บทที่ 21 หยางเฉาสั่งเสีย
เมื่อหยางเสี่ยวเทียนกลับถึงบ้านสกุลหยาง เขาก็พบเข้ากับบรรยากาศอันน่าอึดอัดภายในโถงด้านหน้า ที่มีภาพผู้เป็นบิดามารดานั่งปลอบใจกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ท่านแม่ เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ” หยางเสี่ยวเทียนเอ่ยถามหวงอิ๋งที่กำลังคอยปลอบประโลมผู้เป็นสามีอย่างกังวลใจ
“พ่อเจ้ากำลังจะออกเดินทางไปหมู่บ้านเฮยเฟิง ในการเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยอันตราย เขาจึงไปขอยืมเกราะวิญญาณราชันย์พยัคฆ์จากท่านปู่เจ้า แต่กลับถูกปฏิเสธ” หวงอิ๋งเล่าเรื่องนี้ด้วยความรู้สึกแน่นในอกพร้อมกล่าวต่อ
“ข้าอยากรู้ความในใจเขานัก สำหรับเขาแล้ว ชีวิตของลูกชายสำคัญน้อยกว่าเกราะวิญญาณราชันย์พยัคฆ์งั้นหรือ”
“ในสายตาปู่ของเจ้า ความปลอดภัยของพ่อเจ้าไม่สำคัญเท่าชิ้นส่วนเกราะวิญญาณราชันย์พยัคฆ์หรอกหรือ”
หัวใจของหยางเสี่ยวเทียนราวกับจมดิ่งสู่ก้นเหวลึก หลังได้ยินสิ่งที่มารดาพรํ่าพรรณนาด้วยน้อยเนื้อต่ำใจในความไร้เมตตาของปู่ผู้ไม่รู้สิ่งใดควรสำคัญกว่า
เกราะวิญญาณราชันย์พยัคฆ์ เป็นเกราะระดับอาวุธวิญญาณที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของตระกูลหยาง หากพ่อเขาได้สวมมัน โอกาสรอดชีวิตระหว่างเดินทางไปยังหมู่บ้านเฮยเฟิงจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
แต่หยางเสี่ยวเทียนไม่คิดว่าปู่ของเขาจะปฏิเสธโดยไม่ตริตรองได้ง่ายดายถึงเพียงนี้
“พอแล้วๆ” หยางเฉาเอ่ยขึ้นพร้อมโบกมือหักห้ามหวงอิ๋ง “เกราะวิญญาณราชันย์พยัคฆ์ เป็นของตกทอดจากบรรพบุรุษตระกูลหยาง มีเพียงผู้นำตระกูลเท่านั้นจึงจะสามารถสวมใส่ได้ นั่นเป็นเรื่องปกติที่ท่านพ่อปฏิเสธ หากว่าเกราะวิญญาณราชันย์พยัคฆ์สูญหายไปเพราะข้า ข้าคงไม่อาจอภัยให้ตัวเองได้เป็นแน่”
แต่เมื่อหยางเฉานึกถึงการเดินทาง เขาก็รู้สึกหวาดผวาอยู่ในใจลึกๆ เพียงปกปิดไม่ให้ผู้ที่อยู่เบื้องหน้าทั้งสองเป็นกังวล
เขาพยายามควบคุมอารมณ์ก่อนหันมากำชับหยางเสี่ยวเทียนราวกับเป็นการสั่งเสีย “เสี่ยวเทียนบัดนี้เจ้าโตแล้ว หากพ่อไม่กลับมา เจ้าต้องดูแลแม่กับน้องสาวของเจ้าแทนพ่อให้ดี”
แม้ในใจลึกๆ เขาจะหวังกลับมาอย่างปลอดภัย แต่ก็ต้องเตรียมใจสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
หยางเสี่ยวเทียนเข้าใจความหมายที่บิดากล่าวเป็นอย่างดี ก่อนตอบบำรุงน้ำใจ “ท่านพ่อ ท่านต้องไม่เป็นอะไรแน่” เขาจะไม่ปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับบิดาเขาอย่างแน่นอน
หยางเฉาไม่ได้ตระหนักในคำพูดเหล่านี้ แค่ถือเป็นคำปลอบใจจากลูกชายผู้บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเท่านั้น เขาเผยยิ้มบางด้วยเมตตาพร้อมเอ่ยอีกครั้ง “เอาล่ะ พ่อต้องไปแล้ว หากพ่อกลับมาเมื่อใดจะนำขนมอบจากหมู่บ้านเต้าหัวมาฝากเจ้าด้วย”
ครู่ต่อมา หยางเสี่ยวเทียน หวงอิ๋ง หยางหลิงเอ๋อร์ และคนอื่นๆ ต่างยืนเฝ่ามองแผ่นหลังของหยางเฉาพร้อมเหล่าองครักษ์สกุลหยางจากไป มุ่งหน้ายังหมู่บ้านเฮยเฟิง
กระทั่งร่างของหยางเฉาพร้อมเหล่าองครักษ์ลับตาไปในม่านหิมะ เมื่อทุกคนต่างแยกย้าย หยางเสี่ยวเทียนก็รีบปรี่กลับยังเรือนของตนเช่นกัน
ทันทีที่กลับถึง หยางเสี่ยวเทียนก็รวมร่างเข้ากับวิญญาณยุทธ์ มุ่งหน้าออกจากจวนสกุลหยางตามบิดาไป
การเคลื่อนที่ด้วยความเร็วหลังผสานกายแท้เข้ากับวิญญาณยุทธ์ ทำให้หยางเสี่ยวเทียนดูราวกับเป็นเงาซ้อนทับกันอย่างต่อเนื่องก่อนเคลื่อนตัวผ่านป่าทึบในความมืด
ตอนนี้ เขาต้องรีบไปให้ถึงหมู่บ้านเฮยเฟิงก่อนหน้าบิดาเขา เพื่อกำจัดวิญญาจารย์ขั้นเซียนสวรรค์ทั้งสิบสี่คนของหมู่บ้านเฮยเฟิง
เมื่อเซียนสวรรค์ทั้งสิบสี่คนของหมู่บ้านเฮยเฟิงถูกกำจัดสิ้น เหล่าบรรดาลูกสมุนก็ไม่อาจทำอันตรายต่อบิดาเขาได้
……
ณ หุบเขาต้าหลัว
หุบเขาต้าหลัวตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองซีโจวแห่งอาณาจักรเสินไห่ เป็นหุบเขาขนาดใหญ่ซึ่งบนนั้นเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเฮยเฟิง
รุ่งสาง หยางเสี่ยวเทียนก็มาถึงยังหุบเขาต้าหลัว แสงสว่างในยามเช้ามืดส่งผลให้กลุ่มโจรที่คอยลาดตระเวนรอบหมู่บ้านเฮยเฟิงสามารถมองเห็นทุกสิ่งบนหุบเขาได้ง่ายดายขึ้น
แต่ปัญหาเหล่านั้นก็ไม่อาจทำให้หยางเสี่ยวเทียนต้องมีกังวล เพราะเมื่อเขาผสานร่างเข้ากับวิญญาณยุทธ์ เขาก็สามารถพลางตัวอยู่ในความมืดเพื่อหลบกลุ่มโจรที่คอยลาดตระเวนจนสามารถเข้าไปถึงส่วนลึกของหมู่บ้านเฮยเฟิงได้
ขณะเข้ามาถึงยังส่วนกลางของหมู่บ้านเฮยเฟิง พวกโจรที่คอยลาดตระเวนก็เริ่มน้อยลง คงเหลือแต่ผู้เข้าออกที่คาดว่าเป็นคนระดับสูงของหมู่บ้านเท่านั้น
ระหว่างทาง หยางเสี่ยวเทียนได้บังเอิญเจอกลุ่มหญิงสาวมากมายถูกจับเป็นเชลย จากที่สังเกตเห็นการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าขาดวิ่น ผมเผ้ายุ่งเหยิง บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่แสดงออกมาอย่างมิอาจปกปิดได้ ทำให้รู้ในทันทีว่าพวกนางถูกลักพาตัวมาจริงๆ
เมื่อพวกนางตกเป็นเชลยของกลุ่มโจรแห่งหมู่บ้านเฮยเฟิง ผู้ใดก็สามารถรับรู้ถึงชะตากรรมอันโหดร้ายที่พวกนางต้องประสบได้
และไม่เพียงมีแค่หญิงสาวเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังมีผู้คนจำนวนมากถูกจับมัดติดกับตอไม้ ทั้งคนแก่ คนหนุ่มสาว ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆ
เหล่าผู้คนมากมายที่ถูกมัดติดกับตอไม้ ทั่วร่างกายพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยคราบเลือด บ้างก็ถูกทรมานอย่างทารุณจนต้องนอนตายกองกับพื้น นั่นรวมถึงสภาพของเหล่าเด็กน้อยอายุสี่หรือห้าขวบด้วย
ภาพอันน่าเวทนาแลสยดสยองที่ได้เห็น ทำแววตาของหยางเสี่ยวเทียนตอนนี้เย็นยะเยือกและรู้สึกเจ็บแค้นกับความโหดร้ายของคนพวกนี้ยิ่งนัก
“รายงาน!!! ท่านผู้นำหมู่บ้าน หน่วยสอดแนมส่งข่าวมาว่ามีคนจากหมู่บ้านสกุลหยางกำลังเดินทางมาที่นี่ คาดว่าพวกเขาจะถึงหมู่บ้านเฮยเฟิงภายในครึ่งชั่วยาม ผู้นำไม่ใช่หยางไห่ แต่เป็นหยางเฉา”
ทันใดนั้นเอง เสียงแว่วจากผู้รายงานข่าวก็ดังเข้าหูหยางเสี่ยวเทียนที่แอบเฝ้าสอดแนมอยู่ไม่ห่าง ได้ยินถึงข่าวสารทั้งหมดอย่างชัดเจน
หัวใจของเขาเต้นระรัว พร้อมก้าวเดินตามเสียงนั้นไปกับนัยน์ตาแดงก่ำด้วยโทสะถึงยังลานกลางหมู่บ้าน