บทที่ 90 แต่ละสิ่งล้วนมีสาเหตุ
หลี่ฟานเคยพบสมบัติมหัศจรรย์มาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นไข่มุกทะเลกว้างที่หลอมรวมกับจิตวิญญาณแห่งทะเลชงอวิ่น กิ่งมังกรของโข่วหง หรือดาบสนิมของนักพรตเต๋าเสวียนก็ตาม
บัดนี้มองย้อนกลับไป แปดเก้าส่วนก็คงเป็นผู้ฝึกเซียนที่ล่วงลับไปแล้ว กลับชาติมาเกิดใหม่กันทั้งนั้น
กิ่งมังกรนั้น สามารถใช้น้อยเอาชนะมาก และกระทำการกลืนกินได้ ส่วนดาบสนิมของนักพรตเต๋าเสวียน ก็มีพลังแห่งจิตใจอันไม่ย่อท้อ ชะลอการผุกร่อนของสนิมได้
เห็นได้ชัดว่ายังพอมองเห็นเงาร่างของผู้ฝึกฝนเซียนตามนั้นอยู่
เมื่อรู้ความลับของสมบัติล้ำค่าแห่งฟ้าดินกะทันหัน หลี่ฟานก็อดใจสั่นไม่ได้
แต่ครั้งก่อนเขาก็เคยเห็นภาพที่ไฟจี่เยี่ยนเผาทะเลมาแล้วกับตา ดังนั้นจึงสงบใจลงได้อย่างรวดเร็ว
ในสายตาของหลี่ฟาน ความขัดแย้งระหว่างฟ้าดินกับผู้ฝึกเซียนในยุคนี้ รุนแรงถึงขีดสุดเสียแล้ว
เมื่อความขัดแย้งทวีความรุนแรง ไม่ว่าจะเกิดเรื่องประหลาดอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
หลี่ฟานเริ่มค้นความทรงจำของซือคงป๋อต่อ
ผู้ฝึกเซียนขั้นหล่อหลอมร่างทารกผู้นั้น ได้เปลี่ยนตนเองเป็นสมบัติล้ำค่าระดับสร้างฐานแล้ว และสิงอยู่ในร่างของเด็กน้อย
ส่วนใหญ่ก็จะหลับใหลเท่านั้น จะตื่นขึ้นมาก็ต่อเมื่อสอนวิชาแก่เด็กน้อย หรือยามที่เด็กน้อยเผชิญภยันตราย
ดังนั้นจึงไม่เคยพบว่าซือคงป๋อแอบสังเกตการณ์อยู่ มีใจคิดร้ายอยู่นานแล้ว
จนกระทั่งคืนวันนั้น ซือคงป๋อต้องการเอาเลือดเนื้อจากเด็กน้อย จึงปลุกให้เขาตื่นขึ้นมา
ผู้ฝึกเซียนหล่อหลอมร่างทารกนั้นโกรธาหนัก เด็กน้อยนี้เป็นความหวังที่จะทำให้เขาก้าวสู่ขั้นแปรสภาพวิญญาณ หรือแม้กระทั่งกลมกลืนกับเต๋า จะยอมให้ใครมาแย่งชิงได้อย่างไร
จึงเผยร่างที่แท้จริงออกมา เป็นต้นหลิวสีเขียว ตั้งใจจะฆ่าซือคงป๋อให้ตายคามือ
คนหนึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าที่แปรมาจากผู้ฝึกเซียนขั้นหล่อหลอมร่างทารก พลังจึงลดลงไปมาก
ส่วนอีกคนแม้จะมีพลังยุทธ์เพียงขั้นสร้างฐาน แต่มีตำราลับจากสำนักโบราณที่สืบทอดมานับพันปี มีกลวิธีนับไม่ถ้วน
ชั่วขณะนั้น ทั้งสองต่อสู้กันอย่างสูสีไม่มีใครยอมใคร
ต่างฝ่ายต่างใช้กลยุทธ์ออกมาหมด ต่อสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ไม่มีใครยอมถอย
หลังจากต่อสู้กันอยู่นาน ทั้งสองได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงแอบคิดจะถอยทัพ
แต่จู่ๆ เด็กน้อยก็ปรากฏกายออกมา
ใบหน้าเย็นชา มองทั้งสองอย่างไม่ใส่ใจ ผิดจากเด็กใสซื่อวัยห้าหกขวบเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง
พลังยุทธ์ของเขาสูงถึงขีดสุดแห่งขั้นฝึกปราณแล้ว เพียงแค่มีสมบัติล้ำค่าแห่งฟ้าดิน ก็พร้อมจะก้าวเข้าสู่ขั้นสร้างฐานได้ทุกเมื่อ
ต้นหลิวเขียวรู้สึกไม่ดีอย่างประหลาด
อยากจะหนีไป แต่ก็ไม่ทันการณ์แล้ว
ช่วงนี้ ตอนที่เขาหลับใหลอยู่ ตัวเขาถูกเด็กน้อยวางอาคมบังคับเอาไว้หมดแล้ว
พอดึงกลับมาทันที ต้นหลิวเขียวก็ถูกเด็กน้อยดูดเข้าไปในร่าง
ภายในชั่วพริบตา ก็ถูกสกัดกลั่นจนสิ้น
ซือคงป๋อเห็นเช่นนี้ก็ตกใจกลัวยิ่งนัก วิ่งหนีสุดชีวิต
เด็กน้อยย่อมไม่ปล่อยให้รอด
เด็กน้อยเพิ่งเข้าสู่ขั้นสร้างฐานก็จริง แต่เพียงยกมือขยับตัวก็มีลางของปรมาจารย์แล้ว ทุกกระบวนท่าล้วนโจมตีจุดตายของซือคงป๋อโดยแม่นยำ
แถมดูเหมือนจะรู้จักต้นกำเนิดของซือคงป๋อเป็นอย่างดีอีกด้วย
ทุกครั้งที่ซือคงป๋อคิดจะแยกตัวจากร่างอื่นแล้วหลบหนี ร่างอื่นก็ถูกทำลายทิ้งในทันที
ทั้งสองไล่ล่ากัน จนร่างอื่นของซือคงป๋อถูกทำลายจนหมดสิ้น ตัวจริงก็บาดเจ็บสาหัส ไร้ทางหนีรอด
ดังนั้น เขาจึงปล่อยวิญญาณเศษที่เหลือของผู้อาวุโสในสำนักจากสมัยก่อนออกมาจากสลักเทาเทียนฮวนรี่ เพื่อถ่วงเวลา
วิญญาณเศษนั่นสร้างความวุ่นวายให้แก่เด็กน้อยได้บ้าง ซือคงป๋อจึงหนีไปได้ไกลขึ้น
แต่ปรากฏว่าจู่ๆ มีสายฟ้าสีม่วงฟาดลงมาจากฟ้า กวาดวิญญาณเศษทั้งหมดให้พินาศสิ้น
ซือคงป๋อตกใจจนวิญญาณแทบกระเจิง ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น วิ่งหนีอย่างคลุ้มคลั่ง
หนีมาไกลถึงทะเลชงอวิ่นอันห่างไกลนี้ ก็หยุดลงในที่สุด
แต่บาดเจ็บสาหัสเกินไป อยู่ในทะเลชงอวิ่นไม่นาน ก็ถึงคราวอวสานแล้ว
ก่อนตาย ซือคงป๋อพบซือคงอี้ จึงรับเขาเป็นศิษย์
รีบส่งคัมภีร์ยุทธ์เทาเทียนฮวนรี่และสลักให้เขา แล้วก็ล่วงลับไป
ส่วนความทรงจำของซือคงอี้ เทียบกับเรื่องน่าตื่นเต้นของอาจารย์แล้ว ก็ธรรมดามาก
แม้เขาจะได้รับการถ่ายทอดของเทาเทียนฮวนรี่ แต่อาจารย์ผู้นี้มอบสิ่งของให้เขาไว้แทบไม่มีอะไรก่อนสิ้นใจ
ความยากลำบากของผู้ฝึกเซียนอิสระนั้นล้นเหลือ
แม้แต่วัตถุในการสร้างร่างอื่นก็ยากที่จะรวบรวม
ดังนั้น หลังจากพยายามฝึกฝนด้วยตัวเองจนถึงขั้นฝึกปราณ เขาก็ตัดสินใจเข้าร่วมพันธมิตรหมื่นเซียนทันที
หลังจากก้าวสู่ขั้นฝึกปราณระยะกลาง เขาเริ่มรวบรวมวัตถุเพื่อสร้างร่างอื่นของตัวเอง
ด้วยโอกาสบังเอิญ ครั้งหนึ่งตอนกำลังสำรวจใต้ทะเล เขาพบกับร่างไร้วิญญาณ
ซือคงอี้รู้สึกลางๆ ว่าศพนี้ไม่ธรรมดา ตอนมีชีวิตอาจเป็นผู้ฝึกเซียนที่ทรงพลังก็เป็นได้
ดังนั้นเขาจึงใช้ศพนี้เป็นวัตถุดิบ สร้างร่างอื่นของตัวเอง
ร่างอื่นนี้ก็คือไป๋ลี่เฉิน
พร้อมๆ กับการสร้างร่างอื่นสำเร็จ ภาพเลือนรางก็ปรากฏในสมองของเขา
ที่แท้ศพนี้เป็นศิษย์ของวิหารอวิ๋นสุ่ยในสมัยโบราณ
เมื่อเกิดภัยพิบัติ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และหลบหนีออกจากวิหารอวิ๋นสุ่ย
แต่น่าเสียดาย อดทนต่อไปไม่ไหวนาน ก็เสียชีวิต ตายกลางทะเลไป
จนกระทั่งหลายพันปีให้หลัง ถูกถูกซือคงอี้ใช้ทำร่างแยกของตน
ผ่านร่างนี้ ซือคงอี้ไม่เพียงได้วิชายุทธ์ที่ชื่อ《กระบี่สะกดทะเล》 ยังรู้ถึงความลับบางอย่างในวิหารอวิ๋นสุ่ยสมัยโบราณ
น่าเสียดาย มีเพียงภาพเลือนราง ไม่อาจรู้ได้หมด
อีกทั้งวิหารอวิ๋นสุ่ยถูกซ่อนไว้ด้วยวงจรอาคมใหญ่ มิได้ปรากฏแก่สายตาผู้คน ซือคงอี้อยากสำรวจก็ไม่มีทางทำได้
ต่อมาเมื่อเขาพบว่า《บันทึกภาพอวิ๋นสุ่ย》สิ่งที่ประกาศรางวัลถึงหมื่นคะแนนผลงานนั้น มีอยู่ในวิหารอวิ๋นสุ่ย ก็ตื่นเต้นจนตัวสั่น
รู้ว่าโอกาสของตนมาแล้ว จึงจับตาความผิดปกติท่ามกลางทะเล รอคอยวิหารอวิ๋นสุ่ยเปิดออกอย่างเงียบๆ
สิบเอ็ดปีหมุดยึด เมื่อวิหารอวิ๋นสุ่ยปรากฏตัวขึ้นในโลก เขาก็เข้าไปในทันที
คิดว่าเมื่อได้《บันทึกภาพอวิ๋นสุ่ย》 ได้รางวัลหมื่นคะแนน จากนี้เส้นทางการฝึกฝนก็จะสะดวกราบเรียบ
แต่ไม่คาดคิดว่า จะพบกับหลี่ฟาน
ซือคงอี้กระทั่งตายยังไม่รู้เลย ผู้ที่สังหารเขาคือใครกันแน่
ส่วนอีกฝ่าย เล็งเห็นเขาได้อย่างไร?
ทั้งๆ ที่ตนได้เรียนรู้จากบทเรียนของปรมาจารย์ ระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งแท้ๆ
...
รับรู้ถึงความไม่สมปรารถนาอันแรงกล้าจากวิญญาณเศษของซือคงอี้ สีหน้าของหลี่ฟานยังคงเรียบเฉย
เรียกเพลิงสีฟ้ามายาขึ้นมา ทำลายวิญญาณเศษทั้งสองอย่างสิ้นเชิง
"หากไม่มีข้า ซือคงอี้คงได้《บันทึกภาพอวิ๋นสุ่ย》ไปแล้ว แลกคะแนนผลงานหมื่นคะแนน แล้วใช้วงจรอาคมส่งไกลเกินจินตนาการ ออกจากทะเลชงอวิ่นไปก่อนที่คนอื่นจะตอบสนองได้"
"ไม่ใช่" นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในชาติที่แล้ว หลี่ฟานส่ายหน้าอีกครั้งอย่างเงียบๆ
"ในชาติก่อน คนมากมายได้เห็นซือคงอี้ใช้วงจรอาคมส่งตัวออกไปต่อหน้าต่อตา ไม่มีใครสังเกตเห็นไป๋ลี่เฉินเลย..."
"หรืออาจเป็นแผนของซือคงอี้ที่จะเปลี่ยนร่างหลบหนีไปก็ได้"
"ปล่อยให้ร่างจริงออกไปต่อหน้าฝูงชนจากทะเลชงอวิ่น สร้างภาพลวงตาว่าเขาจากไปแล้ว แท้จริงกลับใช้คัมภีร์ยุทธ์เทาเทียนฮวนรี่ หวนกลับสู่ทะเลชงอวิ่นที่ไหนสักแห่งอีกครั้ง"
"ไม่ต้องหลบเลี่ยงกระจกเทียนเสวียน เพียงแค่ให้พ้นสายตาคนที่หวังในหมื่นคะแนนก็พอ..."
"ไม่เลวเลย วิธีนี้ครั้งนี้ข้าน่าจะทำได้เช่นกัน หมื่นคะแนนนั้นช่างล่อใจเกินไป"
หลี่ฟานเก็บสลักเทาเทียนฮวนรี่ไว้ในแหวนเก็บสมบัติ แล้วบินไปยังเกาะไม่ไกลนัก
เขาจะกลับไปพักที่เกาะหมื่นเซียนก่อน
ครั้งนี้ได้ของมาจากวิหารอวิ๋นสุ่ยมากเกินไป แทบรับมือไม่ไหว
เขาต้องใช้เวลาบ้าง เพื่อทำความเข้าใจและซึมซับให้ดี
PS: วันนี้เท่านี้นะจ๊ะ ต่อพรุ่งนี้