บทที่ 28 ความโกลาหลในอาณาจักรเสินไห่
หากเป็นเพียงการหลอมโอสถขั้นเซียนเทียนธรรมดา คงไม่จำเป็นต้องใช้สมุนไพรล้ำค่ามากมายขนาดนี้
หรือผู้ที่อยู่ตรงหน้านาง จะเป็นนักปรุงโอสถระดับสองดาว เหวินจิงอวี๋รู้สึกปิติจนเนื้อเต้นขณะนึกคาดเดากับตนเอง
เนื่องจากนักปรุงโอสถระดับสองดาว มีจำนวนน้อยกว่าเหล่าวิญญาจารย์ขั้นราชันยุทธ์เสียอีก
หากใครเป็นถึงนักปรุงโอสถระดับสองดาวที่สามารถหลอมโอสถระดับสวรรค์ได้ เขาผู้นั้นจะได้รับความเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง
“ใต้เท้า ทางสมาคมการค้าสาขาเมืองซิงเยว่ของเรา พอจะมีสมุนไพรเหล่านี้อยู่บ้างบางส่วน แต่ที่เหลือ มีมากอยู่ที่สาขาหลักเท่านั้นเจ้าค่ะ” เหวินจิงอวี๋กล่าวด้วยท่าทีนอบน้อม
หลังรู้ว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้า อาจเป็นนักปรุงโอสถระดับสองดาว นางจึงแสดงท่าทีที่เปลี่ยนไปเป็นให้ความเคารพมากขึ้น
“มีเฉพาะที่สาขาหลักเท่านั้นหรือ” หยางเสี่ยวเทียนขมวดคิ้วพร้อมน้ำเสียงเป็นกังวลเล็กน้อย
“ใต้เท้าไม่ต้องกังวลไปเจ้าค่ะ ข้าสามารถขอให้ทางสาขาหลัก จัดส่งสมุนไพรเหล่านี้ได้ในทันที โดยใช้เวลามาถึงเพียงสองวันเท่านั้นเจ้าค่ะ” เหวินจิงอวี๋เอ่ยออกมาอย่างเร่งรีบ
และหยางเสี่ยวเทียนเพียงพยักหน้ารับ
จากนั้น เขาก็ได้ซื้อสมุนไพรทั้งหมดที่มีอยู่ในสมาคมการค้าแห่งเมืองซิงเยว่เพื่อหลอมโอสถวิญญาณสี่ประการ
ซึ่งมีราคามากกว่าสี่พันเหรียญทอง…
ทว่า ปริมาณของสมุนไพรที่ได้จากสมาคมการค้าแห่งเมืองซิงเยว่นั้นมีไม่มาก จึงทำให้เขาหลอมโอสถวิญญาณสี่ประการได้เพียงสองเม็ดเท่านั้น
“ได้เพียงสองเม็ดเองหรอกหรือ” หยางเสี่ยวเทียนพึมพำกับตนเองขณะดูสมุนไพรตรงหน้า
เป็นเพราะสมุนไพรที่ใช้ในการหลอมโอสถขั้นเซียนเทียนนั้นหายาก เขาจึงไม่มีทางเลือกมากนัก แม้หลอมโอสถวิญญาณสี่ประการได้เพียงสองเม็ดก็ว่าถือไม่แย่เท่าไร ภายหน้า ค่อยหาซื้อพวกมันจากสมาคมการค้าในเมืองอื่นแทนแล้วกัน
หลังเก็บสมุนไพรเข้าไว้ในแหวนเก็บของ หยางเสี่ยวเทียนก็ถอยกลับเข้าไปในความมืดก่อนหายตัวไปในพริบตา ต่อหน้าเหวินจิงอวี๋ที่ยืนอยู่ด้วย
เหวินจิงอวี๋ทำได้เพียงนิ่งอึ้งเมื่อเห็นเขาหายไปต่อหน้าต่อตาอย่างไม่แม้จะเอ่ยปากอันใดสักคำ ทำราวกับนางเป็นอากาศธาตุ ไม่มีตัวตน
พอคืนสติ นางถึงนึกขึ้นได้ว่านี้เป็นครั้งแรกที่เห็นอะไรแบบนี้ เพราะไม่เคยปรากฏว่าเห็นหรือได้ยินเกี่ยวกับทักษะเช่นนี้มาก่อน
มันเป็นวรยุทธแบบไหนกันถึงสามารถหายตัวได้ หรือจะเป็นทักษะเฉพาะของวิญญาณยุทธ์เขา หากเป็นวิญญาณยุทธ์ที่สามารถทำได้เช่นนี้ก็ถือว่าน่ากลัวอยู่ไม่น้อย อีกอย่าง ระดับของวิญญาณยุทธ์คงต้องแข็งแกร่งมากด้วยเป็นแน่
และต้องเป็น ผู้มีวิญญาณยุทธ์ขั้นสูง!
