Chapter 1296 กบฏ
จุนซ่างเซียวที่เดินทางออกไป เพียงคนเดียว เหล่าศิษย์ที่เวลานี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาบ่มเพาะอย่างจั้งใจ เพื่อยกระดับตัวเองอย่างเอาจริงเอาจัง.
หากพวกเขารู้ว่าเจ้านิกายคิดที่จะนำทั้งนิกายขึ้นสู่พิภพเบื้องบน แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องฝึกหนักยิ่งกว่านี้ ต้องไม่ลืมว่าไม่มีใครที่ไม่หวังที่จะขึ้นสู่สวรรค์เบื้องบน.
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อเหล่าศิษย์หลักไม่มีใครเกียจคร้าน พวกเขาตั้งแต่ได้รับเม็ดยาครึ่งก้าวปราชญ์ตอนนี้เป็นครึ่งก้าวปราชญ์แล้ว ทำให้ต้องฝึกฝนอย่างหนัก.
ลู่เชียนเชียน หลังจากก้าวสู่ระดับปราชญ์แล้ว ตรงกันข้ามนางที่เริ่มทำใจให้สงบ สอนศิษย์ใหม่สตรี เพราะว่าวิชาของนางนั้นพิเศษ ดังนั้นการสื่อสารกับพรรคพวกเดียวกันจึงไม่ค่อยมากนัก.
“ศิษย์พี่ลู่.”
เซี่ยซุยอวิ๋นเอ่ย “ข้า....ขอปรึกษาปัญหาธาตุน้ำแข็งได้หรือไม่?”
นางที่มายังนิกายนิรันดรเพื่อหาซูเซียวโม่บ่อยครั้ง แม้แต่แจกจ่ายอาหารหมาให้กับศิษย์คนอื่น ๆ.
[**1. 单身狗 (dānshēngǒu)หมาโสด คนโสด
แค่โสดก็ช้ำใจแล้ว พี่จีนยังเอาไปเปรียบเป็นหมาอีก เจ็บให้สุด แล้วหยุดที่กระอักเลือด
2. 狗粮 (gǒuliáng)อาหารหมา
ยามคู่รักเขาโชว์หวานกัน เสมือนเขากำลังแจกอาหารให้หมาโสดทั้งหลายได้กินกันจนจุกอกตายได้ ที่มา https://superchangping.blogspot.com/2018/02/blog-post_13.html *** ]
“ตกลง.”
ลู่เชียนเชียนเอ่ย.
“ศิษย์พี่.”
ลี่เฟยที่อยู่ไกลออกไปต่างก็เผยท่าทางประหลาดใจ“ท่านไม่คิดว่าศิษย์พี่หญิงใหญ่จะเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก โดยเฉพาะคำพูดที่ดูอบอุ่นกว่าเมื่อก่อน.”
ซูเซียวโม่เอ่ย “ใช่ ดูแปลก ๆ เล็กน้อย.”
หลี่ชิงหยางที่ก้าวมาแต่ไกล “ศิษย์พี่หญิงใหญ่บ่มเพาะวิชาธาตุน้ำแข็งทำให้ดูเย็นชา ที่จริงแล้วก็เป็นห่วงเหล่าศิษย์น้องทุกคน.”
“ซู่ ซู่!”
ในเวลานั้น ไอเย็นที่พัดผ่านเข้ามา.
ทุกคนที่หันหน้าออกไปมอง เห็นลู่เชียนเชียนที่กำลังจ้องมองมายังพวกเขา “ยังไม่รีบไปฝึกฝนอีก!”
“ฟิ้ว!”
“ฟิ้ว!”
พริบตานั้น ซูเซียวโม่และลีเฟยที่หายไปไม่เห็นฝุ่น.
หลี่ชิงหยางที่มุมปากกระตุก เอ่ยกล่าวในใจ“ดูเหมือนว่าจะใส่ใจคนอื่นมากไปเล็กน้อย!”
......
“ตูมมมม!”
“ตูมมมม!”
ภายในเขตแดนลับเป็นตาย เย่ซิงเฉินที่ต่อยหมัดออกไป สังหารสัตว์วิญญาณ แววตาที่เปี่ยมล้นด้วยความโกรธ.
การที่บัลลังก์ราชันย์ของเขาถูกครอบครองไป เขาหาได้สนใจ ทว่าเจ้านิกายเวลานี้ก้าวไปถึงจุดยอดแล้ว เขาต้องการก้าวตามเจ้านิกายไป ขึ้นสู่พิภพเบื้องบนเพื่อไปแก้แค้นให้ได้!
“อ๊ากกก ------”
“ตูมมมมม!”
เสียงคำรามด้วยความโกรธดังกึกก้อง สัตว์วิญญาณมายาถูกสังหารไปหมดแล้ว เย่ซิงเฉินที่กำหมัดแน่น แววตาที่มีประกายความโกรธมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม.
ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น ความเกลียดชังก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น.
ในเวลานี้เขาต้องก้าวสู่ระดับราชันย์ยุทธ์ให้เร็วที่สุด ขึ้นสู่พิภพเบื้องบน เพื่อจัดการจักรพรรดินิหลิงเหยาให้ได้!
“มา ๆ!”
ในโรงอาหาร เพราะว่าจิตใจที่เต็มไปด้วยความกังวล เย่ซิงเฉินที่ยกสุราเมามายาบนโต๊ะทั้งเหยืยก ตะโกนเสียงดัง “ดื่ม!”
ปิศาจสุราที่เผยยิ้มเจ้าเล่ห์.“เจ้าเอาจริงสินะ!”
“อึก อึก!”
“อึก อึก!”
หลังจากสุราตกสู่ท้อง เย่ซิงเฉินที่รู้สึกมึนเมา พร้อมกับพรั่งพรูความทรงจำเก่า ๆ ออกมา พร้อมกับร้องไห้เมามาย.
ในวันนั้น.
อาหนิวเมาหมดสติไปแล้ว.
เหมือนเช่นเคย.
อาหนิวบุกยอดเขาสัตว์วิญญาณไปนอนห้องอาจื่อ.
และเหมือนเดิม.
หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ที่เป็นคนพาเขากลับห้อง ในปากของเขาที่บ่นพึมพำ “ข้าจะแก้แค้น ข้าต้องแก้แค้น....”
......
พิภพเบื้องบน.
ห้องโถงใหญ่ จักรพรรดินิหลิงเหยาที่ถูกปกคลุมด้วยหมอก“ทวีปชิงหยุนมีคนตัดผ่านไปยังระดับราชันย์ยุทธ์ได้อย่างงั้นรึ?”
“ครับ จู่ซ่าง.”ชายชราหลังค่อมเอ่ย.
“ใคร?”
“เจ้านิกายนิรันดร.”
“โอ้ว.”
จักรพรรดินิหลิงเหยาที่ตอบรับคราหนึ่ง.
ชายชราหลังค่อมถอนหายใจ“เจ้าเด็กนั่นแทรกแซงพิภพสงครามเมื่อครั้งมีระดับปราชญ์ยุทธ์เท่านั้น เพียงไม่นานก็ก้าวไปถึงระดับราชันย์แล้ว เติบโตเร็วจริง ๆ!”
“โถงพิภพรู้รึยัง?”
“ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้.”
“ใช่แล้ว!”
ชายชราหลังค่อมเอ่ยอย่างจริงจัง“ผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับข่าวมาว่า โถงพิภพนั้นได้ตัดสินใจที่จะนำกบฏไปขังที่คุกนรกเก้าชั้นในจักรวาลเบื้องล่างถาวร”
“เจ้านั่นอันตรายเป็นอย่างมาก ส่งไปยังพิภพเบื้องล่าง หากไม่สามารถสะกดได้ จะต้องสร้างภัยพิบัติร้ายแรงให้กับผู้คนแน่.”
จักรพรรดินิหลิงเหยาเอ่ย “โถงพิภพหาได้ใส่ใจชีวิตปุถุชนเบื้องล่างอยู่แล้ว.”
“คุกนรกเก้าชั้นที่โถงพิภพสร้างขึ้นมา ด้านในนั้นมีค่ายกลที่ลึกล้ำ เจ้ากบฏถึงนำไปคุมขังที่นั่น พลังบ่มเพาะถูกสะกด ไม่น่าจะมีปัญหา.”ชายชราหลังค่อมเอ่ย.
จักรพรรดินิหลิงเหยาที่เงียบไปเล็กน้อย เอ่ยออกมาว่า“กลัวว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันนะสิ.”
......
ภายในอุโมงค์ที่ดำมืด เสียงโซ่ที่เสียดสีกระทบกัน บุรุษร่างเปลือยด้านบน เผ้าผมกระเซอะกระเซิงที่ถูกคุ้มกันจากยอดฝีมือหลายสิบคน ที่ด้านหลังของเขานั้นมีลายสักที่แปลกประหลาด กล้ามเนื้อของเขาที่มากล้น ราวกับสัตว์ร้าย.
ในเวลาต่อมา เขาถูกนำมาไว้ที่ด้านหน้าค่ายกล.
“มีอะไรจะสั่งเสียหรือไม่?”ยอดฝีมือที่เป็นผู้นำรับผิดชอบคุ้มกันมาเอ่ย.
ชายที่มีรอยสักยืนต่อหน้าค่ายกล เผยยิ้มแผ่ว เอ่ยออกมาว่า“เมื่อนายท่านกลับมา โถงพิภพจะไม่มีอยู่อีกต่อไป!”
“เจ้าคนดื้อรั้น!”
หัวหน้ายอดฝีมือกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา“จงอยู่ในคุกนรกเก้าชั้นตลอดไปเถอะ!”
“อิ อิ อิ อิ!”
ชายรอยสักหัวเราะอย่างสยดสยอง ก่อนที่จะถูกส่งตัวไป เสียงหัวเราะของเขาที่ดังก้องท้องฟ้า.
“ใต้เท้า.”
ผู้ใต้บังคับบัญชาที่อดไม่ได้สอบถามออกมา “เจ้ากบฏนี้อันตรายเป็นอย่างมาก ทำไมไม่สังหารให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลย ทำไมต้องส่งไปขังยังพิภพเบื้องล่างด้วย?”
หัวหน้ายอดฝีมือเอ่ย “เจ้านี่คือคนที่มีจิตวิญญาณสังสารวัฏ ทุก ๆ ครั้งที่ตาย จะสามารถเกิดมาใหม่และจะยิ่งแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ทางที่ดีที่สุดก็คือขังเอาไว้ตลอดกาลนั่นล่ะดี.”
“เป็นเช่นนี้นะเอง!”ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ตระหนักได้ในทันที พลางส่ายหน้าไปมา “จิตวิญญาณที่หายากในจักรวาลน่าเสียดายจริง ๆ ที่เป็นของเจ้ากบฏนั่น.”
......
“ฟิ้ว!”
มิติพิภพที่ฉีกออก ริ้วแสงที่พุ่งตัดผ่านออกมา ก่อนที่จะเข้าไปในป้อมปราการซิงกง.
“มาแล้วสินะ!”
เจ้าป้อมที่ใบหน้ากลายเป็นซับซ้อน จ้องมองไปยังค่ายกลอย่างจริงจัง เขาได้รับข่าวจากโถงพิภพ จะส่งนักโทษร้ายแรงมาขังที่คุกนรกเก้าชั้น และยังถูกกล่าวย้ำอย่างดีว่าจะต้องคุ้มกันอย่างจริงจัง ห้ามให้นักโทษหนีเด็ดขาด.
เฮ้อ.
หากพิภพเบื้องบนรู้ว่ามีนักโทษหนีออกจากคุกได้ ไม่รู้ว่า เขาจะถูกลงโทษอย่างไร?
ไม่ได้ ไม่ได้.
เรื่องนี้จะให้โถงพิภพรู้ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นข้าจะต้องถูกลงโทษ มีชีวิตตายทั้งเป็นแน่.
ขณะครุ่นคิด นักโทษที่มีลอยสักเผ้าผมกระเซอะกระเซิงก็เดินออกมาจากค่ายกลแล้ว บรรยากาศรอบ ๆ ที่มืดครึ้ม “ที่นี่คือคุกนรกเก้าชั้นที่จะใช้ขังจู่ซ่างอย่างงั้นรึ?”
“ฟิ้ว!”
เจ้าป้อมปราการที่โบกมือ ลากอีกฝ่ายไปยังคุกนรกเก้าชั้นทันที.
นักโทษที่ถูกส่งมาจากพิภพเบื้องบนถูกสะกดด้วยวิถีสวรรค์อยู่ในสภาพอนาถ และยังถูกขังไว้ในคุกที่ลึกที่สุด เป็นนักโทษชั้น A อีกด้วย.
“เฮ้ย เฮ้ย!”
“นุ่มนวลกับจู่ซ่างหน่อย!”
“เจ้าขยะ หากไม่เพราะว่าจู่ซ่างถูกสะกด ใช้นิ้วเดียวก็ขยี้พวกเจ้าได้แล้ว!”
“หูหนวกรึไง? ไม่ได้ยินสิ่งที่จู่ซ่างพูดรึ?!”
“กึก ซี่!”
ชายรอยสักที่พูดไปมากมาย ขณะที่คุกนรกเก้าชั้นถูกปิด พื้นที่รอบ ๆ ที่มืดมิด เขาที่นั่งสมาธิเอ่ยกับตัวเอง “ไม่ได้การ ข้าจะต้องหาทางฆ่าตัวตาย ไม่เช่นนั้นคงถูกขังไปชั่วชีวิตแน่!”
“ตูมมม ตูมมม ตูมมม!”
เขาที่เห็นก้อนศิลาที่อยู่ข้าง ๆ ก็พุ่งใช้ศีรษะกระแทก ใบหน้าที่อาบไปด้วยโลหิต ก้อนหินลอยละล่องออกไปทั่ว ก่อนที่เขาจะเอ่ยอย่างเศร้า”การตายมันจะยากไปแล้ว!
......
“เมื่อกี้นี้....”
ในทะเลดวงดาว จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา “สิ่งนั้นคืออะไรกัน?”
เขาที่เห็นริ้วแสงที่พุ่งไปยังทิศทางของป้อมปราการซิงกง.
“อัก!”
ที่ใต้เท้าของเขาได้ยินเสียงของคนกระอักโลหิต.
แน่นอนว่าเวลานี้จุนซ่างเซียวไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว เขาได้เหยียบใบหน้าของใครอยู่.
หนึ่งในแม่ทัพลาดตะเวนทั้งสิบสอง.
เขาที่ระงับอาการบาดเจ็บเอาไว้ เอ่ยออกมาเสียงเบา “เจ้า...เจ้าไม่ใช่พยัคฆ์สาม...เจ้าเป็น...”
“ข้า.”
“ราชันย์สุดหล่อ.”
“จุนซ่างเซียว.”