอะไรอย่างงั้นรึ?”
“การเป็นอาวุโสกิตติมศักดิ์นั้นเป็นเหมือนกับทำงานชั่วคราว ข้าต้องการให้ท่านเป็นถางจู่หอเม็ดยาอย่างเป็นทางการ”จุนซ่างเซียวที่เผยเจตนาที่แท้จริงออกมา.
“อีกอย่าง.”
จุนซ่างเซียวกล่าวอย่างจริงจัง “หากทุกท่านเข้าร่วมนิกายนิรันดรเต็มเวลา พวกท่านสามารถฝึกฝนวิชาเพิ่มระดับวิถียาได้ จะทำให้สามารถยกระดับวิถียาได้อย่างรวดเร็ว.”
“......”
หัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยาทั้งหกที่หัวใจสั่นไหว.
“เจ้านิกายจุน.”เฉินซีเหยาที่กล่าวอย่างอักอ่วน “พวกเราได้ตกลงกับนิกายใหญ่ไว้แล้ว หากถอนตัว บางที....”
จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้นขวาง “นั่นคือปัญหาที่พวกท่านต้องไปจัดการเอง.”
“ข้า...”
“ปัญหาดังกล่าวไม่จำเป็นต้องเอ่ย ฟังข้าก็พอ.”
“......”
ทั้งหกที่จ้องมองกันด้วยท่าทางงงงวย แต่ละคนที่กลายเป็นเหรอหราทันที.
เจ้านิกายจุนที่ให้พวกเขาอาศัยอยู่หนึ่งเดือน จงใจเตรียมการล่อลวงพวกเขานี่เอง!
สายไปแล้ว.
เสพติด จนไม่สามารถตัดขาดได้แล้ว!
“ตกลง.”
เฉินซีเหยาที่สูดหายใจลึกกล่าวตอบรับ“เฉินโหมวยินดีที่จะถอนตัวจากตำแหน่งนิกายอื่น มาเข้าร่วมเป็นถางจู่โถงยานิกายนิรันดร!”
ส่วนอีกห้าคนที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ สุดท้ายก็ยอมจำนนเข้าร่วมนิกายนิรันดรในที่สุด.
“ทั้งหก.”
“กรอกแบบฟอร์ม.”
“เฮ้อ.”
เฉินซีเหยาและคนอื่น ๆ ที่ถอนหายใจ เหมือนว่าพวกเขาได้ขึ้นเรือโจรสลัดสะแล้ว.
ระบบที่ถอนหายใจ“ในเมื่อไม่สามารถชักจูงได้ ก็ทำได้เพียงแค่ใช้แผนการเท่านั้น!”
หลังจากกรอกแบบฟอร์มและประทับตราเจ้านิกาย นับจากนี้ แปดหัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยาก็มารวมตัวกันอยู่ในนิกายนิรันดรแล้ว นอกจากนี้ยังรับหน้าที่เป็นถางจู่เหมือนกันทั้งหมด กล่าวได้ว่าพวกเขากลายเป็นแปดปรมาจารย์วิถีปรุงยานิรันดรไปแล้ว.
ในวันนั้น.
จุนซ่างเซียวก็มอบวิชาลับแยกร่างพันเงาให้กับเฉินซีเหยาและคนอื่น ๆ ได้ฝึก หลังจากที่พวกเขาได้เห็นวิชาดังกล่าว ก็กลายเป็นคนของนิกายนิรันดรโดยสมบูรณ์ทั้งกายและใจ ตลอดจนเริ่มฝึกฝนอย่างจริงจังทันที.
มีวิชาที่ดีขนาดนี้ หากรู้มาก่อน พวกเขาก็ยอมไปแล้ว ทำไมต้องใช้เวลาล่อลวงพวกเราถึงหนึ่งเดือนกัน!
ที่จริง จุนซ่างเซียวก็คิด แต่ก็ใช้เพียงสมุนไพรและอาหารชั้นเลิศล่อลวงเท่านั้น ไม่ได้ใช้วิชาแยกร่างพันเงา เพราะไม่มั่นใจว่าจะล่อลวงพวกเขาทั้งหมดได้สำเร็จนั่นเอง.
......
ไม่กี่วันหลังจากนั้น.
นิกายนิรันดรก็ทำการประกาศต่อสาธารณะ แปดหัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยาได้เข้าร่วมนิกายนิรันดรทั้งหมดแล้ว.
เรื่องนี้รุนแรงยิ่งกว่าพวกเขาร่วมมือกับโถงยาซะอีก ต้องไม่ลืมว่าหัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยาทั้งแปดคนนั้นไม่เคยเข้าร่วมนิกายใหนมาก่อน ตอนนี้กับมารวมตัวในนิกายนิรันดรแห่งเดียว มันได้กลายเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เป็นประวัติการณ์ของพิภพเบื้องบนทันที.
“หึ หึ.”
เจิ้นเหรินฉีเยว่ที่วางหมากลงบนกระดานเอ่ยออกมาว่า“ตอนนี้รับแปดหัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยาเข้านิกายทั้งหมด ศิษย์ของเจ้าไม่ธรรมดาจริง ๆ.”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
เจิ้นเหรินตงกู่หัวเราะเสียงดัง “หากไม่มีความสามารถ จะเป็นศิษย์ข้าเจิ้นเหรินตงกู่ได้รึ?”
“ติ๊ง! รับแปดหัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยา สั่นสะเทือนไปทั่วพิภพเบื้องบน ได้รับแต้มชื่อเสียงนิกาย 200.”
“ติ๊ง! คะแนนชื่อเสียง: 200.”
“จริง ๆ ด้วย.”
หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือน จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ ”เป็นอย่างที่ข้าคิดเอาไว้.
ชื่อเสียงของนิกายบนพิภพเบื้องบนนั้น มีผลต่อรางวัลแต้มชื่อเสียงนิกาย ยิ่งเขาสามารถหาเรื่องที่สร้างชื่อเสียงใหม่ ๆ ได้ ก็ยิ่งได้แต้มมากขึ้น “หากข้าสามารถล้มโถงพิภพได้ ข้าจะได้แต้มชื่อเสียงมากขนาดใหนกัน?”
“อัยยะ!”
เจิ้นเหรินตงกู่ที่ถ้ำสวรรค์จื่อเต๋า ยกมือขึ้นกุมขมับ เอ่ยออกมาทันที“ทำไมจู่ ๆ ข้าถึงปวดจี๊ดบนสมองขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผลกัน!”