ตอนที่แล้วChapter 1401 รอพวกเรากลับมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1403 งานประลองสุดยอดนิกาย

Chapter 1402 สองปีหลังจากนั้น


ศิษย์หลักที่ผูกพันธสัญญากับกลุ่มชาติพันธ์ได้ออกไปหาประสบการณ์แล้ว เจ้านิกายก็ถูกเจิ้นเหรินตงกู่นำไปฝึกเช่นกัน นิกายนิรันดร์กลับมาอยู่ในความสงบอีกครั้ง.

ก่อนที่จุนซ่างจากไป ธุรกิจเม็ดยา สวนสมุนไพรมากมายที่ขยายเป็นจำนวนมาก โดยมีหัวเหม่ยกุ้ยและคนระดับสูงบริหาร.

การทำสวนสมุนไพรยังคงดำเนินต่อไป เม็ดยาที่ขายเองก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เหล่าศิษย์ของเขาที่บ่มเพาะอย่างจริงจังเช่นกัน.

สองปีสำหรับคนทั่วไปยังถือว่าสั้นเลย แล้วเทียบกับผู้ฝึกยุทธ์ที่มีอายุมากกว่าพันปียิ่งสั้นเข้าไปใหญ่.

ดังนั้น กว่าเจ็ดร้อยวัน ธุรกิจของนิกายนิรันดรจะพัฒนาไปถึงขนาดใหน.

ในเวลานั้น.

เกี่ยวกับเรื่องกลุ่มชาติพันธ์มากมายที่มารุมล้อมเทือกเขาเซียนเฟิงฉี เข้าปิดนิกายนิรันดรที่เพิ่งมาใหม่ เหล่าชาวยุทธ์กินแตงไม่รู้เริ่มกระจายข่าวไปทั่วพิภพเบื้องบน เรื่องดังกล่าวกลายเป็นเรื่องพูดคุยอันดับหนึ่งทันที.

“เจิ้นเหรินตงกู่ เจิ้นเหรินฉีเย่และยอดฝีมือมากมายปรากฏตัวพร้อมกัน กลิ่นอายที่ทรงพลังปกคลุมทั้งสวรรค์และปฐพี ข้ายังตื่นตกใจไม่หายเลย!”

“พี่ชาย เกิดเรื่องอะไร ยอดฝีมือเร้นกลายถึงปรากฏตัวพร้อมกัน?”

“ข้าก็รู้ไม่ชัดเจนนัก รู้เพียงว่ามีใครบางคนขโมยไข่ของกลุ่มชาติพันธ์ไป ทำให้พวกเขาไปปรากฏตัวพร้อม ๆ กัน!”

“หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น?”

“เกือบสู้กันแล้ว ไม่เช่นนั้นจะต้องเกิดสงครามใหญ่แน่.”

“คนของโถงพิภพเองก็มา จากนั้นสี่ราชามังกรเองก็มาด้วย!”

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อย่างบ้าคลั่ง เพราะว่าข้อมูลได้มาไม่มากนัก ทำให้ ยากจะรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างถ่องแท้.

อย่างไรก็ตาม.

มีข่าวอีกข่าวที่ได้กระจายไปทั่วทุกสารทิศอย่างแท้จริง!

เจ้านิกายนิรันดรที่เพิ่งขึ้นมาใหม่ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นศิษย์สายตรงของเจิ้นเหรินตงกู่!

“นี่มันร้ายกาจเกินไปแล้ว!”

ในเวลานั้น เหล่าผู้ฝึกยุทธ์โดยเฉพาะเหล่าผู้เยาว์ที่โดดเด่น ต่างก็อิจฉาและเกลียดชังไปพร้อม ๆ กัน ต้องไม่ลืมว่าตัวตนของเจิ้นเหรินตงกู่นั้น เป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังเป็นอย่างมากในพิภพเบื้องบน.

เรื่องที่เทือกเขาเซียนนิรันดรนั้นพวกเขาพอจะได้ยินมาบ้าง กล่าวได้ว่านิกายดังกล่าวนั้นไม่ธรรมดา แต่ใครจะคาดว่า พวกเขากับมีผู้สนับสนุนที่ทรงพลังแข็งแกร่งอยู่.

