บทที่ 96 โอกาสจากหอหมื่นสมบัติ
"หืม?" หลี่ฟานหันศีรษะกลับมา มองดูผู้จัดการจ้าว
แม้ผู้จัดการจ้าวเผชิญหน้ากับท่านเซียนในตำนาน แต่ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้
เขาเลือกสรรถ้อยคำอย่างรอบคอบ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความระมัดระวัง "ท่านเซียน ดูเหมือนจะสนิทสนมกับท่านเหอผู้ล่วงลับมากทีเดียวนะขอรับ"
หลี่ฟานกำลังจะตอบ แต่กลับนึกอะไรขึ้นได้ จึงครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า "เราสองสนิทกันมานานกว่าสี่สิบปีแล้ว เขาดูแลข้ามากมายจริงๆ ข้ามีธุระด่วนต้องจากไป จึงไม่รู้ว่าเขาได้สิ้นชีพลงไปก่อนแล้ว วันนี้ได้เห็นแท่นบูชาของท่านเหออย่างกระทันหัน ถึงกับตกตะลึงสุดขีด"
"ได้แต่ยกธูปขึ้นหนึ่งดอก..."
พูดจบ หลี่ฟานก็ส่ายหัวอย่างหนักใจ ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
ผู้จัดการจ้าวก็อดคิดไม่ได้ "นับตั้งแต่ข้ารู้ข่าวการจากไปของท่านเหอ และได้ตั้งโถงศพถวายแด่ท่าน นี่ก็ผ่านมา 26 วันแล้ว ท่านเป็นคนแรกและคนเดียวที่มาไว้อาลัยแด่ท่านเหอ"
"ผู้ฝึกเซียนมาเยือนเกาะนี้นับสิบ ต่างก็ไม่ใช่มาค้นหาข้าวของที่ท่านเหอทิ้งไว้ ก็เพื่อมาแย่งชิงตำแหน่งผู้ปกป้องเกาะหลิ่วหลี่"
"ตอนนี้ผู้ปกป้องคนใหม่ได้เข้ารับตำแหน่งแล้ว แม้กระทั่งตำแหน่งหัวหน้าของข้า ก็ยากจะรักษาไว้ได้"
"ข้าไม่สามารถทำตามคำสั่งเสียของท่านเหอก่อนสิ้นชีพได้สำเร็จ รู้สึกผิดเป็นอย่างยิ่ง"
"โชคดีจริงๆ ที่วันนี้ได้พบกับท่านเซียน"
ผู้จัดการจ้าวแสดงท่าทีเหมือนได้วางภาระอันหนักอึ้งลงอย่างสิ้นเชิง
"คำสั่งเสียของท่านเหอหรือ" หลี่ฟานประหลาดใจ
"ใช่ขอรับ ก่อนที่ท่านเหอจะสิ้นลม ได้ฝากสิ่งของชิ้นหนึ่งไว้กับข้า และได้สั่งไว้ว่า หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ให้ข้านำสิ่งนี้ไปมอบให้เพื่อนผู้ฝึกเซียนที่มาไว้อาลัยแด่ท่านเป็นคนแรกหลังความตาย" ผู้จัดการจ้าวตอบตามความจริง
"ทำไมเขาถึงให้สิ่งของแก่ท่านผู้เป็นเพียงคนธรรมดาเล่า" หลี่ฟานได้ฟังคำตอบ พลันรู้สึกประหลาดใจ
"ไม่ปิดบังท่านเซียน เมื่อหลายปีก่อน ด้วยความบังเอิญ ข้าได้ช่วยชีวิตท่านเหอเอาไว้ครั้งหนึ่ง ตอนแรกท่านเหอจะพาข้าไปฝึกเซียน แต่ข้ากลัวความยากลำบากในการฝึกเซียน จึงขอเพียงตำแหน่งในเกาะนี้แทน"
"หลายปีมานี้ ข้าได้รับใช้ท่านเหอ จึงได้รับความไว้วางใจจากท่านไม่น้อย" คำพูดของผู้จัดการจ้าวเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและเศร้าสร้อย
เหมือนจะมีเรื่องแบบนี้จริงๆ
ชาติก่อนเคยได้ยินผู้จัดการจ้าวเล่าให้ฟังมาบ้าง
หลี่ฟานจึงผงกศีรษะ
"อีกอย่าง ถ้าฝากไว้กับข้า ก็เป็นการปลอดภัยที่สุดแล้ว เพราะจะมีใครคิดล่ะว่า ข้าวของที่ท่านเซียนทิ้งไว้จะตกอยู่ในมือของคนธรรมดา ผู้ฝึกเซียนที่มาไปเหล่านี้ ไม่เคยแม้แต่จะมองข้าซักนิดเดียว..." ผู้จัดการจ้าวกล่าวได้ครึ่งทาง ก็รู้สึกตัวว่าไม่เหมาะสม จึงรีบหยุดพูด
เขาหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว หยิบกล่องไม้เล็กๆ ออกมาจากใต้แท่นบูชาของเหอเจิ้งเฮ่า
กล่องใบนี้ ดูเหมือนจะมีผลในการกีดกันสติสัมปชัญญะ แม้หลี่ฟานจะยืนอยู่ต่อหน้า ก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงมัน
"ข้าวของในกล่องนี้ คือสิ่งที่ท่านเหอทิ้งเอาไว้ แต่จะมีประโยชน์อย่างไร ข้าไม่มีทางรู้ได้หรอกขอรับ" ผู้จัดการจ้าวส่งกล่องออกมา เอ่ยอย่างประหม่า
หลี่ฟานเปิดกล่อง ในนั้นปรากฏยันต์ลายหมื่นอักขระเพียงชิ้นเดียว
ดูคุ้นตาอยู่บ้าง
นี่มันไม่ใช่...
หลี่ฟานหยิบยันต์อีกชิ้นที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วออกมาจากแหวนเก็บของ ต่างกันเพียงแค่พลังบนยันต์เท่านั้น
นั่นก็คือยันต์ผ่านเข้าออกเกาะหมื่นเซียน ที่ผู้ฝึกเซียนภายนอกต้องพกติดตัวเมื่อเข้าออกเป็นครั้งแรก
หลี่ฟานยังจำได้ว่าตอนที่เหอเจิ้งเฮ่าแนะนำให้รู้จัก
เขาพูดว่ายันต์นี้มีค่าถึง 100 คะแนนผลงานเชียวนะ
แต่ว่า สิ่งนี้มีประโยชน์อะไรกันแน่?
หลี่ฟานชั่วขณะหนึ่งยังไม่เข้าใจนัก
แต่เขาก็ยังเก็บกล่องไม้ใบนั้นไว้
มองผู้จัดการจ้าวที่กำลังเครียดและกระวนกระวาย หลี่ฟานคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "เรื่องของผู้ปกป้องเกาะคนใหม่ ข้าจะไปพูดให้ ส่วนจะเก็บรักษาตำแหน่งของท่านได้ไหม ข้าไม่กล้ารับรอง"
ผู้จัดการจ้าวได้ยินดังนั้น ก็ดีใจยิ่งนัก รีบคุกเข่าลง กราบลงไม่หยุด
หลี่ฟานโบกมือ แล้วโบยบินจากไป
ผู้จัดการจ้าวยังคงกราบไหว้อยู่ที่พื้น ไม่กล้าขยับเขยื้อน
ผ่านไปนานพอควร เขาจึงลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า
มองไปที่แท่นบูชาของเหอเจิ้งเฮ่า แล้วเอ่ยเบาๆ
"ในที่สุด เจ้า 'มันเผือกร้อน' ก็ยกออกไปได้ซักที หลายวันมานี้ ข้ามองผู้ฝึกเซียนบินไปบินมาเหนือศีรษะ นอนก็ไม่สนิทเลย"
"คนเมื่อครู่นี้ ไม่น่าจะโกหก และก็เป็นคนแรกจริงๆ ที่มาไว้อาลัยแด่ท่าน การมอบสิ่งของที่ท่านทิ้งไว้ให้เขา ก็ถือว่าสอดคล้องกับคำสั่งเสียของท่านแล้ว"
"ข้าจะไม่ต้องวิตกอีกต่อไป"
เงียบไปนาน ผู้จัดการจ้าวก็พึมพำขึ้นอีก "ฝึกเซียน ฝึกจนสุดท้ายก็ตายไปก่อนข้า แม้แต่ศพยังไม่มีใครเก็บ"
"ช่างไร้ความหมายเสียจริง"
...
หลี่ฟานถือกล่องไม้ กลับมาที่ภายในวงจรอาคมปกป้องเกาะ ได้พบกับผู้ฝึกเซียนแปลกหน้าผู้นั้นอีกครั้ง
นักพรตแปลกหน้าผู้นั้นมีนามว่า หนิงเหวินซิง เป็นผู้ได้รับตำแหน่งผู้ปกป้องเกาะหลิ่วหลี่คนใหม่จากการต่อสู้ชิงชัยกัน
หลี่ฟานไม่ได้เอ่ยถึงความสัมพันธ์ของผู้จัดการจ้าวกับเหอเจิ้งเฮ่า เพียงแต่บอกว่าตนเองรู้จักคุ้นเคยกับผู้จัดการจ้าวมานานแล้ว ขอให้เก็บรักษาตำแหน่งหัวหน้าการคลังของผู้จัดการจ้าวไว้ได้หรือไม่
ก็แค่ตำแหน่งของคนธรรมดา หนิงเหวินซิงคิดแล้ว ก็พยักหน้าตกลง
หลี่ฟานขอบคุณ
ทั้งคู่แลกยันต์สื่อสารไว้ แล้วหลี่ฟานก็รีบกลับสู่กระจกเทียนเสวียน
หลังจากค้นหาสักพัก หลี่ฟานก็เข้าใจการใช้งานของยันต์ผ่านแล้ว
นอกจากใช้เป็นหลักฐานผ่านเข้าเกาะหมื่นเซียนแล้ว ยันต์ยังใช้เป็นหลักฐานการฝากถอนสิ่งของได้ด้วย
สิ่งของไม่ได้ถูกเก็บไว้ในกระจกเทียนเสวียน แต่เก็บไว้ที่ที่เรียกว่า "หอหมื่นสมบัติ"
โดยปกติแล้วของที่ฝากไว้ก็ไม่ใช่ของมีค่าอะไร
มักจะเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกเซียนเผื่อเหลือไว้ให้ญาติที่เป็นคนธรรมดาเสียมากกว่า เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุไม่คาดฝัน
หลังจากผู้ฝึกเซียนตายไป ญาติพี่น้องที่เป็นคนธรรมดาจึงจะใช้ยันต์ไปเบิกทรัพย์สมบัติออกมาได้
ดังนั้น หอหมื่นสมบัติจึงไม่ได้ตั้งอยู่บนเกาะหมื่นเซียน แต่อยู่บนเกาะชงอวิ่นทางเหนือของทะเลชงอวิ่น
เมื่อหลี่ฟานเข้าใจวิธีใช้งานยันต์แล้ว เขาก็ไม่รีรอ รีบไปที่เกาะชงอวิ่นทันที สุดท้ายก็สามารถรับข้าวของที่เหอเจิ้งเฮ่าทิ้งไว้ออกมาได้
หยกบันทึกคำอธิบายโดยละเอียดของค่ายกลร้อยชีพจร
หลี่ฟานแรกเริ่มนึกว่าเป็นคัมภีร์ยุทธ์อะไรสักอย่าง
แต่พออ่านเนื้อหาในหยกบันทึกจบ เขาถึงได้เข้าใจ
ในหยกบันทึกเป็นผลงานที่เหอเจิ้งเฮ่ายังแต่งไม่เสร็จ
《คำอธิบายโดยละเอียดของค่ายกลร้อยชีพจร》
ในตำราบันทึกอย่างละเอียดถึงความเข้าใจพิเศษและแนวคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับวิชาวงจรอาคมที่เหอเจิ้งเฮ่าได้เรียนรู้ในหลายปีที่ผ่านมา
นอกจากหนังสือเล่มนี้แล้ว ยังมีข้อความฝากฝังจากเหอเจิ้งเฮ่าอีกด้วย
เขากล่าวว่า ตลอดชีวิตเขานั้น รักเพียงแค่วิชาวงจรอาคมเท่านั้น
เขาทุ่มเททั้งกายและใจมานานหลายสิบปี ผ่านการเรียนรู้แบบลองผิดลองถูก กว่าจะแต่ง 《คำอธิบายโดยละเอียดของค่ายกลร้อยชีพจร》 ได้จนเกือบเสร็จสมบูรณ์
ครั้งนี้ที่ออกไปสำรวจถ้ำลับ ตามหลักแล้วไม่น่าจะมีความเสี่ยงมากนัก
แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความน่าจะเป็นหรือไม่เป็น แต่อยู่ที่สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดต่างหาก
หากเกิดเหตุไม่คาดฝันจนเขาต้องตาย ก็ถือว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่เขากลัวว่าผลงานชั่วชีวิตอย่าง《คำอธิบายโดยละเอียดของค่ายกลร้อยชีพจร》จะถูกฝังอยู่ใต้ผงคลีตลอดไป ไม่มีโอกาสได้เปิดเผยแสงสว่าง
ดังนั้นจึงได้เตรียมทางรอดเอาไว้ หวังว่าผู้ฝึกเซียนที่เป็นสหายที่ได้รับยันต์นี้ จะสามารถนำ《คำอธิบายโดยละเอียดของค่ายกลร้อยชีพจร》ไปให้กับอาจารย์วิชาวงจรอาคมท่านใดก็ได้ในเกาะหมื่นเซียน เพื่อช่วยเติมเต็มสิ่งที่ยังขาดไป
สุดท้าย เหอเจิ้งเฮ่าอดบ่นพึมพำไม่ได้
เขาพูดถึง《คัมภีร์เลือกภูเขา》ที่ตนเองฝึกฝน ว่ามีข้อดีต่างๆ นานา
แต่ต้องบอกว่า การฝึกฝนนั้นยากเย็นแสนเข็ญนัก
หากไม่ใช่เพราะอย่างนั้น เขาคงไม่ต้องเสี่ยงอันตรายไปที่ถ้ำลับดึกดำบรรพ์ เพียงเพื่อจะเปลี่ยนคัมภีร์ฝึกฝน
...
"คัมภีร์เลือกภูเขา? ท่านเหอเอ๋ย ท่านนี่มันวางปัญหายากให้ข้าจริงๆ"
หลี่ฟานเก็บหยกบันทึกเข้าแหวน ดวงตาส่องประกายประหลาดใจ