Chapter 1410 ข้า! ไม่ใช่นมพิษ
เมื่อครั้งจุนซ่างเซียวนำนิกายขึ้นมา สำเร็จภารกิจหลักที่สอง ในคอนโซนระบบนั้นมีหนึ่งฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นมานั่นก็คือคะแนนชื่อเสียง ผ่านมาสองปี ท้ายที่สุดก็เพิ่มเป็น 100 แต้ม.
เท่าที่รู้เวลานี้ คะแนนชื่อเสียงนั้นสามารถใช้ซื้อสินค้า ยกตัวอย่างเมื่อครั้งรีเฟรชได้ดาบสะบั้นสวรรค์ จะต้องมีชื่อเสียง 500 แต้มในการปลดล็อก.
นอกจากนี้จุนซ่างเซียวที่รีเฟรชแต่ละครั้ง มักจะมีสินค้าที่กำหนดคะแนนชื่อเสียงในการซื้อด้วยหลายรายการ.
จากคำอธิบายของระบบ อุปกรณ์ที่กำหนดค่าชื่อเสียงนั้น มีคุณสมบัติสูงกว่าสินค้าทั่วไปมาก.
กล่าวให้ถูกต้อง.
ยิ่งต้องใช้ค่าชื่อเสียงเท่าไหร่ สินค้าดังกล่าวนั่นก็ยิ่งร้ายกาจเท่านั้น.
พิภพเบื้องล่างใช้ศิลาวิญญาณเป็นเงินตรา พิภพเบื้องบนใช้ศิลาเสวียน เพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนทรัพยากร นอกจากนี้สินค้าในร้านค้านอกจากแต้มนิกาย ระบบยังกำหนดค่าชื่อเสียงในการใช้ด้วย.
อย่างไรก็ตาม จุนซ่างเซียวที่รู้สึกเศร้ามาก.
เขาไม่รู้ว่าจะได้รับคะแนนชื่อเสียงอย่างไรนั่นเอง.
ระบบเอ่ย “ศิษย์ได้อันดับหนึ่งถึงสาม ได้คะแนน 100 แต้ม นี่ยังไม่ชัดเจนอีกรึ?”
“......”
จุนซ่างเซียวที่หมดคำจะพูด “เจ้าหมายความว่า ต้องการคะแนนชื่อเสียง ก็ต้องเข้าร่วมงานประลองที่น่าเบื่ออย่างเดียวนะรึ?”
เพราะว่าศิษย์ของเขาชนะได้อย่างง่ายดายไม่ยากเย็น ทำให้โกวเซิ่งรู้สึกยืดเล็กน้อย.
“ตำนานที่แท้จริงต้องสร้างด้วยกำปั้น.”
ระบบเอ่ย “โฮสน์อยู่แต่ในนิกาย คิดว่าจะมีคนมาส่งค่าชื่อเสียงให้เองรึไง?”
พูดอีกก็ถูกอีก.
อยากได้ชื่อเสียงก็ต้องหาเอง.
เพราะพวกหลี่ชิงหยางเอาชนะงานประลองสุดยอดนิกาย ทำให้เขามีชื่อเสียง ดังนั้นจึงได้ชื่อเสียงมา 100 ไม่จำเป็นต้องบอกว่าหากต้องการแต้ม ก็ต้องหางานประลองเข้าร่วมนั่นเอง.
“ข้าไม่ได้บอกว่าจะให้มีคนประเคนชื่อเสียงมาให้ ข้าหมายความว่า...”จุนซ่างเซียวเอ่ย “มีภารกิจอะไรที่ทำเสร็จแล้วได้ค่าชื่อเสียงหนึ่งหมื่นเลยได้ใหม!”
“เพ่ย!”
ระบบเอ่ย “ฝันไปเถอะ.”
“......”
เขาที่ไม่สามารถโต้แย้งอะไรระบบได้ จึงได้นำศิษย์กลับนิกาย.
“เจ้านิกาย.”ซูเซียวโม่ที่เผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“พวกเราใช้เรือรบบินกลับไม่ได้เหรอ.”
“ไปให้พ้น.”
จุนซ่างเซียวที่เหลือกตาขาวมองบน “เดินทางด้วยเรือ จ่ายไม่ไหวหรอก?”
ก่อนหน้านี้โกวเซิ่งนำออกมาใช้เพื่อที่จะใช้เบ่งโอ้อวดเท่านั้น ทว่าหากไม่เร่งรีบในการเดินทาง ไม่มีทางที่เขาจะนำมาใช้เพราะต้องผลาญศิลาเสวียนอย่างบ้าคลั่งนั่นเอง.
......
เมื่องานประลองเมืองเซี่ยงเหว่ยจบลง เรื่องราวเกี่ยวกับนิกายที่ได้ทั้งสามอันดับ ได้กระจายไปทั่วทุกสารทิศ กลายเป็นที่วิพากวิจารณ์ขึ้นมาทันที.
“นิกายที่เพิ่งขึ้นมาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ?”
“ได้ยินมาว่าศิษย์ทั้งห้าคนต่างก็มีพลังไม่ได้ด้อยกว่าระดับหนึ่งแกนหมุนเลย!”
“โอ้วสวรรค์ พลังระดับนั้น ก็มีคุณสมบัติเข้าร่วมงานประลองร้อยนิกายแล้วนะสิ!”
ภายในโรงแรมร้านอาหารในแต่ละเมือง ที่จุนซ่างเซียวนำศิษย์แวะเวียนกินอาหาร ได้ยินเสียงพูดคุยเรื่องของพวกเขาเช่นกัน.
ตลอดทาง เขาที่คิดมาตลอดว่าจะหาคะแนนชื่อเสียงให้มากกว่านี้อย่างไร ในเวลานั้นได้ยินว่าจะมีงานประลองใหญ่ขึ้น ทำให้เขาสนใจขึ้นมาทันที.
“สหาย.”
จุนซ่างเซียวยกมือไปข้างหน้า“ขอถามหน่อย เมื่อไหร่จะมีการจัดงานประลองชุมนุมร้อยนิกาย?”
หากรู้เวลาและสถานที่ เขาย่อมเข้าร่วมอย่างแน่นอน.
“เร็ว ๆ นี้.”
ชายคนดังกล่าวเอ่ย “อีกสิบปี.”
“......”
จุนซ่างเซียวเกือบล้มหัวทิ่มพื้น.
ภารกิจร้อยปีใกล้มาแล้ว ใครจะรอจนถึงสิบปีล่ะ.
ระบบเอ่ย “ที่จริงไม่จำเป็นต้องนำศิษย์เข้าประลองอย่างเดียวหรอกนะ ยังมีวิธีอื่นอีก.”
“ยกตัวอย่าง?”
“คิดเองบ้างไม่ได้รึไง จะต้องให้อธิบายตลอด.”
“ไปเล่นไกล ๆ เลย!”
ระบบกล่าวถูก ไม่จำเป็นต้องให้ศิษย์ของเขาเข้าร่วมงานประลองอย่างเดียว การแข่งขันอื่นก็ยังมี ขอเพียงสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในพิภพเบื้องบนก็มีโอกาสได้รับแต้มชื่อเสียงเช่นกัน.
ทว่าปัญหา คือจะใช้วิธีอะไรล่ะ?
“เฮ้อ”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา เอ่ยออกไปว่า“ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร ก็ต้องค้นหาต่อไป.”
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น.
เขาก็นำศิษย์กลับมาถึงนิกาย.
ใช้เวลาในการเดินทางไปกลับงานประลองสุดยอดนิกาย เขาได้ใช้เวลาถึงครึ่งปี เห็นชัดเจนว่าหากไม่ใช้ของวิเศษช่วยเดินทาง การเดินทางไปใหนมาใหนค่อนข้างจะเป็นปัญหาทีเดียว.
“ฟู่ ฟู่!”
ขณะเพิ่งกลับมาถึง บนยอดเขาเศียรมังกรเวลานั้นพลังฟ้าดินพลุ้งพล่านกระจายออกไปรอบ ๆ ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนกำลังตัดผ่านระดับ!
บนที่พักของเจ้านิกาย มีสวนเพียงสองแห่ง หนึ่งคือที่พักของโกวเซิ่ง อีกหนึ่งคือที่พักของหัวเหม่ยกุ้ย ซึ่งบอกได้แล้วว่าใครเป็นคนตัดผ่านระดับ.
“นี่นางตัดผ่านระดับแล้วรึ?”
จุนซ่างเซียวที่รู้ว่านางเพิ่งตัดผ่านระดับไปยังสะบั้นมิติเมื่อเร็ว ๆ นี่เอง.
“......”
ระบบที่หมดคำจะพูด “สองปีแล้วเถอะ!”
“ไม่ใช่สิ!”
ใบหน้าของจุนซ่างเซียวที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน เอ่ยออกมาด้วยความตกใจ“นางไม่ได้ก้าวไปถึงระดับสะบั้นมิติขั้นกลาง แต่ตัดผ่านระดับไปยังหมุนแกนต่างหากล่ะ!”
สองปีที่แล้ว หัวเหม่ยกุ้ยเพิ่งขึ้นมาจากพิภพเบื้องบนและก้าวสู่ระดับสะบั้นมิติ เพียงแค่สองปี นางก็ตัดผ่านไปถึงระดับหมุนแกนแล้ว ทำให้เขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
พวกหลี่ชิงหยางได้รับโชคจากกลุ่มชาติพันธ์ ทว่านางนั้นไม่ได้รับโอกาสอะไร แล้วตัดผ่านระดับได้อย่างไร?
