ตอนที่ 105 : ระบบเฮงซวย! นายเป็นคนกลางที่รับส่วนต่างงั้นเหรอ?!
ตอนที่ 105 : ระบบเฮงซวย! นายเป็นคนกลางที่รับส่วนต่างงั้นเหรอ?!
เมื่อเห็นชายคนนั้นปีนขึ้นไปนั่งที่นั่งผู้โดยสาร ซู่ซวนก็ยื่นมือออกไปและคาดเข็มขัดนิรภัยให้เขา จากนั้นเขาก็ปีนออกจากเบาะหลัง
จ้าวรั่วซีที่จับประตูอย่างใจจดใจจ่อก็สังเกตเห็นเขาโผล่ออกมาและโบกมือทันที น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
“ซู่ซวน… นายโอเคไหม? เมื่อกี้นี้…”
เธอลังเลในขณะที่พูด โดยตระหนักว่าสายงานของซู่ซวนค่อนข้างผิดปกติ ดังนั้นเธอจึงไม่แน่ใจว่าควรถามหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากรู้อยากเห็น
ตอนนี้เองที่จ้าวรั่วซีตระหนักว่าซู่ซวนไม่ได้วางแผนที่จะมาที่สถานีกับเธอในตอนแรก หลังจากที่คนขับมาถึงเขาก็เปลี่ยนใจ เป็นไปได้ไหมว่าเขาสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับคนขับในเวลานั้น?
ความคิดนี้เข้ามาในใจของจ้าวรั่วซีแต่เธอก็ไม่ได้แสดงออกมา ซู่ซวนพยักหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย
"ไม่ต้องกังวล ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดี ผู้ชายคนนี้ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ แต่ตอนแรกก็ยังไม่แน่ใจ ฉันเลยตัดสินใจนั่งรถมากับเธอ”
“ซึ่งก็เป็นแบบที่คิดจริงๆ”
“ส่วนที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง เธอไปทำงานได้เลย”
เสียงของซู่ซวนอ่อนโยนและขจัดความกังวลของเธอออกไป จ้าวรั่วซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อได้ยินคำพูดของซู่ซวน เธอก็พยักหน้าทันที
“งั้นฉันจะไปทำงานแล้วนะ”
“เอ่อ…ถ้านายต้องการอะไร…”
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“…โทรหาฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ”
จ้าวรั่วซีอดไม่ได้ที่จะแสดงความขอบคุณ แม้ว่าภายใต้สถานการณ์ปกติ เธอคงไม่ตรงไปตรงมาขนาดนี้ แม้ว่าเธอจะมีความรู้สึกต่อซู่ซวนก็ตาม แต่วันนี้ซู่ซวนได้ช่วยชีวิตเธอไว้แล้ว
จ้าวรั่วซีรู้สึกเขินอายมากหลังจากพูดคำเหล่านั้นและโดยไม่รอคำตอบของซู่ซวนเธอหันหลังแล้วรีบออกไป ซู่ซวนยืนอยู่ที่นั่น ปากอ้าค้าง เขาตะโกนออกมาขณะที่เธอกำลังจะเข้าไปในสถานี
"ฉันเข้าใจแล้ว!"
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ร่างที่จากไปของเธอก็หยุดครู่หนึ่งแล้วหายไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม
ซู่ซวนเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะรีบออกไป เขาหันกลับไปหารถแท้กซี่และชายที่นั่งอยู่บนที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า
เขาถอนหายใจ ในตอนแรกเขาวางแผนที่จะหยุดงานและไปเยี่ยมสถานีตำรวจเจียงเฉิง แต่ตอนนี้…
ดูเหมือนว่าเขาคงจะต้องกลับไปหาทีมต่อต้านการล้วงกระเป๋า!
ด้วยความคิดนี้ ซู่ซวนจึงเข้าไปในที่นั่งคนขับและสอดกุญแจเข้าไป เขามุ่งหน้ากลับไปที่ทีมต่อต้านการล้วงกระเป๋า
เมื่อซู่ซวนขับรถแท้กซี่เข้าไป เจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คนที่ยังปฏิบัติหน้าที่ก็ตกตะลึง แม้แต่หัวหน้าเหลียวก็ดูสับสน
“ไม่ใช่ว่า… ฉันให้วันหยุดนายหนึ่งวันเหรอ ทำไมนายกลับมา?” หัวหน้าเหลียวถาม “แล้วทำไมนายถึงขับรถแท้กซี่ล่ะ? ฉันจำไว้ว่านายเอารถตำรวจของเราไป รถคันนี้นายได้มาจากไหน”
หัวหน้าเหลียวเหลือบมองรถแท้กซี่และรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
"หรือว่า…?" ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจของเขา แต่เขาไม่แน่ใจนัก
หัวหน้าเหลียวมองไปที่ซู่ซวนเพื่อรอคำอธิบาย
ซู่ซวนยักไหล่และชี้ไปที่ผู้ต้องสงสัยบนที่นั่งผู้โดยสาร “ผมกำลังจะไปแล้วแต่พอดีว่าผมเรียกแท้กซี่มา พอผมขึ้นรถไปก็มีความรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ ปรากฎว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัย ผมก็เลยพาเขากลับมา”
คำพูดของซู่ซวนนั้นไม่ได้เป็นทางการมากนัก แต่เจ้าหน้าที่ที่ฟังก็ไม่สามารถระงับตัวเองได้
นายล้อพวกเราเล่นเหรอ?
ปกติเราจะต้องค้นหาแทบตายเพื่อค้นหาผู้ต้องสงสัยสักคน แล้วนายก็เจอจากแค่การขึ้นแท้กซี่?
โลกนี้มันบ้าไปแล้ว!
“ว้าว ซู่ซวน นายสุดยอดมาก!” ในที่สุดหัวหน้าเหลียวก็ตอบสนองและอุทานออกมา
ก่อนหน้านี้ ในช่วงสัปดาห์นี้ ซู่ซวนได้จับกุมอาชญากรจำนวนมาก หัวหน้าเหลียวคิดว่าซู่ซวนอาจมีพรสวรรค์พิเศษในการดึงดูดอาชญากร แต่ในเวลานั้นเขาไม่ได้คิดอะไรมาก
ตอนนี้ซู่ซวนสามารถตรวจพบผู้ต้องสงสัยได้แม้ในขณะที่ใช้บริการแท้กซี่ หัวหน้าเหลียวเชื่อว่าการคาดเดาก่อนหน้านี้ของเขาถูกต้อง ซู่ซวนเป็นแม่เหล็กดึงดูดอาชญากรที่เกิดมาเพื่อทำงานนี้
หัวหน้าเหลียวนึกไม่ถึงว่าซู่ซวนที่เพิ่งกลับไปเพื่อพักผ่อนช่วงสั้นๆจะกลับมาพร้อมกับความประหลาดใจเช่นนี้ เมื่อเผชิญกับสายตาที่ประหลาดใจและอิจฉาจากเพื่อนร่วมงานของเขา ซู่ซวนก็พูดอย่างเมินเฉยว่า “หัวหน้าเหลียว ผมขอมอบผู้ต้องสงสัยรายนี้ให้กับหัวหน้านะครับ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่หัวขโมยธรรมดาและคุณอาจจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม”
“ผมจะได้ไปพักผ่อนสักที สัปดาห์นี้ค่อนข้างเหนื่อยมาก”
หลังจากที่ซู่ซวนพูดจบ หัวหน้าเหลียวก็ตบไหล่ของเขา หัวหน้าเหลียวซึ่งปกติจะจริงจังมากแต่ตอนนี้กลับมีรอยยิ้มที่หาได้ยากและการจ้องมองไปที่ซู่ซวนก็อ่อนโยนเป็นพิเศษ “ให้เราจัดการกับผู้ต้องสงสัยรายนี้เอง นายมีสัปดาห์ที่ยากลำบากมากพอแล้ว นายควรไปพักผ่อนให้เต็มที่”
“พรุ่งนี้ไม่ว่าจะไปสนามบินหรือสถานีรถไฟ นายก็โทรมา”
ซู่ซวนพยักหน้าตอบ เขาไม่ได้อ้อยอิ่งอยู่กับทีมต่อต้านการล้วงกระเป๋าและมุ่งหน้ากลับไปที่หอพักของเขา สำหรับผู้ต้องสงสัย ซู่ซวนไม่ได้สนใจเขาจริงๆ จากข้อมูลในเรดาร์ของซู่ซวนชายคนนี้เป็นผู้กระทำความผิดต่อเนื่องในหมู่คนขับแท้กซี่
นั่นหมายความว่าอย่างไร?
หมายความว่าคนขับรถแท้กซี่คนนี้จะใช้ประโยชน์เมื่อมีผู้โดยสารหญิงคนเดียว นี่คือเหตุผลที่ซู่ซวนตัดสินใจติดตามจ้าวรั่วซีและตอนนี้เขาได้นำผู้ต้องสงสัยกลับมาแล้ว เขาเชื่อว่าด้วยความสามารถของหัวหน้าเหลียวพวกเขาจะสามารถรวบรวมหลักฐานเพียงพอเพื่อส่งฟ้องคนขับรถคนนี้
ต่อจากนี้ ซู่ซวนวางแผนที่จะตรวจสอบระบบ เนื่องจากเขาตัดสินใจที่จะไม่กลับไปที่บ้านเกิดของเขา เขาจึงรีบไปที่หอพักชั่วคราวแล้วเปิดแผงระบบ
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซู่ซวนสามารถจับกุมอาชญากรได้ไม่น้อย แม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะเป็นหัวขโมยตัวเล็กๆ แต่ก็มีอาชญากรรายใหญ่จำนวนหนึ่งในหมู่พวกเขาด้วย
หลังจากอัปเกรดระบบ คะแนนที่เขาได้รับจากการจับอาชญากรก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ขึ้นอยู่กับระดับความชั่วของพวกเขา ในที่สุดกำไรเล็กๆน้อยๆก็เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการที่ลำธารเล็กๆไหลมาบรรจบกันจนเป็นแม่น้ำ
คะแนนของซู่ซวนขึ้นถึงระดับสูงสุดตลอดกาล โดยมีถึงห้าหลัก
ความรู้สึกกะทันหันของการร่ำรวยทำให้ซู่ซวนตื่นเต้นและเขาก็เริ่มสำรวจร้านค้าของระบบทันที
เมื่อเทียบกับร้านค้าทั้งหมด คะแนนห้าหลักของเขาก็ยังรู้สึกว่าค่อนข้างไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ซู่ซวนก็ยังพอใจ
การเคลื่อนไหวครั้งแรกของเขาคือการอัพเกรดเรดาร์ตรวจจับความชั่วของเขาเรดาร์ตรวจจับความชั่วที่เขาใช้อยู่ในปัจจุบันสามารถตรวจจับอาชญากรได้ภายในระยะประมาณ 55 เมตรเท่านั้น มันทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อต้องลาดตระเวนในรถไฟใต้ดิน แต่อาจจะไม่เพียงพอหากเขาต้องไปสนามบินหรือสถานีรถไฟความเร็วสูง
นอกจากนี้ มันไม่ใช่ว่าอาชญากรจะเข้ามาได้ง่ายๆ
ซู่ซวนตระหนักถึงความสำคัญของเรดาร์ตรวจจับนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะอัพเกรดมันอีกสามระดับ
[แจ้งเตือน : คุณต้องการอัพเกรดเรดาร์ตรวจจับความชั่วหรือไม่? หมายเหตุ : ตอนนี้คุณมีโอกาสอัปเกรด 5 ครั้ง ราคาอัปเกรด : 10,000 แต้ม]
ขณะที่ซู่ซวนคิดเช่นนี้ เสียงของระบบก็ดังขึ้น
เมื่อมองดูคะแนนห้าหลักที่เพิ่งได้มา ซู่ซวนก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า “ระบบ นายเป็นคนกลางที่ทำกำไรจากส่วนต่างของราคาหรือเปล่า?”
[ประกาศ : ขอแสดงความยินดี โฮสต์ สำหรับการอัพเกรดเรดาร์ตรวจจับความชั่วระบบจะหัก 10,000 คะแนน เส้นผ่านศูนย์กลางการตรวจจับปัจจุบันของเรดาร์คือ 180 เมตร]
ซู่ซวน “….”
