Chapter 1417 รับถูหงเฉิน ทว่ายังขาดอีกหก
เพลิงของถูหงเฉินนั้นหายากไม่ธรรมดา ทว่าต่อหน้าภูติเพลิงของจุนซ่างเซียวนั้น ไม่อาจเทียบกันได้เลย จิตวิญญาณภูติเพลิงนั้นเป็นพลังจากเอกภพ เป็นจิตวิญญาณที่กลายเป็นภูติมีชีวิตจิตใจแล้วนั่นเอง!
กล่าวได้ว่า ร่างภูตินั้นเป็นหนึ่งในพลังธาตุที่เปิดเชาว์ปัญญา เพราะว่ามันมีพลังที่เติบโตและปรับสภาพพลังแห่งกฏได้ ถึงจะเป็นพิภพเบื้องบน ก็นับว่าเป็นพลังธาตุเพลิงที่หากยากเป็นอย่างมาก.
“ไม่แปลกใจเลยเจ้านิกายปรุงเม็ดยาหลอมร่างกายได้ แท้จริงก็มีจิตวิญญาณเพลิงที่ทรงพลังอยู่นี่เอง!”เฟิงกุ้ยเฉินที่ตื่นตะลึงสุด ๆ.
ระดับของเพลิงนั้นมีส่วนสำคัญในการปรุงเม็ดยาแน่นอน ยิ่งเพลิงมีระดับสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งหลอมเม็ดยาได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น.
เพ้อไปไกลแล้ว.
สมองของอีกฝ่ายที่เริ่มปรุงแต่งไม่หยุด.
ดูเหมือนว่าจะปรากฏหนึ่งตัวตน มโนขึ้นอีกคนซะแล้ว.
จุนซ่างเซียวที่เผยจิตวิญญาณภูติเพลิงออกมา เพื่อการแสดงที่ดูสูงส่งสมจริงนั่นเอง.
ตอนแรกถูหงเฉินมั่นใจเป็นอย่างมาก เวลานี้เริ่มยิ้มไม่ออก.
เจ้ามีเตาปรุงยา ข้ามีเครื่องดูดฝุ่น.
เจ้ามีทักษะคงสภาพกฎ ข้ามีวิชาสับหั่น!
เจ้ามีเพลิงจิตวิญญาณปฐพี ข้ามีจิตวิญญาณภูติเพลิง!
มา!
มาสู้กัน!
“น่ารังเกียจ!”
ถูหงเฉินที่สะบัดมือส่งสมุนไพรเข้าไปในเตาปรุงยาในทันที.
วิธีการปรุงยาของเขาที่เป็นมาตรฐาน เชี่ยวชาญสมกับเป็นปรมาจารย์ปรุงยาอย่างแน่นอน.
“แก๊ก!”
จุนซ่างเซียวที่ไม่รีบร้อน เปิดท่อสูบดูดเหล่าเศษสมุนไพรที่เกลื่อนอยู่รอบ ๆ เข้าไปด้านในพร้อมกับเปลวเพลิงในทันที.
ทุกอย่างถูกสูบเข้าไปด้านในเครื่องดูดฝุ่นทั้งหมด.
การแสดงที่เข้าขั้น เน้นไปด้วยความสง่างามมากกว่าผลลัพธ์.
การแสดงของจุนซ่างเซียวที่สมจริงเป็นอย่างมาก ดูเหนือและน่าสนใจราวกับเขาเป็นสุดยอดปรมาจารย์ปรุงยาที่น่าเกรงขามสุด ๆ กลายเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจของผู้คนให้จับจ้อง แม้แต่มีคนเอ่ยตะโกนออกมาด้วยความเคารพเสียงดัง.“เผยพลังทั้งหมดออกมาเลย!”
“ฟู่!”
“ฟู่!”
เปลวเพลิงที่ลุกทะยานฟ้า ความร้อนที่แผดเผาออกไปเป็นพัก ๆ !
“สุดยอดมาก!”
“โคตรปรมาจารย์!”
ผู้คนที่อุทานออกมาไม่หยุดหย่อน.
หากพวกเขารู้ว่าสมุนไพรที่อยู่ในเครื่องดูดฝุ่นมันไหม้ดำไปหมดแล้ว เกรงว่าคงต้องกระอักเลือดออกมากันบ้างล่ะ.
การแสดงเป็นปรมาจารย์ปรุงยา ทุกการเคลื่อนไหว ความสมบูรณ์ของท่วงท่า ยิ่งดูยิ่งน่าดึงดูด ยิ่งดูยิ่งสง่างาม ดูสนใจยิ่งกว่าการปรุงยาจริง ๆ ซะอีก.
นักแสดง.
แน่นอนว่ามันย่อมดูโดดเด่นกว่าการปฏิบัติจริงอยู่แล้ว.
ผู้คนมากมายที่จับจ้อง ดวงตาเป็นประกายเปี่ยมล้นด้วยความคลั่งไคล้นับถือ.
จุนซ่างเซียวช่างดูน่านับถือยิ่งนัก ไม่ต้องสงสัยว่าสำหรับนักแสดงเขาได้เข้าถึงบทบาท สามารถเคลื่อนไหวเพื่อให้ทุกคนเชื่อสนิทใจ สมจริงงดงาม เต็มไปด้วยภาพลวงตา.
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่ค่อย ๆ เก็บเพลิงไปทีละน้อย ๆ ก่อนที่จะค่อย ๆ เปิดเครื่องดูดฝุ่นที่มีควันลอยออกมาจนหมด ปรากฏพลังที่มากล้นแผ่ออกมา เม็ดยาสิบเม็ดปรากฏขึ้น เขาที่สะบัดมือนำมันลอยออกมาจากด้านใน นำไปวางบนถาดด้านหน้า “เผยความน่าอายให้เห็นแล้ว!”
ถูหงเฉินที่กลายเป็นงงไปเลย.
เม็ดยาของข้ายังไม่กลั่นตัวด้วยซ้ำ อีกฝ่ายหลอมเสร็จแล้ว ความเร็วนี้มันน่าพรั่นพรึงยิ่งนัก!
เฟิงกุ้ยเฉินที่ตื่นตะลึงเอ่ยพึมพำ “ข้ามีทักษะไม่ถึงหนึ่งในสิบของเจ้านิกายด้วยซ้ำ!”
นับตั้งแต่เริ่มจนจบใช้เวลา 2-3 นาที ไม่แปลกใจแม้แต่ผู้คนที่ไม่ใช่นักปรุงยายังตื่นตะลึงขวัญผวาไปตาม ๆ กัน.
แม้พวกเขาจะไม่ได้ก้าวไปบนวิถีปรุงยา ทว่าก็ได้ยินมาบ้างว่าการปรุงยานั้นใช้เวลานาน ยิ่งเม็ดยามีระดับสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งใช้เวลามากขึ้นเท่านั้น อาจจะใช้เวลากลั่นสองสามวันหรือแม้แต่สิบวันก็มี.
“เป็นไปไม่ได้!”
ถูหงเฉินเอ่ย “เป็นไปไม่ได้ที่จะหลอมได้เร็วขนาดนี้!”
หากเป็นเม็ดยาทั่วไป บางทีอาจจะหลอมให้เสร็จอย่างรวดเร็วได้.
ทว่าเม็ดยาหนึ่งโคจรนั่น ถึงจะเป็นเจิ้นเหรินตานหยวนก็ไม่สามารถทำได้!
จุนซ่างเซียวที่ส่งเม็ดยาสิบเม็ด หลอมร่างกายหนึ่งโคจรที่วางบนถาดออกไปให้อีกฝ่ายตรวจสอบ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น.”
“......”
ถูหงเฉินที่กลายเป็นเงียบ.
เดิมทีเขาคิดว่า อีกฝ่ายคงแสร้งหยิบเม็ดยาออกมาจากแหวนมิติ ตอนนี้กลับต้องทิ้งความคิดดังกล่าวไป เพราะว่าเม็ดยาทั้งสิบนั้นมีแสงเงาวับวาว กลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้น บอกได้ว่าเพิ่งหลอมเสร็จออกมาใหม่จริง ๆ.
ไม่ผิด.
เม็ดยาดังกล่าวเพิ่งหลอมเสร็จจริง ๆ เพียงแค่ไม่ใช่ฝีมือจุนซ่างเซียว แต่มาจากฟังก์ชันระบบปรุงยาที่ถูกส่งเข้าไปในเครื่องดูดฝุ่นนั่นเอง.
“ชิ.”
ถูหงเฉินที่พยายามสงบสติอารมณ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “การปรุงยาไม่ได้ตัดสินกันที่ความเร็ว แต่เป็นคุณภาพต่างหาก!”
“ฟู่ ฟู่!”
อีกฝ่ายที่เร่งเปลวเพลิง พร้อมกับปรุงยาต่อไป.
จุนซ่างเซียวที่ยืนจ้องมองอย่างใจเย็น เอ่ยในใจ“เม็ดยาที่หลอมจากฟังก์ชันปรุงยาจะไปด้อยกว่าคนปรุงได้อย่างไรกัน.”
......
ด้วยความเชี่ยวชาญของถูหงเฉิน เม็ดยาหนึ่งโคจรใช้เวลาสามสิบนาทีก็หลอมเสร็จ และได้เม็ดยาออกมา.
เฟิงกุ้ยเฉินไม่ได้ประหลาดใจแต่อย่างใด ต้องไม่ลืมว่าเขาประลองกับอีกฝ่ายมาหลายครั้งแล้ว ความสามารถอีกฝ่ายนั้นเขาเข้าใจดี.
“ข้าได้คนที่มีความสามารถมาอีกคนแล้ว.”จุนซ่างเซียวที่ลอบกล่าวดีใจ.
“มา!”
ถูหงเฉินเอ่ย “มาตรวจสอบคุณภาพกัน!”
จุนซ่างเซียวที่ยังคงยืนนิ่ง ส่งเม็ดยาไปให้อีกฝ่ายตรวจสอบด้วยตัวเอง.
“สมบูรณ์!”
จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบเม็ดที่สอง.
“สมบูรณ์!”
“สมบูรณ์!”
“......”
จนกระทั่งครบสิบเม็ด คุณภาพระดับสมบูรณ์ทั้งหมด ถูหงเฉินที่เวลานี้สั่นสะท้านตกใจเป็นอย่างมาก.
“แก๊ก!”
เขาวางเม็ดยาลง ก่อนที่จะหันหน้าไปมอง “เจ้าชนะ ข้าแพ้แล้ว!”
เม็ดยาสิบเม็ดอยู่ในระดับสมบูรณ์ทั้งหมด นอกจากนี้ยังใช้เวลาหลอมอย่างรวดเร็ว ดังนั้นใครแพ้ใครชนะจึงง่ายที่จะตัดสิน.
เจ้าคนนี้ซื่อจริง ๆ.
“เหลวไหล.”
ระบบเอ่ย “คนที่สามารถเป็นปรมาจารย์วิถีปรุงยาได้นั้นให้ความสำคัญกับชื่อเสียงและเกียรติยศ จะเอามาเทียบกับคนหน้าไม่อายเช่นโฮสน์ได้อย่างไร!”
จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม “เกี่ยวกับข้อตกลงก่อนหน้านี้ ท่านแพ้แล้วจะต้องเข้าร่วมนิกายนิรันดรของข้าแล้ว.”
“วางใจได้!”
ถูหงเฉินเอ่ยออกมาเล็กน้อย “ถูโหมวยอมรับเดิมพัน ย่อมไม่ตระบัดสัตย์แน่!”
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่นำแบบฟอร์มนิกายออกมา“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็กรอกประวัติลงในนี้ได้.”
“ช้าก่อน!”
ถูหงเฉินที่ชี้ไปยังเฟิงกุ้ยเฉิน เอ่ยออกมาเล็กน้อย “ข้าต้องการประลองกับเจ้านั่น หากข้าชนะ การเดิมพันก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นโมฆะ เจ้านิกายจุนคิดว่าอย่างไร?”
“!”
ระบบที่ได้แต่ด่าว่าในใจ.
เมื่อกี้ยังกล่าวชมว่านิสัยของปรมาจารย์ปรุงยาซื่อสัตย์ถือเกียรติยศเป็นสำคัญอยู่เลย จู่ ๆ ก็ถูกหักหน้าในทันทีเลย!
“ตกลง.”
จุนซ่างเซียวที่กล่าวตกลงในทันที.
ด้วยนิสัยของโกวเซิ่ง จะใช้คนต้องไม่สงสัย หากสงสัยก็ไม่ใช้.
ในเมื่อถางจู่เฟิงเข้าร่วมนิกายนิรันดรเป็นถางจู่แล้ว อีกฝ่ายเอ่ยว่าเอาชนะถูหงเฉินได้ แน่นอนเขาย่อมเชื่อใจอีกฝ่ายแน่ ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามยังไม่ยอม ก็ต้องให้อีกฝ่ายพ่ายแพ้จำนนทั้งกายและใจ.
เป็นความจริง.
เฟิงกุ้ยเฉินไม่ทำให้จุนซ่างเซียวผิดหวัง.
เพียงไม่นาน เขาก็ปรุงยาที่มีคุณภาพสูงในเวลาอันสั้นสำเร็จ.
ทั้งสองที่แลกกันตรวจสอบ ถูหงเฉินที่ยืนงงงวยไปกับที่ทันที.
เขาและเฟิงกุ้ยเฉินนั้นรู้จักกันดี ระดับปรุงยาของอีกฝ่ายสูงเท่าไหร่มีรึ? เขาจะไม่รู้ ทำไมไม่เจอกันเพียงไม่กี่ปี อีกฝ่ายกับยกระดับแบบก้าวกระโดดขึ้นหลายเท่าได้กัน?
“ปรมาจารย์ถู”
จุนซ่างเซียวที่ส่งแบบฟอร์มลงทะเบียนออกไป “รู้ว่าแพ้แล้ว จะเข้าร่วมนิกายนิรันดรได้รึยัง.”
“......”
ถูหงเฉินที่เงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบาก “ก่อนหน้านี้ได้ตกลงไปแล้ว ข้าจะเข้าร่วมนิกายนิรันดรชั่วคราว รอให้วิถียาของข้าเหนือกว่าท่าน สามารถที่จะไถ่อิสระของข้าได้ใช่ใหม!”
“ไม่มีปัญหา.”
จุนซ่างเซียวกล่าวอย่างจริงจัง “อยู่ในนิกาย ข้าพร้อมที่จะรับคำท้าทายทุกเวลา.”
ถูหงเฉินที่ใส่ข้อมูลในแบบฟอร์มนิกาย และคิดในใจ“แก้แค้นสิบปีไม่สาย ข้าพ่ายแพ้สองครั้งซ้อน วันหน้าข้าจะต้องเอาชนะได้แน่!”
“แก๊ก!”
ตรานิกายที่ประทับลงไปบนแบบฟอร์ม.
นับจากนี้ โถงยาก็ได้รับหนึ่งในแปดปรมาจารย์ปรุงยา ถูหงเฉินเข้ามาเป็นสมาชิกอีกคน.
“ยังขาดอีกหกคน.”