“ฟู่ ฟู่!”
ในเดียวกัน บนยอดเขากระดูกมังกร ที่พักคนระดับสูง กลิ่นอายที่น่าเกรงขาม พลังหยินที่มากล้นแผ่ออกมา เห็นชัดเจนว่าเป็นติงซิงหวัง.
จุนซ่างเซียวที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต เพราะว่าจากกลิ่นอาย ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายตัดผ่านระดับจากสะบั้นมิติขั้นกลางไปยังขั้นสูง!
“นี่เหล่าติงไปถึงระดับสะบั้นมิติตั้งแต่เมื่อไหร่!”
โกวเซิ่งที่ยังคงงงวย ที่ยอดเขาศิษย์ มีกลิ่นอายอีกหลายคนที่ตัดผ่านระดับเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นลี่เฟย เถียนซี และศิษย์หลักอีกหลายคน ที่ก้าวไปถึงสะบั้นมิติระดับกลางจากระดับล่างด้วย.
“ผิดปรกติ!”
ซูเซียวโม่ที่เผยท่าทางประหลาดใจ“ก่อนที่จะไปเข้าร่วมงานประลองสุดยอดนิกาย ศิษย์น้องลี่เพิ่งอยู่ในระดับปราชญ์ขั้นสมบูรณ์ นี่มาถึงระดับสะบั้นมิติขั้นกลางได้อย่างไร!”
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมมม!”
กลิ่นอายที่มากล้นที่แผ่ออกไปทั่วเทือกเขา ปกคลุมไปทั่วนิกายนิรันดร เป็นภาพที่น่าตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก.
ในเวลานี้ เกิดภาพที่น่าตื่นตะลึงยิ่งใหญ่อลังการ เพราะการยกระดับไปยังสะบั้นมิติขั้นต่ำเป็นจำนวนมากนั่นเอง!
“เกิดอะไรขึ้น?”
ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่เห็นลี่ลั่วฉิวที่ก้าวออกมาจากห้องโถง.
ทว่าขณะจะถามอะไรออกไป กับเห็นอีกฝ่ายมีระดับสะบั้นมิติขั้นต่ำแล้ว จึงเผยท่าทางประหลาดใจ “นี่เจ้าตัดผ่านระดับด้วยรึ?”
“ต้องขอบคุณของวิเศษสองอย่างที่เจ้านิกายนำมาก่อนหน้านี้.”ถางจู่ลี่เผยรอยยิ้มสดใส.
ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่นึกได้ ก่อนที่เขาจะเดินทางไปยังงานประลองสุดยอดนิกาย เขาได้นำเขตแดนลับระดับสูงสองอย่างและห้องปั้นกล้ามเนื้อติดตั้งเอาไว้นั่นเอง “ได้ผลดีขนาดนั้นเลยรึ?”
เยี่ยม!
ยอดเยี่ยมมาก!
กว่าครึ่งปี ทั้งศิษย์และคนระดับสูง พลังที่เพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก.
โดยเฉพาะเขตแดนลับกาลอากาศระดับสูง ที่เร่งความเร็วร้อยเท่า นอกจากนี้ยังมีพลังคุณสมบัติฟ้าดินมากกว่าปรกติสิบเท่า ทุก ๆ เดือนสามารถฝึกได้สิบวัน เพียงไม่กี่เดือน เทียบได้กับการบ่มเพาะสิบปีแล้ว.
หัวเหม่ยกุ้ยที่ใช้สองเขตแดนลับ ปิดด่านตั้งแต่ระดับสะบั้นมิติระดับกลาง จนถึงตอนนี้ก็ก้าวไปถึงระดับหมุนแกนในที่สุด.
ติงซิงหวัง กุงซุนเห่าไห่และคนระดับสูงคนอื่น ๆ มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม แม้นว่าจะเทียบไม่ได้กับเผ่าวิญญาณ แต่ก็ตัดผ่านไม่หยุดหย่อน จนเวลานี้มีระดับสะบั้นมิติขั้นสูงแล้ว.
“เอิ่ม!”
ระบบเอ่ย “ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ข้าจะพูดผิดไปแล้ว!”
ก่อนหน้าระบบบอกโฮสน์ว่าหากมีเขตแดนลับระดับสูงตั้งแต่สองปีที่แล้ว คงมีระดับราชันย์ยุทธ์กันทุกคน.
แต่แล้วเพียงครึ่งปีดูเหมือนว่าจะไปถึงระดับราชันย์ยุทธ์กันหมดแล้ว ผิดอีกแล้ว ดูเหมือนว่าจะพูดผิดตลอด.
ข้า!
ข้าไม่ใช่ปากนมพิษ!
“ติ๊ง! กระตุ้นเปิดภารกิจสร้างชื่อเสียง.”