ตอนที่ 24
ตอนที่ 24
การจะสร้างผู้สืบสายเลือดนั้นจำเป็นต้องรอCP ผมฟื้นก่อน
ผมเลยเลื่อนคิวไปยังสิ่งต่อไปที่พอทำได้
การทดลองต่อไปก็คือ ― การเช็คอบิลิตี้ของลูกน้องใหม่ทั้งหลาย
ลูกน้องใหม่ที่ผมสร้างได้เมื่อวิวัฒนาการกลายเป็นจอมมาร (แวมไพร์)ก็มีสามตัวนี้ :
ค้างคาวใหญ่ – แร๊ง E ราคาสร้าง : 5 CP
กูล – แร๊ง D ราคาสร้าง : 10 CP
ไลแคนโทรป – แร๊ง D ราคาสร้าง : 30 CP
สิ่งที่ชวนให้ผมสงสัยน่ะไม่ใช่อบิลิตี้ใหม่หรอก แต่เป็นเรื่องที่มีแค่ราคาสร้างของค้างคาวเท่านั้นที่ถูกลง
แต่เดิม ถ้าผมจะสร้างค้าวคาวออกมา ก็จะใช้ 3 CP แต่ตอนนี้เหลือแค่ 2 CP
จริงๆมันลดลง 1CP ก็เลยเป็น 2 CP แล้วว่า เกิดจากการลดราคาลงครึ่งหนึ่งจาก 3CP แล้วปัดเศษขึ้นกันนะ ?
ถ้าเป็นอย่างหลังนี่ก็หมายความว่า แต่เดิมราคาสร้าง ค้างคาวใหญ่คือ 10 CP ราคาเท่ากันกับโคโบ้ลน่ะสิ
เอาล่ะมาทดสอบกันดีกว่า
“ต่อสู้กัน แต่ไม่อนุญาตให้ฆ่าฝ่ายตรงข้าม”
ผมสั่งให้ค้างคาวใหญ่และโคโบ้ลสู้กัน
“กิ กิ กิ”
เนื่องจากร่างที่ใหญ่ ค้างคาวใหญ่ก็เลยพุ่งกระแทกโคโบ้ลจากบนอากาศ
ในทางกลับกันโคโบ้ลเองก็ย่อตัวลงเตรียมกระโดดสวนเพื่อจัดการค้างคาวจากมุมสูง
เกิดการปะทะกันซ้ำแล้วซ้ำอีก
แล้วตอนนั้นเองที่ค้างคาวก็กัดโคโบ้ลด้วยเขี้ยวคม ส่วนโคโบ้ลที่กระโดดไปสูงกว่าตัว ค้างคาว จากนั้นก็ใช้เขี้ยวฟันตัวเองแทงเข้าที่ปีกอีกฝ่าย
ผลก็คือ ค้างคาวใหญ่ชนะไปแบบเฉียดฉิว
มูฟที่ตัดสินชัยชนะคือ การตอนที่ค้างคาวใหญ่ฝังเขี้ยวลงคอโคโบ้ลแล้วใช้อัลตร้าโซนิก ทำให้อีกฝ่ายขยับไม่ได้
10 CP…ก็ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการฟื้น
ผมว่าต้องมีการทดลองเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ก่อน ก็เลยสร้างค้าวคาวใหญ่มาเป็นสองตัว และก็ให้สู้กับโคโบ้ลสองตัว
เนื่องจากก่อนหน้าคงจะหมดแรงกันไปมากทั้งค้าวคาวใหญ่และโคโบ้ลผมเลยให้พวกมันไปพักผ่อนก่อน
พอกลับมาสู้ผลที่ได้ก็คือ โคโบ้ลสองตัวได้รับชัยชนะแบบฉิวเฉียดแทน พลังการร่วมมือกันสู้ของโคโบ้ลเหนือกว่าค้าวคาวขั้นหนึ่ง
สิ่งที่สรุปได้จากการต่อสู้นี่ก็คือ ลูกน้องที่มีความเข้ากันได้กับตัวผมนั้นจะลดราคาสร้างได้ครึ่งนึง
“เอาล่ะ สู้กันซะ เหมือนเดิมไม่อนุญาตให้ฆ่าคู่ต่อสู้”
ผมสั่งให้กูลกับออร์คสู้กัน
“โอววววว !”
“บุฮี้ !”
กูลค่อยๆเดินเข้าไปหาออร์คอย่างช้าๆแล้วจู่ๆก็เหวี่ยงแขนฟาดใส่ทันที
ส่วนออร์คเองก็พยายามใช้เขี้ยวโง้วในปากตัวเองหันไปใส่กูล
เสียงกระทบกระแทกสนั่นดังทั่วพื้นที่
กลายเป็นออร์คนั่นเองที่โดนกูลฟาดจนลอยกระเด็น
กูลน่ะมีบาดแผลที่ลำคอ แต่ก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ยังคงไล่ตามออร์คไปต่อ
โอโห !? กูลนี่มันสุดยอดเลย …
กูลหวดเปรี้ยงเดียวโดยไม่ต้องสวมอาวุธใดๆด้วยซ้ำ ถือว่าแข็งแกร่งจริงๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก็คงวัดอะไรไม่ได้ ผมโยนหอก ที่เป็นอาวุธถนัดไปให้ออร์ค
พอออร์คได้หอกไปก็ทำการแทงซ้ำๆ แล้วเว้นระยะป้องกันไม่ให้กูลเข้ามาใกล้
อย่างไรก็ดี มันก็ขาดความระวังตอนแทง กูลก็เลยเข้ามาฟาดเหวี่ยง
ออร์คโดนซ้ำแล้วซ้ำอีก ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป อย่างไรเสียกูลก็ชนะแน่ๆ
ทั้งคู่ต่างสู้แบบชี้เป็นชี้ตาย แล้วกูลก็ซัดออร์คล้มลงแล้วก็อัดอีกฝ่ายซ้ำๆ ปางตาย
กูลที่ได้รับชัยชนะก็คำรามออกมา
เอ่อ? เจ้านี่มันโง่เกินไปแล้วมั้ง ? ลืมคำสั่งที่ผมสั่งไปแล้วสินะ ?
กูลจะไม่อยู่ในรายชื่อที่ผมจะเอาไปทำเป็นผู้สืบสายเลือดแน่ๆล่ะ
ผมตัดสินใจแน่ชัดแล้วหลังเห็นผลการต่อสู้นี้
ต่อไปก็ อีเว้นท์หลักอย่างสุดท้าย !
มาดูอบิลิตี้ของไลแคนโทรปกันดีกว่า เป็นอะไรที่ผมสนใจมากที่สุดเลยล่ะ เจ้าไลแคนโทรปเนี่ย
เนื่องจากเป็นแร๊ง D ก็เลยมีราคาสร้าง 30 CP หากใช้กฏลดราคาครึ่งนึง พลังของมันก็คงประมาณ 60 CP
เมื่อเทียบกับ ดาร์คเอลฟ์ แร๊ง C ที่เป็นลูกน้องระดับที่สูงที่สุดที่ผมสร้างขึ้นมาได้
ราคาสร้างก็ใช้ 50 CP ก่อนผมวิวัฒนาการ
ถึงไลแคนจะใช้ราคาสร้างสูงกว่าแต่ก็มีแร๊งที่ต่ำกว่า มาดูกันซิผลจะเป็นยังไง ?
“สู้กัน แต่ไม่อนุญาตให้ฆ่าคู่ต่อสู้”
ผมสั่งให้ไลแคนโทรปกับดาร์คเอลฟ์สู้กัน
ฝ่ายไหนจะชนะกันนะระหว่างดาร์คเอลฟ์ที่แร๊งสูงกว่าหรือไลแคนโทรปที่ราคาสร้างสูงกว่า ?
ต่อให้ไลแคนโทรปจะสามารถชนะได้ก็เถอะ แต่ผมรับไม่ได้แน่ๆหากต้องมีใครตายไป ตอนนี้ราคาในการสร้างดาร์คเอลฟ์ของผมนี่คือ 100 CP แล้ว
แถมตอนนี้ผมยังมีดาร์คเอลฟ์ทั้งหมดอยู่แค่ เพียง10 คนหากเป็นไปได้ผมไม่อยากให้เสียไปแม้แต่คนเดียวเลยล่ะ
“※※※※!”
“####!”
พวกนั้นปะทะกันพร้อมกับตะโกนคำที่ฟังไม่เป็นภาษา
ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดปรากฏออกมาระหว่างการสู้กันของทั้งสอง
…เอ๋ ?
ไลแคนโทรปโดนอัดยับต่อหน้าผมเลย
ไลแคนโทรปยังคงโดนดาร์คเอลฟ์ที่คล่องแคล่วว่องไวกว่าอัดอย่างต่อเนื่อง
โดยพยายามโต้กลับไปอย่างสิ้นหวัง แต่ก็โดนดาร์คเอลฟ์หลบและปัดป้อง พร้อมชกกลับในทุกครั้ง
“ดะ-!? เดี๋ยวก่อน ขอเวลานอก !”
ผมรีบปรบมือหยุดการต่อสู้
หลังจากนั้นผมเลยลดความยากลง ให้ไลแคนโทรปลองสู้กับออร์คและโคโบ้ลดู
เทียบกันแล้วกลายเป็นไลแคนโทรปสามารถเอาชนะก็อบลินได้ไปแบบเกือบแพ้
อ่อนแอชะมัด
ผมเลยทดสอบให้สวมอาวุธต่างๆหลากหลาย ทั้งดาบ หอก ขวานมือ และธนู แต่ก็ไม่ได้เพิ่มความแข็งแกร่งอะไรมากนัก
หากวัดจากความแข็งแกร่งเจ้านี่แล้วก็ประมาณมนุษย์เลเวล 1 เลยล่ะ
『ไลแคนโทรป – แร๊ง D สปีชี่ส์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นสัตว์ร้าย จะเผยพลังที่แท้จริงออกมาใต้แสงจันทร์ หากไม่ใช่เวลานั้น ตัวตนที่แท้จะไม่เป็นที่ประจักษ์
ราคาสร้าง: 30 CP』
อืมมมม แสงจันทร์งั้นเหรอ … พูดง่ายๆเจ้าหมอนี่มันมีใช้ได้เฉพาะตอนกลางคืน ที่อยู่ด้านนอกสินะ ?
อ๋า!? นึกออกแล้ว …
ผมเปิดสมาร์ทโฟนขึ้นมา เลือกไปที่ 【สร้างโดเมน 】 → 【ปรับปรุงชนิด 】
『คืนเดือนหงาย: จะเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นพื้นที่แห่งความมืดที่เต็มไปด้วยแสงจันทร์ 』
โอ้ !? ใช่เลยอันนี้ไง
『คุณกำลังจะปรับปรุงทั้งโดเมนหรือไม่ ? (ราคา : 1000 CP)』
…
แล้วปรับปรุงแค่บางส่วนมันหายไปไหนกันฟะ ห้ะ?
ผมเลยยอมแพ้กับการทดสอบความสามารถไลแคนโทรปเพียงเท่านี้
◆
หลังจากตรวจสอบอบิลิตี้ลูกน้องเสร็จ CPผมก็ฟื้นคืนมากลายเป็น 282 เหลืออีก 32 นาที CPผมก็จะฟื้นเต็ม
ระหว่างนี้เองผมก็ลองตรวจสอบอลิบิตี้พิเศษที่ผมเพิ่งได้มา
อบิลิตี้ใหม่ผมก็มี 『ธนูมืด 』, 『เหนี่ยวนำความมืด 』, 『ดูดกลืน』,『จอกเลือด 』 และ 『พันธสัญญา』
สองอันหลังก็ต้องเฝ้ารอให้CPผมฟื้นก่อน
อบิลิตี้พิเศษ พลังที่ไม่ทราบที่มา ที่เรียกว่าเวทย์มนตร์นั่นเอง
ทันทีที่ได้มันมาผมก็เข้าใจวิธีใช้งานมันโดยสัญชาตญาณเลยล่ะ เหมือนตอนที่รู้ว่าควรจะขยับแขนขวายังไง ?มันก็ไม่มีใครต้องสอนเลยถูกไหมล่ะ ?
สามารถขยับได้เองโดยไม่ต้องเรียนรู้ว่า ต้องทำยังไง
อบิลิตี้พิเศษก็แบบนั้นแหละ
ผมยื่นมือขวาออกมาแล้วร่าย
―ธนูมืด !
ธนูสีดำสนิทสอบลูก ปรากฏขึ้นมารอบมือขวาผม แล้วยิงพุ่งเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมาย ที่เป็นกำแพงหินที่ไม่มีใครอยู่รอบๆ
พอธนูสีดำสนิทมากมายกระทบเข้ากำแพง ก็เกิดเสียงดังสนั่นพร้อมฝุ่นตลบกองใหญ่
โอโห …ทำเอาผมตกใจเลยนะเนี่ย
ถึงผมจะเป็นคนที่ยิงมันออกไปเองก็เถอะ แต่ก็ถึงกับตกใจในพลังทำลายล้างของมันที่เหนือจินตนาการ
นี่มันจะแรงขนาดไหนนะ ถ้ายิงไปโดนใครสักคนน่ะ ?
ผมลองหันหน้าไปหาลูกน้องที่รออยู่รอบข้าง
นอกจากกูลแล้ว ลูกน้องทั้งหลายต่างหลบไม่สบตา ราวกับสัมผัสได้ถึงเรื่องอันตรายบางอย่าง
เฮ่อ คิดไว้แล้ว การเอาลูกน้องมาเป็นหุ่นซ้อมยิงนี่มัน …ไม่ดีจริงๆสินะ ?
อย่างว่าแหละไม่มีความจำเป็นที่ต้องลดจำนวนลูกน้องตัวเอลงโดยไม่จำเป็น ผมเลยหยุดทดสอบการยิง
ผมเลยเปลี่ยนความสนใจไปตรวจสอบอบิลิตี้พิเศษอันอื่นต่อ
เป้าหมายน่าจะเป็น … ก็อบลินล่ะมั้ง ?
กะไว้แล้วล่ะ อบิลิตี้ต่อไปนี้เนี่ยจะทดสอบไม่ได้ถ้าไม่มีเป้าหมาย
ผมมุ่งโฟกัสไปที่ก็อบลินแล้วร่ายออกมาด้วยการดีดนิ้วที่มือขวา
―เหนี่ยวนำความมืด !
เกิดหมอกสีดำวนรอบหัวของก็อบลินที่เป็นเป้าหมาย
“กิกี๊กี๊ !”
อยู่ๆก็อบลินที่โดนเข้าไปก็จู่โจมก็อบลินใกล้ๆด้วยแววตาที่ว่างเปล่าราวกับสูญเสียสามัญสำนึกและเหตุผลไปแล้ว คล้ายกับเจ้ากูล
แล้วพอก็อบลินที่ตัวทำร้ายหนีออกมาจากตรงนั้น ก็อบลินที่โดนผลของ เหนี่ยวนำความมืดก็เริ่มเต้นมั่วซั่วไม่หยุดราวกับเป็นคนเมา
สถานะสับสนเหรอเนี่ย ? หรือเป็นการทำลายความมีเหตุผลของเป้าหมายไปแล้ว?
ต่อจากนั้นผมก็ทดสอบหลายต่อหลายครั้งโดยเปลี่ยนเป้าหมาย ทำให้ผมเข้าใจเลยว่า โอกาสสำเร็จไม่ใช่ 100% เสียทีเดียว ถ้าใช้ดาร์คเอลฟ์ 10 ครั้ง จะมีโอกาสสำเร็จแค่ 2 ครั้ง
การทดสอบต่อไปก็คือ 『ดูดกลืน』 !
สิ่งที่จะสร้างความแกร่งให้กับผมเป็นอย่างมากเลย ทำเอาผมรู้สึกตื่นเต้นทีจะได้ทดสอบการ 『ดูดกลืน 』