เมื่อคิดได้ดังนั้น หัวใจของเหวินจิงอวี๋ก็เต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมา
พอกลับถึงหมู่บ้านสกุลหยาง หยางเสี่ยวเทียนก็ทำกิจวัตรปกติอย่างเช่นทุกวัน เขาฝึกฝนเพลงดาบคร่าวิญญาณและเพลงกระบี่ตงเทียนต่อไปเหมือนไม่เคยออกไปไหนไกล นอกจากอยู่ภายในบริเวณลานฝึกของตน
เช้าวันรุ่งขึ้น…
ข่าวจากสมาคมการค้าเฟิงยวินแห่งเมืองซิงเยว่ ที่จะมีการจัดประมูลโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์สิบสี่ชุด ไม่ช้า ก็กระจายไปทั่วเมืองซิงเยว่และแพร่ไปยังเมืองอื่นโดยรอบด้วยความรวดเร็วจนน่าตกใจ
และที่สุด ทั่วทั้งอาณาจักรเสินไห่ก็รู้เรื่องนี้
ชั่วพริบตา ทั่วทั้งอาณาจักรเซินไห่ก็ตกอยู่ในความโกลาหล ด้วยหินเพียงหนึ่งก้อนอันสามารถทำให้เกิดคลื่นไปนับพัน
“อะไรนะ โอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์สิบสี่ชุด!” เฉินหยวนและบรรดาผู้อาวุโสทุกคนของสำนักเสินเจี้ยนต่างประหลาดใจพอๆ กันเมื่อได้ยินข่าวนี้
หลินหยง เจ้าสำนักเสินเจี้ยนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าได้สอบถามกับทางสมาคมการค้าเฟิงยวินแล้ว ว่าจะจัดประมูลโอสถนี้ครั้งละสองชุด โดยแบ่งการประมูลออกเป็นเจ็ดรายการรวมเป็นสิบสี่ชุด ส่วนโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์นั้น ได้มาจากชายชุดดำที่ขายให้กับทางสมาคมการค้าเฟิงยวินโดยตรง”
จากนั้นกวาดสายตามองไปยังทุกคนก่อนจะกล่าวต่อ “แล้วชายชุดดำคนนั้น ยังซื้อสมุนไพรจากสมาคมการค้าเฟิงยวินเพื่อหลอมโอสถขั้นเซียนเทียนไปอีกจำนวนมาก เขาจะต้องเป็นนักปรุงโอสถระดับสองดาวเป็นแน่”
“ข้าคาดว่าโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์ทั้งสิบสี่ชุดนี้ เขาจะต้องเป็นผู้หลอมมันขึ้นมาเองอย่างแน่นอน”
เหล่าผู้อาวุโสของสำนักเสินเจี้ยนต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องนี้
โอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์นั้นถือว่ายากต่อการหลอมยิ่ง นักปรุงโอสถบางคนถึงกับอุทิศเกือบทั้งชีวิตของตนในการหลอมมัน แต่ก็ทำไม่สำเร็จ หากโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์ทั้งสิบสี่ชุดนี้ ถูกหลอมขึ้นโดยชายชุดดำเพียงลำพัง เช่นนั้น พลังวิญญาณในการหลอมโอสถของเขาคงจะต้องแข็งแกร่งมากเป็นแน่ ช่างน่าตกใจ
“ท่านทราบหรือไม่ว่าหน้าตาของเขาเป็นเช่นไร” เฉินหยวนถามก่อนจะกล่าวต่ออีก “หากเราสามารถเชิญท่านผู้นี้ มาร่วมเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของสำนักเสินเจี้ยนได้ ความแข็งแกร่งของสำนักเราจะต้องเพิ่มขึ้นมหาศาล เมื่อถึงตอนนั้นชื่อเสียงของเราจะเลื่องลือไปไกล ดึงดูดผู้คนนับไม่ถ้วนจากทั่วทุกสารทิศ แม้แต่เหล่าอัจฉริยะก็จะมาขอเข้าร่วมเป็นศิษย์กับสำนักเสินเจี้ยนเราเป็นแน่”
สิ่งที่เฉินหยวนกล่าวมาล้วนถูกต้อง แค่เรื่องที่ชายชุดดำคนนั้นสามารถหลอมโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์ ก็เพียงพอจะดึงดูดให้อัจฉริยะนับไม่ถ้วนจากอาณาจักรเสินไห่และอาณาจักรโดยรอบเข้าร่วม
หลินหยงส่ายหัวพร้อมกล่าวดับความคิดเขาทันที “อีกฝ่ายนั้นสวมชุดดำ ทั้งยังแผ่กลิ่นอายดำมืดออกมาปกคลุมรอบตัว ทำให้เหวินจิงอวี๋จากสมาคมการค้าเฟิงยวิน ไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ของเขาได้ชัดเจนนัก นางรู้เพียงว่าอีกฝ่ายมีขนาดตัวที่เล็กราวกับเด็ก ซึ่งบุคคลเช่นนี้ จะเต็มใจเข้าร่วมกับสำนักเสินเจี้ยนของเราได้อย่างไร อย่าพยายามให้เหนื่อยเปล่าเลย”