ตอนที่แล้วChapter 1417 รับถูหงเฉิน ทว่ายังขาดอีกหก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1419 ฝันร้ายกลายเป็นจริง

Chapter 1418 ต้องชดใช้


ถูหงเฉินที่พ่ายแพ้เดิมพันต้องจำใจเข้าร่วมนิกายนิรันดร ไม่ต้องสงสัยว่าการปรุงยาของนิกายนิรันดรได้เพิ่มขึ้นอีก.

จุนซ่างเซียวที่ยังไม่พอใจ เขายังคงต้องการดึงหกปรมาจารย์ปรุงยาเข้ามาอีก แม้แต่คิดที่จะให้แปดแกนหลักของโถงยา เข้ารวมนิกายนิรันดรทั้งหมดด้วยซ้ำ.

ด้วยเหตุนี้ เขาจำเป็นต้องวางแผนสักหน่อย.

ห้องโถงหลัก สำนักงานใหญ่โถงยา.

ชายชราหนวดยาวที่นั่งอยู่ตำแหน่งแรก “ตาซ้ายของข้ากำลังเต้นตุ๊บ ๆ รุนแรงมากขึ้นและมากขึ้นอีกแล้ว.”

“รายงาน!”

ในเวลานั้น ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาเร่งรีบวิ่งเข้ามา เอ่ยออกไปว่า“มีข่าวจากเมืองหลินหยวน หัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยาถูหงเฉินได้เข้าร่วมนิกายนิรันดรแล้ว.”

“อะไรนะ?”

ชายชราหนวดยาวเผยความประหลาดใจออกมาทันที.

เฟิงกุ้ยเฉินที่เข้าร่วมนิกายนิรันดรไปก่อนแล้ว ตอนนี้ยังมีหัวหน้าปรมาจารย์อีกคนเข้าร่วมอีก นอกจากนี้พวกเขาทั้งสองไม่กินเส้นกันมาก่อนไม่ใช่รึ? เรื่องแบบนี้เหลือเชื่อเกินไปแล้ว.

“แปลก.”

คนระดับสูงเอ่ยด้วยความสงสัย “นิกายนิรันดรมีดีอะไร ทำให้ทั้งเฟิงกุ้ยเฉินและถูหงเฉินเข้าร่วม?”

พวกเขารู้ว่าอาจารย์จุนซ่างเซียวคือเจิ้นเหรินตงกู่ ทว่าวิถียุทธ์และวิถียานั้นแตกต่างกัน หนำซ้ำ นิกายดังกล่าวเพิ่งขึ้นมาจากเบื้องล่าง ถึงวิถีปรุงยาจะยอดเยี่ยม แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะเหนือกว่าสองปรมาจารย์!

“เกี่ยวกับข่าวที่ได้รับมา ปรมาจารย์ถูและเจ้านิกายนิรันดรประลองปรุงยา สุดท้ายแล้วพ่ายแพ้.”ผู้ใต้บังคับบัญชารายงาน.

“พ่ายแพ้อย่างงั้นรึ?”

ชายชราหนวดยาวและคนระดับสูงเผยท่าทางประหลาดใจ.

การพ่ายแพ้หมายถึงอีกฝ่ายมีความสามารถมากกว่านั่นเอง.

“หึ หึ.”ชายชราหนวดยาวหัวเราะเบา ๆ“ศิษย์ของเจิ้นเหรินตงกู่ มีความสามารถวิถีปรุงยาสูงขนาดนั้นเลยรึ?”

“ไม่ใช่สิ.”

เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งที่เผยท่าทางสงสัย“ไม่เคยได้ยินว่าอาวุโสตงกู่จะก้าวไปบนวิถีปรุงยาเลย แล้วเขาจะสอนศิษย์ได้อย่างไร?”

“รายงาน!”

ในเวลานั้น ผู้ใต้บังคับบัญชายกมือประสานเอ่ยออกมาว่า“ถางจู่เฟิงส่งข้อความมาว่า เจ้านิกายนิรันดรจะขอมาเยี่ยมโถงยาด้วยตัวเอง.”

คำพูดดังกล่าวทำให้ชายชราหนวดยาวตาซ้ายที่เต้นไปมาอย่างบ้าคลั่ง ถึงกับสะดุ้งตกใจทีเดียว.

“จ้าวโถง!”

ชายชราเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หากข้าคาดเดาไม่ผิด การที่เจ้านิกายนิรันดรมาเยี่ยม จะต้องนำโชคมาให้กับโถงยาแน่ ๆ!”

“ข้าก็คิดแบบนั้น!”

ขวาร้ายซ้ายดี เอ่ยถึงจุนซ่างเซียว ตาซ้ายจ้าวโถงก็เต้นอย่างบ้าคลั่ง แน่นอนว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับเขาแน่.

หนำซ้ำ เฟิงกุ้ยเฉิน ถูหงเฉินเข้าร่วมนิกายนิรันดรไปแล้ว แม้แต่พ่ายแพ้อีกฝ่ายด้วยวิถียา กล่าวได้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นมีความสามารถวิถีปรุงยาสูงมาก หากได้สนทนาพูดคุยย่อมได้ประโยชน์มหาศาล.

“หวังเช่นนั้น.”ชายชราหนวดยาวเอ่ย.

......

นิกายนิรันดร.

จุนซ่างเซียวที่แต่งตั้งถูหงเฉินเป็นถางจูโถงยาต่อหน้าทุกคน.

ช้าก่อน?

ไม่ใช่ว่าเฟิงกุ้ยเฉินเป็นถางจูอยู่แล้วไม่ใช่รึ?

ทั้งสองที่ขัดแย้งกันอยู่ การให้ถูหงเฉินเป็นรองถางจู่ อีกฝ่ายย่อมไม่พอใจแน่ ดังนั้นจุนซ่างเซียวจึงให้โถงเม็ดยามีถางจูสองคน มีอำนาจเท่ากัน.

แม้นว่าจะเพิ่งเข้าร่วมก็ได้เป็นถางจู่แล้ว อธิบายได้ว่าอีกฝ่ายมีความสามารถในวิถียาที่ไม่ธรรมดานั่นเอง.

ไม่สิ.

เพียงแค่เข้าร่วมนิกาย ถูหงเฉินก็ได้รับภารกิจ ให้ไปยังเมืองอื่น ๆ เพื่อเปิดร้านยา นอกจากนี้ยังรับผิดชอบหลอมยาสนับสนุนร้าน ดูไม่ต่างจากแรงงานทั่วไปเลย.

“น่ารังเกียจ!”

“ไหงข้าได้มาเป็นกรรมกรกัน!”

“ถางจู่ถู.”

ในเวลานั้น หลี่ชิงหยางเข้ามาหา“เจ้านิกายให้ท่านไปพบที่ห้องโถง.”

“......”

แม้นว่าถูหงเฉินจะไม่ค่อยพอใจนัก ทว่าก็ออกไปพบในทันที.

หลังจากรอคอยชั่วรยะเวลาหนึ่ง เห็นท่าทางอีกฝ่ายดูฉุนเฉียว เขาก็ส่งเม็ดยาให้อีกฝ่ายทันที“นี่คือเม็ดยาพิเศษของนิกาย เรียกว่าเม็ดยาหลอมร่างกาย.”

ถูหงเฉินพบว่ามันคือเม็ดยาที่เอาชนะเขาในการประลองไม่ใช่รึ?

“เจ้านิกาย.”

เขาวางบนโต๊ะและเอ่ยออกมาว่า“ข้าไม่กินได้ใหม?”

“กลัวข้าจะวางยาอย่างงั้นรึ?”

“......”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ทุกคนที่เข้าร่วมนิกายก็จะได้รับเม็ดยาหลอมร่างกาย เม็ดยานี้จะช่วยยกระดับกายเนื้อ พัฒนาชีพจร แม้แต่ยกระดับดวงวิญญาณ จะกินหรือไม่ก็เป็นเรื่องของเจ้า.”

ช่วยยกระดับกายเนื้อ พัฒนาชีพจร แม้แต่ยกระดับดวงวิญญาณอย่างงั้นรึ?

“มันจะลึกล้ำปานนั้นเลย?”ถูหงเฉินที่กล่าวในใจ.

“ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวส่งตำรายุทธ์ให้ “นี่คือวิชาลับนิกายที่ช่วยยกระดับวิถียา โปรดนำมันไปฝึก.”

“วิชาลับแยกเงาพันร่างรึ?”

ถูหงเฉินที่กล่าวในใจ“นี่เจ้านิกายไม่รู้รึไง ข้าฝึกฝนวิถียา ไม่ค่อยสนใจฝึกฝนวิถียุทธ์.”

“เตรียมตัวให้พร้อม.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ครึ่งเดือนหลังจากนี้ให้เจ้าไปเปิดสาขาที่เมืองเห่าเยว่.”

เมืองเห่าเยว่นั้นเป็นเมืองใหญ่ที่สำคัญ มีระดับความแข็งแกร่งมากกว่าเมืองหลินหยวน เพราะว่าสภาพแวดล้อมชัยภูมิเป็นจุดศูนย์กลางภูมิภาคการค้าขาย.

“รับทราบ.”

ถูหงเฉินที่ก้าวออกจากห้องโถงไป.

เพราะว่าพ่ายแพ้ ต้องเข้าร่วมนิกาย ทำให้จิตใจของเขาเศร้าซึมไปไม่น้อย ภายในใจที่รู้สึกฝืนใจอยู่ตลอด.

“วิชานี้สามารถเพิ่มวิถียาได้จริง ๆ รึ?”

หลังจากกลับที่พัก ถูหงเฉินที่อยู่เบื่อ ๆ ดังนั้นจึงนำวิชาลับแยกเงาพันร่างออกมาฝึก หลังจากอ่านคำแนะนำแล้ว ทำให้เขาแทบกระโดดด้วยความตกใจ“บัดซบ ทักษะเทพชัด ๆ!”

ไม่กี่วันหลังจากนั้น.

เขาก็สามารถแยกเงาได้หนึ่งเงา หลังจากนั้นก็เริ่มตระหนักถึงผลประโยชน์ ราวกับเพิ่งตรัสรู้ “ไม่แปลกใจเลยว่าวิถียาเจ้านั่นถึงได้ยกระดับได้รวดเร็วนัก!”

“ฟิ้ว!”

ถูหงเฉินที่เวลานั้นเร่งรีบนำเม็ดยาหลอมกายออกมา ลอบคิดในใจ“เช่นนั้นเม็ดยานี้ บางทีคงน่าอัศจรรย์เช่นกัน!”

“อึก อึก!”

หลังจากกลืนเม็ดยาลงไป ก็สัมผัสได้ถึงชีพจรเลือดเนื้อ แม้แต่ดวงวิญญาณยกระดับ อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “เม็ดยาที่มีผลประโยชน์มากขนาดนี้ ลึกล้ำเกินไปแล้ว!”

ในเวลานั้น ภายในใจของถูหงเฉินก็เปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ จากจำใจ เป็นเต็มใจอย่างสุดซึ้ง เห็นจุนซ่างเซียวก็เผยท่าทางเคารพในฐานเจ้านิกาย!

...

อีกมุมหนึ่งของนิกาย ไต่ลู่ที่กำลังเผยท่าทางเศร้าใจเป็นอย่างมาก.

เวลานี้หมดเรี่ยวแรงและกำลังใจ ใช้ชีวิตไปวัน ๆ.

ปรกติเขาจะพูดคุยกับพี่ผ้าโพกหัวสีเขียว ตอนนี้กำลังเบื่อสุด ๆ เพราะว่าคุกไม่มีผู้ต้องขัง แต่ละวันจะต้องตั้งหน้าตั้งตาบ่มเพาะนั่นเอง.

อ้ายยาและเจาโตวโตว ที่เหมือนกับปลาเค็ม แววตาไร้วิญญาณไปแล้ว.

“ไม่ต้องรีบ ๆ.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวปลอบใจ “จะมีอาชญากรเร็ว ๆ นี้.”

พูดแบบนั้นหมายความว่าอย่างไร?

เพราะว่าหอฝนพรำกำลังสืบสวนหาข่าว สองปีที่แล้ว นิกายหลิงเหว่ยเจิ้นถูกเจ้านิกายฟู่เฉียนปั่นหัวมารุมเขานั่นเอง.

“มารดาเถอะ!”

จุนซ่างเซียวที่ตบโต๊ะเสียงดัง เอ่ยด้วยความโกรธ “ข้าคิดไว้แล้ว เรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากล!”

เรื่องที่นิกายหลิงเหว่ยเจิ้นมาหาเรื่องเขานั้น แม้นว่าอีกฝ่ายจะชดใช้ค่าเสียหาย โกวเซิ่งไม่เอาเรื่องพวกเขา ทว่าก็ยังไม่ลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น เรื่องเหมืองแร่มันมีหลายเรื่องที่บังเอิญจนดูมีพิรุธมากมาย.

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “เจ้านิกายเป่ยเกรงว่าไม่พอใจเจ้านิกาย จึงได้จงใจติดต่อนิกายหลิงเหว่ยเจิ้น เพื่อใช้แผนการยืมมืดฆ่าคน.”

“เป่ยซือลี่ อ๊ากก เป่ยซือลี่.”

จุนซ่างเซียวที่ยืนขึ้น ส่ายหน้าไปมา แววตาเต็มไปด้วยความมืดครึ้มเย็นชา “เปิ่นจั้วเมตตาอภัยให้เจ้าครั้งหนึ่งแล้ว แต่เจ้ากล้าวางแผนเล่นงานข้าอย่างคาดไม่ถึง งั้นก็อย่าตำหนิเปิ่นจั้วที่หยาบคาย!”

“เจ้านิกาย.”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “อ่านนี่สิ.”

“......”

จุนซ่างเซียวตบโต๊ะเสียงดัง “เจ้านั่นจะต้องชดใช้!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด