ตอนที่แล้วChapter 1414 การจากลาเจ็บปวดเสมอ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1416 ทดสอบทักษะลวงโลก

Chapter 1415 หัวหน้านักปรุงยามาส่งถึงประตู


เมืองหลินหยวน.

ผ่านมาหลายวันแล้ว ตั้งแต่นายน้อยหยวนเปิดร้านขายสมุนไพร ธุรกิจที่สองขายสมุนไพรเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการ.

แม้นว่าสิ่งที่ขายคือหญ้าราชันย์สวรรค์สมบูรณ์และสมุนไพรที่ธรรมดาทั่วไป แต่เพราะมันมีระดับสมบัติฟ้าดิน ทำให้มันธุรกิจที่ขายเป็นการเจาะกลุ่มตลาดชั้นสูงนั่นเอง.

เจ้าเมืองลู่และเจ้าของธุรกิจใหญ่ ต่างก็เข้ามาแสดงความยินดีด้วยความจริงจัง.

“เฟิงกุ้ยเฉิน!”

ในเวลานั้น เสียงที่แหบเครือเอ่ยออกมาเบา ๆ “เจ้าทำให้ข้าเสียเวลาหานานจริง ๆ!”

“หืม?”

ถางจู่เฟิงที่หันหน้ากลับไปมอง.

ที่ด้านนอกร้านนั้น ปรากฏชายผมแดงพันผ้าโพกศีรษะ ยืนเด่นใบหน้าเต็มไปด้วยความอหังการ.

ที่เอวก็รัดผ้าสีดำ มีเหรียญตรา“โถงยา” เป็นอักขระสีทองส่องประกายวับวาว.

“ถูหงเฉิน!”

เฟิงกุ้ยเฉินที่ขมวดคิ้วไปมาในทันที.

ลู่เต๋อซุนและคนอื่น ๆ ได้ยิน เผยใบหน้าประหลาดใจออกมาในทันที.

บุรุษผมแดงผู้นี้ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นหนึ่งในแปดปรมาจารย์ปรุงยาของโถงยาเช่นกัน!

“ฟิ้ว!”

ถูหงเฉินที่ก้าวเข้ามา จ้องมองร้านขายสมุนไพร จ้องมองร้านขายยา พลางส่ายหน้าไปมา “ได้ยินมาว่าเจ้าเข้าร่วมกับนิกายที่เพิ่งขึ้นมายังพิภพเบื้องบน ข้าคิดว่านั่นเป็นเพียงข่าวลือ ไม่คาดคิด.....เจ้าตกต่ำลงจริง ๆ.”

นายน้อยหยวนที่ขมวดคิ้วไปมาทันที.

ฟังจากน้ำเสียงและท่าทาง อธิบายได้ว่า เขากำลังมาหาเรื่องถางจู่เฟิงอย่างแน่นอน.

“อ่า ลืมไป.”

ถูหงเฉินที่ตบหน้าผากเบา ๆ เอ่ยออกมาว่า“อาจารย์ของเจ้านิกายนิรันดรคือเจิ้นเหรินตงกู่ มีผู้สนับสนุนที่ใหญ่ไม่เบา.”

เฟิงกุ้ยเฉินที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.“เจ้ามาหาข้ามีธุระอะไร?”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า.”

ถูหงเฉินที่หัวเราะดังลั่น “พิภพเบื้องบนจะมีใครไม่รู้กัน เจ้ากับข้าเหมือนน้ำกับไฟ วันนี้แน่นอน...”เขาที่หยุด และเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ข้ามาหาเรื่องเจ้าไงล่ะ!”

ทั้งสองที่จ้องมองตากันและกัน สภาพแวดล้อมที่มืดอึมครึมขึ้นมาทันที.

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

เจ้าเมืองและเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลใหญ่เร่งรีบถอยออกมา.

เรื่องความขัดแย้งไม่กินเส้นของเฟิงกุ้ยเฉินและถูหงเฉินสองหัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยานั้น ทุกคนต่างก็รู้จักดี.

ส่วนเหตุผลนั้นนะรึ?

เกี่ยวกับข่าวลือ ทั้งสองนั้นคารวะเจิ้นเหรินตานหยวนเป็นอาจารย์เหมือน ๆ กัน นอกจากนี้ยังหลงรักสตรีคนเดียวกัน พวกเขาคือคู่แข่งกันมาโดยตลอด แต่ท้ายที่สุด...สตรีนางนั้นก็ไปแต่งงานกับคนอื่น แห้วกันทั้งคู่.

เรื่องนี้จริงเท็จเช่นไรไม่มีใครรู้ ทว่าสิ่งหนึ่งที่พวกเขาค่อนข้างมั่นใจ เฟิงกุ้ยเฉินและถูหงเฉิน เป็นศิษย์ของเจิ้นเหรินตานหยวนเหมือนกัน นอกจากนี้ยังได้รับอักขระเฉินมาด้วยเช่นกัน.

นายน้อยหยวนที่รู้สึกว่าปัญหานี้ไม่ง่ายเลย จึงเร่งรีบแจ้งสมาชิกหอฝนพรำให้ใช้วิชาเสียงผ่านวิญญาณ ส่งต่อไปยังนิกายโดยเร็ว.

