บทที่ 27 สามหมื่นห้าพันเหรียญทอง
ระดับสวรรค์งั้นหรือ!
ใบหน้าเหวินจิงอวี๋ขณะจ้องขวดหยกดูมีชีวิตชีวาแลแปลกใจยิ่ง ต่างจากหยางเสี่ยวเทียนที่กลับไม่รู้สึกประหลาดใจหลังได้ยินเช่นนั้นเลย
นั่นเพราะครั้งแรกที่เขาหลอมโอสถสร้างฐานวิญญาณ คุณสมบัติมันก็อยู่ระดับสูงแล้ว ซึ่งบางทีอาจเป็นระดับสูงสุดเสียด้วยซ้ำ
พอตอนนี้เขาได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นเซียนสวรรค์ โอสถสร้างฐานวิญญาณที่เขาหลอม สรรพคุณย่อมบริสุทธิ์มากขึ้นไปอีก จึงถือเป็นเรื่องธรรมดาที่โอสถของเขาจะเป็นระดับสวรรค์
เหวินจิงอวี๋รีบเปิดขวดหยกที่สองอย่างกระตือรือร้นด้วยต้องการแน่ใจ
นี่ก็โอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์!
โดยไม่รั้งรอ เมื่อขวดหยกที่สามถูกดึงจุกออก ความตื่นเต้นที่พยายามเก็บซ่อนไว้ ก็เริ่มเผยให้เห็นจากมืออันสั่นเทาของนางทันที
เท่านี้ก็พิสูจน์ได้แล้ว ว่าทุกขวดนั้นล้วนแต่เป็นโอสถระดับสวรรค์เพราะ
ขวดที่สามในมือนาง ก็เป็นระดับสวรรค์ไม่ต่างจากสองขวดแรก
หลังเห็นแน่ชัดแล้วว่าเป็นเรื่องจริง พอครั้นขวดที่สี่ ที่ห้า และขวดที่เหลือเปิดออก มือของนางก็ไม่มีอาการสั่นเทาอีกต่อไป
ปรากฎว่าโอสถเหล่านี้ล้วนมีคุณสมบัติอยู่ในระดับสวรรค์ ซึ่งทั้งหมดถือเป็นโอสถวิญญาณที่เหมาะแก่การใช้สร้างรากฐานในผู้บ่มเพาะเป็นอย่างยิ่ง
เหวินจิงอวี๋สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อพยายามสงบสติอารมณ์ แต่นั่นก็ยังเป็นการยากที่จะสามารถทำให้จิตใจของนางตอนนี้สงบลงได้
นางมั่นใจว่าแม้แต่ผู้นำตระกูลของนาง ก็คงไม่เคยเห็นโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์มากมายเช่นนี้
เพราะในอาณาจักรเสินไห่แห่งนี้ โอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสูงสุดยังถือว่าหาได้ยาก แม้จะพอสามารถพบเห็นเป็นครั้งคราวอยู่บ้าง แต่ต่างจากระดับสวรรค์ที่แทบไม่เคยปรากฎเห็นมาก่อนและนานมากแล้ว
ครั้งสุดท้ายที่โอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์ปรากฏขึ้นในอาณาจักรเสินไห่ น่าจะราวๆ สิบปีที่แล้ว และมีเพียงหนึ่งชุดเท่านั้น แต่ก็ทำให้หลายตระกูลร่วมถึงสำนักต่างๆ ยอมเสียทรัพยากรมหาศาลประมูลแย่งชิงมันอย่างบ้าคลั่ง
แต่ตอนนี้ ที่อยู่เบื้องหน้าของนางกลับมีโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์มากถึงสิบสี่ชุด
แน่นอนว่าการใช้โอสถวิญญาณสร้างฐานในการบ่มเพาะมันมักจะมีผลข้างเคียงไม่มากก็น้อย แต่หากโอสถเหล่านั้นมีความบริสุทธ์ระดับสูงสุด ผลข้างเคียงก็จะยิ่งน้อยลง ซึ่งโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์ทั้งหมดตรงหน้านี้ ให้ผลข้างเคียงที่น้อยมากจนไม่สามารถเทียบได้เลย
ดังนั้น หากมีข่าวถึงการปรากฏขึ้นของโอสถระดับสวรรค์ในครานี้ มันคงจะปลุกเร้าให้ทุกฝ่ายแย่งชิงแข่งขันกันประมูลอย่างบ้าคลั่งอีกเป็นแน่
“ใต้เท้า โอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์ทั้งสิบสี่ชุดนี้ ท่านเป็นผู้หลอมมันเองใช่หรือไม่” เหวินจิงอวี๋ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างตื่นตากับของล้ำค่าที่วางอยู่ตรงหน้า
“เจ้าไม่ถามมากเกินไปหน่อยหรือ” หยางเสี่ยวเทียนกล่าวอย่างใจเย็น
น้ำเสียงเย็นยะเยือกของคนตรงหน้า ทำให้หัวใจของนางถึงกับสั่นรัวด้วยตื่นเต้นจนเผลอลืมตัวถามโดยไม่ยั่งคิดไปหน่อย ทำนางต้องรีบโพล่งออกไปเนื่องรู้สึกผิดทันที “ต้องขออภัยด้วยใต้เท้าที่ข้าถามมากไปหน่อย…”
“ข้าเพียงสงสัย ว่าท่านมีแผนจะขายโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์เหล่านี้อย่างไร ท่านจะขายตรงให้กับทางสมาคมการค้าของเรา หรือต้องการจัดประมูล”
“หากขายตรง จะได้ราคาเท่าไหร่” หยางเสี่ยวเทียนเอ่ยถาม
“ราคาต่อหนึ่งขวด สองพันห้าร้อยเหรียญทอง ท่านว่าเป็นอย่างไร” เหวินจิงอวี๋คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบกลับหยางเสี่ยวเทียนอย่างระมัดระวังด้วยท่าทีกังวลใจเล็กน้อย
หยางเสี่ยวเทียนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่คิดว่าโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์จะมีราคาสูงถึงเพียงนี้ เพราะแค่โอสถสร้างฐานวิญญาณระดับกลางยังมีราคาห้าหรือหกร้อยเหรียญทอง ซึ่งถือว่าแพงอยู่มาก
แล้วตอนนี้ที่เขามีอยู่ถึงสิบสี่ชุด นั่นไม่เท่ากับสามหมื่นห้าพันเหรียญทองเลยหรอกหรือ
คร่านี้เป็นหัวใจของหยางเสี่ยวเทียนเองที่สั่นระรัว เมื่อได้ยินถึงจำนวนเหรียญทองจากการขายโอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์
ตั้งสามหมื่นห้าพันเหรียญทอง นี่ไม่ใช่ราคาที่ตระกูลทั้งหลายในเมืองซิงเยว่จะสามารถจับจ่ายได้
เวลานั้นเอง เหวินจิงอวี๋ก็เผยปากขึ้นต่อในสีหน้าอันเป็นกังวล “หากท่านจัดประมูลจะได้ราคาที่สูงขึ้นเจ้าค่ะ แต่โอสถสร้างฐานวิญญาณระดับสวรรค์จำนวนมากเหล่านี้ ทางสมาคมของเราจำเป็นต้องประกาศไปทั่วอาณาจักร และต้องรออย่างน้อยหนึ่งเดือนก่อนทำการเปิดประมูล”
“เช่นนั้นข้าจะขายตรง” หยางเสี่ยวเทียนพูดทันทีแบบไม่คิดลังเล เพราะเขาต้องการเหรียญทองในตอนนี้ หากจะให้รอเป็นเดือนคงนานเกินไป
“ทราบแล้วใต้เท้า โปรดรอข้าสักครู่” เหวินจิงอวี๋แทบอดยินดีไม่ไหวครั้นได้ยินคำตอบของเขาว่าต้องการเช่นไร และแน่นอนว่านางใคร่อยากให้อีกฝ่ายขายตรงกับทางสมาคมของนาง เพราะเมื่อใดที่ทางสมาคมการค้าจัดประมูล สิ้นค้ารับตรงพวกนี้ก็จะสร้างกำไรเพิ่มขึ้นมหาศาล
ในเวลาไม่กี่อึดใจ หลังเหวินจิงอวี๋หายเข้าไปยังหอสมาคม นางก็กลับออกมาพร้อมยกทองสามหมื่นห้าพันเหรียญในมือ เร่งมอบให้หยางเสี่ยวเทียนราวกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ
หยางเสี่ยวเทียนไม่ได้สังเกตท่าทีแปลกๆ ของนาง เขาเพียงโบกมือขึ้น ทองทั้งสามหมื่นห้าพันเหรียญ ก็หายเข้าไปยังแหวนเตาหลอมบนมือเขาทันที
ทันทีที่เห็นเหรียญทองสามหมื่นห้าพันเหรียญหายไปในพริบตา ดวงตาเหวินจิงอวี๋ก็เปิดกว้างด้วยตกใจอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าชายชุดดำที่อยู่เบื้องหน้ามีแหวนแห่งจักรวาลอยู่บนตัว ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถเก็บทองตั้งสามหมื่นห้าพันเหรียญที่ขนาดกองเท่าภูเขาไปได้
“ข้าต้องการซื้อสมุนไพรของเจ้า” เก็บเหรียญทองเสร็จ หยางเสี่ยวเทียนก็หันมาหานางพร้อมหยิบกระดาษจดรายการของสมุนไพรออกมา
เหวินจิงอวี๋หยิบแผ่นกระดาษที่เขายื่นให้ พอเห็นรายการของสมุนไพรที่อัดแน่นอยู่ในนั้น แววตาของนางก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจอีกทันที เพราะมีเพียงการหลอมโอสถขั้นเซียนเทียนเท่านั้น ถึงจะต้องใช้สมุนไพรมากมายเช่นนี้
ยิ่งกว่านั้น รายการของสมุนไพรเหล่านี้ล้วนเป็นสมุนไพรที่หาได้ยาก หากหลอมขึ้นมาจริงๆ มันจะต้องไม่ใช่โอสถขั้นเซียนเทียนธรรมดาแน่นอน
เพราะมันคือรายชื่อของสมุนไพรระดับสูง ตั้งเกือบร้อยชนิด