บทที่ 89 สำนักเทาเทียนฮ่วนรี่
การหายสาปสูญของผู้ฝึกเซียนขั้นฝึกปราณ เทียบกับผู้ฝึกเซียนขั้นสร้างฐาน ปรากฏการณ์ย่อมอ่อนด้อยกว่ามาก
ไม่มีแสงสีสันตระการตาดุจดอกไม้ไฟ เหมือนอย่างสมบัติวิเศษ มีเพียงเมฆหมอกสีแดงฉานสองสาย ลอยโผล่ขึ้นมากลางนภา
"ซือคงอี้ ผู้ฝึกเซียนขั้นฝึกปราณ ฝึกวิถีเซียนมาสามสิบห้าปี ณ แดนทะเลชงอวิ่น ถูกผู้ฝึกเซียนขั้นฝึกปราณหลี่ฟานสังหารเสีย..."
"ผู้ฝึกเซียนขั้นฝึกปราณไป๋ลี่เฉิน ฝึกวิถีเซียนมาสามปี ณ แดนทะเลชงอวิ่น ถูกผู้ฝึกเซียนขั้นฝึกปราณหลี่ฟานสังหารเสีย..."
"บัดนี้สิ้นชีพวายวอด คืนวิถีสู่ฟ้า!"
...
ภายใต้เมฆคล้ายเปลวเพลิง หลี่ฟานยืนนิ่งอยู่คนเดียว ลูบคลำตราเทาเทียนฮ่วนรี่ในมืออยู่นาน
นานพักใหญ่ จึงข่มกลั้นความคิดโลภที่ผุดขึ้นมาในใจได้
"ของวิเศษชิ้นดี น่าเสียดาย..."
"หาใช่ทางของข้า"
ตราเทาเทียนฮ่วนรี่ เป็นของล้ำค่าที่สุดของสำนักเทาเทียนฮ่วนรี่
สำนักเทาเทียนฮ่วนรี่ คือสำนักลับที่มีมาตั้งแต่ครั้งโบราณ
แตกต่างจากสำนักอื่นที่เปิดนิกายตั้งสำนัก รับศิษย์มากมาย
สำนักเทาเทียนฮ่วนรี่ไม่มีที่ตั้งสำนักแน่นอน แต่ละรุ่นมักจะมีศิษย์สืบทอดเพียงหนึ่งเดียว
เพราะฉะนั้น เมื่อยามมหาภัยมาเยือน สำนักอื่นก็จะเผชิญกับฉากอาบเลือดปลายยุค
แต่กลับไม่ส่งผลกระทบต่อสำนักเทาเทียนฮ่วนรี่แต่อย่างใด
ทั้งนี้ที่สำนักเทาเทียนฮ่วนรี่สามารถสืบทอดวิชามานับหมื่นปีโดยมีศิษย์เพียงคนเดียวโดยไม่ขาดสาย มากน้อยอยู่ที่คัมภีร์วิชาวิเศษของพวกเขา
เทาเทียน: สามารถใช้เลือดเนื้อและวัตถุพิเศษบางอย่าง สร้างร่างแยกพิเศษขึ้นมาได้ ต่างจากวิชาร่างนอกกายทั่วไป ร่างแยกนี้จะมีรูปลักษณ์ พลังชีวิต จิตสำนึก เวทมนตร์ ระดับการฝึกฝน แม้กระทั่งชะตาชีวิตเป็นของตัวเองแยกออกไป
สามารถมองร่างแยกนี้เป็นคนอีกคน แยกออกไปได้
ฮ่วนรี่: เวลาสร้างร่างแยก หากใช้กระดูกของผู้ฝึกเซียนที่ตายแล้วบางส่วน หรือผสมเลือดเนื้อของผู้ฝึกเซียนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็จะสามารถแย่งชิงพรสวรรค์ ชะตาชีวิตบางส่วนของอีกฝ่าย มาใส่ลงในร่างแยกได้
หากเป็นเพียงเท่านั้น ก็ยังไม่สามารถสะท้อนความน่ากลัวของสำนักเทาเทียนฮ่วนรี่ออกมาได้
《วิชาลับเทาเทียนฮ่วนรี่》ต้องใช้คู่กับตราที่หลี่ฟานถืออยู่จึงจะสมบูรณ์
ตราเทาเทียนฮ่วนรี่นี้ ตีขึ้นมาเมื่อหลายพันปีก่อน โดยซือคงเยว่ ผู้สืบทอดรุ่นที่สามสิบแปดของสำนักเทาเทียนฮ่วนรี่
ซือคงเยว่ได้เห็นกับตาตัวเองถึงมหันตภัยที่มาเยือน ผู้ฝึกเซียนฆ่าฟันกันเอง ชีวิตเปราะบางดั่งมดปลวก นางหวาดผวาเสียจนเร่งรีบหาทางรอดพ้นที่สมบูรณ์แบบ
ด้วยเหตุนี้ หลังจากอุตส่าห์ศึกษาค้นคว้าศาสตร์การตีเหล็กมากมายตลอดหนึ่งร้อยปี ในที่สุดนางจึงสร้างตราเทาเทียนฮ่วนรี่นี้ขึ้นมา
ตราวิเศษมีประโยชน์มากมาย
ไม่ต้องพูดถึงว่ามีพื้นที่เก็บของกว้างขวาง หลังจากที่เจิมไว้แล้ว ตราวิเศษจะสามารถเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างร่างเดิมและร่างแยกได้อย่างอิสระ โดยไม่จำกัดระยะห่าง
ที่สำคัญที่สุด คือนางใช้วิชาลับเทาเทียนฮ่วนรี่ ย้ายแก่นชีวิตทั้งของร่างเดิมและร่างแยกเข้าไปไว้ในตรานี้ทั้งหมด
ตราบใดที่ตราวิเศษไม่ถูกทำลาย ต่อให้ร่างเดิมและร่างแยกถูกสังหาร ก็สามารถเสียสละเลือดเนื้อที่สะสมไว้ในตรามาก่อนหน้า เพื่อสร้างร่างใหม่ขึ้นมาได้
ก็จะ "ฟื้นคืนชีพ" อีกครั้ง
พูดง่ายๆ คือ หลังจากฝึกวิชาสำเร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นร่างเดิมหรือร่างแยกที่ปรากฏแก่ผู้อื่น ต่างก็เป็นเพียงเปลือกเปล่าเท่านั้น
ตราเทาเทียนฮ่วนรี่นี่ต่างหากคือแก่นแท้ของชีวิต
วิชานี้ผ่านการดัดแปลงอย่างต่อเนื่องของซือคงเยว่จนกลายเป็นวิชามารไปบ้าง แต่...
กลับใช้ได้ผลดี
หลายพันปีมานี้ อาศัยวิชาวิเศษประหลาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เลวร้ายเพียงใด ผู้ฝึกเซียนสำนักเทาเทียนฮ่วนรี่ก็รอดพ้นมาได้ทั้งตัว
สำนักเทาเทียนฮ่วนรี่จึงสืบทอดมาหลายพันปีโดยไม่ขาดสาย
จนกระทั่งมาถึงซือคงอี้ที่ต้องพบกับคนประหลาดที่ย้อนกลับมาจากอนาคตอย่างหลี่ฟาน
วิชาลับเทาเทียนฮ่วนรี่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ ยังคงมีจุดบกพร่องที่ทำให้ตายได้บางประการ
เช่น ร่างเดิมกับร่างแยกต้องรักษาระยะห่างในระดับหนึ่ง ยิ่งห่างกันมากเท่าไร พลังของร่างแยกก็จะยิ่งลดลงมากเท่านั้น หากเกินระยะสุดท้ายไป ก็จะเหลือเพียงระดับพลังขั้นฝึกปราณต้นเท่านั้น
อีกเช่น เนื่องจากแก่นแท้ชีวิตถูกควบคุมไว้ในตราวิเศษ ดังนั้นแม้ผู้ฝึกเซียนสำนักเทาเทียนฮ่วนรี่จะตายไป ก็ยังมีจิตวิญญาณบางส่วนถูกคุมขังไว้ในตรา ไม่อาจหลุดพ้น
จิตวิญญาณเศษเหล่านี้มักเก็บความทรงจำบางส่วนที่สำคัญยามมีชีวิตเอาไว้
ยามคับขัน เจ้าของตราวิเศษยังสามารถปล่อยมันออกมาโจมตีศัตรูได้อีกด้วย
หลี่ฟานส่งสำนึกเข้าไปในตราเทาเทียนฮ่วนรี่ พื้นที่กว้างขวางแต่กลับว่างเปล่า
มีเพียงซือคงอี้และจิตวิญญาณอีกดวงหนึ่งที่มองหน้าตาไม่ชัด ลอยล่องอยู่อย่างงุนงง
สำนึกของเขากลายเป็นมือยักษ์ จับจิตวิญญาณทั้งสองดวงไว้ อ่านความทรงจำที่ยังหลงเหลืออยู่
นานพอสมควร ในที่สุดหลี่ฟานก็เข้าใจว่า เหตุใดสำนักเทาเทียนฮ่วนรี่ที่สืบทอดมานานนับพันปี ถึงได้ตกต่ำถึงเพียงนี้
ต้นเหตุ ยังต้องย้อนไปถึงอาจารย์ของซือคงอี้ ซือคงป๋อ
มานานกว่าพันปี สำนักเทาเทียนฮ่วนรี่เดินทางผ่านสถานการณ์อันตรายต่างๆ มาโดยปลอดภัย พวกเขาจึงค่อยๆ หยิ่งผยองขึ้นเรื่อยๆ พฤติกรรมก็ยิ่งบ้าระห่ำหาญไม่เกรงกลัวสิ่งใด จนมาถึงยุคของซือคงป๋อ ก็ถึงขีดสุด
บนทวีปห่างไกล เมื่อซือคงป๋อก้าวขึ้นสู่ขั้นสร้างฐาน เขารู้สึกไม่พอใจกับร่างแยกที่เคยผนึกเอาไว้
ด้วยเหตุนี้ ซือคงป๋อจึงหมายมั่นจะเก็บรวบรวมวัตถุดิบ แล้วผนึกร่างแยกขึ้นมาใหม่
บังเอิญยิ่งนัก ขณะนั้นเขาเดินทางไปเจอเด็กน้อยคนหนึ่งอายุประมาณห้าหกขวบ ในหมู่บ้านเล็กๆ กลางป่าเขา
เด็กน้อยคนนี้เกิดมาพร้อมกับร่างเซียน นอกจากพละกำลังมหาศาลแล้ว ความเร็วในการฝึกฝนก็น่าตกใจยิ่งนัก
วัยเพียงเท่านี้ ก็บรรลุขั้นฝึกปราณสมบูรณ์ กำลังจะก้าวขึ้นสู่ขั้นสร้างฐานแล้ว
สิ่งนี้ทำให้ซือคงป๋อใจสั่น
หลังจากแอบสังเกตอยู่พักหนึ่ง ซือคงป๋อค้นพบว่าชะตาชีวิตของเด็กน้อยผู้นี้ยอดเยี่ยมเหลือเกิน
ทุกครั้งที่ไปล่าสัตว์ในป่าลึกตามลำพัง จะสามารถนำสมบัติล้ำค่ามากมายกลับมาได้พร้อมกันเสมอ
หากแย่งชิงชะตาชีวิตของเด็กน้อยคนนี้ไปได้ ร่างแยกที่สร้างขึ้นมาจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน!
ดังนั้น ซือคงป๋อผู้ถูกความโลภบดบังสายตา จึงแอบเข้าไปในคืนหนึ่ง ตอนที่เด็กน้อยหลับสนิท หวังจะขโมยเลือดเนื้อของเขา
ทว่า...
ไม่คิดเลยว่าเด็กน้อยคนนี้ถูกเซียนผู้ยิ่งใหญ่ขั้นหล่อหลอมร่างทารกคนหนึ่งเลือกไว้แต่แรกแล้ว
เซียนผู้ยิ่งใหญ่ขั้นหล่อหลอมร่างทารกผู้นี้ ชะตาขีดเส้นตายใกล้ถึง เห็นว่าตนเองไม่มีความหวังจะก้าวหน้าต่อไปได้ จึงออกตามหาร่างที่สามารถยึดครองได้
บังเอิญไปเจอเด็กน้อยผู้พรสวรรค์โดดเด่นคนนี้
ศิลปะชิงร่างทั่วไป จะทำลายรากฐานของผู้ถูกชิงร่างไปบ้างพอสมควร แต่เซียนขั้นหล่อหลอมร่างทารกผู้นี้ยังหวังว่าจะได้เลื่อนขั้นขึ้นไปอีก จะยอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร
ดังนั้น เขาจึงใช้วิธีสุดโต่งวิธีหนึ่ง นั่นคือ เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสมบัติล้ำค่า รอจนกระทั่งเด็กน้อยก้าวขึ้นสู่ขั้นสร้างฐาน ก็จะได้หลอมรวมเข้ากับเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ใช่แล้ว ตามความทรงจำที่เหลือรอดของซือคงป๋อ มนุษย์สามารถถูกหลอมให้กลายเป็นสมบัติล้ำค่าได้
หรือพูดได้ว่า สมบัติล้ำค่าที่ผุดขึ้นไม่ขาดสายในโลกนี้ ส่วนใหญ่ถูกแปรสภาพมาจากผู้ฝึกเซียนที่ล่วงลับไปแล้ว
หลังจากผู้ฝึกเซียนสิ้นชีพ การ "คืนวิถีสู่ฟ้า" ไม่ได้เป็นเพียงคำกล่าวเปล่าๆ
"เต๋า" ของผู้ฝึกเซียน หลังผ่านการแปรสภาพของฟ้าดินไม่ว่ากี่ปี ก็จะค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปตามบุคลิกนิสัย คุณสมบัติเฉพาะของคัมภีร์วิชาที่ฝึกฝนยามมีชีวิต กลายเป็นสมบัติล้ำค่าแปลกประหลาดต่างๆ ปรากฏขึ้นมาในโลกอีกครั้ง
คนที่เสียชีวิตแล้ว มีหน้าที่ต้องทำต่อไป
นี่คือมุมมองของสวรรค์ที่มีต่อหมู่ผู้ฝึกเซียน