เพียงไม่นาน ด้วยการส่งต่อเป็นทอด ๆ  สารก็ไปถึงนิกายอย่างรวดเร็ว!

“เจ้านิกาย!”

ในเวลาไม่นานหลังจากนั้น ลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง เอ่ยรายงาน “นายน้อยหยวนส่งข่าวมา หนึ่งในแปดปรมาจารย์ปรุงยา ถูหงเฉินเวลานี้ได้มาหาเรื่องถางจู่เฟิงที่ร้านค้าสมุนไพร”

จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดอย่างหนักเกี่ยวกับภารกิจชื่อเสียงว่ามันสำเร็จเร็วเกินไป ก่อนได้รับรายงานก็อุทานด้วยความอัศจรรย์ใจ“ข้ากำลังคิดถึงพวกเขาอยู่ ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีหนึ่งในนั้นมาหาด้วยตัวเอง.”

“ฟิ้ว!”

ปีกแสงเจ็ดสีอำไพที่สะบัดนำเขาบินออกจากนิกายนิรันดร์ทันที.

ด้วยการมีปีกแสงเจ็ดสีอำไพ ทำให้เขาสามารถเดินทางไปใหนเวลาใหนก็ได้.

......

กลับมายังเมืองหลินหยวนอีกครั้ง.

ที่ด้านหน้าร้านเปิดใหม่ เวลานี้มีเพียงเฟิงกุ้ยเฉินและถูหงเฉิน.

ทั้งสองที่จ้องมองกันเขม็ง กลิ่นอายที่แผ่แรงกดดันกันไปมาทำให้เกิดเป็นพายุหมุนวนแรงขึ้นเรื่อย ๆ.

“ทั้งสอง!”

ลู่เต๋อซุยกล่าวเสียงเบา “เมืองเล็ก ๆ ไม่อนุญาต....”

“ไปให้พ้น!”

เฟิงกุ้ยเฉินและถูกหงเฉินตะโกนลั่น.

“งั้น..ขอลา!”

“ฟิ้ว---”

เจ้าเมืองลู่ที่สั่งการอพยพคนรอบ ๆ ให้ห่างออกไปในทันที.

“กฎเดิม.”

ถูหงเฉินเอ่ยออกมาเล็กน้อย “มาประลองกัน ใครแพ้จะต้องคุกเข่า.”

“......”

เหล่าชาวยุทธ์ที่อยู่รอบ ๆ มาชมเรื่องสนุกมุมปากกระตุกไปตาม ๆ กัน.

ทั้งสองคือหัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยา นับเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง หากพ่ายแพ้แล้วต้องคุกเข่า ถือว่าเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีอย่างรุนแรงแน่นอน!

ขณะเฟิงกุ้ยเฉินกำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่างออกไป.

“ถางจู่เฟิง.”

นายน้อยหยวนที่ส่งเสียงผ่านวิญญาณ เอ่ยออกไปว่า“เจ้านิกายกำลังเดินทางมา ให้ท่านหาวิธีถ่วงเวลาเขาเอาไว้.”

“......”

เฟิงกุ้ยเฉินที่เปลี่ยนคำพูดในทันที“ข้าเพิ่งปรุงยาเสร็จ ร่างกายและจิตใจเวลานี้เหนื่อยล้าอย่างมาก หากจะคิดจะประลอง ต้องเลื่อนไปก่อน.”

ทั้งสองต่างก็เป็นศิษย์ของเจิ้นเหรินตานหยวน การแข่งของพวกเขาแน่นอนว่าย่อมเป็นการแข่งขันกันในวิถียา.

“ชิ.”

ถูหงเฉินแค่นเสียงดูแคลน“เม็ดยาที่เจ้ากลั่นข้าย่อมเห็น แม้นว่าคุณภาพจะไม่เลว ทว่าวิธีกลั่นนั่นแสนจะธรรมดาเป็นอย่างมาก แต่กับอ่อนล้าทางกายและใจ ดูเหมือนว่าหลายปีมานี้เจ้าจะไม่พัฒนา แล้วยังถดถอยอีกด้วย.”

เจ้านี่ได้ทีแล้วเอาใหญ่เลย.

หากเป็นเมื่อก่อนเฟิงกุ้ยเฉินไม่สามารถทนได้แน่ ทว่าในเมื่อเป็นคำสั่งเจ้านิกาย ดังนั้นจึงต้องระงับความโกรธ เขาแค่นเสียงเย็นชา“พัฒนาหรือไม่? แข่งกันแล้วจะรู้เอง.”

“จะฟื้นฟูกี่วัน?”

“สามวัน.”

“ตกลง.”

ถูหงฉินโบกมือ เอ่ยออกมาว่า“หลังจากนี้สามวัน พวกเรามาตัดสินแพ้ชนะกัน!”

หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็จากไป นายน้อยหยวนอดไม่ได้ต้องถามออกมา“ถางจู่เฟิง พวกท่านมีความแค้นอะไรกันอย่างงั้นรึ?”

“เฮ้อ.”

เฟิงกุ้ยเฉินที่ส่ายหน้าไปมา “เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าเอ่ยถึงอีกเลย.”

......

สามวันหลังจากนั้น.

ภายใต้ปีกแสงเจ็ดสีอำไพ จุนซ่างเซียวก็มาถึงเวลาเช้า รับรู้ว่าทั้งสองจะแข่งขันปรุงยากัน จึงสอบถามออกมา“มีโอกาสชนะกี่เปอเซ็น?”

“ก่อนหน้านี้ห้าสิบห้าสิบ.”

เฟิงกุ้ยเฉินเอ่ย “ตอนนี้ข้าชนะสบาย ๆ.”

ทั้งสองนั้นมีความแข็งแกร่งด้านปรุงยาเท่ากัน พวกเขาต่อสู้กันมาหลายร้อยปี ไม่สามารถตัดสินแพ้ชนะกันได้เลย.

ตอนนี้แตกต่างออกไป ด้วยวิชาลับแยกเงาพันร่าง การฝึกฝนเฟิงกุ้ยเฉินได้เพิ่มพูนสองเท่า ดังนั้นวิถียาของเขาจึงสูงกว่าถูหงเฉิน.

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว.”

จุนซ่างเซียวที่วางใจ ก่อนวางแผนในใจอย่างรวดเร็ว.

......

ในเวลาเช้า.

ที่ด้านนอกหน้าร้านสมุนไพร มีชาวยุทธ์มากมายมารวมตัวกัน.

ยิ่งรับรู้ว่าสองหัวหน้าปรมาจารย์ปรุงยาจะประลองกัน แน่นอนว่าพลาดไม่ได้เด็ดขาด.

“กึก!”

ถูหงเฉินที่ปรากฏตัวขึ้นมา.

“ได้ยินชื่อเสียงปรมาจารย์ถูมานานแล้ว ได้เห็นวันนี้ช่างสมกับชื่อเสียงจริง ๆ”จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่หน้าร้านสมุนไพรยกมือประสานมือไปด้านหน้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม.

“เจ้าคือ?”

“เจ้านิกายนิรันดร.”

“.”

ถูหงเฉินเอ่ย “แท้จริงก็เป็นศิษย์หลักของเจิ้นเหรินตงกู่นี่เอง.”

จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.

“เจ้านิกาย.”

เฟิงกุ้ยเฉินเอ่ยเสียงผ่านวิญญาณ “ศิษย์น้องของข้าเป็นคนแหกคอก คำพูดที่หยาบคายนั่น โปรดอย่าลดตัวไปใส่ใจเขาเลย.”

“เจ้านิกายจุน.”

ถูหงเฉินเอ่ย “การที่สามารถรับเฟิงกุ้ยเฉินเข้าเป็นศิษย์ได้ แปลว่าวิถียาของท่านนั้นไม่ธรรมดาอย่างงั้นรึ?”

“ก็พอใช้ได้.”

“เช่นนั้น พวกเรามาลองประลองกันเป็นอย่างไร?”

“......”

ใบหน้าของจุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางเหรอหราเล็กน้อย.

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”

ระบบที่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา.

วิธียุทธ์ก็ว่าไปอย่าง ส่วนวิถียานั้นมีแต่ระบบโกงเท่านั้น การจะไปแข่งกับคนอื่นเท่ากับยื่นแก้มหนา ๆ ไปให้คนอื่นตบชัด ๆ!

“ถูหงเฉิน.”

เฟิงกุ้ยเฉินแค่นเสียงเย็นชา “คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า.”

ถูหงเฉินที่ส่ายหน้าไปมา “พวกเราสองคนต่อสู้กันมาไม่ถึงพันครั้ง แต่อย่างต่ำก็แปดร้อยกว่าครั้งแล้ว แต่ยังตัดสินกันไม่ได้ ข้ารู้สึกอยากรู้ นิกายที่เจ้าไปเข้าร่วมนั้นเป็นอย่างไร.”

“สัส....”

จุนซ่างเซียวที่ได้แต่ด่าว่าในใจ.

เขาที่ศึกษาวิถียุทธ์ วิถีกระบี่และวิถีค่ายกล ส่วนเส้นทางอื่นนั้นไม่ได้ศึกษาเลย และวิถีกระบี่และวิถีค่ายกลเองก็เพียงแค่ดื่มน้ำยาพรสวรรค์เท่านั้น ไม่ได้ศึกษาอย่างหนักแต่อย่างใด.

“ติ๊ง! ภารกิจสนับสนุนเปิด!”

“.....”

ไม่ใช่ว่าบังคับให้ข้าแข่งปรุงยาหรอกนะ?

จุนซ่างเซียวที่เปิดคอนโซนอากาศ เห็นเนื้อหา“เอาชนะถูหงเฉินด้วยวิถีปรุงยา” ทันใดนั้นเขาที่สบถในใจอย่างแรง“มารดาเถอะมันต้องเป็นแบบนี้ทุกทีสินา!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด