Chapter 1299 จุนซ่างเซียว ปะทะ อวิ๋นเหอ
แม่ทัพลาดตะเวนทั้งสิบสอง สิบเอ็ดคนถูกจับไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงแค่แม่ทัพห้า ผลสุดท้ายกับกลายเป็นว่า เขาคือผู้พิทักษ์มนทลอวิ๋นเหอ ทำให้จุนซ่างเซียวถึงกับตื่นตะลึง.
“ตกใจล่ะสิท่า.”
อวิ๋นเหอที่ยกป้ายตราแม่ทัพลาดตระเวนออกมา เอ่ยออกมาว่า“ความจริงคือความจริง.”
จุนซ่างเซียวที่ถอยออกมารักษาระยะห่างกับเขา เอ่ยออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เช่นนั้น พวกเราคือศัตรูกันงั้นรึ?”
“เฮ้อ.” อวิ๋นเหอที่ดื่มสุรา พร้อมกับกล่าวอย่างขมขื่น “ข้าไม่คาดคิดเลย ว่าโจรร้ายที่นำนักโทษร้ายแรงหนีออกจากคุกจะเป็นเจ้า คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้าเด็กที่ข้านำไปส่งสำนักไท่กู่เจิ้งในครั้งนั้น.”
“ทำไมท่านต้องส่งข้าไปเป็นศิษย์เจ้าสำนักหวัง?”จุนซ่างเซียวเอ่ยถาม.
อวิ๋นเหอเอ่ย “เพราะว่าข้าคิดว่าเจ้าจะกลายเป็นคนมีพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต.”
“......”
จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก.
คำตอบที่ได้ เขายอมรับไม่ได้จริง ๆ.
เจ้าของร่างเดิมที่ถูกป้ายสำนักหล่นใส่หัวจนตายนี่นะ จะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ลึกล้ำ!
“แค่นี้รึ?”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ยกตัวอย่างเช่น ข้าเป็นบุตรของตระกูลใหญ่ในพิภพเบื้องบน หรือว่าเป็นไท่จื่อที่มีพรสวรรค์ไร้เทียมทาน เพราะว่าสงครามการเมืองเลยต้องหนีมาโลกเบื้องล่างกับท่านไง?”
“......”
อวิ๋นเหอที่เหลือกตาขาวมองบน “เพ้อเจ้อไร้สาระ.”
“ไม่ใช่รึ?”
“กล่าวให้ถูก เมื่อข้าตระเวนไปทั่วพิภพต่าง ๆ ก็ไปพบกับเด็กสามขวบที่เยี่ยวรดกางเกง จึงคิดว่าน่าจะพอฝึกได้ จึงนำไปส่งให้เจ้าสำนักหวังที่สำนักไท่กู่เจิ้งที่อยู่ใกล้ที่สุด.”
“เจ้าพูดไร้สาระ! หลอกลวงข้า!”
จุนซ่างเซียวที่ตะโกนเสียงดัง “บิดาของข้าเป็นราชันย์พิภพเบื้องบน เป็นผู้ยิ่งใหญ่ มารดาของข้าเป็นราชันย์ที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน เพื่อหลบหนีสงครามกลางเมืองจึงได้ส่งข้าหนีออกมา เจ้ากับสำนักหวังคือคนรับใช้ของข้า!”
“......”
ระบบที่หมดคำจะพูด “เจ้าแต่งเรื่องให้ตัวเองสูงส่ง นี่ไม่อายปากรึอย่างไรกัน?”
อวิ๋นเหอที่จ้องมองเขาราวกับคนป่วย ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็ว “แม่ทัพลาดตะเวนสิบเอ็ดคนหายไป เป็นฝีมือเจ้าอย่างงั้นรึ?”
“ไม่ผิด.”จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาเล็กน้อย.
อวิ๋นเหอเอ่ย “แม่ทัพทั้งสิบสองคือตัวแทนของป้อมปราการซิงกง ป้อมปราการซิงกงเป็นของพิภพเบื้องบน เจ้าอย่าได้ต่อต้าน ส่งพวกเขาออกมา แล้วกลับไปป้อมปราการยอมรับการลงโทษกับข้าซะ.”
“ฟิ้ว!”
เขาที่ยืนขึ้นฉีกเสื้อคลุมสีน้ำเงิน.
“วูซซ ซา!”
เขาที่ฉีกเสื้อคลุมแม่ทัพให้ขาดออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อ ผมสีขาวที่กระเซอะกระเซิงถูกปล่อยไปด้านหลัง.
กล่าวได้ว่าอวิ๋นเหอจากทวีปชิงหยุนกับตอนนี้ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
ระบบเอ่ยเสียงดัง “เปลี่ยนร่างเร็วมาก!”
“จะจับข้ากลับไปอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
อวิ๋นเหอ “มันเป็นหน้าที่.”
“หากข้าไม่ไปล่ะ?”
“หวังว่าเจ้าจะร่วมมือ.”
“โทษที.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา “ข้าไม่ให้ความร่วมมือ.”
เขาไม่เพียงแค่ไม่ยอมกลับไปรับโทษเท่านั้น ทว่าเขาจะทำลายทุกอย่างทิ้งด้วยซ้ำ ถึงแม้นว่าอีกฝ่ายจะมีสถานะผู้พิทักษ์มนทลชิงหยางก็ตาม.
“เจ้าหนู.”
อวิ๋นเหอ “อย่าได้เลยเถิดไปกว่านี้.”
“แล้วอย่างไร.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “คิดจะใช้กำลังอย่างงั้นรึ?”
ไม่เพียงแค่เขานำนักโทษหนีออกมา เมื่อพิภพเบื้องบนพบไม่มีทางปล่อยเขา หนำซ้ำเขายังมีระเบิดเวลาผูกอยู่ จะทำอะไรได้ ไม่ว่าจะเป็นใครมาขวาง ก็มีแต่ต้องเดินหน้าอย่างเดียว.
“เฮ้อ.”
อวิ๋นเหอส่ายหน้าไปมา “ความจริงมันช่างโหดร้ายจริง ๆ.”
“มา.”
ร่างกายของเขาที่แผ่กลิ่นอายที่หนักหน่วงออกมา “เจ้าเด็กที่เยี่ยวรดกางเกงเมื่อตอนสามขวบ มาดูสิว่าโตขนาดใหนแล้ว.”
“ข้าไม่ต้องการต่อสู้กับท่าน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ยขณะปลดปล่อยพลังออกมา.
อวิ๋นเหอก็เอ่ยกล่าวออกมาเช่นกัน “ข้าไม่ต้องการต่อสู้กับเจ้าเช่นกัน ทว่าทุกคนต่างก็มีหลักการของตัวเอง ดังนั้น....ก็มีเพียงแค่ต้องสู้กัน.”
“......”
ระบบเอ่ย “คุยอยู่นั่นล่ะ เมื่อไหร่จะเริ่มสักที!”
“ท่านดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งกว่าแม่ทัพคนอื่น ๆ จุนซ่างเซียวที่กำหมัดจ้องมองด้วยความเคารพ”ข้าเองก็คงต้องเอาจริงเช่นกัน.”
“เข้ามา.”
อวิ๋นเหอที่โบกมือ กลิ่นอายรอบ ๆ ที่แผ่กลิ่นอายปราณมังกรออกมา ปกคลุมร่างกายตัวเอง ทำให้เขาดูทรงพลังน่าเกรงขามอย่างชัดเจน.
แม้นว่าจะยังไม่ลงมือ ทว่าแรงกดดันวิญญาณ ที่เปล่งออกมานั้นแข็งแกร่งกว่าพยัคฆ์สามอย่างแน่นอน.
จุนซ่างเซียวที่โลหิตพลุ้งพล่าน.
แม่ทัพทั้งสิบเอ่ยก่อนหน้านี้ส่วนมากคือลอบโจมตี ไม่ได้ลองพลังเลย ตอนนี้คงจะต่อสู้สนุก.
ระบบเอ่ย “จากกลิ่นอายยากจะบอกว่าใครจะแพ้ ใครจะชนะ.”
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่พุ่งเข้าไปหาอวิ๋นเห๋อ หมัดที่ก่อรูปขึ้น พลังวิญญาณที่ม้วนกวาดเกิดเป็นพายุใหญ่ เรือเหาะแม่ทัพสี่ที่ยากจะทนแบกรับพลัง ระเบิดขึ้นมาในทันที.
น่าเสียดาย.
เรือเหาะที่ใช้เดินทางลำนี้ไม่ใช่ราคาถูก ๆ.
“ฟู่ ฟู่!”
ภายใต้ฝุ่นควัน หมัดของจุนซ่างเซียวที่ต่อยออกไป อวิ๋นเหอที่ลอยอยู่กับที่ มุมปากยกยิ้มขึ้น.
“ตูมมมมม!”
เกิดระเบิดเสียงดังกึกก้อง ฝุ่นควันคละคลุ้งรอบ ๆ ห้วงมิติที่บิดเบี้ยวพังทลายลง.
“ฟู่ ฟู่!”
“ฟู่ ฟู่ ซูมมมม!”
พายุที่หมุนวนก่อนที่จะค่อย ๆ สลายหายไป.
จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่กับที่ ใบหน้าตื่นตะลึง เพราะว่าฝ่ายตรงข้ามที่กระเด็นลอยออกไปกระแทกดวงดาราที่ว่างเปล่าเกิดเป็นหลุมใหญ่.
อ่อนแอขนาดนี้เลย!
“อัก!”
อวิ๋นเหอที่กระอักโลหิต เอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก “เจ้า....เจ้าชนะ.”
“......”
จุนซ่างเซียวแทบทรุด.
ระบบเอ่ย“เห็นชัด ๆ ว่าโลหิตที่ไหลออกมานั้นเป็นการใช้พลังภายในกระอักออกมาด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพราะถูกเจ้าต่อยสักนิด!”
......
การต่อสู้ที่ควรจะยิ่งใหญ่ กับจบลงเพียงแค่หมัดเดียว แทบไม่ทันต้มน้ำชาด้วยซ้ำ.
“หมายความว่าอย่างไร?”จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
อวิ๋นเหอเอ่ย“ไม่มีอะไร ข้าไม่สามารถชนะเจ้าได้.”
“......”
จุนซ่างเซียวถึงกับหมดคำจะพูด.
อวิ๋นเหอเอ่ย “จับข้าซะ.”
“ข้ามุ่งเป้าไปที่ป้อมปราการซิงกงเท่านั้น.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
เขาต้องการเข้าใจเรื่องราวให้ระเอียดกว่านี้ ไม่ได้คิดจะทำร้ายอีกฝ่ายแต่อย่างใด.
“ข้าได้ผิดต่อความยุติธรรมของตัวเอง”อวิ๋นเหอเอ่ย “หากเจ้าคิดว่าข้าเป็นผู้พิทักษ์มนทลชิงหยาง โปรดปฏิบัติกับข้าเหมือนกับคนอื่น ๆ.”
“......”
จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม.
ดูเหมือนทุกอย่างเป็นเพียงการแสดง คิดว่าข้าไม่รู้รึ?
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่เข้าใจความหมายของอวิ๋นเหอ เขาที่โบกมือรับอีกฝ่ายเข้าคุกสะกดวิญญาณ ก่อนที่จะเดินทางตรงไปยังคุกนรกเก้าชั้นต่อ.
“กึก!”
เหล่าแม่ทัพคนอื่น ๆ ที่ภาวนาให้แม่ทัพห้ากู้ศักดิ์ศรี เวลานี้ถึงกับสะดุ้งตกใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายถูกส่งเข้ามาด้วยสภาพน่าอนาจ.
“ทุก...ทุกท่าน...”
อวิ๋นเหอที่ใบหน้าซีดเซียวและเจ็บปวด “เจ้า....เจ้านั่นแข็งแกร่งมาก....”
“......”
จุนซ่างเซียวบนห้องควบคุม เฝ้ามองท่าทางอีกฝ่าย พลางกล่าวชื่นชมในใจ“ทักษะการแสดงยอดเยี่ยม ราวกับผู้เชี่ยวชาญ!”
เขามั่นใจว่าการโจมตีของเขานั้น เพียงทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บภายนอกเท่านั้น หลังจากอีกฝ่ายเข้ามาภายในกับแสดงท่าทางเหมือนกับบาดเจ็บหนัก.
แม่ทัพหนึ่ง แม่ทัพสองและคนอื่น ๆ ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าพวกเขาทุกคนก็ถูกจับแล้ว ไม่เข้าใจแม้แต่น้อยแม่ทัพห้าที่แข็งแกร่งที่สุดจะอยู่ในสภาพนี้ นี่เจ้าเด็กนั่นแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ? หรือว่าอยู่ในระดับสะบั้นมิติขั้นสูงกัน?