ตอนที่ 122 การรวมตัวของคนดัง
“ให้ตายสิ.. หญิงสาวคนนี้ เธอสวยเกินไปแล้ว?”
“ใช่.. ใช่แล้ว ผู้หญิงคนนี้สวยมากๆ ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้มาก่อนเลย”
“อีกอย่างผู้ชายคนนั้นก็หล่อมาก พวกเขาเป็นดาราหน้าใหม่?”
“สองคนนี้หน้าตาดีมาก ฉันไม่เคยได้ยินหรือรู้จักมาก่อน เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาไม่ใช่ดารา?”
ขณะที่ ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา เดินผ่านพรมแดง
ทุกสายตาก็ได้จับจ้องมองไปที่ทั้งสอง ..ในทันที
ในทันทีทันใดนั้นทุกคนก็ตกตะลึงแล้ว
ซูเหวิน ในวันนี้เพราะต้องเข้าร่วมงานเขาจึงแต่งตัวด้วยชุดที่ค่อนข้างจะเป็นทางการ เรื่องความหล่อ และสง่างามนั้นย่อมไม่ต้องพูดอะไรมาก
ส่วน เซี่ย ซินเหยา ไม่ต้องพูดถึงเลย
วันนี้เธอสวมชุดเดรสผ้ากอซสีขาวบริสุทธิ์ และรองเท้าส้นสูงสีคริสตัลคู่หนึ่ง
ผมยาวที่นุ่มสลวยถูกมัดไว้ด้านหลังเผยให้เห็นลำคอระหงขาวนวลสดใส ดูโดดเด่นสง่างาม
พวกเขาทั้งสองคนเหมาะสมกัน และดูดีมากๆ
ไม่แปลกใจที่เลยที่ทุกคนจะพากันมองพวกเขาเป็นดาราไปในทันทีที่พวกเขาเดินออกมา
ขณะที่ผู้ชมต่างตื่นตาตื่นใจ และกรีดร้องไปตามๆ กันตลอดทางนั้น
ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา ก็พากันก้าวเดินไปอย่างสงบ และในที่สุดก็เข้าสู่หอศิลป์
จนถึงตอนนี้ เซี่ย ซินเหยา ก็ถือโอกาสนี้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“หืม.. เป็นอะไรไป คุณยังเป็นกังวลอยู่เหรอ?”
ซูเหวิน เมื่อเห็น เซี่ย ซินเหยา มีสีหน้าแปลกๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“อืม ฉันไม่เป็นไร”
เซี่ย ซินเหยา กลับส่ายศีรษะ พลางระบายยิ้มกว้างออกมา
ในความเป็นจริงแล้ว ในฐานะคุณหนูใหญ่แห่ง ฮั่วซิน กรุ๊ป
เซี่ย ซินเหยา เองเคยได้ไปเข้าร่วมงานสังสรรค์มาไม่น้อย หากไม่ใช่สิบก็ต้องนับว่ามีอย่างน้อยหลักร้อยครั้ง คงไม่มีอะไรให้ต้องเป็นกังวล
แต่คราวนี้ อย่างไรก็ตาม นี่มันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องก้าวเดินไปบนพรมแดงอย่างเหล่าดาราคนดัง
และเธอก็ไม่ใช่ดาราสักหน่อย แต่กลับได้รับเสียงชื่นชม และเสียงกรีดร้องมากมาย มันจึงทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ หรืออาจจะบอกว่าเธอรู้สึกหวาดกลัวก็ไม่ผิด!
“ฮ่าฮ่าๆ คุณหนูเซี่ย อย่างได้กังวลไป แม้ว่านี่จะเป็นงานประกาศรางวัลดนตรี แต่จริงๆ แล้วอย่างน้อย 1 ใน 5 ของคนที่มาที่นี่ก็ไม่ใช่คนบันเทิงดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล”
“นอกจากนี้คุณยังเป็นคุณหนูใหญ่ของ ฮั่วซิน กรุ๊ป ทางเรากลับรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณได้มาที่นี่ในงานประกาศรางวัลดนตรีในครั้งนี้ คุณอย่าได้กังวลไปเลย”
รองประธานเผิง ที่อยู่ข้างๆ ก็ดูเหมือนจะสังเกตเห็นความไม่สบายใจของ เซี่ย ซินเหยา เขาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดปลอบเธอ และในเวลาเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะประจบสอพลอเธอด้วย
พอพวกเขาพูดแบบนี้ เซี่ย ซินเหยา เองก็พยักหน้า
ในใจก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นไม่น้อยจริงๆ
จากนั้นพวกเขาก็เดินไปที่ด้านหลังของห้องโถงซึ่งเป็นสถานที่จัดงานจริงๆ
ต้องบอกว่าหอศิลป์เลอหย่าแห่งนี้สวยงามมาก
เหลืองอร่ามงามตา สถาปัตยกรรมที่นี่หรูหรา และมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์
ขณะเดียวกันภายในห้องโถงส่วนนี้ก็มีผู้คนอยู่ไม่น้อยเลย
ภายในมีพนักงานหญิงคอยต้อนรับ และเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย
เมื่อเราค่อยๆ เดินเข้าไปก็จะพบเห็นดาราคนดังหลายคนต่างแต่งตัวด้วยชุดสูทแบรนด์ชั้นนำ และผ้าไหมชั้นเลิศมากขึ้น
สักพัก ซูเหวิน และคนอื่นๆ ก็มาถึงด้านหลัง
เห็นแต่ตรงหน้าเป็นห้องโถงอีกห้องที่กว้างขวางเอามากๆ
ข้างในเต็มไปด้วยงานศิลปะ
แน่นอนว่ายังมีที่นั่งแถวยาวเหยียด
ห่างออกไปอีกเป็นเวทีสำหรับมอบรางวัล
สิ่งที่ทําให้ ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา ตกตะลึงไม่ใช่การออกแบบ หรือเป็นการตกแต่งของห้องโถงนี้ แต่กลับเป็นจำนวนผู้คนที่อยู่ข้างในนี้ต่างหาก
โดยประมาณ 80% ในนี้ คาดว่าจะเป็นศิลปินคนดัง
คุณคงจินตนาการได้ว่ามันน่าตกใจมากขนาดไหน
แต่โชคดีที่ ซูเหวิน ไม่ใช่คนไล่ตามดารา
และเหตุผลที่เขารู้สึกตกตะลึงไปนั้น เขาแค่รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่แปลกใหม่ก็เท่านั้นเอง
แต่สำหรับ เซี่ย ซินเหยา นั้นแตกต่างออกไป
ในขณะนี้ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยดวงดาวเปล่งประกายมากมาย
เมื่อได้เห็นดาราที่มีชื่อเสียงมากมายในที่นี่ หัวใจของเธอก็รู้สึกตื่นเต้นเอามากๆ!
ในขณะที่พวกเขามองไปรอบๆ ไปพลางนั้น ทั้งสองก็ได้ติดตาม รองประธานเผิง มาถึงโซนศิลปินของ ช่านซิง เอนเตอร์เทนเมนท์
ทันใดนั้น ถานอี้, จาง หานหาน, เสิ่นเยวี่ย, กู้ อวิ๋นเฟิง และคนอื่นๆ เหล่าดาราแถวหน้ามากมายก็ได้ปรากฏตัวต่อหน้า ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา
“ฉันว่าฉันคงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว?”
“ประธานซูท่านนี้เป็นประธานของบริษัทเรา แม้ว่าพวกคุณจะไม่เคยเห็น แต่ก็น่าจะเคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน”
รองประธานเผิง มองไปที่บรรดาศิลปินในสังกัด ช่านซิง แล้วยิ้มก่อนจะแนะนำพวกเขา
พอคําพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนก็พยักหน้ากันทีละคน
เพียงแต่ว่าคนส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้จัก เซี่ย ซินเหยา
ในขณะนี้ พอพวกเขาเห็นผู้หญิงคนนี้ที่มีหน้าตาโดดเด่น และมีเสน่ห์น่าประทับใจมากขนาดนี้ แต่ละคนก็ต่างเผยสีหน้าที่น่าทึ่งออกมา
“ฮ่าฮ่าๆ ประธานซู ไม่คิดว่าคุณจะมาด้วย ดูเหมือนเราไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้ว”
หลังจาก ถานอี้ เห็น ซูเหวิน เขาก็อดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าประหลาดใจ และพูดด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุขขึ้นมาทันที
เขารีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และเดินเข้ามากอด ซูเหวิน ไว้แน่น
“อืมม.. มันก็ใช่! จะว่าไปเราก็ห่างหายกันไปประมาณ 1-2 เดือนหลังจากคอนเสิร์ตครั้งล่าสุดที่มหาวิทยาลัย”
ซูเหวิน เองก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
“คนนี้คงจะเป็น คุณหนูเซี่ย ใช่ไหม? ก่อนหน้านี้ตอนคอนเสิร์ตผมเคยเห็นคุณกับ จาง หานหาน ขึ้นเวทีร้องเพลงด้วยกันมาก่อน”
จากนั้น ถานอี้ ก็มองไปที่ เซี่ย ซินเหยา และพูดด้วยรอยยิ้มขึ้นอีกครั้ง
“อ๋า.. คือฉันร้องเพลงไม่เก่ง คงจะทําให้ทุกคนหัวเราะแล้ว”
เซี่ย ซินเหยา เธอพูดตอบกลับเสียงเบา ยิ่งเมื่อพูดถึงเรื่องร้องเพลงในครั้งที่แล้ว เซี่ย ซินเหยา ก็ยิ่งรู้สึกอายขึ้นมาทันที
“ถ้าร้องเพลงไม่เก่งก็ฝึกมันได้นะ!”
“หากคุณต้องการเรียนไว้วันหลังหากมีเวลา ฉันสอนให้คุณได้”
ในเวลานี้ จาง หานหาน ก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน
ท้ายที่สุดแล้วเธอเองเคยร้องเพลงกับ เซี่ย ซินเหยา ดังนั้นตัวเธอย่อมคุ้นเคยกับอีกฝ่ายเป็นอย่างดี
“เยี่ยมเลย เช่นนั้นฉันคงต้องขอบคุณ พี่สาวหานหาน แล้ว”
เมื่อเห็นว่าไอดอลของตัวเองอยู่ที่นี่ เซี่ย ซินเหยา ก็แสดงสีหน้ามีความสุขออกมาทันที
เธอรีบปล่อยแขนของ ซูเหวิน แล้วหันไปคว้าแขนของ จาง หานหาน พลางพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า
ทั้งคู่ดูราวกับเป็นพี่สาวน้องสาวแท้ๆ ก็ไม่ปาน
ดูเหมือนว่า คุณหนูเซี่ย ผู้นี้จะชื่นชอบไอดอลของเธอมากจริงๆ
ระหว่างการพูดคุย หลายคนก็ได้พูดคุยกันไป
ไม่นานทุกคนก็ได้เข้าร่วมการสนทนานี้
ศิลปินคนอื่นๆ ของบริษัทก็มาล้อมวง และพูดคุยพลางหัวเราะด้วยกันบรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน และดูเป็นกันเองมาก
ซึ่งการเคลื่อนไหวของพวกเขา ได้ดึงดูดความสนใจของศิลปินจากค่ายบริษัทอื่นๆ ที่อยู่รอบข้างในทันที
คนจำนวนไม่น้อยที่แสดงสีหน้าตกใจ และประหลาดใจในทันทีที่เห็น
พวกเขาต่างสงสัยว่า ชายหนุ่ม และหญิงสาวคนนี้ ..เป็นใคร
คาดไม่ถึงว่าดาราดังหลายคนจะเข้ามาล้อมวงพูดคุยกันกับพวกเขาได้อย่างอิสระ
“เอ่อ.. บอสหวัง”
“คุณเห็นหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ รองประธานเผิงหรือเปล่า เธอเป็นใครกัน หน้าตาสวยขนาดนั้น หรือว่าเป็นดาราหน้าใหม่?”
“ฉันจะรู้ได้อย่างไร ทำไมรึ.. หรือว่า บอสฉี คุณมีความคิดบ้างอย่าง?”
ในสถานที่ใกล้ๆ กับศิลปินของ ช่านซิง
ชายชราสองคนกําลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ในทางฝั่งของ ซูเหวิน โดยกระซิบกระซาบกันเป็นครั้งคราว
“เฮอเฮอๆ แน่นอน”
“ผู้หญิงคนนั้นสวยขนาดนั้น เป็นเรื่องปกติที่จะมีความคิด หรือคุณจะบอกว่าคุณไม่มีความคิดอย่างนั้นเลย?”
ผู้ชายที่ถูกเรียกว่า บอสฉี ยิ้มหัวเราะเบาๆ พลางพูดออกไป
เขามองไปที่ เซี่ย ซินเหยา ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงสายตาละโมบ
“ความคิดนะ ..มี แต่น่าเสียดาย คุณเองไม่เห็นหรือว่าเธอยืนอยู่ข้าง รองประธานเผิง?”
“ฉันเดาว่าตัวตนอีกฝ่ายไม่ง่ายเลย อาจเป็นนักลงทุน หรือผู้ถือหุ้นที่อายุยังน้อย คุณ และฉันปล่อยวางมันจะดีกว่านะ!”
บอสหวัง ส่ายศีรษะพลางถอนหายใจ
“นั่นมันอาจไม่แน่.. คุณเคยเห็นนักลงทุน หรือผู้ถือหุ้นที่อายุยังน้อย และงดงามเช่นนี้หรือ?”
“คนหนึ่งหล่อ อีกคนหนึ่งสวยมาก ฉันกลับมองว่าเป็นคนใหม่ที่บริษัทเพิ่งฝึกออกมามากกว่า”
“ดีไม่ดีบางที รองประธานเผิง อาจพาพวกเขามาที่นี่เพียงเพื่อเสริมความสัมพันธ์ที่ดีกับดาราดังเหล่านั้นก็ได้!”
“หากเช่นนั้นจริง เราควรหาโอกาส…”
เห็นได้ชัดว่า เมื่อเทียบกับ บอสหวัง แล้ว บอสฉี คนนี้ดูมีความกล้าหาญ และมีความสนใจกว่ามาก
และพวกเขาทั้งสองคนเป็นนักลงทุนของบริษัทแห่งหนึ่ง
โดยปกติมักจะอาศัยเส้นสาย และทรัพยากรที่มีอยู่ในมือ ทั้งในวงการบันเทิงนี้ พวกเขาเคยทำร้ายหญิงสาวบางคนที่เพิ่งเข้าวงการบันเทิงมาใหม่ๆ ไม่น้อยเลย
มาตอนนี้พวกเขาที่ได้ค้นพบหญิงสาวที่สวยงดงามมากอย่าง เซี่ย ซินเหยา และแน่นอนว่าพวกเขาได้มีความคิดบางอย่างในใจขึ้นมาอีกครั้ง
โดยเฉพาะกับ บอสฉี.. คนนี้
ที่ในขณะนี้ ในหัวของเขากําลังคิดอยู่ว่าจะเข้าไปใกล้ เซี่ย ซินเหยา คนนี้อย่างไรดี!