อา.

ใช่แล้ว.

หลังจากที่จุนซ่างเซียวจากไปไม่นาน คนของนิกายหลิงเหว่ยเจิ้นก็นำเงินสองร้อยล้านศิลาเสวียนมาส่ง.

กับจำนวนทรัพยากรจำนวนมาก หัวเหม่ยกุ้ย ได้ปรึกษากับนายน้อยหยวนและคนอื่น ๆ ตัดสินใจในการลงทุนในสมุนไพร.

......

เหล่ากลุ่มชาติพันธ์ขนาดใหญ่ต่างก็มีดินแดนเป็นของตัวเอง.

ยกตัวอย่างเผ่ามังกร พวกเขาครอบครองมิติแยก เป็นโลกที่ถูกเรียกว่าอาณาจักรมังกร.

ดินแดนนี้เหมือนกับโลกใบเล็ก ที่ผูกอยู่กับพิภพเบื้องบน ทว่ามีทรัพยากรที่เป็นของตัวเอง ดินแดนแห่งนี้มนุษย์แทบจะไม่สามารถเข้าไปได้.

เผ่าหลิงเหลยและเผ่าฟินิกซ์เหมันต์เอง ก็มีดินแดนเป็นของตัวเองเช่นกัน.

เพราะดินแดนของกลุ่มชาติพันธ์เป็นดินแดนที่แยกออกมาและมีเฉพาะคนของพวกเขาอยู่ ทำให้พลังฟ้าดินนั้นมากมายยิ่งกว่าโลกหลัก เป็นสถานที่เหมาะแก่การบ่มเพาะเป็นอย่างมาก.

“ซี่!”

“ซี่!”

ดินแดนเหล่ยหลิง เมื่อหลี่ชิงหยางถูกนำตัวไป เขาที่จ้องมองไปบนท้องฟ้า เมฆสายฟ้ามากมายที่ปกคลุมอยู่ทั่วทุกสารทิศ แววตาที่สะท้อนสายฟ้าที่เป็นเงาแล่นไปมาระรานตา.

พลังธาตุอื่น ๆ เองก็มีเช่นกัน ทว่าธาตุสายฟ้านั้นมีมากมาย และบริสุทธิ์ที่สุด กว่าด้านนอกมาก.

ร่างกายของหลี่ชิงหยางที่มีร้อนรุ่มขึ้นมาเล็กน้อย.

เพราะเขาและสัตว์อสูรสายฟ้าผูกพันธสัญญาเท่าเทียมแท้จริง หลังจากสัมผัสได้ถึงสภาพแวดล้อมสายฟ้า แววตาของพวกเขาเป็นประกายขึ้นมาพร้อม ๆ กัน.

“เจ้าหนู.”

ยอดฝีมือเผ่าเหล่ยหลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เจ้าทนได้หรือไม่?”

พื้นที่แยกนี้เป็นโลกใบเล็กที่เต็มไปด้วยพลังสายฟ้า ทรงพลังรุนแรงปนเปไปกับปราณอสูร สำหรับมนุษย์ทั่วไปที่เข้ามา ย่อมถูกพลังสายฟ้าและพลังอสูรกัดกร่อนร่างกายไปจนถึงจิตใจได้ง่าย ๆ.

หลี่ชิงหยางเอ่ย “ทนได้!”

ปราณอสูรนั้นเป็นพิษสำหรับมนุษย์ ทว่าสำหรับสัตว์อสูรกับเหมือนกับยาโด๊ป แต่ด้วยทั้งสองผูกพันธสัญญาแท้จริงกัน แน่นอนว่าจึงไม่เกิดการกัดกร่อนขึ้น แม้แต่ได้รับผลประโยชน์มากมายอีกด้วย.

“ไป.”

ยอดฝีมือเผ่าเหล่ยหลิงเอ่ยออกมาเล็กน้อย ”ด้านในมีพลังธาตุสายฟ้าแรงยิ่งกว่านี้อีก.

เขาที่พร่ำบ่นมากมาย คำพูดที่ออกเชิงดูหมิ่นดูแคลน เห็นชัดเจนว่า พวกเขานั้นเกลียดมนุษย์.

“แข็งแกร่งกว่านี้อีกรึ?”

แววตาของหลี่ชิงหยางที่เป็นประกายขึ้นมาอีกครั้ง.

พลังธาตุสายฟ้านั้นยิ่งมากยิ่งทำให้โลหิตของเขารุ่มร้อน หากแข็งแกร่งมากกว่านี้ แน่นอน....ยิ่งทำให้เขามีความสุข!

“ซี่!”

“ซี่!”

เขาที่ตามอีกฝ่ายเข้ามาด้านใน พลังธาตุสายฟ้าที่มากขึ้นและก็มากขึ้น โลหิตของเขาที่ร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ.

สบาย!”

สบายสุด ๆ!

ทว่าหลี่ชิงหยางมีความสุขไม่นาน เพราะว่ายิ่งเข้าใกล้เมืองของเผ่าเหล่ยหลิง พลังสายฟ้าที่หนาแน่นรุนแรงเป็นอย่างมาก จนทำให้ร่างกายของเขาเริ่มเจ็บปวด.

ในเวลานั้นสัตว์วิญญาณสายฟ้าที่เผยแววตาเจ็บปวดขึ้นมา เห็นชัดเจนว่าพวกเขาแบ่งปันความเจ็บปวดนั่นเอง.

ยอดฝีมือคนหนึ่งที่เห็น จึงเร่งรีบนำหลี่ชิงหยางออกมานอกเมือง จนกระทั่งอยู่ในพื้นที่สายฟ้าอ่อนแรง ความเจ็บปวดจึงค่อย ๆ สลายหายไป.

“เจ้าหนู เจ้าอ่อนแอเกินไป ยากจะทนพลังสายฟ้าที่แข็งแกร่งได้ หลังจากนี้อยู่ในเขตนอกก็พอ.”

“......”

ใบหน้าของหลี่ชิงหยางที่เผยความขมขื่นออกมา.

เขาคิดว่าจะใช้เวลาปรับตัวสักนิดหน่อยก็น่าจะทนได้ ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เข้าไปในเมืองอยู่ในเขตรอบนอกเท่านั้น.

ที่จริง เขายังก้าวไปไม่ถึงระดับสะบั้นมิติ ทนได้เท่านี่ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว หากเป็นชาวยุทธ์คนอื่นเข้ามา บางทีคงตกตายไปตั้งแต่ทางเข้าแล้ว.

สายฟ้าน้อย ที่ก้าวเข้ามาถูไถหลี่ชิงหยางเชิงปลอบใจ.

“ขอโทษด้วย.”

หลี่ชิงหยางที่ลูบหัวของมันไปมา กล่าวออกไปว่า“ทำให้เจ้าลำบากด้วยแล้ว.”

สายฟ้าน้อยนั้นไม่ได้หวาดกลัวพลังสายฟ้าใด ๆ แต่เพราะว่ามันผูกพันธสัญญากับหลี่ชิงหยาง มันจึงเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายได้.

......

เพราะว่าไม่สามารถเข้าไปในเมืองได้ เนื่องจากพลังสายฟ้าที่แข็งแกร่ง หลี่ชิงหยางอาศัยอยู่นอกเมืองสร้างที่พักชั่วคราวขึ้นที่นี่.

“สองปี.”

“ครบสองปีเมื่อไหร่เจ้าต้องรีบไสหัวไปในทันที.

เผ่าหลิงเหล่ยไม่ยินดีต้อนรับมนุษย์ ทว่าในเมื่อตกปากรับคำกับเจิ้นเหรินตงกู่แล้ว ดังนั้นจึงทำอะไรไม่ได้อีก จำต้องให้อีกฝ่ายอยู่ที่นี่ตามเงื่อนไข.

อย่างไรก็ตาม จิตวิญญาณในการต้านทานและการบ่มเพาะที่หลี่ชิงหยางแสดงออกมาทำให้พวกเขาตื่นตกใจไม่น้อย.

“ซี่!!!”

ในเวลานั้นพายุสายฟ้าที่ฟาดลงมาเป็นสายที่ข้าง ๆ กำแพงเมือง มีร่าง ๆ หนึ่งที่ยืนเด่นอยู่ตรงนั้น ร่างกายที่มีสายฟ้าแล่นไปทั่วทุกสารทิศ อาบไล้ร่างกายของเขาไม่หยุดหย่อน.

“ข้าทนได้แล้ว...ข้าสามารถทนได้แล้ว.....”

ใบหน้าของหลี่ชิงหยางที่บิดเบี้ยวไปมา ร่างกายและโลหิตถูกกลั่นด้วยธาตุสายฟ้าบริสุทธิ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า.

“พรึด โครม!”

หลังจากนั้นสองสามชั่วยาม หลี่ชิงหยางก็กลับมายังที่พักชั่วคราว นอนหมดแรง.

สายฟ้าน้อยที่เห็นจูเหรินบาดเจ็บ ร่างกายที่ส่ายไปมาพร้อมกับเข้ามาเคลียคลอ.

หนึ่งวัน.

สิบวัน.

หนึ่งเดือน.

หลี่ชิงหยางที่พัฒนาไปเรื่อย ๆ  เต็นท์ที่พักของเขาที่ขยับไปเรื่อย ๆ ใกล้เข้าไปในเมืองมากขึ้น.

“ซี่ ซี่.”

ยอดฝีมือเผ่าหลิงเหล่ยที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ“มนุษย์คนนี้ไม่เลวทีเดียว.”

“ฟู่ ฟู่!”

ผ่านมาแล้ว 50 วัน หลี่ชิงหยางที่เต็มไปด้วยจิตใจไม่ย่อท้อกลั่นร่างกายไม่หยุดหย่อน ท้ายที่สุดก็ก้าวสู่ระดับสะบั้นมิติจากปราชญ์ขั้นสมบูรณ์แล้ว โดยเฉพาะการผูกพันธสัญญากับสัตว์วิญญาณสายฟ้านั้นได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างมาก.

เร็วรึ?

เทียบกับเย่ซิงเฉินแล้วไม่เร็วเลย.

เพราะว่าเขาที่มาถึงดินแดนเผ่าผานฮูฝึกฝนเพียง 20-30 วันก็ก้าวถึงระดับสะบั้นมิติขั้นต่ำแล้ว.

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

ในวันที่เขาตัดผ่านระดับ อาหนิวถึงกับกุมหน้าหัวเราะเสียงดัง.

ระดับสะบั้นมิติขั้นต่ำก็เท่ากับระดับราชันย์ยุทธ์ในพิภพชิงหยุน กล่าวอีกอย่างหนึ่ง เขาได้คืนกลับพลังเท่ากับชาติก่อนแล้ว.

หลี่ชิงหยางที่ฝึกฝนไล่ตามความมั่นคง ดังนั้นการฝึกฝนที่เผ่าเหล่ยหลิงจึงเป็นการบ่มเพาะพลังธาตุสายฟ้าที่สมดุลทั้งการพักและฝึก ส่วนเย่ชิงเฉินนั้นแตกต่าง นับตั้งแต่ไปถึงดินแดนผานฮูเขาก็ฝึกฝนตัวเองไม่หยุดหย่อน แทบไม่ต้องพักผ่อนอันเนื่องจากเขามีหมาน้อยสนับสนุน.

“เสียสติ!”

“นี่มันคนบ้าชัด ๆ!”

ยอดฝีมือเผ่าผานฮูที่กล่าวประเมินอาหนิว.

อีกฝ่ายที่อดทนต่อความลำบากได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แน่นอนว่าเพราะผูกพันธสัญญากับอสูรวิญญาณ ทำให้ทั้งสองต่อสู้จนแทบนอนกลิ้งครึ่งเป็นครึ่งตายอยู่เป็นประจำ.

เริ่มต้น เจ้าหมาน้อยที่รู้สึกเศร้าใจ กับการที่เจ้านายฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง ทว่าเพียงไม่นานก็ค่อย ๆ ยอมรับ แม้แต่ยิ่งเจ็บยิ่งมีความสุข.

“ต่อ ต่อเลย!”

หลังจากตัดผ่านระดับสะบั้นมิติขั้นต่ำ เย่ซิงเฉินก็ไม่พอใจ เขาต้องการไปให้ถึงขั้นกลาง หรือขั้นสูง พัฒนาเรื่อย ๆ จนไปถึงระดับของจักรพรรดินิหลิงเหยา!

อาหนิวที่ฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง หลี่ชิงหยางมั่นคง เป็นการกลั่นกายร่างอย่างระมัดระวัง.

การฝึกฝนอย่างสมดุลก็มีประโยชน์ อย่างน้อยก็ต่อเนื่องไม่ต้องหยุดรักษาตัว.

ส่วนเย่ซิงเฉินนั้น กล่าวได้ว่าไม่รู้จักประเมินตัวเอง ต้องหยุดพักรักษาตัวเป็นระยะ ก่อนที่จะกลับมาฝึกต่อ.

......

เขตแดนเผ่าเต่าทมิฬ.

เซียนจุ้ยจื่อที่เปลือยครึ่งท่อน ที่เอวของเขาผูกศิลาก้อนหนึ่งเอาไว้ ค่อย ๆ ก้าวเดินไปด้านหน้า.

ศิลาไม่ใหญ่นัก ทว่ากับมีน้ำหนักเทียบได้กับภูเขาทั้งลูก.

เผ่าเต่าทมิฬนั้นขึ้นชื่อเรื่องพลังป้องกัน ดินแดนแห่งนี้ มีแรงโน้มถ่วงมากกว่าปรกติ ถึงแม้นจะเดินทั่วไปก็ยังแบกนำหนักถึงพันจินแล้ว.

“เด็กน้อย.”

ชายชราผมเขาร่างกึ่งมนุษย์เอ่ยออกมาเล็กน้อย “ศิลาระดับห้า ก็เหนื่อยแล้ว สองปีเจ้าคงไม่สามารถแบกศิลาระดับหนึ่งได้.”

“......”

เซียวจุ้ยจื่อไม่เอ่ยอะไร ยังคงก้าวไปด้านหน้า.

ชายชราที่ส่ายหน้าไปมา หันหลังจากไป วันที่สอง พบว่าอีกฝ่ายยังคงแบกศิลาระดับห้าหลับอยู่อย่างไม่คาดคิด ทำให้เขาเผยท่าทางประหลาดใจ“กายเนื้อของมนุษย์ทนได้นานขนาดนี้เลย เหลือเชื่อเล็กน้อย.”

มาถึงดินแดนเต่าทมิฬแล้ว เซียวจุ้ยจื่อก็ก้าวไปถึงระดับสะบั้นมิติขั้นต่ำ เขาที่เปลี่ยนจากศิลาระดับห้าเป็นศิลาระดับสี่ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแรงโน้มถ่วงที่มากกว่าปรกติ เวลานี้ทุกเซลล์ทั่วร่างถูกบังคับให้ยกระดับขึ้นไม่หยุด.

......

“ฟิ้ว!”

“ฟิ้ว!”

บนป่าที่กว้างและซับซ้อน ซูเซียวโม่ที่วิ่งเต็มกำลัง พร้อมกับยกมือขึ้นปาดเหงื่อเป็นระยะ ไม่รู้ว่าเขาวิ่งมานานเท่าไหร่แล้ว ขาทั้งสองข้างที่ราวกับไม่ฟังคำสั่ง ทำให้เขาต้องหยุดหายใจหอบ ๆ.

“เจ้าหนู.”

ในเวลาต่อมา ปรากฏเงาร่างคนผู้หนึ่งร่อนลงบนต้นไม้ เอ่ยออกมาเล็กน้อย “ครั้งนี้เจ้าใช้เวลาซ่อนตัวนานไปหน่อยนะ.”

“......”

ซูเซียวโม่ที่ทรุดนอนหมดแรงบนพื้น กล่าวติด ๆ ขาด ๆ “...อย่าใจร้อน รอ...ให้ข้า แน่นอนเจ้าจะไม่สามารถจับข้าได้แน่.”

“ขี้โม้ไร้ยางอาย.”

ยอดฝีมือเผ่าจ้าวลมกรดแค่นเสียง.

สองเดือนหลังจากนั้น บนสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน ซูเซียวโม่ที่ก้าวไปถึงระดับสะบั้นมิติแล้ว เขาที่วิ่งราวกับจะยืนบนปลายหญ้า.

แม้นว่าจะถูกจับได้ในที่สุด ทว่าก็พัฒนาขึ้นเป็นหนึ่งชั่วโมงและไปถึงหนึ่งชั่วยามได้.

“ซี่ ซี่.”

ยอดฝีมือเผ่าจ้าวลมกรดที่รับผิดชอบฝึกให้กับเขาเผยท่าทางประหลาดใจ“มนุษย์คนนี้มีความสามารถเหมือนกัน.”

......

“เจ้าได้ยินไหม มนุษย์สตรีได้ผูกพันธกับผู้สืบทอดด้วยพันธะเท่าเทียมแท้จริง ทำให้ประมุขอนุญาตให้นางเข้าไปฝึกในบ่อเหมันต์!”

“หืม? นางจะทนได้อย่างงั้นรึ?”

“ข้าได้ยินอาวุโสบอกว่านางเข้าไปสองวันแล้ว.”

พวกเราอยู่ในเผ่าฟินิกซ์เหมันต์มานาน จะต้องกลั่นร่างกายถึงสิบปีถึงจะใช้บ่อเหมันต์ได้ นี่นางมาถึงเพียงสองเดือนก็เข้าไปแล้ว ความเร็วของนางไม่เกินไปหน่อยรึ?!”

“ประมุขกล่าวชมสตรีนางนี้ไม่น้อย แม้แต่เรียกนางเข้าไปหาด้วยตัวเองด้วย.”

......

โลกหลัก.

บนยอดเขาศิลามากมาย รอบ ๆ มีหมอกปกคลุมหนาแน่นไปหมด.

“อ๊ากกกกก---”

เสียงร้องโหยหวนน่าสงสาร ตัดผ่านท้องฟ้าในทันที ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ.

“ร้องทำไมกัน!”

“ก็เจ็บนี่นา!”

ภายในถ้ำสวรรค์ จุนซ่างเซียวที่ใบหน้าบิดเบี้ยวนั่งอยู่ในถังไม้ ด้านในนั้นมีสารละลายที่ขุ่นข้น หลังจากลงไปแช่แล้ว ความเจ็บได้ไหลไปทั่วจนถึงกระดูก.

“เจ็บแค่นี้ยังทนไม่ได้ แล้วจะทนฝึกนรกได้อย่างไร?”เจิ้นเหรินตงกู่ที่เหลือกตาขาวมองบน.

“อาจารย์....”

จุนซ่างเซียวแทบทรุด เอ่ยออกมาว่า“ท่านกำลังล้างไขกระดูก ชำระเส้นชีพจรและกล้ามเนื้อ กระตุ้นวิญญาณของข้าด้วย ข้าคิดว่าตอนนี้ข้ากำลังจะขึ้นสวรรค์แล้ว!”

“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว.”

เจิ้นเหรินตงกู่เอ่ย “เจ้าต้องแช่อยู่ในนี้เดือนหนึ่ง.”

“หะ?”

จุนซ่างเซียวที่แช่ในถังน้ำยา ใบหน้าบิดเบี้ยวระทมทุกข์.

ที่เรียกว่าล้างไขกระดูกและชีพจรไปจนถึงกล้ามเนื้อ เจิ้นเหรินตงกู่ที่ใช้เวลานับพันปี ในการเก็บสมบัติฟ้าดินมาใช้ในครั้งนี้ ประสิทธิภาพไม่เพียงทำให้กายเนื้อและชีพจรแข็งแกร่งขึ้น ยังช่วยยกระดับดวงวิญญาณอีกด้วย.

พวกหลี่ชิงหยางที่กำลังฝึกหนัก โกวเซิ่งเองก็ไม่ต่างกัน ตอนนี้กำลังรู้สึกเจ็บปวดอย่างแท้จริง.

ที่มันน่าเศร้าที่สุด.

ศิษย์หลักของเขาอย่างน้อยทำพันธสัญญาเท่าเทียมแท้จริง แบ่งปันความเจ็บปวดกับสัตว์พันธสัญญา ส่วนจุนซ่างเซียวต้องอาศัยกำลังใจตัวเองล้วน ๆ ไม่สามารถพักได้ จะต้องแช่ในถังสมุนไพรถึงหนึ่งเดือน.

“อาจารย์ ข้าต้องการไปห้องน้ำ!”

“ฉี่ใส่ขวดสิ!”

“อาจารย์ ของข้ามันใหญ่มาก!”

“งั้นก็ฉี่ลงถังเลย!”

“......”

ภายใต้การควบคุมดูแล จุนซ่างเซียวที่ไปใหนไม่ได้ต้องแช่ในถังสมุนไพรตลอดหนึ่งเดือน หลังจากเสร็จสิ้นเขาก้าวออกมาจากด้านใน ผิวกายทั่วร่างที่ส่องแสงวับวาว เป็นเงาราวกับหยกบริสุทธิ์.

“เฮ้ย!”

โกวเซิ่งที่เผยท่าทางประหลาดใจ “เปลี่ยนไปขนาดนี้เลยรึ?”

ระบบเอ่ย “ดูเหมือนว่า โลหิต ชีพจร กล้ามเนื้อแม้แต่วิญญาณโฮสน์ จะยกระดับครั้งใหญ่แล้ว.”

“จริงรึ?”

จุนซ่างเซียวที่หลับตาลง สัมผัสตรวจสอบร่างกาย หนึ่งเดือนมานี้เขาเปลี่ยนไปมากจริง ๆ ดังนั้นจึงอุทานออกมาเสียงดัง “อาจารย์คู่ควรเป็นยอดฝีมือระดับต้นของพิภพเบื้องบน เพียงแค่อาบสมุนไพรก็สุดยอดขนาดนี้แล้ว.”

“ติ๊ง! ยินดีกับโฮสน์ที่สำเร็จภารกิจลับ【ผลัดกายเปลี่ยนกระดูก】 ได้รับ 300,000!”

“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุน: 900,000.”

“ติ๊ง! ยินดีกับโฮสน์สำเร็จภารกิจลับ【ผลัดกายเปลี่ยนกระดูก】 ได้รับรางวัลลับ ยันต์ประสบการณ์ x5.”

มา มาแล้ว.

ภารกิจลับที่เป็นเหมือนกับสำนวน.

จุนซ่างเซียวที่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนก็ยกมือขึ้นปิดหน้าหัวเราะกลิ้งไปบนพื้น.

หากเป็นศิษย์ของเขาเห็นก็จะไม่แปลกใจอะไร ทว่าเจิ้นเหรินตงกู่ที่เห็นเผยท่าทางประหลาดใจออกมา“แล้วหัวเราะทำบ้าอะไรแบบนั่น?”

“อาจารย์!”

จุนซ่างเซียวที่ยืนขึ้น เอ่ยออกมาว่า“เมื่อไหร่จะฝึกนรก ศิษย์อดใจรอไม่ไหวแล้ว!”

“ตอนนี้เลย.”

เจิ้นเหรินตงกู่ที่นำแส้หวายออกมา ก่อนที่จะมองอย่างเย็นชาและโจมตีออกไป.

“วูซซ! วูซซซซ!”

ในเวลานั้นริ้วแสงมากมายนับไม่ถ้วนที่พุ่งอัดไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว.

จุนซ่างเซียวที่ใบหน้าเปลี่ยนสี เร่งรีบหลบ ทว่าไม่มีเวลาพอ ทันใดนั้นก็ถูกฟาดอย่างรุนแรง จนร้องโอดโอย.

“ผัวะ ผัวะ ผัวะ ผัวะ!”

แส้หวายที่ระดมฟาด โกวเซิ่งที่นอนกลิ้งไปบนพื้น จนน้ำลายฟูมปาก เอ่ยออกมาว่า“อะไร...นี่มัน...ฝึกปิศาจ...”

จากนั้นจุนซ่างเซียวก็ถูกลงหวายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกลือกกลิ้งไปบนพื้น ร่างกายที่ค่อย ๆ แข็งแกร่งพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ.

......

สองปีหลังจากนั้น.

จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกจากถ้ำสวรรค์จื่อเต๋า.

เพราะว่าผลัดร่างเปลี่ยนกระดูก ผิวกายของเขาที่ขาวบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก แววตาของเขาที่สั่นส่าย.

“อาจารย์.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ศิษย์ไปแล้ว.”

“ไปให้พ้น.”

เจิ้นเหรินตงกู่กล่าวด้วยความหงุดหงิด “อย่าโผล่มาให้เห็น!”

ด้วยการฝึกหนักนรกแตก หวังว่าจะให้อีกฝ่ายก้าวไปถึงหมุนแกนขั้น 3-5 ผลสุดท้าย...สองปีมานี้ สองแกนยังไปไม่ถึง เป็นเรื่องที่ทำลายความมั่นใจของเขาเป็นอย่างมาก.

เจิ้นเหรินตงกู่แม้แต่สงสัยว่า ตัวเองไม่มีความสามารถจะสอนศิษย์อย่างงั้นรึ?

ไม่แน่นอน.

ด้วยการฝึกฝนของเจิ้นเหรินตงกู่หากเป็นคนทั่วไปที่มีพรสวรรค์จะต้องยกระดับแบบก้าวกระโดดไปแล้ว ส่วนจุนซ่างเซียวไม่ยกระดับ นั่นก็เพราะถูกภารกิจมหากาพย์สะกดเอาไว้นั่นเอง.

ที่จริงตั้งแต่แช่น้ำยา ภารกิจมหากาพย์ก็มาแล้ว เนื้อหาคือรอคอยให้ศิษย์ออกไปสองปีกลับมานิกายก็จะสมบูรณ์.

กล่าวให้ถูกต้อง.

เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ ก็คือให้พวกหลี่ชิงหยางกลับนิกายเรียบร้อยแล้วนั่นเอง.

ภารกิจง่าย ๆ แต่กับต้องใช้เวลา.

ภารกิจหนึ่งร้อยปีนำนิกายไปถึงระดับเซียน ตอนนี้สองปีสองภารกิจมหากาพย์ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย!

เฮ้อ.

จุนซ่างเซียวทำได้แค่ถอนหายใจ.

อย่างไรก็ตาม การฝึกก็ไม่ได้เปล่าประโยชน์ แม้นว่าพลังบ่มเพาะจะถูกสะกดไว้ ทว่าร่างกายที่ยกระดับแม้แต่ความเข้าใจในวิถียุทธ์นั้นเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก.

“ฟิ้ว!”

ร่างกายในชุดสีดำ พร้อมกับแว่นดำกันแดดถูกนำมาสวม.

จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกจากถ้ำสวรรค์จื่อเต๋า ยืดหน้าอย่างภาคภูมิ “ตอนนี้ข้าไม่ใช่ข้า คนเดิมอีกต่อไป!”

......

“ซี่ ๆ!”

สระสายฟ้าเผ่าหลิงเหล่ย หลี่ชิงหยางที่หลับตาเหมือนกับได้หลับอยู่ในนั้นเป็นเวลานาน ก่อนที่จะลืมตาขึ้นช้า ๆ “สองปีแล้ว!”

หลุมน้ำวนที่เชื่อมดินแดนผานหู่.

เย่ซิงเฉินที่ก้าวออกมา โดยมีสัตว์วิญญาณผานฮูน้อยออกมาส่ง.

ซูเซียวโม่ เซียวจุ้ยจื่อก็ก้าวออกจากมิติแยกเช่นกัน เพราะว่าใช้ศาสตร์ปิดพลัง ทำให้ไม่สามารถบ่งบอกระบุพลังของพวกเขาได้ ทว่าสองปีนี้พวกเขาเติบโตขึ้นมาไม่น้อย.

“พรึด ซี่!”

หลุมน้ำวนที่ใช้ออกจากดินแดนฟินิกซ์เหมันต์ สัตว์วิญญาณฟินิกซ์เหมันต์ที่สะบัดปีก นำลู่เชียนเชียน บินออกมา สตรีที่ดูเย็นยะเยือบและบริสุทธิ์มากขึ้นกว่าเก่าก่อนมาก.

“เจ้านิกาย!”

ทุกคนที่จ้องมองไปยังทิศทางของเทือกเขาเซียนนิรันดร แววตาดูมั่นคง “พวกเรากลับมาแล้ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด