Chapter 1404 กลับมา
นิกายนิรันดร.
เหล่าชาวยุทธ์จำนวนมากที่มาค้าขายที่เชิงเขา พวกเขามาซื้อขายสมุนไพรและเมล็ดสมุนไพร หลังจากเสร็จสิ้นก็จากไป.
ดูเหมือนว่าเหตุการณ์เช่นนี้ทุก ๆ ต้นเดือน เหมือนกับเป็นประเพณีอย่างหนึ่งไปแล้ว.
เมล็ดสมุนไพรที่รับซื้อไว้จะถูกส่งไปยังหอสมุนไพรควบคุมโดยซุนปูกง ที่รับหน้าที่ในการปลูกสมุนไพร.
สองปีมานี้ สวนสมุนไพรของนิกายนิรันดรขยายใหญ่เป็นอย่างมาก และยังมีแนวโน้มที่จะขยายออกไปเรื่อย ๆ ด้วย.
กล่าวได้ว่าตั้งแต่เปิดร้านขายยาที่เมืองหลินหยวน ธุรกิจของพวกเขานั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทุก ๆ เดือนทำกำไรมากว่า 20-30 ล้าน.
ธุรกิจทีเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าเม็ดยานั้นกับมีคนกลั่นเพียงคนเดียวคือเฟิงกุ้ยเฉิน สมุนไพรที่เก็บเกี่ยวเอาไว้จำนวนมาก ปรุงไปเพียงเล็กน้อย เวลานี้มีการเก็บสมุนไพรไว้จำนวนมาก.
เพราะว่ามีธุรกิจคอยสนับสนุน จำนวนศิลาเสวียนที่ได้รับมีอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ศิษย์นิกายนิรันดรยกระดับอย่างต่อเนื่อง สองปีมานี้ ทุกคนก้าวไปถึงระดับปราชญ์กันหมดแล้ว.
ติงซิงหวัง กงซุนเห่าไห่และคนระดับสูงต่างก็ก้าวถึงระดับสะบั้นมิติขั้นต่ำแล้ว.
กล่าวได้ว่ายิ่งระดับสูง การบ่มเพาะก็ยิ่งยากขึ้น การจะสำเร็จระดับราชันย์ยุทธ์ ไม่ใช่แค่มีเวลาแต่ต้องมีทรัพยากรจำนวนมากด้วยเช่นกัน.
สองปีมานี้ โถงต่าง ๆ ของนิกายนิรันดรเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโถงค่ายกล เพราะว่ามีตาเฒ่าไท่เสวียนคอยสั่งสอนและแนะนำคนอื่น ๆ นั่นเอง.
กล่าวได้ว่า ตั้งแต่คนของนิกายหลิงเหว่ยเจิ้นส่งมอบกุญแจมาให้พร้อมกับศิลาเสวียน เขาก็ออกจากกรงได้รับอิสระ ทว่าก็ต้องปวดหัวกับซ่างกวนซินเหยาเป็นอย่างมาก.
แน่นอน.
ตาเฒ่าไท่เสวียนเองก็ได้รับผลประโยชน์มากมายตลอดสองปีด้วยเช่นกัน.
กล่าวได้ว่าเมื่อมุมมองความคิดที่พัฒนา ความเข้าใจในค่ายกลก็ลึกซึ้งมากขึ้น.
โดยเฉพาอาหารของหลิวหว่านซี เขาที่คอยแวะเวียนมาโรงอาหารเป็นประจำ“สาวน้อย ขอซือจึโถวหนึ่งชามด่วนเลย!”
["ซือจึโถว" 狮子头 แปลว่า หัวสิงโต เป็นลูกชิ้นแห่งความสุข]
ก่อนหน้านี้เขาไม่พอใจการถูกยัดเยียดหม้อก้นดำจากโกวเซิ่งเป็นอย่างมาก ตอนนี้นะรึ? เป็นไปได้ล่ะก็....ยินดียิ่งนักที่ได้เป็นแพะ!
ศิษย์ทุกคนที่เล่นฟุตบอลเป็นประจำ เป็นประเพณีของนิกายนิรันดรไปแล้ว.
ทุกอย่างในนิกายนิรันดรที่ดำเนินไปด้วยดีเป็นระบบระเบียบเรียบร้อย.
สองปีนี้เหมือนว่าหัวเหม่ยกุ้ยจะยุ่งที่สุด เพราะว่าหลังจากที่จุนซ่างเซียวไป นางก็เป็นคนดูแลธุรกิจทั้งหมด แน่นอนว่าทำได้อย่างสมบูรณ์ด้วย.
อีกอย่างเพราะบรรยากาศนิกายเป็นไปอย่างอบอุ่น การจัดการจึงง่ายดาย ไม่ถือว่าลำบากนัก.
“สองปี.”
ในห้องหนังสือ นางที่ดูรายระเอียดของรายการสมุนไพรบนโต๊ะ ดวงตาคู่งามที่ลอบมองไปยังหน้าต่าง บ่นพึมพำ “สามีเจ้าควรจะกลับมาได้แล้ว.”
“ซีเหนียง!”(ภรรยาอาจารย์)
ในเวลานั้น ลี่เฟยที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา กล่าวด้วยความดีใจ“ศิษย์พี่รองกลับมาแล้ว!”
หัวเหม่ยกุ้ยที่นึกว่าเจ้านิกายกลับมา ก็เผยความดีใจ ก่อนที่จะได้สติ ถึงกับยกมือขึ้นนวดกระหมับไปมาทันที.
......
นิกายนิรันดร ลานยุทธ์.
หลี่ชิงหยางที่หยุด จ้องมองไปยังป้ายบนห้องโถง“ไท่กู่เจิ้ง” กล่าวด้วยอารมณ์อาดูร “เจ้านิกาย ศิษย์กลับมาแล้ว!”
ที่ด้านหลังของเขาสัตว์อสูรสายฟ้าที่เติบโตขึ้นมาไม่น้อย ทั่วร่างมีสายฟ้าแผ่ออกมา เต็มไปด้วยพลังที่มากล้น.
เพราะว่าเร่งรีบเดินทางมา หลี่ชิงหยางจึงรู้สึกเหนื่อยล้าไม่น้อย ทว่าแววตากับคมกล้าเต็มเปี่ยมด้วยพลัง.
ศิษย์ไม่น้อยที่ลงมาจากยอดเขา พร้อมกับอุทานออกมาในใจ“สองปี ศิษย์พี่รองเปลี่ยนไปมากจริง ๆ!”
“ศิษย์พี่รอง.”
หลงจื่อหยางที่ก้าวเข้ามา “หลังจากที่ท่านตามเผ่าหลิงเหล่ยกลับไป เจ้านิกายก็ตามอาวุโสตงกู่ไปฝึกฝนเช่นกัน.”
“เป็นเช่นนี้นะเอง.”
หลี่ชิงหยางเอ่ย “ไม่แปลกใจเลยว่า ขึ้นเขามา จึงรู้สึกบรรยากาศนิกายขาดอะไรไป.”
บรรยากาศที่ขาดไป ไม่ต้องเอ่ยกล่าวก็พอจะคาดเดาได้ ไม่มีจุนซ่างเซียวในนิกาย ก็ขาดสีสันความคึกครื้นของนิกายไปนั่นเอง.
“ศิษย์พี่หญิงใหญ่กลับมาแล้ว!”
ในเวลาต่อมา ศิษย์คนหนึ่งที่ตะโกนเสียงดัง.
ยังไม่ได้หันไป ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงไอเย็นที่แผ่กดทับลงมา บรรยากาศรอบ ๆ ที่รู้สึกราวกับจะเข้าสู่ฤดูหนาว ในวันนี้เลย!
“ฟี่!”
“ฟู่!”
เหล่าศิษย์ที่พ่นไอหนาว ร่างกายสั่นขึ้นมาทันที.
“หวึ่ง ๆ หวึ่ง ๆ!”
ฟินิกซ์เหมันต์ที่สะบัดปีกร่อนลงที่ลานยุทธ์.
“ฟิ้ว!”
ลู่เชียนเชียนที่ร่อนลงมา เอ่ยออกไปว่า“เจ้านิกายไม่อยู่รึ?”
เห็นชัดเจน นางที่ตระหนักได้ว่านิกายขาดบรรยากาศคึกครื้นไป.
หลี่ชิงหยางที่เปลี่ยนไปมาก เขาที่ดูสุขุมนุ่มลึกกว่าเมื่อก่อน.
ทว่าลู่เชียนเชียนนั้นดูไม่เปลี่ยนเลย ไม่ว่าตอนใหนนางก็เย็นชา เป็นเทพธิดาน้ำแข็งเหมือนเช่นในอดีต.
หากเป็นคนภายนอก เห็นนางจะต้องคิดว่านางป่วยอย่างแน่นอน วัน ๆ ที่เอาแต่แผ่ความหนาวเย็นออกมา ทว่าสำหรับศิษย์นิกายนิรันดรไม่ได้รู้สึกขัดแย้ง แม้แต่รู้สึกอบอุ่น คุ้นเคยดังเช่นวันวาน.
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
ในเวลานั้น ทีเชิงเขาเสียงหัวเราะดังลั่นก็ดังขึ้น“ข้ากลับมาแล้ว!”
น้ำเสียงเบิกบานสดชื่น แน่นอนว่าต้องเป็นซูเซียวโม่.
อีกฝ่ายที่ไม่ใช้เส้นทางทั่วไป กระโดดซ้ายขวาก่อนที่จะร่อนลงที่ลานยุทธ์.
“ศิษย์พี่!”
ลี่เฟยที่ดีใจกระโดดเข้ามา แต่กับถูกอีกฝ่ายเตะก้นลอยออกไป ก่อนที่เขาจะหันหน้าไปมองเซี่ยซุยอวิ๋นที่อยู่ไม่ไกลออกไป “ที่รัก พูดดัง ๆ สิ ว่าคิดถึงข้า!”
สองปีไม่ได้แจกอาหารหมาเลย มาถึง ก็ต้องรีบแจกสักหน่อย.
เซี่ยซุยอวิ๋นที่ใบหน้าแดงกล่ำก้มหน้างุด ๆ กล่าวออกมาด้วยความโกรธในใจ“ต่อหน้าคนมากมาย พูดอะไรน่ะ?”
......
เชิงเขา.
เย่ซิงเฉินเองก็มาถึงเช่นกัน.
นับเป็นความบังเอิญไม่น้อย เซียวจุ้ยจื่อที่มาถึงเช่นกัน ทั้งสองที่อยู่ห่างกันสิบจั้ง จ้องมองหน้ากันและกัน พร้อมมุมปากยกยิ้มให้กัน.
“ศิษย์น้องเย่กลับมาแล้ว!”
“ศิษย์น้องเซียวกลับมาแล้ว!”
เหล่าศิษย์หลักต่างก็กลับนิกายกันคนแล้วคนเล่า.
นอกจากลู่เชียนเชียนที่เย็นชาเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นหลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและคนอื่น ๆ ต่างก็เปลี่ยนไปมาก แม้นว่าจะสะกดพลังบ่มเพาะเอาไว้ ทว่าก็สามารถบอกได้ว่า พลังได้เพิ่มพูนขึ้นไม่น้อย.
นอกจากนี้.
สัตว์พันธสัญญาเหมือนว่าจะตามพวกเขากลับมาด้วย.
ดูเหมือนว่าเส้นสายของนิกายนิรันดรจะขยายออกไปอย่างไม่ธรรมดาเลย
เวลานี้ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับเหล่ากลุ่มชาติพันธ์ด้วย.
ความขัดแย้งเริ่มแรก หลังจากผ่านประสบการณ์และความพยายาม พวกเขาต่างก็ได้รับการยอมรับ.
กล่าวตามจริง.
หลี่ชิงหยาง และเซียวจุ้ยจื่อเพราะว่าพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น สัตว์พันธสัญญาเองก็ได้รับประโยชน์มากมาย ระดับพลังของทั้งสองที่ยกระดับควบคู่กันเป็นอย่างมาก.
ด้วยเหตุนี้เหล่ากลุ่มชาติพันธ์ย่อมมองออก หลังจากปรึกษาหารือกัน จึงตัดสินใจให้ทั้งสองเดินทางด้วยกัน เพื่อช่วยกันยกระดับความแข็งแกร่งของกันและกัน.
“เมื่อไหร่เจ้านิกายจะกลับมา.”
“อาวุโสตงกู่เอ่ยว่าจะฝึกนรกสองปี ตอนนี้ก็ได้เวลาเสร็จสิ้นการฝึกแล้ว”
ขาดจุนซ่างเซียว นิกายนิรันดรเหมือนกับขาดวิญญาณเช่นกัน.
“ฟู่!”
“ฟู่!”
ไม่กี่วันหลังจากนั้น กลิ่นอายที่หนักหน่วงน่าเกรงขามที่กดทับลงมาจากท้องฟ้า ทำให้ศิษย์ทุกคนต่างก็ตกใจเงยหน้าขึ้นด้านบน.
บนห้องโถงนิกาย จุนซ่างเซียวที่ขึ้นไปยืนเด่นบนหลังคา ยืนอย่างภาคภูมิ ร้องเพลงเสียงดัง“ครึ้มดังฝันในยามหลับไป รักไสวกระจ่างพลัน..... ♫♫~♬”(เพลงมังกรหยก)
“พรึด พรึด พรึด!”