Chapter 1406 เปลี่ยนเครื่องฝึกใหม่
ภารกิจมหากาพย์ที่สองได้รับหนึ่งล้านแต้ม พลังบ่มเพาะเลื่อนสองระดับ จุนซ่างเซียวที่กลับมายังห้องแทบทั้งร้องและเต้นอยู่ในห้องทันที.
ระบบเอ่ย “การที่โฮสน์ยกระดับมาอีกขั้น บางทีคงเกี่ยวข้องกับศิษย์หลักแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้.”
“คงเป็นอย่างนั้น.”
เช้าวันถัดมา จุนซ่างเซียวที่เรียกทุกคนมาสอบถามระดับบ่มเพาะ พอได้คำตอบแต่ละคนที่ตัดผ่านไปถึงระดับหนึ่งแกนหมุนกันแทบทุกคน.
“เหลือเชื่อ?”
โกวเซิ่งที่กลายเป็นงงงวยไปเลย.
เมื่อวานเขามีระดับเท่ากับศิษย์ตัวเองอย่างงั้นรึ?
“โชคดี โชคดีจริง ๆ.”
จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ“ที่ภารกิจมหากาพย์ยกระดับขึ้นสองขั้น หาไม่แล้ว จะต้องขายหน้าศิษย์ของเขาแน่.”
ศิษย์ของเขายกระดับได้อย่างรวดเร็วในสองปี โกวเซิ่งย่อมดีใจอย่างแน่นอน ทว่าเขาที่เป็นเจ้านิกาย หากอ่อนแอกว่าศิษย์ จะเอาหน้าไปไว้ที่ใหนกัน.
เคราะห์ดี.
พวกหลี่ชิงหยางที่ฝึกฝนอย่างหนักด้วยกำลังจากทรัพยากรของกลุ่มชาติพันธ์ ส่วนจุนซ่างเซียวนั้นยกระดับด้วยพลังโกง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังได้เปรียบศิษย์อยู่มาก.
“หากนำศิษย์เข้าร่วมงานสุดยอดนิกาย ไม่ใช่ว่าเอาชนะอีกฝ่ายได้ทันทีเลยรึ?”
หนึ่งแกนหมุนเทียบเท่ากับเหล่าคนระดับสูงของนิกายระดับเสวียน แม้นแต่นิกายระดับเจิ้นจะแข็งแกร่งกว่า ทว่าศิษย์ของพวกเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ การส่งพวกหลี่ชิงหยางไป จะต้องชนะได้อย่างง่ายดายแน่นอน.
เดิมทีเขาจะเดินทางวันนี้ ทว่าได้เลื่อนไปก่อนหนึ่งวัน เพราะว่าหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ เขาได้รางวัลมากมายจึงคิดที่จะจัดการก่อนออกเดินทางนั่นเอง.
“ฟิ้ว!”
เขาที่เปิดคอนโซนระบบ ตรวจสอบเขตแดนลับกาลอากาศระดับสูงและเขตแดนลับเก้าสวรรค์ระดับสูง ตลอดจนห้องปั้นกล้ามเนื้อขั้นสุดยอดทันที.
“นี่ ๆ มัน.....”
จุนซ่างเซียวถึงกับแข็งค้างจนต้องสะบัดศีรษะไปมาหลายครั้ง กับราคาที่เห็น แต่ละอย่างนั้นต้องจ่ายไปถึง 500,000 แต้ม.
“ซื้อทั้งสามเลย แต้มก็มีพอ ขอแนะนำว่าห้าแสนดาว!”
“ถึงจะแพง.”ระบบเอ่ย “แต่อุปกรณ์ช่วยบ่มเพาะนี้ จะทำให้นิกายเปลี่ยนแปลงชนิดสวรรค์สะท้าน ปฐพีสะเทือน!”
“ไร้สาระ!”
จุนซ่างเซียวตะโกนลั่น “ห้าแสนดาว หากไม่ได้ประโยชน์ ไม่ได้แปลว่ากำลังหลอกผลาญแต้มข้ารึไง!”
แม้นว่าสินค้าสามชิ้นจะค่อนข้างแพง ท้ายที่สุดเขาก็กัดฟันจ่าย 1.5 ล้านแต้ม จนกระทั่งเสียงแจ้งเตือนเหลือ 300,000 แต้ม เขาก็ยกมือกุมหน้าอก “ข้ากลายเป็นคนจนอีกแล้ว!”
ระบบเอ่ย “เพื่อนิกายที่จะแข็งแกร่งขึ้น.”
ไม่มีเวลาให้เสียใจ ดังนั้นจุนซ่างเซียวจึงนำสองเขตแดนลับไปวางไว้ที่หลังเขาเช่นเดิม.
แน่นอนว่าที่ทางเข้ามันมีป้ายห้อยระดับสูงด้านหลังด้วย ไม่ต้องบอกว่ามันย่อมเป็นเวอร์ชันอัพเดตนั่นเอง ย่อมดีและแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้อย่างไม่ต้องสงสัย.
อย่างไรก็ตาม.
จุนซ่างเซียวที่เข้าไปทดสอบ พบว่าเขตแดนลับกาลอากาศนั้น ยังคงมีการเร่งเวลาที่ 100 เท่าเช่นเดิม.
“แล้วมันต่างจากขั้นกลางตรงใหน!”
“ขอให้โฮสน์ตรวจสอบพลังคุณสมบัติฟ้าดินด้านในด้วย.”
“โอ้ว?”
จุนซ่างเซียวที่สงบใจสัมผัส ก่อนอุทานออกมา “เฮ้ย ที่นี่มีพลังคุณสมบัติฟ้าดินและพลังกฎมากกว่าด้านนอก!”
“อย่างน้อยสิบเท่า.”ระบบเอ่ย.
“ร้ายกาจมาก!”
จุนซ่างเซียวที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที.
เขตแดนลับกาลอากาศระดับสูงนั้นความเร็วเร่งเวลาหนึ่งร้อยเท่า พลังคุณสมบัติฟ้าดินมากกว่าเดิมสิบเท่า ศิษย์ของเขาสามารถบ่มเพาะได้อย่างรวดเร็วที่นี่!
ระบบเอ่ย “หากโฮสน์ขึ้นมาแล้วมีเขตแดนลับระดับสูงนี้ บางทีเวลานี้ทุกคนในนิกายคงก้าวไปถึงระดับราชันย์ยุทธ์กับครบแล้ว.”
เขตแดนลับขั้นกลางนั้นก็ยังใช้อยู่ แต่มันไม่มีพลังคุณสมบัติธาตุของพิภพเบื้องบน ดังนั้นเหล่าศิษย์ที่เข้ามานั้นเป้าหมายไม่ใช่เพื่อบ่มเพาะ แต่ใช้เพื่อศึกษาวิชายุทธ์ให้ลึกซึ้งขึ้น.
ตอนนี้มีเขตแดนลับกาลอากาศระดับสูงแล้ว ไม่เพียงแค่เหมาะแก่การบ่มเพาะ ยังเปี่ยมล้นด้วยพลังคุณสมบัติฟ้าดิน สถานที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว!
แน่นอน.
เขตแดนลับใหม่นี้ก็ยังไม่ต่างจากเขตแดนลับกาลอากาศระดับกลาง สามารถบ่มเพาะติดต่อกันสิบวันและติดคูลดาวน์หนึ่งเดือน.
ไม่ใช่ปัญหา.
ยังมีเขตแดนลับเก้าสวรรค์ขั้นสูงอีก.
ฟังก์ชันไม่ได้ต่างจากระดับกลาง เพียงแค่ทั้งเก้าชั้นนั้นมีพลังธาตุที่บริสุทธ์หนาแน่นกว่านั่นเอง.
“เจ้านิกาย!”
หลี่ชิงหยางที่ก้าวเข้าไปฝึกชั้นสวรรค์สายฟ้า อุทานด้วยความตกใจ“คุณสมบัติสายฟ้าที่นี่ ยอดเยี่ยมกว่าบ่อสายฟ้าเผ่าเหล่ยหลิงอีก!”
เขายกระดับไปถึงหนึ่งแกนหมุนได้อย่างรวดเร็ว นั่นก็เพราะเขาและสัตว์พันธสัญญาช่วยกันดูดซับพลังสายฟ้าจากบ่อสายฟ้า กลั่นร่างกายติดต่อกันกว่า 300 วันนั่นเอง.
ตอนนี้นิกายมีเขตแดนลับที่มีพลังสายฟ้ายอดเยี่ยมกว่าบ่อสายฟ้าที่นั่นอีก หลังจากนี้เขาเข้ามาบ่มเพาะ พลังบ่มเพาะจะต้องเพิ่มพูนอย่างแน่นอน!
กล่าวได้ว่ามีเขตแดนลับกาลอากาศระดับสูงและเขตแดนลับเก้าสวรรค์ระดับสูง เป็นสถานที่บ่มเพาะที่ยอดเยี่ยมของนิกายนิรันดร.
แน่นอน.
ในเวลาอันสั้นอาจจะยังมองไม่เห็นผลมากนัก จะต้องดูกันระยะเวลาหนึ่ง.
“เจ้านิกาย.”
ในเวลานั้นเขาที่ก้าวตรงมายังห้องฝึกซ้อม เซียวจุ้ยจื่อที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต “ห้องปั้นกล้ามเนื้อแบบใหม่มีขนาดใหญ่มาก จุคนได้ 500-600 คนอย่างไม่มีปัญหาเลยรึ?”
“ไม่.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “มันเป็นมิติแยก อย่าว่าแต่สามารถจุคนได้หลายร้อยเลย แม้แต่หมื่นคนยังสบาย ๆ.”
ห้องปั้นกล้ามเนื้อที่ซื้อมาห้าแสนแต้ม จะต้องดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน.
“เตรียมตัว.”
“เตรียมตัว.”
จุนซ่างเซียวที่ถอยออกจากห้อง ก่อนที่จะใช้สัมผัสกดปุ่มปั้นกล้ามเนื้อ ระบุเวลาสี่ชั่วยาม.
“ปัง!”
“ปัง!”
“ปัง!”
ด้านในได้ยินเสียงดังกระหึ่ม พร้อมกับเสียงร้องครวญครางในทันที.
หลังจากผ่านไปสี่ชั่วยาม ประตูที่เปิดอัตโนมัติ เซียวจุ้ยจื่อที่ถูกส่งออกมา ร่างกายเขียวช้ำไปหมด สภาพดูไม่ได้เลย.
“จริง ๆด้วย.”
จุนซ่างเซียวสีคางไปมา “ผลของมันรุนแรงกว่าเดิมมาก!”
“พรูดดดด!”
เซียวจุ้ยจื่อที่พ่นน้ำลายฟองฟอด.
นี่ถึงเรียกว่าระดับสุดยอดสินะ.
ห้องปั้นกล้ามเนื้อแบบใหม่นั้น มีพลังกลั่นร่างกายที่เรียกว่าน่าสยอง ถึงจะเป็นเซียวจุ้ยจื่อที่แบกศิลาชั้นหนึ่งของเผ่าเต่าทมิฬได้ ยังไม่สามารถทนได้.
เช้าวันถัดมา.
เซียวจุ้ยจื่อที่กลับมากระปรี้กระเปร่า สดยอดไปทุกอณูกล้ามเนื้อ กล่าวออกมาด้วยความดีใจ“ความรู้สึกนี่มัน ความรู้สึกคุ้นเคยที่แสนคิดถึง!”
......
สามอุปกรณ์ฝึกฝนใหม่ ที่จะเปลี่ยนแปลงนิกายของเขา ตอนนี้ได้แต่รอคอยผลของมันแล้ว.
หลังจากกินข้าวเข้า จุนซ่างเซียวที่เอ่ยเสียงดัง “ออกเดินทาง!”
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ลู่เชียนเชียน หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อ เย่ซิงเฉินและซูเซียวโม่ ห้าคนที่เดินทางออกจากเทือกเขาเซียนนิรันดร ก้าวออกไปสร้างชื่อเสียงให้กับนิกายเป็นครั้งแรก!
“มั่นใจจะได้ชัยชนะเลิศนะ!”
“มั่นใจ!”
งานประลองสุดยอดนิกายที่เมืองเซี่ยเหว่ย ในอีกห้าเดือน.
เพราะว่าศิษย์ของเขาต่างก็ก้าวไปถึงระดับหนึ่งแกนหมุนแล้ว สามารถใช้พลังบินได้ ดังนั้นจุนซ่างเซียวจึงไม่เร่งรีบเดินทาง ทว่าค่อย ๆ เดินทางและล่าสัตว์ร้ายเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ ด้วย.
......
ห้าเดือนหลังจากนั้น.
เมืองเซี่ยงเหว่ยนั้นใหญ่ยิ่งกว่าเมืองหลินหยวนซะอีก มีนิกายใหญ่มากมายเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ ที่ถนนนั้นมีชาวยุทธ์ที่สวมชุดแตกต่างกันมากมาย.
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น ชาวยุทธ์ที่สวมชุดเหมือนกันหลายสิบคนกำลังบินด้วยสุดยอดของวิเศษบินเข้ามาในเมือง.
“นิกายจิวหยวนเจิ้น!”
เสียงของผู้คนที่อุทานดังอื้ออึง แววตาเต็มไปด้วยความอิจฉา.
เมืองเซี่ยงเหว่ยนั้นมีขนาดใหญ่มาก ชาวยุทธ์ทั่วไปไม่ได้อนุญาตให้บินได้ ทว่านิกายระดับเจิ้นกับได้รับการยกเว้น.
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนที่ได้รับสิทธิพิเศษหรือตัวตนที่ไม่ธรรมดาก็ได้รับการอนุญาตเช่นกัน.
“ฟู่!”
เหล่าผู้คนที่เผยแววตาอิจฉา ทว่าในเวลาเดียวกันที่นอกเมืองกลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรง กำลังแผ่เคลื่อนคล้อยเข้ามา.
เหล่าชาวยุทธ์มากมายที่เงยหน้าขึ้นมองโดยพร้อมเพรียง ก่อนที่จะเห็นเรือเหาะลำใหญ่ แผ่พลังอำนาจไม่ธรรมดากำลังเคลื่อนที่ผ่าน.
“นี่มัน.....”
ที่ข้างตัวเรือเหาะนั้นมีอักขระใหญ่ที่ทรงพลัง ทำให้ผู้คนอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“เรือรบตงกู่!”
“มีอะไรให้น่าตกใจกัน.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมาบนดาดฟ้าเรือ.
ระบบแทบทรุด เอ่ยออกมาว่า“นำมันออกมาบินที่นอกเมืองนี้เท่านั้น กลัวจะไม่ได้หน้ารึไง?”