บทที่ 3 ซูหยานผู้ฝึกฝนอย่างหนัก
บทที่ 3 ซูหยานผู้ฝึกฝนอย่างหนัก
“หลังจากจัดท่านั่งม้าเสร็จแล้ว ให้ปรับการหายใจ ควบคุมสติอารมณ์ มุ่งความสนใจไปที่ตันเถียน และสัมผัสถึงพลังงานเลือดของตัวเอง…”
ซูหยานตั้งท่าเป็นม้าภายใต้คำแนะนำของหลี่ซวน เขาได้ปรับการหายใจและสัมผัสได้ว่าพลังงานเลือดของเขาอยู่ที่ไหน
หลี่ซวนชี้แนะกล่าวว่า "วิธีการฝึกฝนนี้อยู่ที่คำว่า 'การตระหนักรู้' และเข้าใจ 'ความหมาย' ของมัน ไม่ใช่จมอยู่ในรูปแบบของท่าทางหรือกระบวนท่า เจ้าต้องสงบสติอารมณ์ ลืมเรื่องต่างๆ และทำความเข้าใจมันอย่างระมัดระวัง เพื่อค้นหา'ความหมาย' และ 'การตระหนักรู้'”
คำพูดต่างๆก็แค่ถูกเขาสร้างขึ้นมา และแน่นอนว่าเขาไม่มีทางสอนยิมนาสติกที่อยู่ในโทรทัศน์ให้ซูหยานหรอกใช่ไหม? ไม่งั้นความก็แตกกันพอดี
ดังนั้นซูหยานทำได้เพียงยืนอยู่ในท่าทางม้าและสัมผัสถึงพลังงานเลือดด้วยตัวเขาเองเท่านั้น
ส่วนการที่เขาไม่สามารถสัมผัสได้นั้นเป็นเรื่องของคุณสมบัติของตัวเขาเองเช่นกัน
ไม่ใช่เรื่องของวิชาของอาจาย์ผู้สอนอย่างแน่นอน
“ไม่ว่าเจ้าจะสัมผัสได้ถึงพลังงานเลือดหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความเข้าใจของเจ้า และเจ้าจะสามารถเข้าใจ 'ความหมาย' ในนั้นได้ก็ต่อเมื่อเจ้าสัมผัสได้ถึงพลังงานเลือดแล้ว จากนั้นก็ให้พยายามระดมพลังงานเลือด โคจรผ่านหุ้มผิวหนังทั่วร่างกาย และเข้าสู่ขั้นตอนการปรับแต่งผิวหนัง ...”
หลี่ซวนสอนซูหยานถึงวิธีฝึกฝนอย่างจริงจัง
“นี่คือพื้นฐานของศิลปะการต่อสู้ มันจะนำเจ้าไปสู่การเป็นปรมาจารย์ในอนาคต เจ้าควรฝึกฝนให้ดีพยายามทำความเข้าใจให้ดี เมื่อเจ้าเหนื่อยก็พักผ่อนจากนั้นค่อยมาฝึกฝนต่อวนไปอย่างนี้ ดังนั้นอย่าเร่งรีบ”
“ยิ่งเจ้าเร่งรีบ เจ้าก็ยิ่งสัมผัสถึงพลังงานเลือดได้ยากขึ้น เจ้าเข้าใจไหม?”
ซูหยานกล่าวด้วยความเคารพ "ครับ..ท่านอาจารย์ ข้าเข้าใจแล้ว!"
“เอาล่ะ ฝึกให้ดี!”
หลี่ซวนจากไปโดยเอามือไพล่หลัง และคิดถึงของขวัญรับศิษย์ของซูหยานอย่างมีความสุข
“หยวนจื่อเก้าใบเป็นยาอันล้ำค่า ลองเคี่ยวดูก่อนก็แล้วกัน!”
ด้วยความคิดนี้ หลี่ซวนจึงหยิบมีดออกมาและตัดชิ้นส่วนของหยวนจื่อออกอย่างระมัดระวัง เขาไปที่เล้าไก่เพื่อจับไก่และฆ่ามัน เขาจุดไฟและเคี่ยวหยวนจื่อเป็นน้ำซุปไก่
“ลูกศิษย์กำลังบ่มเพาะอยู่ที่นี่ ข้าจำเป็นต้องดูแลเรื่องอาหารของเขาบ้าง เพราะเขาได้ให้ของขวัญอันเอื้อเฟื้อเช่นนี้แล้ว หากไม่ดูแลเรื่องอาหารก็คงจะดูไม่ดีสักหน่อย”
หลี่ซวนบ่นอยู่ในใจ
ระหว่างที่ทำอาหารไปนั้น เขาก็มองไปที่ซูหยานด้วย เขายังคงทำการนั่งม้าอยู่ แต่ร่างของเขาก็แกว่งไปมาและดูเหมือนว่าเขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ซูหยานก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและเริ่มพักผ่อน
นี่เป็นการพักครั้งที่สามของเขาแล้ว
“เจ้าจะลำบากเพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ว่าข้าอยากจะโกหกเจ้า แต่เจ้าเป็นคนเสนอตัวมาที่ประตูหน้าบ้านของข้าเอง”
หลี่ซวนส่ายหัวและไม่สนใจเขาอีกต่อไป เขาต้องลำบากไปอีกสักพักหนึ่ง
เมื่อเขาไม่สามารถเข้าถึงขั้นเริ่มต้นได้ เขาก็จะกลับออกไปเอง
ยิ่งกว่านั้นการปรากฏตัวของซูหยาน ทำให้หลี่ซวนมีโอกาสที่จะออกจากหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ และอาจผ่านป่าปีศาจได้อย่างปลอดภัย
เขาได้คิดหาเส้นทางหลบหนีแล้ว เมื่อเขาออกจากหมู่บ้านเล็กๆ เขาจะไปที่รัฐหวู่เพื่อตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นั่น
มันห่างไกลจากรัฐฉีและเทศมณฑลตงเหอแห่งนี้ ดังนั้นแม้ว่า ซูหยานจะพบว่าเขาถูกโกง เขาก็ไม่สามารถใช้ตัวตนและภูมิหลังของเขาเพื่อค้นหาตัวเขาได้อย่างแน่นอน!
…
ซูหยานก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง รู้สึกถึงพลังงานเลือดของเขาอย่างสงบ
“พลังงานเลือดมีอยู่ในร่างกายและไหลเวียนไปทั่วร่างกายอยู่แล้ว จะรับรู้และระดมพลังได้อย่างไร อาจารย์กล่าวว่าการเน้นตระหนักรู้และและเข้าใจความหมายไม่ได้อยู่ที่รูปแบบ…”
ซูหยานยังคงหาทางรับรู้ถึงพลังงานเลือด แต่ยกเว้นความเจ็บปวดที่ขาของเขาจากท่านั่งม้า เขาไม่รู้สึกถึงสิ่งที่เรียกว่าพลังงานเลือดเลย
“อย่าเพิ่งท้อแท้ข้าพึ่งเริ่มได้ไม่นานเท่านั้น ความพากเพียรจะแสดงผลของมันอย่างแน่นอน!”
ซูหยานให้กำลังใจตัวเองอยู่ในใจ ด้วยสายตาที่แน่วแน่ เขาจึงเดินหน้าต่อไปเพื่อสัมผัสถึงพลังงานเลือด
ซุปไก่พร้อมแล้ว
หลี่ซวนมองดูและเห็นว่าซูหยานยังคงนั่งม้าอยู่ต่อไป ดังนั้นเขาจึงไม่ใส่ใจและเริ่มกินในส่วนของตัวเอง
“หยวนจื่อเก้าใบเป็นยาที่หายากในโลก หลังจากกินแล้ว้าจะไม่ป่วย ผมของจะเปลี่ยนเป็นสีดำแต่ไม่เป็นสีขาว และชีวิตก็จะยืนยาวไปอีกยี่สิบปี... ข้าไม่รู้ว่าคำกล่าวอ้างเช่นนี้มันเกินจริงหรือเปล่า!”
หลังจากที่หลี่ซวนกินข้าวแล้ว เขาไม่รู้ว่ามันส่งผลทางจิตใจหรือเปล่า แต่เขาแค่รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น และทั้งตัวของเขาก็ดูผ่อนคลายมากขึ้นเช่นกัน
“ยังเหลืออีกนิดหน่อย มอบให้ซูหยานอีกก็แล้วกัน”
เขาพึมพำอะไรบางอย่างลุกขึ้นยืนและเดินมาหาซูหยาน
"เป็นอย่างไรบ้าง?"
ซูหยานยกเลิกการฝึกของเขาและพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย "อาจารย์ ข้ายังไม่สัมผัสถึงพลังงานเลือดเลย"
"ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดในในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้คือความพากเพียรและความตั้งใจแน่วแน่!"
หลี่ซวนปลอบใจเขา
เขาก็รู้สึกตลกในใจ "เจ้าต้องไม่สามารถสัมผัสถึงพลังงานเลือดได้อยู่แล้ว ข้าเพิ่งสร้างมันขึ้นมา ถ้าเจ้าสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานเลือดได้ เจ้าก็เป็นสัตว์ประหลาดแล้วไม่ใช่หรือ?"
“ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งปี ตอนนี้ถึงเวลาแล้วไปกินข้าวกันเถอะ”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ซูหยานก็รู้สึกหิวทันทีและกล่าวขอบคุณ "ขอบคุณมากครับท่านอาจารย์!"
“นี่คือซุปไก่ตุ๋นกับหยวนจื่อ กินมันซะ..มันเป็นอาหารยาบำรุงที่ดี”
"ขอบคุณครับอาจารย์!"
ซูหยานรู้สึกสะเทือนอยู่ในใจ หยวนจื่อเก้าใบเป็นของขวัญของอีกฝ่าย เขาแค่ทำอาหารให้กิน แต่อีกฝ่ายก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว!
ขณะที่กินข้าวและดื่มซุปไก่ ซูหยานถามว่า "ท่านอาจารย์ โดยปกติจะใช้เวลานานแค่ไหนในการรับรู้พลังงานเลือด และสามารถเริ่มต้นการฝึกฝนได้"
“อืม มันแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล”
“ท่านอาจารย์ ผู้เริ่มต้นที่เร็วที่สุดใช้เวลานานเท่าไหร่?”
ผู้เริ่มต้นที่เร็วที่สุดใช้เวลานานเท่าไหร่งั้นหรือ?
หลี่ซวนกลอกตาในใจ ตามวิธีการฝึกฝนที่เขาสร้างขึ้น เขาจะไม่สามารถเริ่มต้นได้ในตลอดชีวิตของเขา
“ถ้ากำหนดมาตรฐานต่ำที่สุดนั่นคือเจ้าจะไม่สามารถประสบความสำเร็จอะไรตลอดชีวิต ส่วนมาตรฐานของอัจฉริยะก็กำหนดสูงขึ้นมาหน่อย”
หลี่ซวนคิดเช่นนั้นในใจ เขาจึงพูดว่า "อัจฉริยะโบราณสามารถเข้าถึงขั้นปรับแต่งผิวหนังในเวลาเพียงห้าวัน ปรับแต่งกระดูกในสิบวัน และปรับแต่งอวัยวะภายในในสิบห้าวัน จากนั้นกล้ามเนื้อและกระดูกของพวกเขาก็ดังสนั่น พลังงานเลือดของพวกเขาก็จะเป็นเหมือนอันธพาลที่ควบไปทั่วร่างกาย และตอนนี้พวกเขาก็จะถือว่าเข้าสู้ขั้นเริ่มต้นได้สำเร็จแล้ว”
“นั่นคือหนึ่งเดือน!”
ซูหยานเบิกตากว้าง และเขาก็ตกใจอย่างมาก
ขั้นปรับแต่งผิวหนังสามารถทำได้ภายในห้าวัน?
เข้าสู่ขั้นเริ่มต้นในหนึ่งเดือน?
นี่คืออัจฉริยะในสายตาของอาจารย์งั้นหรือ?
“ข้าสามารถเข้าถึงขั้นปรับแต่งผิวหนังให้เสร็จภายในห้าวันได้หรือไม่? วันนี้ข้าอาจไม่สามารถสัมผัสถึงพลังงานเลือดได้ และถ้าข้าไม่เข้าถึงขั้นปรับแต่งผิวหนังภายในห้าวัน ข้าก็ถือว่ามีมีคุณสมบัติไม่เพียงพอใช่ไหม?”
ซูหยานเริ่มรู้สึกกังวลใจทันที
หลี่ซวนให้ความสนใจกับการแสดงออกของซูหยานและรู้สึกถึงความกังวลของเขาจึงพูดว่า "แน่นอนว่า นี่คืออัจฉริยะในสมัยโบราณ เป็นหนึ่งในหมื่นคน เจ้าไม่จำเป็นต้องใจร้อน ตราบใดที่เจ้าสามารถเริ่มต้นได้ภายในหนึ่งปี ในสายตาของอาจารย์เจ้าก็ถือว่ามีคุณสมบัติแล้ว”
“ปรากฎว่าในสายตาของอาจารย์ การเข้าสู่ขั้นเริ่มต้นในหนึ่งปีจะถือว่ามีคุณสมบัติต่ำสุดเท่านั้น!”
ดวงตาของซูหยานเต็มไปด้วยความแน่วแน่และเขาพูดอย่างเคร่งขรึม “อาจารย์ไม่ต้องกังวล ลูกศิษย์คนนี้จะเริ่มต้นได้ภายในหนึ่งปีอย่างแน่นอน และข้าจะฝึกฝนอย่างหนักหลังจากนี้!”
หลี่ซวนตบไหล่เขา ใบหน้าของเขาดูโล่งใจและพูดว่า "เจ้ามีความตระหนักรู้นี้ และเจ้าคู่ควรที่จะเป็นลูกศิษย์ของข้าแล้ว!"
ซูหยานเต็มไปด้วยกำลังใจทันที
ในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกเร่งด่วนในใจเขาก็แข็งแกร่งขึ้น เขารีบทานอาหารเสร็จอย่างรวดเร็ว ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า "อาจารย์ ข้าจะไปฝึกซ้อม!"
“ข้าต้องทำงานหนักเพื่อฝึกฝน และข้าต้องไม่ละทิ้งความพยายามและความคาดหวังของท่านอาจารย์!”
ซูหยานมีความมุ่งมั่นในใจและจากไปอย่างรวดเร็ว เดินหน้าเพื่อสัมผัสถึงพลังงานเลือด
“เด็กโง่คนนี้!”
หลี่ซวนส่ายหัวและถอนหายใจ เขาไม่อยากโกหกอีกฝ่ายเลยจริงๆ
แต่ตอนนี้ไม่มีทางหวนกลับแล้ว…
นับตั้งแต่วินาทีที่เขายอมรับของขวัญรับศิษย์และทำการสอนให้ซูหยานให้ฝึกฝนแบบสุ่มสี่สุ่มห้า หลี่ซวนก็รู้ว่าเขาไม่สามารถหันหลังกลับได้อีกต่อไปและทำได้เพียงเข้าสู่ด้านมืดเท่านั้น
และตอนนี้มันก็เริ่มมืดแล้ว
ก่อนที่หลี่ซวนจะเข้านอน เขาก็ออกไปดูซูหยาน อีกฝ่ายยังคงฝึกซ้อมท่านั่งม้าอยู่จริงๆ
ใจเขาทนไม่ไหวเพราะกลัวอีกฝ่ายเหนื่อยตายจึงพูดว่า "การฝึกฝนต้องอาศัยการทำงานและการพักผ่อนร่วมกัน หากฝึกจนทำร้ายตัวเองจะทำให้รากฐานเสียหาย เมื่อถึงเวลาพักผ่อนก็พักผ่อนนะ!"
“อาจารย์ ข้ารู้แล้ว!”
ซูหยานกล่าวด้วยความเคารพ
หลี่ซวนส่ายหัว ปิดประตูแล้วเดินกลับไปที่ห้องนอน…
…………………