ตอนที่แล้วChapter 1410 ข้า! ไม่ใช่นมพิษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1412 เจ้านิกายของข้า ช่างมีความคิดใหญ่นัก

Chapter 1411 วิชาแยกเงาพันร่าง


จุนซ่างเซียวที่คิดหัวจะแตกเพื่อหาแต้มชื่อเสียง หากว่าได้ภารกิจทำให้ได้ค่าชื่อเสียง เขาก็ไม่ต้องเดินสายนำศิษย์ไปประลองยังพื้นที่ต่าง ๆ.

ท้ายที่สุด?

ระบบที่กล่าวหยันสาดน้ำเย็นใส่หน้าเขาว่า“ฝันไปเถอะ”

ผลสุดท้ายนะรึ?

ด้วยอิทธิฤทธิ์ปากนมพิษ ได้บันดาลให้ถูกหักหน้าอีกแล้ว.

ดูเหมือนว่าเวลานี้ จะต้องปิดระบบชั่วคราวเสียแล้ว!

หลังจากได้ยินภารกิจสร้างชื่อเสียง จุนซ่างเซียวอดไม่ได้ที่จะกล่าวในใจ“ขอบคุณ!”

“......”

หากระบบมีร่างจริง บางทีคงน้ำตาไหลอาบนองหน้าไปแล้ว.

ยากจะหลุดพ้น

ชาตินี้คงหลุดพ้นไม่ได้แล้ว.

“ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวที่เปิดภารกิจซึ่งมีรายการต่าง ๆ แยกย่อยโดยมีเนื้อหา-

ให้ยกระดับธุรกิจนิกาย สร้างชื่อแบรนด์นิกายให้เป็นที่รู้จัก.

“หืม? มีแค่นี้รึ?!”

ขณะจ้องมองรายการ จุนซ่างเซียวที่กลายเป็นงงงวยทันที.

ภารกิจสนับสนุนที่มีรายระเอียดสั้นมาก ๆ อะไรกัน? พัฒนาธุรกิจอะไรล่ะ

อีกอย่าง.

แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับชื่อเสียงนิกายว่ะ?

“นิกายปรกติก็ทำธุรกิจอยู่แล้ว ไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอล้วนแต่เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงนิกายทั้งนั้น.”ระบบเอ่ย “ยกตัวอย่างร้านขายยานิรันดร หากพัฒนาเป็นที่รู้จักไปทั่วหล้า หากผู้ฝึกยุทธ์คิดจะซื้อยาก็คิดถึงร้านขายยานิรันดร ซึ่งก็หมายความว่ามีชื่อเสียงแล้ว.”

“เป็นเช่นนี้นะเอง.”

“แปะ!”

จุนซ่างเซียวที่ดีดนิ้ว เอ่ยออกมาว่า“เข้าใจแล้ว ข้าสามารถสร้างชื่อเสียงได้โดยการพัฒนาร้านขายยาให้เป็นที่รู้จักนี่เอง!”

“ข้าแค่เปรียบเปรย!”

“เจ้าเปรียบเปรยได้ถูกต้องแล้ว ทำให้ข้ารู้ว่าต้องตั้งเป้าหมายไปยังเรื่องดังกล่าว.”

“......”

คำพูดที่บอกให้อีกฝ่ายหาวิธีเอง ระบบไม่ได้อธิบาย ท้ายที่สุดก็เหมือนว่าจะเป็นระบบแนะนำเหมือนเดิม.

“แล้วอย่างไรต่อ?”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้ามีหน้าที่ช่วยข้า ไม่คิดที่จะแนะนำทำอะไรให้ข้าสะดวกขึ้นบ้างรึอย่างไร?”

“หากเลือกได้ ข้าไม่มีทางยอมมาเป็นผู้ช่วยคนหน้าไม่อายอย่างโฮสน์แน่นอน!”

“แต่ละวันชอบพูดจาไม่รื่นหู พูดอะไรก็ผิดไปหมด คิดว่าข้ามีความสุขรึไง!”

“อ้อ เหรอ ไม่ชอบก็ไปซะสิ?”

“ไม่!”

“เจ้านั่นล่ะไสหัวไปซะ!”

“เจ้านั่นล่ะไสหัวไป!”

จุนซ่างเซียวที่เริ่มโต้เถียงกับระบบ เหมือนดั่งเช่นที่เคยเป็น.

ซูเซียวโม่ที่กล่าวเสียงเบา “ศิษย์พี่รอง เจ้านิกายกำลังพูดกับตัวเองอีกแล้ว.”

“เงียบ ๆ.”

หลี่ชิงหยางที่กล่าวเสียงเบา.

เจ้านิกายที่เป็นเช่นนี้มาตั้งนานแล้ว ทำให้พวกเขากลายเป็นเคยชิน ไม่ได้รู้สึกแปลกประหลาดแต่อย่างใด.

แม้แต่คิดว่า.

เพราะว่ามีศิษย์มากมายก้าวไปถึงระดับราชันย์ยุทธ์ เจ้านิกายดีใจเลยเพี้ยนไปบ้าง.

......

ที่จริงระบบไม่ได้เอ่ยอะไร จุนซ่างเซียวก็คิดถึงร้านขายยาเป็นธรรมดา ต้องไม่ลืมว่านิกายมีเพียงธุรกิจเดียวนั่นเอง.

ผ่านมาสองปี ธุรกิจยาได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้นิกายนิรันดรมีทุนก้อนใหญ่ ทว่าขนาดธุรกิจยังคงเล็กอยู่.

ตอนนี้ ในเมื่อมีภารกิจเพิ่มแต้มชื่อเสียง ดังนั้นจุนซ่างเซียวจึงเริ่มคิดว่าจะจัดการอย่างไร พัฒนาธุรกิจให้มากขึ้น ทำให้แบรนด์“นิรันดร” ก้าวออกจากเมืองหลินหยวน กระจายไปทั่วโลกอย่างไร.

ดังนั้น.

เขาได้เรียกนายน้อยหวนและเฟิงกุยเฉินมาปรึกษา.

ทั้งสองที่รับผิดชอบในการขายเม็ดยา และปรุงยา การร่วมมือของทั้งสองถือว่าไม่เลวเลย.

“เจ้านิกาย.”

เฟิงกุ้ยเฉินส่ายหน้าไปมา “ความสามารถในการปรุงยานั้นไม่พอ ยากจะเปิดสาขาเพิ่มได้.”

จุนซ่างเซียวที่ต้องการเปิด แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ง่าย แม้นว่าธุรกิจเม็ดยานิรันดรจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทว่าการจะหลอมเม็ดยาให้เพียงพอ เวลานี้ไม่สามารถทำได้จริง ๆ.

“พวกซุนปู่คงยังไม่สามารถหลอมยาได้อย่างงั้นรึ?”

“สามารถหลอมได้ ทว่าเพียงพอแค่ร้านค้าที่เปิดในปัจจุบันเท่านั้น หากเปิดร้านขายเพิ่ม เกรงว่าคนของพวกเราจะไม่พอ.”

จุนซ่างเซียวที่กลายเป็นเงียบ.

ดูเหมือนว่าเขาจะคิดง่ายไปหน่อย.

เดี๋ยวนะ!

คนไม่พออย่างงั้นรึ?

จุนซ่างเซียวที่ตบหน้าผากเสียงดัง “ใช่แล้วลืมไปเลย วิชาลับแยกเงาพันร่าง!”

สองปีที่แล้วเมื่อครั้งเข้าร่วมงามชุมนุมเทือกเขาหลิงเฟิง เขาได้รับตำรายุทธ์มา ด้วยเหตุผลหลากหลายจนทำให้เขาลืมไปเลย จวบจนถึงตอนนี้เขาเพิ่งนึกขึ้นมาได้.

เขาที่ส่งจิตเข้าไปในแหวนมิติ พร้อมเริ่มศึกษามันอย่างอย่างใจเย็น.

จากชื่อ มันน่าจะเกี่ยวข้องกับท่าเท้า ทว่าหลังจากศึกษาไปชั่วครู่ จึงเข้าใจว่ามันเกี่ยวข้องกับร่างแยกอย่างเดียว.

ร่างแยกไม่ใช่ร่างแยกที่โกวเซิ่งคิด มันไม่เหมือนกับร่างแยกทั่วไป.

วิชาแยกเงาพันร่างนั้นลึกล้ำเป็นอย่างมาก หลังจากฝึกฝนวิชานี้จะสามารถสร้างร่างเงาขึ้นมาได้ เป็นร่างคัดลอกร่างต้น สามารถทำงานทั่วไปได้....นอกจากนี้ยังสามารถฝึกฝนวิชาเพิ่มความสามารถสนับสนุนร่างต้นได้อีกด้วย!

กล่าวตามจริง สร้างร่างแยก ไม่เพียงแค่สามารถช่วยฝึกฝน ยังช่วยทำงานต่าง ๆ ตามคำสั่งของร่างหลักนั่นเอง.

“สัส!”

จุนซ่างเซียวถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ“ร้ายกาจจริง ๆ!”

ระบบที่เอ่ยในใจ“วิชาที่ร้ายกาจขนาดนี้อย่างน้อยต้องมีราคาหนึ่งล้านแต้ม คาดไม่ถึงเลยว่าจะมอบเป็นรางวัลภารกิจสนับสนุน เหลือเชื่อจริง ๆ.”

โกวเซิ่งที่ยิ่งศึกษา ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสิ่งที่บันทึกเอาไว้นั้น นี่ไม่ใช่วิชาเพื่อใช้ในการต่อสู้ ทว่าการสร้างเงาขึ้นมานั้น เพื่อที่จะเพิ่มความเร็วในการฝึกฝน แม้แต่ช่วยในการจัดการงานต่าง ๆ สำหรับวิถีปรุงยา หรือวิถีตีเหล็ก งานเล็ก ๆ น้อยเป็นการซอยงานให้ร่างแยกจัดการนั่นเอง.

สรุป.

ไม่ใช่วิชาสำหรับนักรบ แต่เป็นวิชาที่ใช้ในการสนับสนุนเพื่อช่วยทำงานเป็นหลัก!

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”

จุนซ่างเซียวที่ตบต้นขาหัวเราะ.

เขากำลังกังวลเกี่ยวกับแรงงานอยู่เลย หากสามารถสร้างร่างแบ่งงานในการปรุงยา จะทำให้ช่วยเพิ่มผลผลิตในการปรุงยาได้มากเท่าไหร่กัน!

ขณะที่ทุกคนกำลังเคร่งเครียดเกี่ยวกับแรงงาน จู่ ๆ เจ้านิกายกับหัวเราะออกมาในทันที แม้แต่ตบต้นขาเสียงดัง ทำให้ทั้งสองตกใจไปตาม ๆ กัน.

“เจ้านิกาย!”

เฟิงกุ้ยเฉินที่อดไม่ได้ต้องสอบถามออกมา“มีเรื่องอะไรน่าดีใจอย่างงั้นรึ?”

“เอิ่ม....”

จุนซ่างเซียวที่หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งก่อนเปลี่ยนเป็นจริง ๆ “พวกเราพูดกันถึงใหนแล้วนะ?”

“เปิดสาขา.”

“อืม ตัดสินใจแล้วเหล่าหยวนช่วงนี้ลองไปตรวจสอบร้านค้าเมืองอื่น เพื่อดูความเหมาะสมในการเปิดร้านก็แล้วกัน.”

“เจ้านิกาย แรงงานพวกเรา.....”

“แรงงานไม่ใช่ปัญหา เปิ่นจั้วมีวิธีแก้ไขแล้ว.”

......

การประชุมที่จบแล้ว.

เฟิงกุ้ยเฉินที่ก้าวออกจากห้องโถง ภายในใจที่เต็มไปด้วยความเศร้า“เหล่าหยวน ร้านค้านิกายนิรันดร สาขาใหม่ที่เจ้านิกายจะเปิด พวกเราจะมีสินค้าพอขายรึ?”

“ไม่มี.”

นายน้อยหยวนทีกล่าวอย่างจริงจัง “ทว่าข้าเข้าใจเจ้านิกาย ดูเหมือนว่าจะต้องมีวิธีแก้ไขอย่างแน่นอน!”

“......”

เฟิงกุ้ยเฉินที่ยังคงเต็มไปด้วยความสงสัยทุ้มอยู่ในหัวใจ.

กล่าวได้ว่าเขาเพิ่งเข้านิกายมา แล้วโกวเซิ่งก็ออกไปหาประสบการณ์ จึงไม่ค่อยรู้จักตัวตนของเจ้านิกายมากนัก แต่หากครุ่นคิดปรกติ การที่เจ้านิกายเอ่ยออกมาเช่นนั้น แสดงว่าจะต้องมีวิธีแก้ไขปัญหาในใจอยู่แล้วแน่ ๆ.

......

เช้าวันถัดมา.

ทั้งสองขณะเตรียมตัวกลับเมืองหลินหยวน จุนซ่างเซียวก็เรียกทั้งคู่มาพบ พร้อมกับนำตำราสองเล่มมอบให้ “ขณะจัดการธุรกิจมีเวลาก็ควรจะฝึกฝนวิชาด้วย.”

“ขอบคุณเจ้านิกาย!”นายน้อยหยวนเผยท่าทางดีใจ.

เฟิงกุ้ยเฉินที่รับตำรามาเช่นกัน ทว่าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรนัก เพราะว่าเขาก้าวไปบนวิถียา ไม่ได้สนใจในวิถียุทธ์เท่าใดนัก.

อย่างไรก็ตาม ขณะกลับเมืองหลินหยวน เขาที่เห็นนายน้อยหยวนศึกษาอย่างจริงจัง ดังนั้นจึงสงสัย จึงได้นำตำราออกมาดู วิชาลับแยกเงาพันร่าง ก่อนที่จะอ่านคำแนะนำ ถึงกับอดไม่ได้ สะดุ้งตกใจขึ้นมาทันที“บัดซบ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด